อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 281 สูญเสียการควบคุม
ตอนพิเศษ 281 สูญเสียการควบคุม
ตอนพิเศษ 281 สูญเสียการควบคุม
องค์หญิงสิบสามต้องการคัดค้าน แต่นางจะพูดตรงนี้ได้อย่างไร?
ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เพื่อรับประกันความมั่นใจ
ทันใดนั้นนางก็หันหน้าไปมองเนี่ยนเนี่ยนที่มีสีหน้างุนงง ราวกับว่าไม่รู้ว่านางกำลังโกรธอะไรอยู่
ทว่าอวี้ชิงลั่วไม่ได้มององค์หญิงสิบสามด้วยซ้ำ นางลุกขึ้นยืนด้วยรอยยิ้ม แล้วกลับมานั่งที่เดิม
“องค์หญิง ท่านไม่ได้อยากช่วยเป็นแม่สื่อ ให้องค์หญิงสิบสามจริงหรอกหรือเพคะ?” หงเย่ยกยิ้ม แล้วนำผ้าเช็ดหน้ามาให้ เมื่อเห็นนางเช็ดมือก็อดไม่ได้ที่จะถาม
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้วขึ้น “ช่างเถิด ข้าไม่ทำเรื่องยุ่งยากเช่นนั้นหรอก หากคนที่แนะนำให้นางรู้จักดีเกินไป มันจะไม่ทำร้ายครอบครัวของเขาหรือ? ตราบใดที่นางรู้ตัวเองดี และไม่สร้างปัญหาให้เนี่ยนเนี่ยนก็นับว่าดีแล้ว”
นางจิบสุรา พลางเชิดคางมองไปทางเนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยน…เอาแต่กิน กินแล้วกินอีก กินแล้วกินอีก
อวี้ชิงลั่วพ่นลมหายใจเบา ๆ “แม่เด็กคนนี้นี่”
หงเย่เม้มปากก่อนยกยิ้ม แล้วเติมสุราให้นางอีกจอก
งานเลี้ยงอาหารค่ำสิ้นสุดลงหลังจากนั้นไม่นาน เมื่ออวี้ชิงลั่วเงยหน้าขึ้น นางก็เห็นเนี่ยนเนี่ยนเดินเคียงข้างไป๋หลิวอี้ ตามเขาออกจากวังหลวง แล้วตรงกลับไปยังจวนซูกั๋วกง
นางส่ายหน้าขณะมองเย่ซิวตู๋ที่ยืนอยู่ข้างนาง “สตรีเกรงใจสามี สตรีเกรงใจสามีชัดๆ ขนาดยังไม่ทันได้แต่งงานนะ”
เย่ซิวตู๋มองไปยังร่างที่เดินห่างไกลออกไปเรื่อย ๆ แล้วถอนหายใจด้วยสีหน้าหมองเศร้า
ในอนาคต ลูกสาวของเขากำลังจะไปอาศัยอยู่ในบ้านของคนอื่น จู่ ๆ เขาก็รู้สึก… แน่นหน้าอกจนทำให้รู้สึกอึดอัด
อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขา แล้วยิ้มเยาะ “สมควรแล้ว ท่านเลือกลูกเขยคนนี้เองนี่”
เย่ซิวตู๋ขมวดคิ้ว จากนั้นหันหลังเดินกลับไปที่ห้องโถงโดยไม่เอ่ยคำใดอีก
เนี่ยนเนี่ยนจับแขนเสื้อของไป๋หลิวอี้ไปตลอดทาง และเอาแต่ก้มหน้าโดยไม่เอ่ยคำใดสักคำ
ทั้งสองขึ้นรถม้ากลับไปยังจวนซูกั๋วกง เมื่อไปถึงสวนจิ่นเฟิง นางก็ปล่อยมือจากเขา แล้วก้มหน้าหันหลังเดินกลับไปที่หอหลินเยว่
ร่างสูงโปร่งของไป๋หลิวอี้ยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ สายตาที่มองแผ่นหลังของนางช่างอ่อนโยน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็อดหัวเราะไม่ได้ ก่อนจะรีบเดินไปคว้ามือเนี่ยนเนี่ยนไว้ แล้วพานางกลับไปที่สวนจิ่นเฟิง
เนี่ยนเนี่ยนกะพริบตา เมื่อรู้สึกถึงอุณหภูมิที่มือขวา นางก็มองมือของตนด้วยสีหน้าว่างเปล่า “เจ้า…”
ก่อนที่จะพูดจบประโยค ไป๋หลิวอี้ก็ใช้แขนโอบรอบเอวของนาง มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของนางไว้ แล้วจุมพิตนางอย่างแรง
เนี่ยนเนี่ยนงุนงง ร่างกายค่อย ๆ ร้อนผ่าวขึ้น ส่วนมือก็จับแขนเสื้อเขาไว้อย่างอ่อนแรง
หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋หลิวอี้ก็ปล่อยนางอย่างไม่เต็มใจ ก่อนก้มหน้าลงใช้จมูกแตะกับจมูกงามของหญิงสาว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อยู่ที่นี่ อยู่กับข้านะ หืม?”
