อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 35 แล้วก็…ขอโทษด้วยนะ
ตอนพิเศษ 35 แล้วก็…ขอโทษด้วยนะ
ตอนพิเศษ 35 แล้วก็…ขอโทษด้วยนะ
แม่นมหูทั้งกังวลและกระวนกระวาย แต่พวกนางก็บังเอิญได้พบกับอวี้ชิงลั่วและหนานหนานที่กำลังเดินทางกลับจากจวนเสนาบดีฝั่งขวาไปยังตำหนักอ๋องซิว
เย่ฉิงหนานรู้เรื่องนี้ เพราะในตอนนั้นเขาเป็นคนเฝ้าอยู่ข้างนอก และในที่สุดก็มอบจี้ชิ้นเล็ก ๆ ให้กับทารกแรกเกิดคนนั้น
และเขาจำหลานสุ่ยชิงได้เพราะจี้ชิ้นนี้
“แม่ของข้าบอกว่าถ้าไม่ใช่เพราะหญิงคนนั้น ก็เกรงว่าเราสองคนคงจะไม่รอดแล้ว เพียงแต่ข้าไม่รู้ว่าหญิงคนนั้นเป็นใครอยู่ที่ไหน จึงไม่มีโอกาสได้ตอบแทนนาง”
เย่ฉิงหนานเลิกคิ้วขึ้น ใครบอกว่าไม่มีโอกาสตอบแทนนาง? อีกไม่นานก็ยกชีวิตให้เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
“แล้วต่อมาเกิดอะไรขึ้น?”
“ต่อมา…” หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ต่อมาเมื่อเสี่ยวจิ้งกลับไป หญิงคนนั้นก็เตือนแม่ของข้าว่าเสี่ยวจิ้งอาจไม่ใช่คนดี แม่ของข้าจึงตัดสินใจจะจัดการนางอย่างรอบคอบ แต่… แต่แม่ของข้าเพิ่งคลอดลูกจึงอ่อนแอ และแม่นมหูต้องดูแลแม่ของข้า นางจึงไม่เหลือกำลังใด ๆ ในการเฝ้าจับตาดูเสี่ยวจิ้งได้”
“ใครจะไปรู้ว่าเมื่อกลับถึงจวนแล้ว เสี่ยวจิ้งก็วิ่งไปหาไท่ฮูหยินและพ่อของข้า แล้วบอกว่าแม่ของข้ามีปัญหากับการคลอดลูกระหว่างทาง ทำให้เด็กเสียชีวิตทันทีหลังคลอด แต่แม่ของข้าต้องการให้ลูกเป็นคนตระกูลหลาน นางจึงซื้อเด็กมาจากข้างนอก เพื่อพาเด็กกลับมา ตอนนั้นเสี่ยวจิ้งพูดอย่างชัดเจน และยังจัดทำสัญญาซื้อขายที่มีชื่อของแม่ข้าอยู่บนนั้นด้วย”
“พ่อของข้าและไท่ฮูหยินรีบวิ่งไปที่เรือนแม่ข้าทันที และพยายามทำให้ข้าจมน้ำตาย ตอนนั้นแม่ของข้าตกใจกลัวจนสติแตก และบอกว่าเด็กคนนี้เป็นเลือดเนื้อของตระกูลหลานจริง ถ้าพ่อฆ่าข้า ก็จะต้องเสียใจในอนาคต”
เย่ฉิงหนานขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงถึงเพียงนี้ นางเกือบถูกรองเจ้ากรมหลานฆ่าตาย
คนแก่โง่เขลาผู้นั้นไม่รู้จักถูกผิด หลงเชื่อคำยุยงของสาวใช้คนหนึ่ง จนไม่เชื่อภรรยาตัวเอง
“พ่อของเจ้าจึงสงสัย อย่างหนึ่งคือสงสัยว่าเจ้าถูกซื้อตัวมา และอีกอย่างหนึ่งคือกังวลว่า เจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเองหรือเปล่างั้นหรือ?”
