อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 28 ทำอย่างไรดี
ตอนพิเศษ 28 ทำอย่างไรดี?
ตอนพิเศษ 28 ทำอย่างไรดี?
แม่นมปู้ก้าวเข้าไปจับนางไว้ แล้วกล่าวตำหนิ “เกิดอะไรขึ้น เอะอะโวยวายอะไรกัน ไม่รู้จักสำรวมเลย”
“ข้า…” เยียนจือรู้สึกผิด แต่เมื่อคิดถึงเรื่องอื่น นางก็กังวลขึ้นมาอีกครั้งทันที แล้วรีบมองหลานสุ่ยชิงที่อยู่ข้างเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
หลานสุ่ยชิงชำเลืองมองนาง จากนั้นปลอบใจอู๋ซื่อสองสามคำ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านแม่ โปรดให้เนี่ยนเนี่ยนฝังเข็มให้ท่านนะเจ้าคะ เราขอตัวออกไปก่อน”
“… ได้” แม้อู๋ซื่อจะกังวล แต่นางก็ยังคงพยักหน้า แล้วเฝ้ามองทุกคนออกจากห้องไป จนกระทั่งเหลือเพียงนางและเนี่ยนเนี่ยนอยู่ในห้อง
จิ่นซิ่ว แม่นมหูและคนอื่น ๆ ยืนอยู่หน้าประตู แต่หลานสุ่ยชิงรีบเดินไปคุยกับเยียนจือที่มุมห้อง
“เกิดอะไรขึ้น?”
เยียนจือกัดริมฝีปากตัวเอง ก่อนจะใช้นิ้วจับชายเสื้อของนาง แล้วพูดด้วยความตื่นตระหนกว่า “คุณหนู เมื่อครู่นี้ท่านบอกให้ข้าไปหาคนขายขนมที่ประตูหลัง เพื่อซื้อขนมให้จวิ้นจู่กับแม่นางเนี่ยนเนี่ยนใช่หรือไม่เจ้าคะ? คาดไม่ถึงว่าทันทีที่ข้าเดินไปถึงประตูหลัง ข้าจะเห็นสาวใช้คนสนิทของคุณหนูรองรออยู่ที่ประตูหลัง จากนั้นก็เห็นสตรีแต่งตัวสวยงามคนหนึ่งเข้ามาในจวนเงียบ ๆ แล้วจากไปพร้อมกับสาวใช้คนนั้น ข้ารู้สึกแปลก ๆ ก็เลยถามแม่นมฟู่ที่เฝ้าประตูหลังอยู่ ว่าคนผู้นั้นคือใคร”
สตรีแต่งตัวสวยงามงั้นหรือ? หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้ว “แล้วแม่นมฟู่บอกว่าอย่างไรบ้าง?”
เยียนจือกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก น้ำตาที่คลอเบ้ากำลังจะไหลออกมา “แม่นมฟู่ก็ตะลึงไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นหญิงคนนั้น แล้วจู่ ๆ นางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ แล้วบอกข้าอย่างกระวนกระวายว่า หญิงคนนั้นคือแม่สื่อซูจากฝั่งตะวันออกของเมือง แม่นมฟู่บอกว่าแม่สื่อซูไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก นางทำงานจัดหาคู่มามากมาย แต่หลายคนกลับได้คู่ครองที่ไม่พอใจ นางจึงเสียชื่อเสียงไปนานแล้ว แต่จู่ ๆ แม่สื่อซูคนนี้ก็มาหาถึงประตู แล้วสาวรับใช้ของคุณหนูรองก็ออกมารับนาง แม่นมฟู่จึงสงสัยว่าแม่สื่อซูน่าจะมาที่นี่เพื่อจับคู่ให้คนในจวน”
ในที่สุดเยียนจือก็เงยหน้าขึ้นมองหลานสุ่ยชิง “แต่ว่า แต่ว่าในจวนนี้มีเพียงคุณหนูทั้งสามเท่านั้นที่ถึงวัยเหมาะจะมีคู่ครอง คุณหนูรองกับคุณหนูสามยังอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิว และไท่ฮูหยินยังคงคาดหวังว่าซิวหวางเฟยจะโปรดปรานพวกนาง ดังนั้นแม่สื่อซูไม่ได้มาเพื่อจับคู่ให้พวกนางแน่นอน ต่อให้จะเป็นการจับคู่ให้พวกนางจริง ก็คงจะเลือกแม่สื่อที่มีชื่อเสียงดีมากมาช่วยจับคู่ให้ ดังนั้น ดังนั้น…”
