อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 275 พ่อแม่ของเจ้ามาแล้ว
ตอนพิเศษ 275 พ่อแม่ของเจ้ามาแล้ว
ตอนพิเศษ 275 พ่อแม่ของเจ้ามาแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา “เจ้า…”
นางมองไปข้างหลังไป๋หลิวอี้ แต่ก็ไม่เห็นถงเทียนอวี้และอาเวิน คิดว่าน่าจะถูกพาไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว
“เนี่ยนเนี่ยน คราวหน้าอย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงเพื่อข้า ได้หรือไม่?” เขาเป็นห่วงเยว่เอ๋อร์ก็จริง แต่เขาก็ไม่อยากให้นางตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
จวนท่านอ๋องเลี่ยเป็นสถานที่ที่อันตรายยิ่งนัก หากบุกเข้าไปโดยไม่มีแผน แล้วถูกพบเข้า ก็จะถูกสังหารในทันทีได้ทุกเมื่อ
เมื่อครู่นี้ถงเทียนอวี้ได้เล่าเหตุการณ์เมื่อคืนให้เขาฟังสั้น ๆ แล้ว แม้ว่ามันจะสั้นกระชับ แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นตระหนกมากที่ได้ยิน โดยเฉพาะตอนที่พวกเขากำลังจะออกจากคุกใต้ดิน แต่ดันบังเอิญไปประจันหน้ากับท่านอ๋องเลี่ย
หากท่านอ๋องเลี่ยไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่การปกปิดคลังแสงของเขาจากเนี่ยนเนี่ยนในเวลานั้น จนถูกกลอุบายของเนี่ยนเนี่ยนเล่นงานเข้า เขาจะถูกกำราบลงอย่างง่ายดายได้อย่างไร?
คนผู้นั้น… เจ้าเล่ห์เพทุบาย และมีวรยุทธ์ที่ล้ำเลิศ เพียงแค่คิดว่าเนี่ยนเนี่ยนต้องเผชิญหน้ากับเขาตามลำพัง ไป๋หลิวอี้ก็รู้สึกหวาดกลัวในใจ
เนี่ยนเนี่ยนฝังตัวไว้ในอ้อมแขนของเขา แล้วค่อย ๆ ใช้มือโอบรอบเอวของเขา “ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ารู้สึกเสียใจ…” หลังจากนั้นไม่นาน นางก็พูดตัดพ้อว่า “ใครบอกให้เจ้าไม่บอกข้าว่าพี่ใหญ่ของข้าไปจวนท่านอ๋องเลี่ย? หากเจ้าบอก ข้าก็คงไม่เข้าไปร่วมด้วยหรอก
“มันเป็นความผิดของข้าเอง” ไป๋หลิวอี้ลูบไล้เรือนผมนุ่มนิ่มของนาง ซึ่งยังคงมีกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ติดอยู่ แต่เขาก็รู้สึกสบายใจมากเมื่อได้สัมผัสนาง
เมื่อเนี่ยนเนี่ยนเห็นว่าเขายอมรับผิดอย่างง่ายดาย นางก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “เอาล่ะ เจ้าไม่ต้องมายืนที่นี่อีกต่อไปแล้ว เจ้ายังมีบาดแผลอยู่ หากเจ้ายังคงเดินไปมาต่อไปจะทำให้แผลเปิดได้ แล้วคนที่เหนื่อยก็คือข้าเอง”
“ตกลง” ไป๋หลิวอี้ยกยิ้ม แล้วมองเข้าไปที่ห้อง เมื่อเห็นว่าเหวินหย่าดูแลเยว่เอ๋อร์อย่างดี เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง และเดินกลับไปที่ห้องโดยมีเนี่ยนเนี่ยนอยู่ในอ้อมแขน
เขาได้รับบาดเจ็บ ส่วนเนี่ยนเนี่ยนไม่ได้นอนทั้งคืนและเหนื่อยมากจากการต่อสู้ นางจึงนอนเคียงข้างเขา โดยอยู่ในอ้อมกอดของเขา
แต่ตอนนี้นางนอนไม่หลับ นางเงยหน้าขึ้นมองไป๋หลิวอี้ ลังเลว่าจะบอกเขาเรื่องอาการบาดเจ็บของเยว่เอ๋อร์ดีหรือไม่
ทว่าไป๋หลิวอี้เป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน “เกิดอะไรขึ้น…กับจวนท่านอ๋องเลี่ย?”