หลานสุ่ยชิงส่ายหน้าและถอนหายใจ
ในเวลานั้นมีสองพี่น้องจินซื่ออยู่ข้าง ๆ ด้วย พวกนางจึงแสร้งทำเป็นช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้ แต่แท้จริงแล้วพวกนางกำลังใส่ไฟ
พวกนางเลือกพูดถึงสาเหตุที่อู๋ซื่อทำเช่นนี้ โดยบอกว่านางเกรงว่าเขาจะรู้ ว่าเด็กในครรภ์ของนางไม่ได้คลอดออกมาอย่างปลอดภัย นางจึงเตรียมตัวอยู่ข้างนอก
จากนั้นก็บอกว่ามีพยานและหลักฐานครบถ้วน ที่เสี่ยวจิ้งมาฟ้อง ก็เพราะกลัวว่าจวนหลานจะระบุตัวคุณหนูที่เกิดจากฮูหยินผิด
จากนั้นนางยังบอกด้วยว่า สถานะของหลานฮูหยินกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าเด็กตายจากการคลอดข้างนอก นางก็คงจะกลัวว่าตนจะไม่มีสถานะอะไรในจวนหลาน
หลังจากคำพูดทั้งหมดออกมาแล้ว รองเจ้ากรมหลานก็คล้อยตามคำพูดของเสี่ยวจิ้งมากกว่าเดิม อีกทั้งอู๋ซื่อยังไม่สามารถบอกได้ว่าใครคือหมอตำแยที่ทำคลอดนาง และยังไม่สามารถบอกได้ว่าอวี้ชิงลั่วเป็นฮูหยินที่มาจากจวนใด ดังนั้นนางจึงไม่อาจพูดโต้แย้งได้ และถูกตราหน้าว่าเป็นคนผิด
เมื่อเห็นว่าเป็นหลานสาว ไท่ฮูหยินก็ไม่พอใจมากอยู่แล้ว และเมื่อเชื่อว่านี่ไม่ใช่เลือดเนื้อของตระกูลหลาน เมื่อนางเห็นอู๋ซื่อก็ยิ่งรังเกียจมาก
ตอนนั้นอู๋ซื่อรู้สึกสิ้นหวังยิ่งหนัก หลังจากมอบลูกสาวให้แม่นมหูอุ้มไว้แล้ว นางก็จ้องมองรองเจ้ากรมหลานด้วยสายตาแน่วแน่
จากนั้น ขณะที่ทุกคนตั้งตัวไม่ทัน นางก็วิ่งเข้าชนกำแพง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยความตาย และพิสูจน์ว่าหลานสุ่ยชิงคือเลือดเนื้อของตระกูลหลาน
ในเวลานั้นทุกคนต่างหวาดกลัว สุดท้ายรองเจ้ากรมหลานก็ยังคงรักอู๋ซื่ออยู่บ้าง เมื่อเห็นว่าหน้าตาของหลานสุ่ยชิงมีส่วนคล้ายกับเขามาก ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะยอมรับนาง
โชคดีที่ร่างกายของอู๋ซื่ออ่อนแอ นางจึงไม่มีแรงมากนักขณะวิ่งชนกำแพง ถึงได้รอดชีวิตมาได้
แต่หลังจากเกิดความวุ่นวายดังกล่าว ร่างกายของนางก็ทรุดโทรมลงมาก นางเริ่มป่วยตั้งแต่ตอนถูกกักบริเวณแล้ว และความเจ็บป่วยนี้ก็กินเวลานานหลายปี
แต่แม้ว่าภายนอก จวนหลานจะดูเหมือนยอมรับหลานสุ่ยชิงได้ แต่ในส่วนลึกในใจแล้วก็ยังไม่ยอมรับ และมีแนวโน้มที่จะเชื่อคำพูดของเสี่ยวจิ้งมากกว่าเดิม
แม้ตอนนี้นางจะได้รับสถานะลูกสาวคนโตของตระกูลหลานแล้ว แต่ก็ยังถูกเลี้ยงดูมาเหมือนเป็นคนนอก
อีกทั้งหลังจากที่พี่น้องจินซื่อให้กำเนิดพี่น้องหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียน นางก็ยิ่งไม่เป็นที่โปรดปรานมากขึ้น ไท่ฮูหยินปฏิเสธชัดเจนว่านางไม่ใช่ลูกสาวของตระกูลหลาน และรองเจ้ากรมหลานก็ไม่เคยกอดนางเลยสักครั้ง ไม่แม้แต่จะมองนางเต็ม ๆ ตาเลยสักครั้ง
แม้แต่ทุกครั้งที่นางทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อย นางก็จะตกเป็นเป้าของการด่าทอต่อหน้าสาธารณชน
ในอดีตนางยังเด็กและไม่ค่อยเข้าใจนัก ต่อมาเมื่อนางเริ่มโตขึ้น แม่นมหูก็เล่าเรื่องเหล่านี้ให้นางฟัง นางถึงตระหนักได้ว่าสถานะของนางในจวนหลานนั้นน่าอับอายเพียงใด
นางจึงพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ พยายามทำให้สถานะของแม่ของนางดีขึ้น
