อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 38 หาเรื่องเนี่ยนเนี่ยน
ตอนพิเศษ 38 หาเรื่องเนี่ยนเนี่ยน
ตอนพิเศษ 38 หาเรื่องเนี่ยนเนี่ยน
ยิ่งจินซื่อนึกถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ นางก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้ และความคิดในใจนางก็พุ่งเป้าไปที่หลานสุ่ยชิงทันที
แต่หลานสุ่ยชิงจะมีความสามารถเป็นเลิศจนสามารถกระจายข่าวลือได้ภายในช่วงเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ได้หรือ? เป็นไปไม่ได้ หลานสุ่ยชิงไม่ได้ออกไปข้างนอกเมื่อวานนี้
แต่ทันใดนั้น ดวงตาของจินซื่อก็แข็งกร้าวขึ้น พลางยกยิ้มเย็นชา
แม้ว่าหลานสุ่ยชิงจะไม่ได้ทำเรื่องนี้ แต่ก็ยังสามารถใช้เรื่องนี้โจมตีนางได้ เรื่องที่กำลังส่งผลกระทบต่ออนาคตของรองเจ้ากรมหลาน และชื่อเสียงของลูกสาวของนาง หากไท่ฮูหยินและสามีรู้เรื่องนี้ บางทีคราวนี้พวกนางอาจจะโจมตีอู๋ซื่อให้ตกต่ำลงกว่าเดิมได้ นางอยู่ในสถานะนั้นนานเกินไปแล้ว
ดวงตาของจินซื่อคนพี่เป็นประกาย ก่อนหันไปมองจินซื่อคนน้อง
จากนั้นทั้งคู่ก็ไปหาไท่ฮูหยิน
คาดไม่ถึงว่าหลังจากที่ไท่ฮูหยินได้ฟังแล้ว ต่อให้นางจะโกรธมาก แต่ก็ไม่ได้เรียกหลานสุ่ยชิงให้มาหา ทำเพียงแค่ถูหว่างคิ้วตัวเองแล้วถอนหายใจ
จากนั้นพูดว่า “หลานสุ่ยชิงไม่มีความสามารถพอจะทำเช่นนั้นหรอก แต่มีคนหนึ่งที่ทำได้”
พี่น้องจินซื่อต่างตกตะลึงและมองหน้ากัน “ใครเจ้าคะ?”
“จวิ้นจู่จิ่นซิ่ว” นัยน์ตาของไท่ฮูหยินดุร้าย สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราด “ตอนนี้นางแพศยานั่นสนิทสนมกับจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว ถ้านางขอความช่วยเหลือจากจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว จวิ้นจู่จิ่นซิ่วก็คงจะช่วยนางจริง ๆ เดิมทีข้าคิดว่าซิวหวางเฟยสนใจหยวนเจี่ยเอ๋อร์กับเถียนเจี่ยเอ๋อร์ จึงสนับสนุนให้พวกนางได้ไต่เต้าขึ้นไปในตำหนักอ๋องซิว และไม่จำเป็นต้องสนใจจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว แต่นึกไม่ถึงเลย… เมื่อวานนี้พวกเราละเลยจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว ข้าเกรงว่าพวกเราคงทำให้นางขุ่นเคืองไปแล้ว ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ด้วยการจัดการกับหลานสุ่ยชิง”
พี่น้องจินซื่อขมวดคิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น และพวกนางก็ไม่พอใจมาก เป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องปล่อยหลานสุ่ยชิงไป?
“ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องรอจนกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจวิ้นจู่จิ่นซิ่วกับหลานสุ่ยชิงจะไม่ดีนัก ก่อนที่เราจะจัดการกับนาง” ไท่ฮูหยินขมวดคิ้วพูดเสียงเย็น “หญิงคนนั้นกล้าแอบไปงานเลี้ยงที่ตำหนักอ๋องซิวโดยไม่ได้บอกข้า และยังได้ผูกมิตรกับคนระดับนั้นด้วย แล้วต่อไปเราจะควบคุมนางได้อย่างไร? หยางหลิ่ว เจ้าได้กลับไปเร่งแม่สื่อซูให้หาคนมาแต่งงานกับหลานสุ่ยชิงแล้วหรือยัง? อีกทั้งเราต้องทำลายความสัมพันธ์ของนางกับจวิ้นจู่จิ่นซิ่วด้วย”
“เจ้าค่ะ ไท่ฮูหยิน” แม้ว่าจินซื่อจะไม่ค่อยพอใจนัก แต่นางก็รู้ว่าไม่ควรสร้างปัญหาให้แม่สามีในตอนนี้
นางทำได้เพียงสบตากับจินซื่อคนน้อง นัยน์ตาฉายแววโกรธแค้น จากนั้นก็ถอยกลับไป
แต่สิ่งที่พวกนางไม่รู้ก็คือสาวใช้ที่อยู่ข้างนอกประตูได้ยินบทสนทนาของทุกคนแล้ว และในขณะนี้นางได้จากไปเงียบ ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็วิ่งไปที่เรือนที่หลานสุ่ยชิงอาศัยอยู่ แล้วเล่าบทสนทนาทั้งหมดให้หลานสุ่ยชิงฟัง
หลานสุ่ยชิงพยักหน้าเบา ๆ แล้วบอกให้นางกลับไป
แม่นมปู้ที่อยู่ด้านข้างเย้ยหยัน “ไท่ฮูหยินกับพรรคพวกสมรู้ร่วมคิดกันจัดการคุณหนู แต่พวกนางไม่คิดหรือว่าหากจวิ้นจู่จิ่นซิ่วกับคุณหนูสนิทกัน ก็จะส่งผลดีต่อจวนหลานและนายท่าน?”
