อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 282 ตอนอวสาน
ตอนพิเศษ 282 ตอนอวสาน
ตอนพิเศษ 282 ตอนอวสาน
ทว่าในตอนที่เนี่ยนเนี่ยนคิดว่าทั้งสองคนสูญเสียการควบคุมตัวเองไปแล้ว ทันใดนั้นไป๋หลิวอี้ก็หอบหายใจหนัก แล้วชักมือออกทันที
ก่อนพลิกตัวผละจากร่างของนางแล้วนอนหงายบนเตียง หอบหายใจแรง
เนี่ยนเนี่ยนเบิกตากว้าง จากนั้นลุกขึ้นนั่งบนเตียงทันที ทั้งสองต่างฟื้นคืนสติด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เนี่ยนเนี่ยนยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแรง ๆ พลางลอบพ่นลมหายใจ เกือบแล้ว เกือบจะสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว
นางรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยและก้มศีรษะลง การหายใจยังไม่คงที่
ความอบอุ่นแผ่ซ่านมาจากข้างหลังนาง ไป๋หลิวอี้กอดร่างเล็ก ๆ ของนางไว้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะรอจนถึงคืนวันแต่งงานในห้องหอของเรา…ถึงตอนนั้นค่อยสูญเสียการควบคุมได้”
“… อืม” เนี่ยนเนี่ยนก้มหน้าลง แล้วตอบด้วยเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “เช่น เช่นนั้นข้าจะกลับไปที่หอหลินเยว่ก่อน”
“… ก็ได้” ไป๋หลิวอี้ก็รู้สึกว่านางควรกลับไป ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะคุมตัวเองไม่อยู่
ทว่าเมื่อเนี่ยนเนี่ยนลุกขึ้นเตรียมจะออกไป ทันใดนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปโอบรอบเอวนางไว้อีกครั้ง แล้วโอบกระหวัดกายของหญิงสาวกลับไปบนเตียง จากนั้นดึงผ้ามาห่มให้นาง หลับตาลงแล้วพูดเบา ๆ ว่า “นอนกันเถิด”
มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกระตุก แต่ก็ไม่กล้าขยับ นางหลับตาขณะอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ไป๋หลิวอี้ดุตัวเองในใจ แต่เขากลับสงบสุขตลอดทั้งคืน และไม่ได้ตอแยนางอีก
ในอีกสิบวันข้างหน้า เนี่ยนเนี่ยนก็ยุ่งมาก เพราะต้องออกไปข้างนอกทุกวันและยุ่งวุ่นวายไปทั่ว
อวี้ชิงลั่วรู้จักผู้คนมากมายในอาณาจักรเทียนอวี่ และมีสหายมากมาย แม้ว่านางจะไม่รู้จักพวกเขา แต่นางก็ได้รู้จักพวกเขาดีหลังจากผ่านไปสองสามวัน
ซึ่งจุดประสงค์หลังของการพาเนี่ยนเนี่ยนไปทำความคุ้นเคย ก็เพื่อให้ทุกคนเข้าใจสถานะของเนี่ยนเนี่ยน
วันแรกไปที่จวนลู่
ผู้เฒ่าสกุลลู่ได้ยินเรื่องเนี่ยนเนี่ยนมานานแล้ว เขารู้ว่านางมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ และเขาก็รักและเอ็นดูนางมาก พลางรู้สึกเสียใจที่ไป๋หลิวอี้ได้เป็นผู้ครองหัวใจนาง ไม่เช่นนั้นเขาจะให้เนี่ยนเนี่ยนมาเป็นหลานสะใภ้ของเขา
ลู่อวี่ที่อยู่ด้านข้างได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย เขาฝืนยิ้มเพื่อพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึกในใจของตน จะต้องไม่มีผู้ใดล่วงรู้
ทว่าเย่ฉิงหนานที่นั่งอยู่ไม่ไกลมองสีหน้าของเขาออกชัดเจน สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด
วันต่อมาไปที่จวนหวง
ตระกูลหวงมีเถี่ยชิวเอ๋อร์ที่อวี้ชิงลั่วเป็นคนช่วยชีวิตนางไว้ นางเป็นชาวเหมิงผู้ประจำอยู่ที่นี่ สำหรับหญิงชาวเหมิงที่มีปานรูปดอกไม้อย่างเนี่ยนเนี่ยน นางย่อมรักและเทิดทูนยิ่งนัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านางจะคอยปกป้องดูแลเนี่ยนเนี่ยน
นอกจากนี้ผู้นำตระกูลหวงยังรู้จักกับอวี้ชิงลั่วด้วย จึงรู้ซึ้งถึงนิสัยใจคอของนาง แล้วผู้ใดจะกล้ารังแกลูกสาวสุดที่รักของนาง?
