อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 27 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ตอนพิเศษ 27 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ตอนพิเศษ 27 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
หลานสุ่ยชิงบอกว่านางก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ข้าเพิ่งได้ยินว่ามีคนจากตำหนักอ๋องซิวมาเมื่อเช้า ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เห็นท่านย่ามีความสุขมาก ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี”
“เรื่องดีหรือ?” จิ่นซิ่วพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา และทันใดนั้นก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย “ไม่น่าแปลกใจที่จะเป็นเรื่องดี”
เฉพาะคนที่ไม่รู้จักอวี้ชิงลั่วเท่านั้น ที่จะคิดว่าการที่หญิงสาวสกุลหลานไปจวนนั้นโชคดี แต่พวกนางกลับไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงเพียงนั้น เดาว่าสองพี่น้องสกุลหลานอาจจะถูกถลกหนังไปครึ่งหนึ่งแล้วกระมัง
หลานสุ่ยชิงมองหน้าจวิ้นจู่จิ่นซิ่วแล้วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และไม่ยุ่งกับพวกนางอีกต่อไป เพียงแค่นำทางไป
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนและจิ่นซิ่วมาถึงเรือนที่หลานสุ่ยชิงอาศัยอยู่ คิ้วของพวกนางก็ขมวดพร้อมกัน
“เรือนของเจ้า…”
“ข้าอาศัยอยู่ที่นี่เพียงเพื่อจะได้อยู่ดูแลแม่ของข้าใกล้ ๆ” หลานสุ่ยชิงไม่ต้องการพูดอะไรมากไปกว่านี้ ความจริงที่ว่านางถูกดูหมิ่นเหยียดหยามไม่ใช่เรื่องที่น่ายกย่อง นางอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข และมีความวุ่นวายน้อยกว่า นอกจากจะเล็กไปหน่อยและค่อนข้างอยู่ห่างไกล มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
จิ่นซิ่วจ้องมองนาง “ครอบครัวสกุลหลานของพวกเจ้าทำเกินไป”
เนี่ยนเนี่ยนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ สภาพแวดล้อมเลวร้ายจริง ๆ พี่ชายของนางไม่ได้มาที่นี่หรือ? หากรู้แล้ว เหตุใดไม่พูดอะไรเลย?
หลานสุ่ยชิงกลัวว่าพวกนางจะกังวลเรื่องเรือนของนาง นางจึงรีบเปลี่ยนเรื่องและมองไปที่เนี่ยนเนี่ยน “ความจริงคนป่วยที่ข้าพูดถึงเมื่อวานคือแม่ของข้าเอง แม่ของข้าล้มป่วยมานานหลายปีแล้ว และอาการไม่ค่อยดี เนี่ยนเนี่ยน เจ้าไปพบนางกับข้าตอนนี้ได้หรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนดูออกว่านางกังวล จึงพยักหน้าโดยไม่รอช้า
ทุกคนรีบไปที่เรือนของอู๋ซื่อ เพียงแค่เดินเข้าไปในเรือน พวกนางก็ได้ยินเสียงไอเบา ๆ ของอู๋ซื่อมาแต่ไกล
หลานสุ่ยชิงรีบก้าวเดินเข้าไป
อู๋ซื่อเอนตัวอยู่ตรงขอบเตียง ไอหนักมากจนหน้าแดงก่ำ ร่างกายของนางอ่อนปวกเปียกและอ่อนแรง อีกทั้งร่างกายยังผ่ายผอมจนเห็นกระดูก เห็นแล้วน่าตกใจมาก
แม่นมหูที่อยู่ข้าง ๆ ช่วยลูบหลังนาง แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ฮูหยิน อาการป่วยของท่านแย่ลงเรื่อย ๆ ข้าคิดว่าเป็นการดีกว่าที่จะบอกคุณหนูใหญ่ แล้วหาทางให้นายท่านเชิญหมอคนอื่นมารักษา หมอเจียงคนปัจจุบันเป็นแค่หมอนักต้มตุ๋น ไม่เช่นนั้นก็ให้คุณหนูใหญ่ไปขอความช่วยเหลือจากจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว คุณหนูใหญ่ไม่ได้บอกหรือเจ้าคะว่าเมื่อวานนางได้พบกับจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว?”
