อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 270 อืดอาดยืดยาดหรือ??
ตอนพิเศษ 270 อืดอาดยืดยาดหรือ??
ตอนพิเศษ 270 อืดอาดยืดยาดหรือ??
สีหน้าของพวกเนี่ยนเนี่ยนทั้งสามเปลี่ยนไปพร้อมกัน พวกเขามาช้าไปหนึ่งก้าว มีคนเข้ามาแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนสบถออกมาเบา ๆ ก่อนจะวางเยว่เอ๋อร์ลงอีกครั้ง เสียงของถงเทียนอวี้ดังขึ้นข้างหูนาง “พวกเจ้าไปเถิด ข้าจะอยู่รั้งคนที่ลงมาที่นี่ไว้เอง”
“ไปด้วยกันเถิด” หากถงเทียนอวี้อยู่ต่อ ก็จะมีจุดจบเพียงอย่างเดียวแน่นอน
ตอนนี้เขามีแรงแค่เดินเท่านั้น แล้วเขาจะรั้งคนอื่นไว้ได้อย่างไร? ในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นคนที่มีวรยุทธ์สูงส่ง เกรงว่าซัดฝ่ามือเพียงครั้งเดียวก็คงปลิดชีพเขาได้แล้ว จะมารั้งไว้อะไรกัน?
“แม่นาง อย่ามัวอืดอาดยืดยาด คนแก่เช่นข้าอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว อยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ ให้ข้าอยู่ที่นี่คนเดียวยังดีกว่าถูกจับกันทั้งสามคน เพียงแค่ถ่วงเวลาไว้ได้สักครู่เดียวเท่านั้นก็ยังดี ดังนั้นรีบพาเยว่เอ๋อร์ออกไป แม่นางจงจำไว้ ไปหาซูกั๋วกงและเสนาบดีฝั่งขวา บอกให้พวกเขา… ล้างแค้นให้ตระกูลถง แล้วข้าจะตายโดยไม่เสียใจ”
ถงเทียนอวี้กล่าวจบ ความมุ่งมั่นก็ฉายแววขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็กำลังจะก้าวไปข้างหน้า
เนี่ยนเนี่ยนรีบดึงเขากลับมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนว่า “อย่าพูดว่าตัวเองเป็นเพียงคนแก่อีกต่อไป ลูกชายและภรรยาของท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อรอให้ท่านกลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง” กล้าดีอย่างไรมาว่านางอืดอาดยืดยาด แม้ว่าเขาจะอาวุโสกว่านาง แต่มันก็ไม่สุภาพเลย
ทันใดนั้นดวงตาของถงเทียนอวี้ก็เป็นประกาย เขาไม่สนใจสิ่งใดและคว้าข้อมือของนางไว้ “เจ้า เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้าหมายถึงตระกูลถง ตระกูลถงไม่ได้… ไม่…”
เนี่ยนเนี่ยนพยักหน้า “เมื่อเราออกไปได้แล้วค่อยคุยกัน” เมื่อนางพูดจบก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่สุดท้ายนางก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากฉีกผ้าสีดำที่นางใช้ปิดหน้าออกเป็นสองชิ้น จากนั้นป้ายบางอย่างลงบนผ้า แล้วโยนไปให้ถงเทียนอวี่
ก่อนสั่งว่า “คนละชิ้น ท่านช่วยใช้สิ่งนี้ช่วยปิดปากและจมูกของเยว่เอ๋อร์ด้วย”
ถงเทียนอวี้รู้สึกงุนงง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเนี่ยนเนี่ยน เขาก็หมอบลงโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ ขณะใช้มือข้างหนึ่งยกผ้าปิดหน้าตัวเอง ส่วนอีกข้างก็ปิดให้เยว่เอ๋อร์
ทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นเนี่ยนเนี่ยนก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
รูม่านตาของถงเทียนอวี้หดตัวทันที เคล็ดวิชาฝีเท้าตระกูลลู่หรือ? สตรีผู้นี้มาจากตระกูลลู่หรือ?
เขาแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คนตระกูลลู่ไม่ได้มีทักษะต่ำต้อย บางทีนางอาจมีหนทางจริง ๆ
เนี่ยนเนี่ยนเดินไปยังทางออกอย่างรวดเร็ว แต่นางก็รู้สึกแปลกใจ เป็นเวลานานแล้วที่คนผู้นั้นเข้ามาในคุก ทว่าเหตุใดเขายังไม่เข้ามาอีก?
