อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 36 ช่วยข้าหน่อย
ตอนพิเศษ 36 ช่วยข้าหน่อย
ตอนพิเศษ 36 ช่วยข้าหน่อย
หลานสุ่ยชิงรู้สึกงง เหตุใดเขาถึงขอโทษ?
แต่ก่อนที่นางจะทันได้ถาม เขาก็ปล่อยนางไป แล้วหันหลังกระโจนออกไปนอกหน้าต่าง
เมื่อปราศจากความอบอุ่นจากเขา หลานสุ่ยชิงก็รู้สึก… เหน็บหนาวเล็กน้อย
นางขมวดคิ้ว รู้สึกราวกับว่า… นางต้องการพึ่งพาเขา
หลานสุ่ยชิงส่ายหน้าอย่างแรง สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง
บัดนี้อารมณ์ของหนานหนานกำลังพลุ่งพล่าน ประหนึ่งว่าเลือดในกายเขากำลังจะเดือด เขารู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อระงับความโกรธและความสับสนที่ปะทุขึ้นในใจอย่างบ้าคลั่ง
ขอโทษที่ตอนนั้นไม่ได้บอกเจ้าว่าพวกเราเป็นใคร
ขอโทษที่พบเจ้าช้าเกินไป
ขอโทษที่เสี่ยวจิ้งควรจะถูกฆ่าตั้งแต่แรก
ท่ามกลางแสงจันทร์ เย่ฉิงหนานกำมือแน่น ในฝ่ามือของเขามีจี้เล็ก ๆ ที่เขาเพิ่งนำมาจากห้องของหลานสุ่ยชิง จี้เล็ก ๆ ที่เขามอบให้นางในตอนนั้น
เขามุ่งหน้าไปยังตำหนักอ๋องซิว แต่เมื่อไปได้ครึ่งทาง เขาก็เปลี่ยนทิศทางไปที่ตำหนักองค์ชายสาม
องครักษ์ในตำหนักองค์ชายสามไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาเลย ใช้เวลาเพียงครู่เดียว เขาก็มายืนอยู่หน้าประตูตำหนักของเย่หลานเวยแล้ว
เมื่อองครักษ์ที่เฝ้าตำหนักของเย่หลานเวยเห็นว่าเป็นเขา ก็คลายความกังวลลงทันที ไม่ได้เอ่ยคำใดขณะมองดูเขาเข้าไปในตำหนัก
เย่ฉิงหนานบุกเข้าไปในห้องของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วดึงเขาขึ้นจากเตียง
เย่หลานเวยอารมณ์ไม่ดี และต่อยเขาด้วยความงุนงง
เย่ฉิงหนานจับกำปั้นเขาไว้ได้ด้วยมือเดียว เมื่อออกแรงเพียงเล็กน้อย เย่หลานเวยก็สะดุ้งอย่างแรงและตาสว่างขึ้นทันที
เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง เขาก็โอดครวญทันที แล้วตะโกนถามว่า “นี่มันกลางดึกแล้ว เจ้ามาทำอะไร?”
“ลุกไปฝึกกับข้า”
เย่หลานเวยตกใจมาก เขาค่อย ๆ ขยับตัวบนเตียง ขณะมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจระคนหวั่นใจ มุมปากของเขากระตุกสองครั้ง “อย่ามาล้อเล่น ด้วยฝีมือของเจ้า เพียงแค่สามกระบวนท่าข้าก็คงไม่รอดจากมือเจ้าแล้ว เจ้าควรไปหาคนอื่นดีกว่า”
“อ่อนหัดนัก กล้าพูดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร?”
จู่ ๆ ใบหน้าของเย่หลานเวยก็มืดมนทันที ก่อนจะกระโดดลงจากเตียง แล้วชี้ไปที่จมูกของเย่ฉิงหนานและพูดว่า “เจ้ามันนิสัยเสียเกินไปแล้วรู้ตัวหรือไม่? บอกข้ามาสิว่าขนาดคนของเรา มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้บ้าง? เจ้ายังจะมีหน้ามาว่าคนอื่นอีกหรือ?”