“… อื้ม” เนี่ยนเนี่ยนหลุบตาลง ใบหน้าแดงก่ำ
ไป๋หลิวอี้ยังคงกอดนางแน่น ท่าทางมึนเมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะดื่มสุราในงานเลี้ยงอาหารค่ำค่อนข้างมาก ทำให้ในขณะนี้ท่าทางการพูดและทุกเคลื่อนไหวของเขาล้วนเย้ายวนมีเสน่ห์ จนเนี่ยนเนี่ยนรู้สึกลังเล
เขาดึงเนี่ยนเนี่ยนลงบนเตียง ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ลมหายใจของทั้งสองประสานกันแน่น แทบจะได้ยินเสียงหัวใจของกันและกัน
ไป๋หลิวอี้โอบเอวของนาง แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้เฒ่าถงชอบเยว่เอ๋อร์มาก ฮูหยินถงก็เห็นเยว่เอ๋อร์แล้วพอใจเช่นกัน ดูเหมือนพวกเขาจะต้องการจัดงานแต่งงานเหมือนกับเรา”
เนี่ยนเนี่ยนชะงักไป รู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สงบลงในไม่ช้า
ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นางเองก็เห็นว่าถงเทียนอวี้ชื่นชอบนิสัยของเยว่เอ๋อร์มาก เขาคงมีความคิดจะให้นางเป็นลูกสะใภ้ของเขาแล้ว
เยว่เอ๋อร์เป็นคนจิตใจดีและมีมานะบากบั่น ส่วนถงเวยหลินก็มีความสามารถทั้งในด้านพลเรือนและการทหาร ทั้งสองจึงเหมาะสมกัน
ทว่าตระกูลถงเพิ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาได้ไม่นาน กว่าจะได้จัดงานแต่งงานคงต้องใช้เวลาอีกสักพัก
“ต่อจากนี้ไปเจ้าจะเป็นพี่สะใภ้ของเยว่เอ๋อร์ หลังจากที่แต่งงานกันแล้ว ข้าจะให้เจ้าเป็นคนจัดการเรื่องงานแต่งงานของเยว่เอ๋อร์ ตกลงหรือไม่?” เสียงนุ่มนวลของไป๋หลิวอี้ดังขึ้นเหนือหัวของนาง
เนี่ยนเนี่ยนแอบพ่นลมหายใจ พี่สะใภ้อะไรกัน? ยังไม่ทันได้แต่งงานเลย
“แต่ข้าคิดว่าหากทั้งสองพึงใจซึ่งกันและกันเองจะดีกว่า ค่อยคุยกันหลังจากที่เยว่เอ๋อร์และถงเวยหลินพบกันแล้วก็ได้”
“ใช่แล้ว ฮูหยินของข้าพูดถูก” เขาหัวเราะ
เนี่ยนเนี่ยนเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขา ชายคนนี้เมาแล้วพูดจาเหลวไหล
“เยว่เอ๋อร์ก็ชอบเจ้ามากเช่นกัน นางบอกว่าหากเจ้าเป็นพี่สะใภ้ของนาง นางก็ไม่ต้องกังวลอะไรอีก หากในอนาคตมีเจ้าอยู่ที่นี่ นางก็สามารถไปที่อื่นได้อย่างมั่นใจ ฟังจากที่นางพูด ดูเหมือนว่านางจะชื่นชมเจ้ามากขึ้น แต่กลับชื่นชมข้าในฐานะพี่ชายลดลง” ไป๋หลิวอี้เอามือลูบไล้มือของนางอย่างนุ่มนวล แล้วถอนหายใจด้วยความพึงพอใจ
“หลังจากที่เราแต่งงานกัน เราจะย้ายไปที่อยู่จวนเสนาบดีฝั่งขวา เจ้ามีหน้าที่จัดการทุกอย่างที่นั่น จะตื่นหรือเข้านอนเมื่อใดก็ได้ เจ้าสามารถปลูกสมุนไพรทำยาได้ตามใจชอบ ข้ารู้ว่ามีสวนสมุนไพรอยู่ในตำหนักอ๋องซิว เราจะสร้างสวนอีกแห่งขึ้นมาในจวนเสนาบดีฝั่งขวาในอนาคต มันจะต้องใหญ่กว่าที่ตำหนักอ๋องซิว ดีหรือไม่?”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้าเก็บเงินจากงบส่วนตัวของข้าได้ ข้าจะใช้ทั้งหมดเป็นสินสอดทองหมั้น ดีหรือไม่? ไม่เช่นนั้นข้าก็จะรอให้เราแต่งงานกัน แล้วค่อยมอบให้เจ้าดูแลทั้งหมดในอนาคต เพื่อความปลอดภัย ในอนาคตข้าจะให้เจ้าตัดสินใจเรื่องอาหารและเสื้อผ้าของลูก ๆ ของเรา เจ้าสามารถใช้เงินได้ตามใจชอบ ดีหรือไม่?”