จนกระทั่งนางกำลังจะวิ่งไปที่ประตู นางจึงรู้ว่ามีประตูหินอีกบานเปิดอยู่ทางด้านซ้ายมือ เมื่อนางลงมาจากขั้นบันไดด้านบน
เนี่ยนเนี่ยนตระหนักได้ทันใด คนผู้นั้นเข้าไปหลังประตูหินหรือ? มีสิ่งใดอยู่ในนั้น?
ขณะที่นางกำลังจะเข้าไปค้นหา ก็มีเสียงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยวดังขึ้นข้างหูนางว่า “ใคร?”
ทันใดนั้นลมจากฝ่ามือก็ถูกซัดออกมาจากด้านในของประตูหิน ด้วยแรงผลักที่เฉียบคม มันพุ่งตรงมาที่ใบหน้าของเนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยนรีบถอยหลังไปหลายก้าว และไม่หยุดจนกว่านางจะห่างจากเขา
เมื่อมองอีกครั้ง ทันใดนั้นนัยน์ตาของนางก็หรี่ลง มุมปากแสยะยิ้มอ่อน “ท่านอ๋อง ช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง” เขาไม่ได้ถูกไท่จื่อขังไว้ในวังหรอกหรือ? มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร? แอบกลับมางั้นหรือ?
“เจ้าเองหรือ?” ท่านอ๋องเลี่ยมองเนี่ยนเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร? เจ้า…” เขารีบมองเข้าไปข้างใน แต่ทางเดินค่อนข้างอยู่ไกลออกไป เขาจึงมองไม่เห็นเหตุการณ์ข้างในมาระยะหนึ่งแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนถอยหลังไปสองก้าวด้วยสีหน้าระแวดระวัง ในตอนนี้สายตาของนางกวาดไปทั่วประตูหิน
ท่านอ๋องเลี่ยหรี่ตาลง สะบัดแขนเสื้อ แล้วปิดประตูหิน จากนั้นก็ก้าวเข้าใกล้เนี่ยนเนี่ยนทีละก้าว
เนี่ยนเนี่ยนถอยห่างออกมา พลางมองท่านอ๋องเลี่ยด้วยรอยยิ้ม “บัดนี้ทั้งจวนท่านอ๋องเลี่ยตกอยู่ในความโกลาหล ท่านอ๋องเลี่ยไม่กังวลหรือเจ้าคะ? ภรรยาและลูกของท่านอยู่ข้างนอกกันทุกคน”
“หุบปาก ถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของพวกเจ้า จวนอ๋องเลี่ยจะตกอยู่ในความโกลาหลหรือไม่? เมื่อข้าฆ่าเจ้าเสร็จแล้ว ข้าก็ย่อมได้พบกับพวกเขา”
เนี่ยนเนี่ยนยังคงถอยหลังหนีด้วยสีหน้าหวาดระแวง “แผนการหรือ? พวกเรามีแผนการอะไร?”
“ยังแสร้งทำเป็นโง่อยู่อีกหรือ?” ท่านอ๋องเลี่ยตะคอก
เยว่เอ๋อร์ขโมยจดหมายหลายฉบับจากเขา และฮ่องเต้ก็เอะอะโวยวายเพราะจดหมายเหล่านี้ แม้ว่ามันจะไม่ใช่หลักฐานที่ใช้ตัดสินลงโทษเขาได้ แต่ฮ่องเต้ก็เรียกเขาเข้าไปในวังหลวง
เขาคิดว่าการไปที่นั่นอาจเป็นคราวเคราะห์ของเขาแล้ว เขาจึงบอกครอบครัวไว้ว่าถ้าเขาไม่กลับมาภายในเที่ยงคืน ให้ไปจวนรองแม่ทัพหลิวเพื่อหารือเรื่องต่าง ๆ และใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เพื่อยกทัพเข้าโจมตี
แต่ไม่คิดเลยว่าฮ่องเต้จะเรียกตัวเขาไป แต่กลับไม่ได้เอ่ยถึงจดหมายเหล่านั้นเลย เพียงแค่บอกว่าไม่ได้เจอเขานาน และขอให้เขาเล่นหมากรุกด้วย
เรื่องเหล่านี้กินเวลาไม่กี่ชั่วยาม เขากระวนกระวายขณะพยายามนึกหาข้อแก้ตัว และแม้แต่ยอมเป็นฝ่ายพูดคุยเรื่องจดหมายเหล่านั้นก่อน แต่ฮ่องเต้กลับเอ่ยขัดเขา และบอกว่าจดหมายเหล่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่าการติดต่อกับตระกูลเจี่ยงแบบปกติ ไม่มีอะไรสำคัญ ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ
เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้ว เขาก็รู้สึกกังวล แต่ในที่สุดเขาก็หาข้ออ้างออกจากตำหนักของฮ่องเต้ แล้วแอบออกจากวังหลวงมาได้
ทว่ายังมีเวลาเหลืออีกครึ่งชั่วยาม ก่อนเวลาที่พวกเขาตกลงกันไว้ แต่หวางเฟยและซื่อจื่อได้เริ่มลงมือกันแล้ว พวกเขาทุกคนติดกับดัก ทั้งจวนจึงถูกล้อมรอบด้วยคนของอู่หยวนโหว
เขามาช้าไปหนึ่งก้าว สิ่งต่าง ๆ เริ่มไม่เป็นไปตามแผนของเขาแล้ว
เดิมทีทุกย่างก้าวของแผนการของเขานั้นยากที่จะทิ้งหลักฐานเอาไว้ แต่ตอนนี้แผนการนั้นชี้ชัดว่าเขาก่อกบฏ ต่อให้เขาจะมีสักกี่ร้อยปาก เขาก็ไม่อาจอธิบายเพื่อแก้ตัวได้
“แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไป ศึกนี้เรายังไม่รู้ว่าใครจะชนะหรือแพ้” ท่านอ๋องเลี่ยกล่าว รอยยิ้มของเขาเริ่มเหี้ยมเกรียม
เนี่ยนเนี่ยนถอยไปทีละก้าวไปทางถงเทียนอวี้และเยว่เอ๋อร์
สีหน้าของถงเทียนอวี้เปลี่ยนไปมาก เมื่อเขาเห็นท่านอ๋องเลี่ย
ท่านอ๋องเลี่ยผ่านสมรภูมิรบมาเป็นเวลานาน เขาได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์อันแข็งแกร่งทรงพลัง จนกายเป็นดั่งทองเหลือง กระดูกดั่งเหล็กกล้า
โดยเฉพาะหลังจากที่เขาถูกจับในคุกนี้ เขาก็เห็นว่าทักษะของท่านอ๋องเลี่ยดีเพียงใด คนผู้นี้มีความทะเยอทะยานชัดเจน และซ่อนเร้นความแข็งแกร่งของตัวเองมาหลายปี แม้ว่าตอนนี้ เขาจะยังไม่สูญเสียกำลังภายในทั้งหมดไป แต่หากเขาต่อสู้กับท่านอ๋องเลี่ย เขาก็ไม่รู้เลยว่าใครจะชนะ
ตอนนี้แม่สาวน้อยตรงหน้า…
ถงเทียนอวี้รู้สึกหงุดหงิด หากแม่นางคนนี้ไม่พยายามช่วยเขา ก็คงไม่ต้องเสียเวลามากนัก จนถูกท่านอ๋องเลี่ยจับได้
เขากำหมัดแน่น จากนั้นก็เห็นมือของเนี่ยนเนี่ยนที่ไพล่หลังอยู่ ทำท่าทางบุ้ยใบ้ให้เขาถอดผ้าสีดำที่ปิดปากและจมูกออก
ถงเทียนอวี้เข้าใจ เขาตั้งสมาธิให้มั่น หยุดคิดเรื่องอื่นชั่วคราว แล้วเก็บผ้าสีดำไว้เงียบ ๆ
โชคดีที่ตอนนี้พวกเขาอยู่ตรงมุมแล้ว ตรงจุดนั้นมืดและยากที่จะแยกแยะ ท่านอ๋องเลี่ยไม่ได้ให้ความสนใจมาพักหนึ่งแล้ว
เมื่อเห็นอย่างชัดเจน ถงเทียนอวี้ก็ยืนขึ้นแล้วเดินตามหลังเนี่ยนเนี่ยน
ท่านอ๋องเลี่ยหัวเราะ ขณะมองไปที่เนี่ยนเนี่ยน “ปรากฏว่าเจ้ามาช่วยพวกเขา แต่น่าเสียดายที่วันนี้เจ้าทั้งสามจะต้องตายอยู่ที่นี่ ไม่ต้องกังวล ข้าจะส่งคนไปที่อาณาจักรเฟิงชาง เพื่อส่งจดหมายรายงานต่อท่านอ๋องซิวและอวี้ชิงลั่ว ว่าลูกสาวของพวกเขาตายแบบไม่เหลือซาก”
ถงเทียนอวี้มองไปที่เนี่ยนเนี่ยนด้วยความประหลาดใจ “เจ้า เจ้าคือลูกสาวของอวี้ชิงลั่วหรือ?”
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เนี่ยนเนี่ยนมีแผนสำรองไหมคะ งัดมาใช้ได้แล้วค่ะ ไม่งั้นจะเข้าตาจนแล้วนะ
ไหหม่า(海馬)