อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 271 นังเด็กเมื่อวานซืน
ตอนพิเศษ 271 นังเด็กเมื่อวานซืน
ตอนพิเศษ 271 นังเด็กเมื่อวานซืน
เนี่ยนเนี่ยนไม่ได้มองกลับไป เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อย
ทันใดนั้นถงเทียนอวี้ก็ตระหนักได้ ไม่น่าแปลกใจที่นางรู้วิธีใช้เคล็ดวิชาฝีเท้าตระกูลลู่ ไม่น่าแปลกใจที่นางสามารถดึงกำลังภายในที่ถูกกักเก็บไว้ของเขาออกมาได้
นัยน์ตาของเขาเป็นประกายโดยไม่ทันตั้งตัว หากนางเป็นลูกสาวของอวี้ชิงลั่ว แม้ว่าเขาจะต้องตายที่นี่ เขาก็ต้องพานางออกไปให้ได้
เมื่อคิดได้ดังนั้น ถงเทียนอวี้ก็ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย รู้สึกได้ถึงพลังที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ในกายของเขา
เขามองท่านอ๋องเลี่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ท่านอ๋องเลี่ยมองวิเคราะห์คนทั้งสาม แน่นอนว่าเขาไม่สนใจผู้บาดเจ็บสาหัสสองคน คนสำคัญที่สุดคือเย่ชิ่นซีตรงหน้าเขา ว่ากันว่าสตรีผู้นี้ก็มีฝีมือไม่ธรรมดาเช่นกัน
แต่อย่างไรเสียนางก็ยังเด็กและไม่ได้มีพรสวรรค์แบบเย่ฉิงหนาน ไม่ว่านางจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่อาจเทียบชั้นกับประสบการณ์การต่อสู้หลายสิบปีของเขาได้
สิ่งที่ต้องระวังที่สุดก็คือนางสามารถใช้พิษได้หรือไม่ ในตอนนั้นอวี้ชิงลั่วเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้ยาพิษ นางจึงน่าจะได้เรียนรู้ทักษะมาบ้าง
ท่านอ๋องเลี่ยหรี่ตาลง ก่อนใช้นิ้วแตะเอวตนเอง ทันใดนั้นเสียง ‘ชิ้ง’ แผ่วเบาก็ดังขึ้นขณะชักกระบี่อ่อนคมกริบออกมา แล้วชี้ไปที่เนี่ยนเนี่ยน “ข้าจะส่งเจ้าไปปรโลกบัดเดี๋ยวนี้”
จากนั้นเขาก็ฟาดฟันไปยังใบหน้าของเนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยนรีบเบี่ยงตัวหลบไปทางซ้าย
ท่านอ๋องเลี่ยมีความชำนาญมาก สถานที่นี้คับแคบและมีเพดานต่ำ จึงไม่เหมาะสำหรับการประจันหน้าแบบตัวต่อตัว
เนี่ยนเนี่ยนจึงทำได้เพียงแค่หลบไปทางซ้ายและขวา การเคลื่อนไหวของนางพลิ้วไหวราวกับบินได้ โชคดีที่นางเชี่ยวชาญการใช้เคล็ดวิชาฝีเท้าตระกูลลู่มาก ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับท่านอ๋องเลี่ยในการพยายามเข้าไปประชิดตัวนาง
แต่เมื่อใคร่ครวญดูแล้ว การเอาแต่หลบหลีกเช่นนี้ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องหมดแรง ไม่ต้องพูดถึงว่ามีถงเทียนอวี้และเยว่เอ๋อร์ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ตรงนั้นด้วย
“ข้าอยากจะดูว่าเจ้าจะหลบไปได้อีกนานเพียงใด” ท่านอ๋องเลี่ยเยาะเย้ย ทันใดนั้นก็เปลี่ยนทิศทางกระบี่ไปแทงเยว่เอ๋อร์
เนี่ยนเนี่ยนสบถออกมาเบา ๆ ช่างร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก
นางรีบวิ่งหลบออกไป นัยน์ตาของท่านอ๋องเลี่ยฉายแววเป็นประกาย
ถงเทียนอวี้เห็นชัดเจน เขาตะโกนออกมาทันที “ระวัง”
ทว่าคมกระบี่ท่านอ๋องเลี่ยได้หันไปแล้ว และแทงไปทางเนี่ยนเนี่ยน
เมื่อเห็นว่าปลายกระบี่อ่อนคมกริบเย็นยะเยือกกำลังจะถึงหน้าอกของเนี่ยนเนี่ยน จู่ ๆ ท่านอ๋องเลี่ยก็ขมวดคิ้ว มือของเขาสั่นเบา ๆ
ความแข็งแกร่งอันว่องไวแต่เดิมถูกตัดไปครึ่งหนึ่งทันที ปลายกระบี่จึงเบี่ยงไปครึ่งชุ่น
คมกระบี่ปาดแฉลบผ่านแขนของเนี่ยนเนี่ยนไป กรีดผิวหนังจนเลือดไหลซิบ