แต่มันก็เปล่าประโยชน์ ไท่ฮูหยินมองนางราวกับว่ากำลังมองก้อนเนื้อร้าย แม้แต่การกระทำของนางในตอนแรก ไท่ฮูหยินก็มองว่านางเป็นคนนอกที่มีความทะเยอทะยาน ต้องการครอบครองทรัพย์สินของตระกูลหลาน ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวมีเรื่องคับข้องใจเล็กน้อย หรือมีอุบัติเหตุหรือเรื่องไม่น่าพอใจในจวน ไท่ฮูหยินจะคิดว่าเกิดจากการแอบวางแผนของนาง ซึ่งทำให้นางและแม่ของนางเดือดร้อนมาก
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางทำได้เพียงใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ปกป้องแม่ที่อ่อนแอและป่วยหนักอย่างระมัดระวัง และปกป้องคนรับใช้ในจวนนี้ที่คอยดูแลนางจริง ๆ
ไท่ฮูหยินห้ามไม่ให้นางพูดอะไรต่อหน้า ห้ามปรากฏตัว ห้ามไปงานเลี้ยงและห้ามออกนอกบ้าน
ที่ที่นางสามารถเคลื่อนไหวได้มีเพียงโลกใบเล็กใบนี้มาโดยตลอด
จนกระทั่ง… หนึ่งปีที่แล้ว สุ่ยเฝิ่นไปทำให้ไท่ฮูหยินขุ่นเคืองด้วยเหตุผลบางอย่าง และกลายเป็นคนที่ไท่ฮูหยินต้องการกำจัด นางจึงทำทุกวิถีทางเพื่อแอบช่วยนาง แล้วนางก็เข้าใจดีว่านางไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้
นางเริ่มพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรับใช้ในบ้าน โดยไม่ทำให้ไท่ฮูหยิน รองเจ้ากรมหลาน พี่น้องจินซื่อ หลานสุ่ยหยวน หลานสุ่ยเถียนและคนอื่น ๆ รู้ตัว และเริ่มแอบออกจากบ้านทางประตูหลังเพื่อมองหาโอกาส
นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดนางจึงได้พบกับเย่ฉิงหนาน ที่ร้านขนมของนางหลายครั้ง
“แล้วเสี่ยวจิ้งเล่า?”
“ไม่รู้สิ หลังจากวันนั้นนางก็หายตัวไป บางทีนางอาจถูกจินซื่อแอบฆ่าไปแล้ว หรือบางที… อาจถูกจินซื่อซ่อนไว้”
เย่ฉิงหนานเม้มปากแน่น ถ้าหญิงคนนั้นอยู่ตรงหน้าเขา เขาจะสับนางเป็นชิ้น ๆ แน่นอน
“ความจริงข้ายังหวังว่าจะได้พบหญิงที่ทำคลอดให้แม่ของข้าในตอนนั้น” หลานสุ่ยชิงถอนหายใจเบา ๆ เรื่องเหล่านี้ติดอยู่ในใจนางมาหลายปีแล้ว
ตอนนี้มีใครบางคนมาคอยรับฟังอยู่ตรงหน้านาง และหลังจากที่นางเล่าทุกอย่างจนจบแล้ว จู่ ๆ นางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
“เจ้า…พบแล้ว” เสียงของเย่ฉิงหนานแหบแห้ง ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขณะจ้องมองหลานสุ่ยชิง น้ำตาคลอเล็กน้อย
หลานสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าเขากำลังหายใจแรงก็เข้าไปใกล้เขา
นางผงะไปครู่หนึ่งเมื่อถูกเขาสวมกอดไว้แน่น
ทั้งร่างของหลานสุ่ยชิงแข็งทื่อไปหมด หลังจากนั้นไม่นาน นางก็รีบผลักเขาออกไป “เจ้า เจ้า เจ้าปล่อยข้านะ จะทำอะไร?”
“ในอนาคตมันจะไม่เกิดขึ้น อยู่กับข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าเจอเรื่องเช่นนี้อีก” เสียงของเขายังคงทุ้มและแหบแห้ง หลานสุ่ยชิงฟังแล้วก็รู้สึกเศร้าอย่างอธิบายไม่ได้
นางยังคงนิ่งงันไป แต่เสียงที่อยู่เหนือหัวของนางดังขึ้นอีกครั้ง “ต่อไปอย่ายอมนะ คราวหน้าใครรังแกเจ้า เจ้าต้องสู้กลับ ข้าจะดูแลเจ้าเอง เข้าใจหรือไม่?”
“หืม?”
“แล้วก็…ขอโทษด้วยนะ” หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ปล่อยนางอย่างนุ่มนวล
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ยัยเสี่ยวจิ้งร้ายกาจมาก อย่าให้ได้เจอหนานหนานนะ แกโดนสับเป็นพันชิ้นแล้วโยนให้ปลากินแน่
เป็นสุ่ยชิงต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกันนะที่พยายามประคองเอาชีวิตตัวเองกับแม่ให้รอดในจวนที่มีแต่หมาป่าแบบนี้
ไหหม่า(海馬)