“ดังนั้นแม่สื่อซูคนนี้จึงน่าจะมาที่นี่เพื่อจับคู่ให้ข้า ใช่หรือไม่?” หลานสุ่ยชิงขัดคำพูดของเยียนจือ ใบหน้าของนางมืดมนลง
เยียนจือพยักหน้าอย่างแรง น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม นางจึงยกมือขึ้นปาดน้ำตาอย่างแรง “พวกนางร้ายกาจเกินไปแล้ว อย่างไรเสียคุณหนูก็ยังเป็นลูกสาวคนโตของจวนหลาน จะเล่นงานด้วยวิธีสกปรกเช่นนี้ได้อย่างไร? แม่สื่อซูคนนั้น ได้ยินมาว่าชื่อเสียงของนางแย่มาก นางเชี่ยวชาญในการจัดหาคู่สำหรับคนพิการไม่มีแขนขา คนยากจน หรือคนที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดารที่ไม่รู้เรื่องราวอะไร นางใช้วิธีหลอกลวงเด็กสาวผู้ไร้เดียงสาและยากจนที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแต่งงาน แต่ว่า แต่ว่าจวนหลานของเรา…”
ยิ่งเยียนจือพูดมากเท่าใด นางก็ยิ่งโศกเศร้ามากขึ้นเท่านั้น เมื่อนางคิดว่าคุณหนูของนางจะต้องแต่งงานกับสามีที่ชอบทุบตีและทรมานผู้อื่น นางก็รู้สึกเหมือนท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา
นางไม่รู้จักแม่สื่อซูคนนี้ แต่แม่นมฟู่รู้จัก แม้แต่ตอนที่แม่สื่อซูพูดถึงนาง นางก็ยังดูหวาดกลัว จึงเดาได้ว่าแม่สื่อซูสามารถทำทุกอย่างเพื่อเงินได้ โดยไม่สนใจจรรยาบรรณของแม่สื่อเลย
แต่แล้วคุณหนูของพวกนางเล่า?
“คุณหนู เราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”
หลานสุ่ยชิงเม้มปากแน่น ดูเหมือนว่าหลังจากที่นางมีสัมพันธ์อันดีกับจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว จินซื่อและไท่ฮูหยินก็รู้สึกได้ถึงวิกฤต ตอนนี้พวกนางจึงแทบรอไม่ไหวที่จะไล่นางออกไป
“คุณหนู?”
“ไม่เป็นไรหรอกเยียนจือ จินซื่อเพิ่งเรียกแม่สื่อซูมา และข้าจะยังไม่ได้แต่งงานเร็ว ๆ นี้หรอก” หลานสุ่ยชิงปลอบโยนนาง และหัวเราะ “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพนั้น ข้ายังต้องดูแลท่านแม่”
ความเจ็บป่วยของแม่นางเพิ่งจะมีความหวัง และเนี่ยนเนี่ยนเพิ่งสัญญาว่าจะรักษาแม่ของนาง แล้วนางจะปล่อยให้ไท่ฮูหยินและจินซื่อได้สิ่งที่ต้องการในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ และมีอิทธิพลต่อเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของนางได้อย่างไร?
ถ้านางบอกเรื่องนี้ให้มารดารู้ โรคที่ใกล้จะรักษาหายขาดแล้วอาจกลับมาทรุดลงอีก
เมื่อนึกได้ดังนั้น หลานสุ่ยชิงก็บอกเยียนจืออย่างจริงจังว่า “เจ้าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกให้แม่ของข้ารู้ เข้าใจหรือไม่?”