เนี่ยนเนี่ยนไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว พุ่งไปข้างหน้าแล้วกระโดดใช้ฝ่ามือซัดคนผู้นั้นด้วยฝ่ามือเดียว
ท่านอ๋องเลี่ยถอยหลังไปสองก้าวอย่างแรง จากนั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ
เนี่ยนเนี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากลงสู่พื้นแล้วก็รีบไปยืนข้างหน้าถงเทียนอวี้และเยว่เอ๋อร์ ก่อนจะยกยิ้มให้ท่านอ๋องเลี่ย
“เจ้า… เจ้าทำอะไร?” ร่างกายของเขาอ่อนแรง และรู้สึกว่าเรี่ยวแรงในร่างกายกำลังค่อย ๆ หายไป
แม้จะโง่เขลา แต่ท่านอ๋องเลี่ยก็ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาป้องกันตัวเองจากการถูกยาพิษเสมอ สายตาของเขาไม่เคยละไปจากนางเลยแม้แต่นิด เป็นไปได้อย่างไร…
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะ “จริงอยู่ที่หลังจากได้เจอท่าน ข้าไม่ได้วางยาพิษท่านเลย ทว่า… ตั้งแต่ตอนที่ข้าได้ยินเสียงประตูหินเปิด ข้าก็วางยาพิษในทางเดินนี้ไปแล้ว ไม่เช่นนั้นท่านคิดว่าเหตุใดข้าต้องถอยไปทีละก้าว เพื่อพาท่านเข้ามาด้วยเล่า?”
น่าเสียดายที่การโจมตีด้วยพิษของนางต้องใช้เวลา ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ต้องต่อสู้กับเขาที่นี่นานถึงเพียงนี้
แต่ท่านอ๋องเลี่ยก็คือท่านอ๋องเลี่ย เขายังสามารถโจมตีอยู่ได้จนถึงตอนนี้
และดูเหมือนว่าจะยังไม่ยอมล้มลงง่าย ๆ
แน่นอนว่าทันทีที่เนี่ยนเนี่ยนเอ่ยดังนั้น อ๋องเลี่ยก็ใช้ดาบแทงขาตัวเองอย่างรวดเร็ว เลือดสีแดงฉานพลันย้อมชุดของเขาให้เป็นสีแดงทันที
ท่านอ๋องเลี่ยเย้ยหยัน “ถ้าเช่นนั้นก็รีบตัดสินใจโดยเร็วเถิด”
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก ถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วพูดกับถงเทียนอวี้ว่า “ท่านพาเยว่เอ๋อร์ไปที่ห้องขังก่อน แล้วอย่าออกมา”
ถงเทียนอวี้รู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะคัดค้าน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออย่ารั้งนางไว้ เขาจึงย่อตัวลงและพาเยว่เอ๋อร์กลับไปที่ห้องขังอย่างระมัดระวัง
ก่อนที่พวกเขาจะถอยกลับ ก็มีเสียงการต่อสู้ดังขึ้นข้างหลังพวกเขา
เนี่ยนเนี่ยนเก่งกาจด้านวรยุทธ์ แต่เมื่อเทียบกับท่านอ๋องเลี่ยแล้ว นางยังขาดประสบการณ์การต่อสู้ที่แท้จริงอยู่มาก ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ท่านอ๋องเลี่ยโหดเหี้ยมยิ่งนัก และหมายจะปลิดชีวิตนางให้ได้
หลังจากการเข้าโรมรันกันหลายครั้ง เนี่ยนเนี่ยนก็ถูกฟันแขนอีกครั้ง
นางรู้สึกหงุดหงิด จนไม่กล้าเป็นแค่ฝ่ายตั้งรับอีกแล้ว
โชคดีที่พิษในร่างกายท่านอ๋องเลี่ยค่อย ๆ เริ่มออกฤทธิ์ เขาแทงขาตัวเองอีกครั้ง แต่ก็เปล่าประโยชน์
เนี่ยนเนี่ยนใช้โอกาสนี้กระโจนไปข้างหน้า เพื่อคว้ากระบี่อ่อนจากมือของเขา แล้วแทงเขาในทันใด
ดวงตาท่านอ๋องเลี่ยเบิกกว้าง ขณะจ้องมองเนี่ยนเนี่ยน “นังเด็กเมื่อวานซืน ใช้กลอุบายสกปรกทุกรูปแบบ ช่างน่ารังเกียจและไร้ยางอายยิ่งนัก”
“โอ้” เนี่ยนเนี่ยนเย้ยหยัน ความเจ็บปวดที่แขนยิ่งทำให้นางโมโห “ท่านอ๋องเลี่ยเป็นคนที่ต้องการก่อกบฏ แต่ยังมีหน้ามาตำหนิข้าว่าน่ารังเกียจและไร้ยางอายอีกงั้นหรือ? แล้วตอนที่ท่านร่วมมือกับตระกูลเจี่ยง เพื่อจัดการกับตระกูลถง เหตุใดท่านไม่บอกว่ากลอุบายของท่านสกปรกบ้างเล่า?”