ไม่ต้องพูดถึงว่าเนี่ยนเนี่ยนเองก็มีทักษะที่ทรงพลังยิ่ง ต่อให้นางจะไม่มี แต่ก็ยังมีไป๋หลิวอี้ผู้ยากแท้หยั่งถึงอยู่ไม่ใช่หรือ?
วันที่สามไปจวนถง
จวนถงกำลังถูกสร้างขึ้นใหม่ ส่วนถงเวยหลินยังคงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แต่ฮูหยินถงยังคงให้การต้อนรับอวี้ชิงลั่วอย่างอบอุ่น
นางกระตือรือร้นมากเมื่อได้พบเนี่ยนเนี่ยน
เนี่ยนเนี่ยนเป็นผู้มีพระคุณของทุกคนในตระกูลถง
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือฮ่วนเหนียงผู้ตื่นกลัวหลังจากประสบการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กลับเต็มใจที่จะเข้าใกล้อวี้ชิงลั่ว หลังจากเล่นกันอยู่นาน เด็กน้อยก็ลังเลเล็กน้อยที่จะปล่อยให้นางจากไป
วันที่สี่ไปจวนอู่หยวนโหว
จากนั้นก็ตำหนักองค์หญิงใหญ่ ตำหนักจิ้นอ๋อง ตำหนักตงหวัง จวนเสนาบดีฝั่งซ้าย จวนอวี้กั๋วกง…
เนื่องจากอวี้ชิงลั่วไม่อาจอยู่ต่อได้เกินสิบวัน ดังนั้นภายในสิบวันนี้ เหล่าสตรีและราชวงศ์ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้สถานะของเนี่ยนเนี่ยนแล้ว
ทุกคนเป็นคนฉลาด ย่อมรู้ว่าควรปฏิบัติตนเช่นไร
อวี้ชิงลั่วพึงพอใจมาก หลังออกจากเรือนหลังสุดท้าย นางก็ตบไหล่เนี่ยนเนี่ยน แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เห็นสิ่งที่แม่ทำเพื่อเจ้าหรือไม่? นี่แหละคือความรักของคนเป็นแม่ ในอนาคตเมื่อเจ้าได้เป็นแม่คนก็จะเข้าใจเอง”
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะเหอเหอ แล้วเหลือบมองนาง “ท่านแม่ ท่านพ่อสอนให้ข้าเป็นคนพูดน้อย ท่านกำลังสอนให้ทำตรงข้ามอยู่นะเจ้าคะ”
“เนี่ยนเนี่ยน เจ้าต้องรู้ว่าเมื่อคำสั่งสอนมีความแตกต่างกัน คำสอนของแม่เท่านั้นย่อมถูกต้องเสมอ” อวี้ชิงลั่วยังคงพูดอย่างจริงจัง นางรู้สึกว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนเลวร้าย นางไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่ลืมนาง
อืม ความรู้สึกเมื่อนางมาปรากฏตัวยังคงมีอิทธิพลมาก
เนี่ยนเนี่ยนหัวเราะแห้งอีกครั้ง นางไม่เชื่อว่าจุดประสงค์ของแม่จะจำกัดอยู่เพียงเท่านี้
ในวันที่สิบเอ็ด อวี้ชิงลั่วอำลาฮูหยินเฒ่าไป๋ เมื่อเห็นสายตาเศร้าสร้อยของนาง ก็เข้าไปนั่งในรถม้าด้วยรอยยิ้มเจื่อน
เนี่ยนเนี่ยนเม้มปากยืนอยู่ข้างไป๋หลิวอี้สักพัก ในที่สุดก็กัดริมฝีปาก แล้วพูดเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้าต้องรีบมานะ”
“แน่นอน”
เนี่ยนเนี่ยนกัดฟัน แล้วหันหลังเดินเข้าไปในรถม้า