เนี่ยนเนี่ยนแน่ใจว่าเขาต้องเมาแล้วเป็นแน่ แม้แต่เรื่องลูกก็พูดออกมาแล้ว พูดจาก็ติดขัด ทั้งยังถามติดต่อกันหลายรอบ และถามเรื่อง… ชวนอึดอัดไม่ใช่หรือ?
นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วเห็นว่าสายตาของเขาหวานหยาดเยิ้มยิ่งนัก จนแทบจะแผดเผานางให้อ่อนระทวย
เนี่ยนเนี่ยนรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง พ่นลมหายใจเบา ๆ แล้วตอบอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ข้าเองก็มีเงินส่วนตัวมากมายเช่นกัน”
“หืม…” ไป๋หลิวอี้หัวเราะเบา ๆ “อืม ข้ารู้ เนี่ยนเนี่ยนของข้าน่าทึ่งยิ่งนัก ในโลกนี้มีเนี่ยนเนี่ยนเพียงหนึ่งไม่มีสอง”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็เอาคางมาถูไถศีรษะของนางแผ่วเบา
เนี่ยนเนี่ยนรู้สึกว่าวันนี้ไป๋หลิวอี้ค่อนข้างผิดปกติไป แต่ตัวนางเองก็กำลังรู้สึกหดหู่ใจอยู่ นางจึงไม่พูดอะไรมาก เพียงแค่พลิกตัวไปกอดเขาแน่น แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านแม่บอกว่า นางอยู่ในอาณาจักรเทียนอวี่ได้สูงสุดเพียงสิบวัน หลังจากสิบวัน พวกเขาจะต้องออกเดินทางกลับไปยังอาณาจักรเฟิงชาง และข้าต้องกลับไปกับพวกเขาด้วย จากนั้นข้าจะรอเจ้าอยู่ที่อาณาจักรเฟิงชาง…”
ทันทีที่นางพูดจบ ไป๋หลิวอี้ก็กอดนางแน่น
วินาทีต่อมา ริมฝีปากอันบอบบางของนางก็ถูกริมฝีปากของเขาประกบไว้แน่นอีกครั้ง เขาค่อนข้างหายใจแรง ร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ปลายลิ้นอุ่นสอดเข้าไปในปากของนาง แล้วตวัดม้วนคลอเคลียปลายลิ้นของกันและกัน
ดวงตาของเนี่ยนเนี่ยนเบิกกว้าง ยกกรามขึ้นเล็กน้อย แต่จุมพิตของเขายิ่งดูดดื่มยิ่งขึ้น แทบทนไม่ไหวที่จะได้โลมไล้ร่างกายนาง
ร่างกายของทั้งสองเริ่มร้อนขึ้น และค่อย ๆ สูญเสียการควบคุม
ไป๋หลิวอี้หายใจแรงผิดปกติ มือขวาของเขาเริ่มเลื่อนลงมาอย่างต่อเนื่อง ลูบไล้เอวของนาง ก่อนใช้มือกระตุกอย่างแรง ชุดของนางหลุดออกทันที
เนี่ยนเนี่ยนอยากจะหยุด แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด มือของนางถึงได้อ่อนแรง ลำคอเหมือนถูกบางอย่างปิดกั้น ทำให้ไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้
ขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ นางก็เผลอโค้งเอวรับโดยไม่ตั้งใจ
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใจเย็นๆ กันก่อนหนุ่มสาวคู่นี้ ยังไม่ได้ทำพิธีแต่งงานเลย จะชิงเข้าห้องหอกันก่อนแล้วเหรอ
ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของเรื่องนี้แล้วนะคะ จะลงเอยยังไงหนอ
ไหหม่า(海馬)