แม้ว่าถงเทียนอวี้จะเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเหตุใดการระเบิดครั้งใหญ่จึงปะทุขึ้นในจวนอ๋องเลี่ย แต่เขารู้สึกว่าเนี่ยนเนี่ยนต้องรู้
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปาก แล้วตัดสินใจโยนทุกอย่างไปให้เย่ฉิงหนาน “นั่นเป็นฝีมือของพี่ใหญ่ เมื่อพี่ใหญ่กลับมา เจ้าค่อยถามเขาได้”
หลังจากที่เย่ฉิงหนานพาคนของเขาออกมานอกจวนเสนาบดีฝั่งขวา เขาก็แยกทางกับเนี่ยนเนี่ยน และพาตัวท่านอ๋องเลี่ยเข้าไปในวังหลวงตามลำพัง
ไป๋หลิวอี้ไม่ได้ถามอะไรอีก เพียงแค่ลูบหลังเนี่ยนเนี่ยน “ได้สิ ข้าจะคุยกับเขาเมื่อเขากลับมา เจ้านอนก่อนเถิด ใต้ตาคล้ำหมดแล้ว”
สองสามวันมานี้ดูเหมือนนางจะนอนหลับไม่สนิทเลย ไป๋หลิวอี้รู้สึกสงสารนาง และกอดนางแน่นขึ้นเล็กน้อย
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกสบายใจมาก มุมปากของนางเผยรอยยิ้มอ่อน ก่อนจะค่อย ๆ จมดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา
ทั้งจวนเสนาบดีฝั่งขวาเงียบกริบ แต่ทั่วทั้งเมืองหลวง… กำลังเดือดพล่าน
ทุกคนตื่นตระหนกด้วยเสียงระเบิดในจวนท่านอ๋องเลี่ย ช่วงนี้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในเมืองหลวงทีละเหตุการณ์ ผู้รอบรู้ต่างพบว่าหลังจากตระกูลหลิ่ว ตระกูลถงและตระกูลเจี่ยงถูกทำลาย จวนท่านอ๋องเลี่ยก็ถูกทำลายเช่นกัน ทุกคนในจวนถูกจับตัวไปหมด แม้กระทั่งท่านอ๋องเลี่ยก็ถูกจับเช่นกัน
ข่าวลือแพร่กระจายไปทั่ว ขณะที่บางคนกลัวว่าความโกลาหลจะยังคงเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า และเล่าลือกันว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของราชวงศ์
มีแม้กระทั่งข่าวลือที่ว่าอาณาจักรเทียนอวี่สูญเสียตระกูลจอมยุทธ์ที่ทรงพลังสองตระกูลไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งจวนท่านอ๋องเลี่ยที่ได้รับความเคารพอย่างสูงก็ต้องล่มสลาย จึงเป็นสัญญาณของการล่มสลายของอาณาจักร
บางคนตื่นตระหนกและกังวลมากขึ้น จนเริ่มอธิษฐานวิงวอนเทพเจ้าและสวดมนตร์ไหว้พระ
มีการคาดเดามากมายจากโลกภายนอก แต่ราชวงศ์ได้เริ่มจัดการกับการกบฏของท่านอ๋องเลี่ยแล้ว
ซูกั๋วกงและอู่หยวนโหว ศัตรูทั้งสองร่วมมือกันเพื่อกวาดล้างกลุ่มกบฏของท่านอ๋องเลี่ย และประสิทธิภาพของพวกเขาก็สูงอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อคืนที่ผ่านมา อู่หยวนโหวได้ส่งกองกำลังไปล้อมจวนท่านอ๋องเลี่ย ในขณะที่ซูกั๋วกงและเป่ยเป่ยนำกองกำลังไปรบกับพวกของรองแม่ทัพหลิว พวกเขาใช้ประโยชน์จากความจริงที่ว่ารองแม่ทัพหลิว กำลังเตรียมโจมตีเมืองหลวง ด้วยการกำจัดทหารฝ่ายกบฏทั้งหมดด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
แม้ว่าการสู้รบจะดุเดือด แต่ก็มีข้อได้เปรียบอย่างน่าประหลาดใจ อีกทั้งซูกั๋วกงยังมีไหวพริบมาก มีเป่ยเป่ย ขุนพลและทหารหลายคนอยู่รอบตัวเขา เขาจึงจับทุกคนได้ภายในคืนนั้น
หลังจากที่ท่านอ๋องเลี่ยฟื้นขึ้นมา เมื่อเห็นว่าสถานการณ์จบลงแล้ว สมาชิกในตระกูลเขาทุกคนถูกจับ และจวนท่านอ๋องเลี่ยทั้งหมดถูกทำลายไปแล้ว เขาก็โกรธมากจนแทบจะพุ่งตัวหลุดจากโซ่ เพื่อปรี่เข้าไปหาฮ่องเต้บนบัลลังก์มังกร
ทว่าพิษในร่างกายของเขายังไม่ถูกชะล้าง และสองพี่น้องเย่ฉิงหนานและเย่ฉิงเป่ยกำลังเฝ้าดูจากด้านข้าง เมื่อเขาเดินไปได้เพียงหนึ่งก้าว ก็ถูกกดลงกับพื้นและไม่อาจขยับได้ในทันใด