ขบวนรถม้าแล่นออกไปช้า ๆ ทุกคนที่มุ่งหน้ามาส่งที่ประตูเมือง พากันเดินกลับบ้านอย่างเศร้าสร้อย
มีเพียงไป๋หลิวอี้เท่านั้นที่ยืนอยู่ท่ามกลางลมหนาวอันขมขื่น เขาเม้มปากแน่น สายตาจับจ้องไปยังรถม้าคันหลังสุด
เนี่ยนเนี่ยนและหลีเฟิงเอ๋อร์นั่งในรถม้าคันเดียวกัน ขณะนี้พวกนางเปิดม่านรถม้า แล้วมองไปด้านหลัง เมื่อเห็นไป๋หลิวอี้ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นจุดเล็ก ๆ จากระยะไกล พวกนางก็ปิดม่านลงด้วยความหดหู่ใจ
เดิมทีหลีเฟิงเอ๋อร์ตั้งใจจะคุยกับนาง ปกตินางเป็นคนร่าเริงมีชีวิตชีวา หลายวันที่ผ่านมา เป่ยเป่ยพานางไปเที่ยวรอบอาณาจักรเทียนอวี่ ตอนนี้นางยังคงตื่นเต้นไม่หาย และต้องการเล่าประสบการณ์ให้เนี่ยนเนี่ยนฟัง
แต่ทันทีที่เห็นสีหน้าหดหู่ของเนี่ยนเนี่ยน นางก็นั่งลงอย่างชาญฉลาด แล้วเล่นของเล่นที่เป่ยเป่ยซื้อให้นาง
หลังจากที่รถม้าเดินทางไปได้ไกล ในที่สุดหลีเฟิงเอ๋อร์ก็หมดความอดทน นางเปิดม่านรถม้า แล้วบอกกับเป่ยเป่ยที่กำลังขี่ม้าอยู่ข้างนอกว่า “ข้าก็อยากขี่ด้วย”
เย่ฉิงเป่ยเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้ม จากนั้นมองไปยังเนี่ยนเนี่ยนที่กำลังเหม่อลอย ก่อนจะส่ายหน้า แล้วอุ้มหลีเฟิงเอ๋อร์ขึ้นบนหลังม้า
เนี่ยนเนี่ยนดูเหมือนจะไม่สังเกตด้วยซ้ำว่ามีคนในรถม้าหายไป นางหลับตาพิงหมอน ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน รถม้าทั้งคันก็สั่นสะเทือน นางขมวดคิ้วและลุกขึ้นนั่งทันที
เมื่อมองไปด้านข้างแล้วไม่เห็นหลีเฟิงเอ๋อร์ เนี่ยนเนี่ยนก็ผงะและเปิดม่าน
วินาทีต่อมา ทั้งร่างก็แข็งทื่อ
นาง… นางน่าจะเห็นภาพลวงตา
เนี่ยนเนี่ยนยกมือขึ้นขยี้ตา จากนั้นลืมตามองให้ชัดอีกที ใช่แล้ว คนผู้นี้… คนผู้นี้… ชายคนนี้…
“เจ้า เหตุใดเจ้าถึง…”
“ข้าบอกแล้วว่าเราจะได้พบกันเร็ว ๆ นี้ คิดถึงข้าหรือไม่?” ไป๋หลิวอี้นั่งอยู่บนหลังม้า เสียงกีบม้าดังเป็นจังหวะไพเราะคมชัด ขณะที่ห้อเหยียดไปข้างหน้าพร้อมกับรถม้าของเนี่ยนเนี่ยนที่กำลังเคลื่อนที่
เย่ฉิงหนาน เย่ฉิงเป่ย เย่ซิวตู๋และคนอื่น ๆ ที่เดินทางนำหน้ามีประสาทหูดีมาก เมื่อได้ยินคำพูดนั้นก็รู้สึกขนลุก
ช่างน้ำเน่าเสียจริง
นัยน์ตาของเนี่ยนเนี่ยนเป็นประกายขึ้นทันใด ไป๋หลิวอี้เผยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะกระโจนเข้าไปในรถม้าของนาง คว้าเอวของนางมากอดไว้แน่น
รอยยิ้มที่มุมปากของเนี่ยนเนี่ยนกว้างขึ้นกว่าเดิม “เจ้า… เจ้าไม่ได้บอกว่าต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนจะไปอาณาจักรเฟิงชางหรอกหรือ?”