ใจของเยียนจือยังคงสับสนเล็กน้อย แต่นางก็รู้ดีถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ จึงพยักหน้าอย่างแรง “ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ”
หลานสุ่ยชิงมองนางและต้องการพูดอะไรบางอย่างเพื่อปลอบโยน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นจวิ้นจู่จิ่นซิ่วเดินมาหาด้วยความเป็นห่วง
หลานสุ่ยชิงรีบหยุดพูด หันกลับมายิ้มให้นาง
“มีเรื่องอะไรกัน? เกิดอะไรขึ้น?” จิ่นซิ่วขมวดคิ้ว เมื่อเห็นดวงตาที่เปื้อนน้ำตาของเยียนจือ คิ้วของนางก็ยิ่งขมวดแน่นกว่าเดิม
หลานสุ่ยชิงส่ายหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไร ข้าแค่บอกให้เยียนจือไปนำของว่างมาให้เจ้าชิม แต่ข้าไม่คิดว่านางจะรีบเสียจนไปชนอะไรบางอย่างเข้า นางจึงร้องไห้ออกมาด้วยความกังวลและรู้สึกผิด”
“อ๋อ” จิ่นซิ่วพยักหน้า แต่ก็ยังมีร่องรอยของความสงสัยในสายตาของนาง นางจ้องมองเยียนจืออยู่นาน
หลานสุ่ยชิงดึงรีบแตะตัวนาง เยียนจือจึงกลับมารู้สึกตัวทันที นางรีบเงยหน้าขึ้นและยิ้มแห้ง ๆ ให้จวิ้นจู่จิ่นซิ่ว
จิ่นซิ่วหรี่ตาลง แต่ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
บัดนี้ในที่สุดประตูที่ถูกปิดตลอดเวลาก็เปิดออก
มีความสุขฉายแววบนใบหน้าของแม่นมหูและแม่นมปู้ที่ยืนอยู่หน้าประตู พวกนางรีบหันหน้าเดินเข้าไปทันที
หลานสุ่ยชิงไม่สนใจมากนัก และรีบเข้าไปในห้อง
อู๋ซื่อนอนหงายอยู่บนเตียง สีหน้าดูดีขึ้น คิ้วที่เดิมทีมักจะขมวดอยู่เสมอคลายออก และมีรอยยิ้มที่มุมปาก
เนี่ยนเนี่ยนที่ยืนอยู่ข้างเตียงพูดกับหลานสุ่ยชิงที่รีบเข้ามา “การฝังเข็มวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าจะกลับมาใหม่ในวันมะรืนนี้”
“เนี่ยนเนี่ยน ขอบคุณนะ”
เนี่ยนเนี่ยนยกยิ้ม แล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้อง
หลานสุ่ยชิงนั่งลงข้างเตียง เช็ดเหงื่อให้อู๋ซื่อ แล้วถามนางด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านแม่ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้างเจ้าคะ?”
“สบายมาก ปกติแม่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับหน้าอกอยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้แม่หายใจได้คล่องขึ้นมาก ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าไปทั้งร่างกายเหมือนเมื่อก่อน ราวกับได้แช่น้ำร้อน แม่นางเนี่ยนเนี่ยนคนนั้นเชี่ยวชาญด้านการแพทย์จริง ๆ “
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นัยน์ตาของหลานสุ่ยชิงก็เป็นประกายด้วยความดีใจ จับมืออู๋ซื่อไว้ด้วยใจเต้นแรง
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินแม่พูดความรู้สึกเช่นนี้ เมื่อก่อนหลังจากที่ท่านหมอเจียงตรวจอาการเสร็จ ก็มักจะสั่งยากล่อมประสาทและยานอนหลับให้แม่ของนางเสมอ แต่ทุกครั้งที่แม่ของนางตื่นขึ้นมา อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย
“ใช่แล้วเจ้าค่ะ เนี่ยนเนี่ยนเก่งมาก” หลานสุ่ยชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วห่มผ้าห่มให้อู๋ซื่อ
เมื่อเห็นสองแม่ลูกคุยกัน จวิ้นจู่จิ่นซิ่วที่ตามมา ก็ถอยออกมายืนกับเนี่ยนเนี่ยนที่ทางเดิน
คาดไม่ถึงว่าทันทีที่พวกนางกำลังยืนนิ่ง ทันใดนั้น พวกนางก็เห็นเยียนจือวิ่งมาจากด้านหลัง แล้วคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง ‘ฟึ่บ’
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สุ่ยชิงจะหนีการแต่งงานนี้ยังไงดีนะ
ไหหม่า(海馬)