เขาหันหน้าไปจ้องมองเย่ฉิงหนานด้วยความโกรธ “ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเจ้าจะอยู่ในอาณาจักรเทียนอวี่ด้วย ข้าอุตส่าห์คิดถึงเจ้า หากเจ้าไม่ทำลายข้าด้วยคำพูดพล่อยเหล่านั้น กองกำลังเพียงแค่หยิบมือ จะต้านกองทหารนับพันของข้าได้อย่างไร? “
“ท่านอ๋องเลี่ยกำลังพยายามใช้วาจาล่อลวงข้า ทั้งยังจะหว่านความบาดหมาง แม้ว่าตนเองกำลังจะตายก็ตาม” เย่ฉิงหนานหัวเราะเยาะ “ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย ข้าแค่ทำลายจวนท่านอ๋องเลี่ยของท่านเท่านั้น”
ฮ่องเต้เหลือบมองหนานหนาน เจ้าเด็กคนนี้ยังจะพูดได้เต็มปากเต็มคำอีก จวนหลังใหญ่เช่นนี้ถูกทำลายทันที ย่อมเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
ท่านอ๋องเลี่ยกัดฟันจ้องมองเย่ฉิงหนาน
แต่ฮ่องเต้ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว จึงโยนจดหมายสองฉบับลงตรงหน้าเขา แล้วกล่าวว่า “อ๋องเลี่ย นี่คือหลักฐานว่าเจ้าสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลเจี่ยง เพื่อวางแผนก่อกบฏ” หลังจากนั้นก็มีคนอีกสองคนถูกนำตัวออกมา หนึ่งในนั้นคือรองแม่ทัพหลิว
ทั่วร่างของรองแม่ทัพหลิวเต็มไปด้วยบาดแผล ไม่มีส่วนไหนไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เห็นได้ชัดว่าเขาถูกลงโทษแล้ว
เขามองไปยังท่านอ๋องเลี่ย แล้วก้มหน้าลงด้วยความอับอาย
เมื่อท่านอ๋องเลี่ยเห็นท่าทางของเขา ก็รู้ได้ว่า… ชายผู้นี้ได้สารภาพทุกสิ่งไปแล้ว
“ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์ ไร้ประโยชน์อะไรเช่นนี้” คาดไม่ถึงเลยว่ารองแม่ทัพหลิวผู้แข็งแกร่งมาโดยตลอดจะไม่อาจหยุดยั้งกลอุบายของคนเหล่านี้ได้ เขาเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกระแทกศีรษะลงกับพื้นด้วยความสิ้นหวัง
เย่ฉิงหนานรีบจับศีรษะของเขาไว้ได้ทัน แล้วใช้นิ้วกดจุด จนเขาล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง เขายังมีสติ แต่ร่างกายของเขาสูญเสียพละกำลังไปครึ่งหนึ่ง
เขาไม่ฟังสิ่งที่ฮ่องเต้พูดตอนท้ายได้ไม่ชัด เขารู้เพียงว่าคนจวนท่านอ๋องเลี่ยถูกสอบสวนทีละคน และคนที่อ่อนแอก็ทนไม่ได้
หลักฐานปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทีละชิ้น ในที่สุดมือของเขาก็ถูกคว้าไว้ และถูกจับกดลายนิ้วมือในฐานะอาชญากร จากนั้นก็ถูกลากตัวออกไป
ก่อนที่ความวุ่นวายในเมืองหลวงจะสงบลง ราชโองการของฮ่องเต้ก็ลงมาแล้ว
ท่านอ๋องเลี่ยสมรู้ร่วมคิดกับตระกูลเจี่ยงและตระกูลหลิ่ว โดยวางแผนก่อกบฏ และกวาดล้างตระกูลถง ทำให้คนเกือบทั้งตระกูลถงถูกกำจัด โชคดีที่อู่หยวนโหว เสนาบดีฝ่ายขวา ซูกั๋วกงและคนอื่น ๆ สืบสวนอย่างเฉลียวฉลาด และได้รับความช่วยเหลือจากโอรสและธิดาทั้งสามคนของอุปราชแห่งอาณาจักรเฟิงชางและองค์หญิงเทียนฝู ทำให้สามารถเอาชนะกลุ่มกบฏเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามได้
อาชญากรรมของท่านอ๋องเลี่ย ก็ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์เช่นกัน เขาถูกตัดสินให้ประหารชีวิตด้วยการตัดหัวหลังจากฤดูใบไม้ร่วง
เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้เรื่องเหล่านี้ เมื่อนางตื่นขึ้นก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว
ไป๋หลิวอี้ยังคงกอดนางอยู่ เห็นนางตื่นแล้ว เขาก็ยกยิ้มอ่อน แล้วพูดสิ่งที่ชวนประหลาดใจ “พ่อแม่ของเจ้ามาแล้ว”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
อาณาจักรนี้สงบเสียที จับตัวการใหญ่ได้แล้ว
พ่อแม่มาหาแล้ว สามพี่น้องทำไงนี่
ไหหม่า(海馬)