“เจ้า…”
ท่านอ๋องเลี่ยอยากจะด่าทอต่อ แต่เขาเริ่มรู้สึกวิงเวียนศีรษะ หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกถึงกลิ่นคาวในลำคอ จากนั้นเลือดสีแดงสดก็กระฉูดออกมาเต็มปาก
เนี่ยนเนี่ยนถอยหลังหนีหนึ่งก้าว ในที่สุดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เจ้า เจ้าต้องตาย…” ท่านอ๋องเลี่ยกัดฟันพูด สติของเขาเริ่มเลือนรางทีละน้อย ก่อนจะล้มลงกับพื้นเสียงดัง ‘โครม’
‘เคร้ง’ กระบี่อ่อนในมือของเนี่ยนเนี่ยนก็ร่วงลงสู่พื้นเช่นกัน นางยืนพิงกำแพง แล้วพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ
จากนั้นถงเทียนอวี้ก็พาเยว่เอ๋อร์ออกมาอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นอาการบาดเจ็บของนาง ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้ารีบทำแผลก่อน”
แต่เนี่ยนเนี่ยนเพียงแค่ใช้ผ้าพันห้ามเลือดไว้
“ไม่จำเป็น ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” เนี่ยนเนี่ยนอุ้มเยว่เอ๋อร์ขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมองหน้านาง ก็เห็นได้ชัดว่านางจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ถงเทียนอวี้ไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมนางอีก แต่เพียงมองไปยังท่านอ๋องเลี่ยที่อยู่บนพื้นด้วยความเกลียดชัง “แล้วเขา … “
“เขาคงจะฟื้นขึ้นมาไม่ได้ชั่วขณะ ข้ารู้ว่าท่านมีความเกลียดชังเขาเข้ากระดูก แต่ก็ยังต้องส่งมอบตัวเขาให้กับฮ่องเต้ เพื่อให้เขาสารภาพผิด ดังนั้นออกไปกันเถิดเจ้าค่ะ พี่ชายของข้าอยู่ข้างนอก เมื่อถึงเวลา ให้เขาเข้ามาพาคนออกไปก่อน แล้วค่อยคุยกัน”
ถงเทียนอวี้พยักหน้า แล้วระงับความเกลียดชังในใจเอาไว้ จากนั้นเดินไปด้านข้างเพื่อหยิบโซ่เหล็กมามัดท่านอ๋องเลี่ยไว้ แล้วเดินออกไปกับเนี่ยนเนี่ยน
แต่เมื่อพวกเขาเดินไปถึงขั้นบันได เนี่ยนเนี่ยนก็หยุดอีกครั้ง
นางหันหน้าไปมองประตูหินด้านซ้าย เมื่อครู่นี้… ท่านอ๋องเลี่ยออกมาจากที่นี่
น่าจะมีบางอย่างอยู่ข้างใน ไม่เช่นนั้นเหตุใดเขาถึงกลัวนางเห็น และต้องระวังตัวถึงเพียงนี้
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก และหันศีรษะไปพูดกับถงเทียนอวี้ว่า “เราเข้าไปดูกันเถอะเจ้าค่ะ”
ถงเทียนอวี้งุนงง ทั้งสองเดินเข้าไปข้างใน
เดินไปจนถึงหลังประตูหิน เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้น ทั้งสองก็อ้าปากค้างทันที ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง ร่างกายแข็งทื่อไปหมด
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
โดนเด็กเมื่อวานซืนถอนหงอกแล้วอ๋องเลี่ย
ในห้องนั้นซ่อนอะไรร้ายแรงเอาไว้กันนะ?
ไหหม่า(海馬)