เย่ฉิงหนานมองเขาด้วยสายตาเหยียดหยาม “หยุดพูดเหลวไหล รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว พวกเราออกไปฝึกกันเถิด”
เย่หลานเวยอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา สีหน้าของเขาหมองเศร้าและขุ่นเคือง
คนผู้นี้บ้าไปแล้วหรือ กลางคืนไม่หลับไม่นอน แล้วจู่ ๆ ก็เข้ามาที่ห้องของเขากลางดึก แล้วยังบังคับให้เขาไปเป็นคู่ซ้อมด้วยเนี่ยนะ? มีคนไร้เหตุผลเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ?
เฮ้อ เหตุใดเขาถึงไม่ไปหาเย่ฉิงเป่ย? นั่นก็เป็นคนนิสัยเสียเหมือนกัน หากทั้งสองต่อสู้กันก็น่าจะสนุกไม่ใช่หรือ? ที่เลวร้ายที่สุดคือเหวินเกอและคนอื่น ๆ ก็อยู่รอบตัวเขา แล้วเหตุใดเขาต้องเลือกมาหาคนที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน และจำเป็นต้องรีบเข้านอนตอนกลางคืนด้วย ยังมีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่หรือไม่?
เย่หลานเวยรู้สึกขุ่นเคืองใจมาก แต่เมื่อเขาท่าทางเย็นชาของเย่ฉิงหนาน เขาก็เม้มปากแน่น ราวกับว่าถูกกระตุ้นด้วยบางสิ่ง นัยน์ตาของเขาก็แข็งค้างไป
ช่างเถิด อย่างไรเสียเขาก็แก่กว่าเย่ฉิงหนานเล็กน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นพี่ชาย ดังนั้นก็แค่ไปเป็นคู่ซ้อมให้ใช่หรือไม่ สุภาพบุรุษเช่นเขาย่อมเสียสละได้
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เย่หลานเวยกก็ส่งสายตาอำมหิตให้เขา จากนั้นหาเสื้อผ้าใส่ แล้วบอกองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกว่า “ไม่จำเป็นต้องตามไป ข้ากับหนานซื่อจื่อจะออกไปข้างนอกสักพัก”
ทันทีที่เขาพูดจบ เย่ฉิงหนานก็รีบเดินนำออกไปแล้ว มุมปากของเย่หลานเวยกระตุก จากนั้นก็ออกจากตำหนักองค์ชายสาม
ทั้งสองมาถึงสนามฝึก เมื่อมองไปยังความมืดมิดรอบกาย เย่หลานเวยก็กลืนน้ำลาย แล้วชิงพูดว่า “ข้าบอกไว้ก่อนเลยว่าออมมือหน่อย ไม่เช่นนั้น… โอ๊ย…”
เขายังไม่ทันพูดจบ เย่ฉิงหนานก็โจมตีเขาแล้ว
เย่หลานเวยเบิกตากว้าง เขารีบก้าวถอยหลังหลบได้อย่างหวุดหวิด
คืนนี้ชายคนนี้ต้องถูกยั่วยุ ต้องยั่วยุให้หนัก
เขาไม่กล้าประมาทรีบยกมือขึ้นรับทันที อย่างไรเสียก็นับว่าเป็นการเรียนวรยุทธ์จากท่านอาห้า และท่านอ๋องซิวได้สอนเขาด้วยตัวเอง แม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะไม่ดีเท่าหนานหนาน แต่ฝีมือเขาก็นับว่าไม่แย่… แย่… แย่…
เย่หลานเวยนอนอยู่บนพื้น ความคิดในใจของเขายังไม่ทันสงบ แต่เย่ฉิงหนานก็ทำให้เขาล้มลงได้แล้ว
เขาหงุดหงิดและขุ่นเคืองมาก เมื่อก่อนอีกฝ่ายต้องใช้เล่ห์กลมากมายกว่าจะล้มเขาได้ แต่วันนี้…
“เย่ฉิงหนาน ข้าจะไม่ออมมือให้เจ้าอีกแล้ว” เขากระโดดขึ้นจากพื้นด้วยความโกรธ
ทั้งสองต่อสู้กันในสนามฝึกขนาดใหญ่จนเหงื่อโซมกาย ค่ำคืนนี้เงียบสงัดเป็นพิเศษ เสียงต่อสู้จึงดังแว่วไปไกล ทำให้ผู้คนที่ได้ยินต่างรู้สึกขนลุก ไม่ถึงครึ่งชั่วยามต่อมา ทั้งคู่ก็นอนลงบนพื้น หอบหายใจอย่างหนัก ขณะลืมตามองท้องฟ้าเหนือศีรษะ
เย่หลานเวยไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่แล้ว จึงชำเลืองมองเขา “บอกมาสิว่าวันนี้เจ้าเป็นอะไรไป?”