ดวงตาของไป๋หลิวอี้เป็นประกาย เขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฮ่องเต้รับสั่งให้ข้าไปที่อาณาจักรเฟิงชางเลย ไม่มีการรอช้า ไม่อาจรอแม้เพียงสักครู่ได้”
ความจริงแล้วเขากระวนกระวายใจที่สุด เมื่อได้ทราบบทเรียนที่เกิดจากพ่อแม่ของเขา ทำให้เขากังวลมาก
เนี่ยนเนี่ยนเป็นคนมีเสน่ห์น่าดึงดูดมากกว่าแม่ของเขาเสียอีก จึงมีคนมากมายอยากครอบครองนาง หากเขาไม่ใส่ใจอย่างใกล้ชิด เขาจะมั่นใจได้อย่างไร?
เนี่ยนเนี่ยนไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ นางคิดเพียงว่าต่อให้สายลมข้างนอกจะหนาวเหน็บเพียงใด หัวใจนางตอนนี้กลับอบอุ่นไปทั้งดวง…
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้เขียน
มาถึงตอนอวสานจนได้ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและความรักที่มีให้กันตลอดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เซินเซินเขียนนิยายยาวขนาดนี้ ถือว่าเป็นความสำเร็จทีเดียว ฮ่าๆๆ การสนับสนุนของพวกคุณทุกคนคือแรงผลักดันของเซินเซิน ขอขอบคุณทุกคนที่ส่งข้อความและติดตามเซินเซิน รักพวกคุณทุกคน ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่ล่วงหน้า!! รักนะจุ๊บๆ!!
森森 著 (เซินเซินจู้)
…………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ในที่สุดเรื่อง อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว ก็ได้ถึงตอนอวสานอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ ขอบคุณอาจารย์เซินเซินจู้ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่รู้สึกว่าแปลสนุก มีจุดหักมุมอย่างคาดไม่ถึงหลายจุด และตัวละครก็มีมุมน่ารักมุมฮาในตัวเอง และขอบคุณผู้อ่านทุกคนที่ติดตามกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่เปิดเรื่อง ซึ่งนับว่าเป็นเวลานานทีเดียว ใครที่ยังคงตามเรื่องนี้อยู่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ขอบคุณมากนะคะที่อยู่ด้วยกันมาหนึ่งปี ส่วนใครที่ตามไม่ครบหรือหายไปกลางทางก็ไม่เป็นไรค่ะ นิยายเรื่องนี้ยังคงรอให้คุณกลับมาอ่านได้เรื่อยๆ หากนิยายเรื่องนี้เราแปลแล้วมีจุดบกพร่องตรงไหนก็ต้องขออภัย และจะน้อมรับคำแนะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นนะคะ
หลังจบเรื่องนี้ไปแล้ว ผู้อ่านมีเรื่องแนวไหนในใจที่อยากให้ผู้แปลนำมาแปลก็เสนอแนะมาได้เลยนะคะ เรายินดีรับทุกแนวค่ะ จะมีเลิฟไลน์ชายหญิง ชายชาย หรือหญิงหญิงหรือไม่ก็แปลได้หมด ขอเพียงไม่มีประเด็นอ่อนไหวต่อใจผู้แปลอย่างการข่มขืนทำร้ายร่างกายจิตใจสารพัดอย่างแล้วฝ่ายกระทำกลายเป็นโบ้ตามมาง้อจากนั้นก็กลับมาคืนดีรักกัน ความรักต่างวัยที่ฝ่ายหนึ่งเป็นเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และความสัมพันธ์เชิงชู้สาวในคนสายเลือดเดียวกัน ซึ่ง 3 อย่างนี้ผู้แปลขออนุญาตไม่แปลนะคะ
ท้ายที่สุดนี้ ขอให้ผู้อ่านมีความสุขกับผลงานของผู้แปลนะคะ หากผู้อ่านมีความสุข ผู้แปลก็มีความสุขเช่นกันค่ะ แล้วเจอกันในเรื่องใหม่นะคะ ตอนนี้ยังไม่มีประกาศว่าเรื่องใหม่คือเรื่องอะไร ต้องรอติดตามกันค่ะ
ไหหม่า(海馬)