“แม่นมหู เจ้าอย่าพูดเหลวไหล” อู๋ซื่ออดทนต่อความเจ็บป่วย แล้วดุนางเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “สุ่ยชิงเป็นเพื่อนกับจวิ้นจู่จิ่นซิ่วจริง ๆ จวิ้นจู่จะคิดอย่างไร หากเพิ่งเป็นเพื่อนกับนาง แล้วไปเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากจวิ้นจู่เลย? ข้าไม่ต้องการให้นางเสียเพื่อนไป และทำให้โรคร้ายของข้าฉุดรั้งนางไว้”
“แต่ว่า…”
แม่นมหูต้องการจะพูดต่อ แต่หลานสุ่ยชิงได้เปิดม่านขึ้นแล้ว
นางได้ยินคำพูดเมื่อสักครู่นี้อย่างชัดเจน เนี่ยนเนี่ยนและจิ่นซิ่วที่ตามมาข้างหลังก็ได้ยินเช่นกัน
แม้ว่าหลานสุ่ยชิงจะเศร้ามากในใจ แต่นางยังคงระงับอารมณ์เอาไว้ ราวกับว่านางไม่ได้ยินอะไรเลย นางมาที่ข้างเตียงของอู๋ซื่อ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านแม่ จวิ้นจู่และเนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่นี่ อย่างที่ข้าบอกท่านเมื่อวานนี้ว่าพวกนางเป็นเพื่อนใหม่ของข้า”
เมื่อวานนี้นางไม่ได้บอกแม่ว่าเนี่ยนเนี่ยนเป็นหมอประจำตำหนักอ๋องซิว เพราะนางกลัวว่าแม่จะคิดว่านางขอความช่วยเหลือจากจวิ้นจู่จิ่นซิ่วตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกัน และจะกังวลมากเกินไปจนนอนไม่หลับทั้งคืน
ตอนนี้เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่นี่แล้ว นางไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป “ท่านแม่ เนี่ยนเนี่ยนเป็นหมอที่มีทักษะทางการแพทย์ยอดเยี่ยม ให้นางตรวจท่านหน่อยเถิด”
แน่นอนว่าเมื่ออู๋ซื่อได้ยินเช่นนั้นก็โกรธเล็กน้อย นางหยิกหลานสุ่ยชิงอย่างแรง แล้วพูดด้วยความขมขื่นว่า “เจ้า เหตุใดเจ้าไม่ฟังแม่เลย? เจ้าได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยง ทว่าเอาแต่คิดหาวิธีหาหมอให้แม่อยู่ตลอดเวลาอยู่หรือ? เจ้านี่ช่าง…”
จวิ้นจู่จิ่นซิ่วก้าวเข้ามาพูดว่า “หลานฮูหยินไม่ต้องกังวล พวกเรารู้ว่าสุ่ยชิงนั้นกตัญญู จึงสนใจแต่สุขภาพของท่าน และข้าก็เป็นเพื่อนกับนางด้วย พวกเราจึงต้องการให้เนี่ยนเนี่ยนมาหาท่าน”
ทันทีที่อู๋ซื่อหันไปมอง นางก็เห็นว่าจวิ้นจู่จิ่นซิ่วที่อยู่ตรงหน้ามีท่าทีใจดี และไม่ได้วางท่าเย่อหยิ่งแต่อย่างใดเลย
นางกำลังจะลุกขึ้น แต่จวิ้นจู่จิ่นซิ่วรีบดันนางกลับ “หลานฮูหยิน ท่านไม่สบาย ท่านควรพักผ่อนให้ดี” หลังจากพูดจบ นางก็หันไปมองเนี่ยนเนี่ยน
จากนั้นเนี่ยนเนี่ยนก็ออกมานั่งตรงที่จิ่นซิ่วนั่งอยู่เมื่อสักครู่นี้
อู๋ซื่อเงยหน้าขึ้น เมื่อนางเห็นหญิงสาวสวยมีเสน่ห์นั่งอยู่ข้างเตียง นางก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
หญิงคนนี้แต่งตัวธรรมดา แต่ก็ไม่อาจซ่อนดวงหน้าที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดได้ ถ้าคนผู้นี้แต่งหน้าแต่งตัวใหม่ เห็นทีจะงดงามเฉิดฉายเกินกว่าผู้ใด
เนี่ยนเนี่ยนปล่อยให้คนไข้มองนาง ขณะใช้นิ้วจับชีพจรให้
หลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง นางก็ถอนนิ้วออก เผชิญหน้ากับหลานสุ่ยชิงที่กำลังมองมาด้วยความกังวล แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “หลานฮูหยินไม่ดูแลตัวเองหลังคลอด อีกทั้งยังวิตกกังวลมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเมื่อรู้สึกหดหู่ใจ ร่างกายก็อ่อนแอ ไอและอาเจียนเป็นเลือดบ่อย ๆ ทำให้เป็นอันตรายต่อปอด”
“รักษาให้หายได้หรือไม่?” จิ่นซิ่วถามทันที
เนี่ยนเนี่ยนมองนางด้วยสายตาเย็นชา จิ่นซิ่วตัวสั่นทันที จากนั้นนางก็กระแอมออกมาเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูจากที่พูดแล้ว หากเนี่ยนเนี่ยนออกโรงเอง เห็นทีจะรักษาหายเป็นปกติได้ในไม่ช้า”
เนี่ยนเนี่ยนได้ยินแล้วก็พอใจ “อาการของหลานฮูหยินส่วนใหญ่ เกิดจากการบอบช้ำหลังคลอดบุตร นั่นคือสาเหตุที่ทำให้นางมีสุขภาพย่ำแย่มาหลายปี”
แม่นมหูที่อยู่ด้านข้างพยักหน้า “ใช่แล้ว ฮูหยินนั้น…”
อู๋ซื่อบีบมือนาง แม่นมหูจึงรีบหุบปาก บางอย่างก็ไม่ดีที่จะบอกคนนอก
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้จริงจังอะไร แต่เพียงแค่หยิบถุงยาออกมาจากแขนเสื้อ “อันที่จริงการรักษาอาการป่วยของฮูหยินนั้น ดีที่สุดคือการฝังเข็มและให้ยา ใช้ยาสลับกับการรักษาแบบอื่น หมอคนเดิมที่เคยรักษาฮูหยินไม่ได้ทุ่มเทพยายามให้ดีที่สุด หรือไม่ก็อาจจะมีทักษะทางการแพทย์ไม่ดีพอ อาจเป็นเพราะความต่างระหว่างชายและหญิงด้วย สุดท้ายอาการป่วยของฮูหยินก็เป็นโรคสตรี ซึ่งข้าก็เป็นหญิงเช่นเดียวกัน ดังนั้นฮูหยินสามารถปล่อยให้ข้ารักษาเองทั้งหมดได้”
เมื่อหลานสุ่ยชิงได้ฟังเช่นนั้น แววตาของนางก็เต็มไปด้วยความสุข ฟังจากสิ่งที่เนี่ยนเนี่ยนพูดก็รู้สึกมั่นใจ
แม่นมหูที่อยู่ข้าง ๆ ก็พยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ๆๆ หมอเจียงที่ไท่ฮูหยินเชิญมาต้องรักษาฮูหยินไม่ถูกต้อง เขาไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการฝังเข็มและการให้ยาเลย ถ้าเขาพูดออกมา พวกเขาก็สามารถไปหาหมอหญิงมาได้
“แต่ฮูหยินหลาน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาโรคคือการมีอารมณ์ดี เพื่อให้สามารถรักษาอาการได้อย่างรวดเร็ว หากมีเรื่องอะไร ท่านสามารถวางใจได้ทุกเรื่อง ในอนาคตจวิ้นจู่จิ่นซิ่วจะอยู่ตรงนี้ จะไม่ยอมให้สุ่ยชิงถูกรังแกอีก”
จิ่นซิ่วที่อยู่ข้าง ๆ ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ผงกศีรษะทันที “ถูกต้อง ถูกต้อง ต่อไปถ้าสุ่ยชิงถูกคนอื่นรังแกอีกก็บอกข้าสิ แล้วข้าจะช่วยแก้แค้นให้นางเอง”
รอยยิ้มปรากฏในดวงตาของอู๋ซื่อ ทั้งสองเป็นเพื่อนที่ดีของสุ่ยชิงจริง ๆ
“ใช่แล้ว ฮูหยินกรุณานอนลง ข้าจะเริ่มฝังเข็มให้…”
หลังจากเนี่ยนเนี่ยนพูดจบ จู่ ๆ ก็มีเสียงวิ่งดังมาจากนอกประตู หลังจากนั้นไม่นาน เยียนจือก็พูดด้วยอาการเหนื่อยหอบ “คุณหนูใหญ่ แย่แล้วเจ้าค่ะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องใหญ่อะไรกันคะ หรือว่าสองพี่น้องนั่นกลับตำหนักอ๋องซิวมาในสภาพสะบักสะบอมแล้ว?
ไหหม่า(海馬)