“…ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่อารมณ์ไม่ดี”
เย่ฉิงหนานขมวดคิ้วราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แล้วจู่ ๆ ก็ผุดลุกขึ้นนั่งทันที และตรวจดูแผลที่แขนของเขา
แน่นอนว่าด้วยการขยับตัวรุนแรงเมื่อครู่นี้ บาดแผลจึงเปิดออกอีกครั้ง แม้ว่ายาของหลานสุ่ยชิงจะดี แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการฉีกขาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้
เขาถอนหายใจ ก่อนแกะผ้าพันแผลออก จากนั้นหยิบยาทาแผลออกมาจากแขนเสื้อ ค่อย ๆ ทาลงบนแผล แล้วพันผ้าพันแผลใหม่
เมื่อเห็นเขาทำเช่นนั้น เย่หลานเวยก็เผลอขมวดคิ้ว “เหตุใดเจ้าถึงบาดเจ็บ?”
“ข้าได้แผลตอนจัดการคนชั่ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก” เดิมทีบาดแผลเกือบจะหายดีแล้ว แต่มันไม่หายเพราะตัวเขาเอง
เย่หลานเวยเห็นว่าบาดแผลไม่ร้ายแรง เขาจึงไม่ถามอะไรอีก ดูจากท่าทางของเขาแล้ว แสดงว่าท่านอาห้าและอาหญิงห้าไม่รู้เรื่องบาดแผลแน่นอน ดีล่ะ เขาควรจะไปบอกดีหรือไม่? แต่เขาสงสัยมาก เมื่อเห็นพฤติกรรมผิดปกติของเขาในวันนี้
ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ไปที่ตำหนักอ๋องซิวเพื่อถามเย่ฉิงเป่ย เด็กคนนั้นต้องรู้แน่
จิตใจของเย่หลานเวยเต็มไปด้วยความคิดยุ่งเหยิง ก่อนที่เขาจะคิดหาวิธีเค้นคำพูดออกจากปากเย่ฉิงเป่ยได้ เขาก็ได้ยินเสียงทุ้มของเย่ฉิงหนานที่อยู่ข้างเขา
“ข้ามาหาเจ้าวันนี้ เพราะอยากให้เจ้าช่วยหน่อย”
อ้าว กลับกลายเป็นว่าที่มาหากลางดึก ก็เพราะต้องการขอให้เขาช่วยเสียอย่างนั้น
เดี๋ยวก่อน… ช่วยงั้นหรือ?
เย่หลานเวยตกตะลึง จากนั้นรีบลุกขึ้นนั่งทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้าหรือ?”
วันนี้ดวงตะวันขึ้นทางทิศตะวันตกแล้วหรือ? เขาถามอีกครั้งเพื่อยืนยัน “เจ้าต้องการให้ ‘ข้า’ ช่วยงั้นหรือ?” เขาเน้นย้ำคำว่า ‘ข้า’ อย่างชัดเจน
ใบหน้าของเย่ฉิงหนานมืดมน “เจ้าจะช่วยหรือไม่?”
“ช่วยๆๆ” ล้อเล่นน่า เขาต้องช่วยอยู่แล้ว อย่างน้อยก็เป็นหนี้บุญเขาอยู่ แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไร? แต่เมื่อหนานหนานขอความช่วยเหลือจากเขา ก็แสดงว่าเรื่องนี้… ต้องไม่ง่ายแน่ เขาคงไม่ได้ขุดหลุมให้ตัวเองกระโดดลงไปใช่หรือไม่?
จู่ ๆ เย่หลานเวยก็รู้สึกเสียใจที่รีบตกปากรับคำไปแล้ว แต่คำพูดนั้นออกจากปากของเขาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคืนคำ เขาทำได้เพียงเม้มปาก แล้วถามอย่างระมัดระวังว่า “บอกข้ามาว่าข้าช่วยอะไรเจ้าได้บ้าง?”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารเย่หลานเวยจังค่ะ นอนหลับอยู่ดีๆ ก็ต้องลุกมาเป็นกระสอบทรายให้หนานหนาน แถมยังตกกระไดพลอยโจนไปช่วยเขาอีก
ไหหม่า(海馬)
————————————————————-