หลานสุ่ยชิงยกยิ้มและไม่ได้เอ่ยคำใด นางเป็นหนามยอกอกในสายตาของไท่ฮูหยินและคนอื่น ๆ พวกนางไม่ถือว่านางเป็นคนตระกูลหลานเลย แม้แต่ตอนนี้นางก็กลายเป็นศัตรูของพวกนางไปแล้ว แล้วพวกนางจะคิดได้อย่างไร?
“ไม่เป็นไรหรอกแม่นมปู้ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน(1) เราไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”
แต่ไท่ฮูหยินและจินซื่อกำลังปวดเศียรเวียนเกล้า และไม่อาจอยู่อย่างสงบสุขได้แล้ว เช่นเดียวกับเมื่อเช้านี้ เมื่อนางส่งตำราสอนหญิงที่นางคัดให้ไท่ฮูหยิน นางก็ไม่แม้แต่จะมองมาที่นาง และปล่อยให้นางกลับมาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ดูสิ นางไม่มีเวลามารบกวนนางตอนนี้ด้วยซ้ำ
“ว่าแต่วันนี้ท่านแม่กินข้าวเช้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
เมื่อแม่นมปู้ได้ยินนางพูดถึงเรื่องนี้ นางก็คลี่ยิ้มทันทีแล้วพูดว่า “เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แม่นางเนี่ยนเนี่ยนคนนั้นช่างน่าทึ่งเหลือเกินเจ้าค่ะ เมื่อก่อนฮูหยินมักจะกินข้าวน้อยเพราะไม่อยากอาหาร แต่วันนี้นางกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาก และกินข้าวเยอะกว่าเดิมถึงสองเท่าเจ้าค่ะ”
“จริงหรือ?” หลานสุ่ยชิงยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
จวิ้นจู่จิ่นซิ่วไม่ได้พูดถึงทักษะทางการแพทย์ของเนี่ยนเนี่ยนเกินจริง มันไม่ธรรมดาแน่นอน นางได้พบกับอัจฉริยะเข้าแล้วจริง ๆ
“คุณหนู วันนี้แม่นางเนี่ยนเนี่ยนจะมาที่นี่หรือเปล่าเจ้าคะ?”
“ไม่มา นางจะกลับมาฝังเข็มให้ท่านแม่พรุ่งนี้”
แม่นมปู้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะไปที่ร้านแต่เช้า ไปหาของว่างให้แม่นางเนี่ยนเนี่ยนลองชิมเจ้าค่ะ”
“ดีแล้ว”
หลานสุ่ยชิงอารมณ์ดีมาก สายตาของนางจับจ้องไปยังสมุดคัดลายมือที่นางกำลังคัดอยู่บนโต๊ะ มุมปากของนางกระตุกเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว
วันนั้นเหตุการณ์ในเรือนของหลานสุ่ยชิงสงบ แม้ว่าไท่ฮูหยิน จินซื่อและคนอื่น ๆ จะไม่พอใจนางมาก แต่ก็ยังหักห้ามใจไม่มาหาเรื่องนาง
สุขภาพของอู๋ซื่อกลับมาดีขึ้นมาก หลานสุ่ยชิงจึงอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน
ทว่าในคืนนั้นเย่ฉิงหนานไม่ได้มาปรากฏตัว นางรอเกือบทั้งคืน และในที่สุดก็ปิดหน้าต่างด้วยความรู้สึกโดดเดี่ยว
เหตุใดเขาถึงไม่มา? หลานสุ่ยชิงรู้สึกผิดหวังอย่างอธิบายไม่ถูก เมื่อนึกถึงบทสนทนาระหว่างนางกับเขาเมื่อคืนก่อน ในที่สุดนางก็ถอนหายใจ
โชคดีที่วันรุ่งขึ้น เนี่ยนเนี่ยนมาแต่เช้า
เดิมทีจวิ้นจู่จิ่นซิ่วต้องการมากับนางด้วย แต่มีแขกมาที่ตำหนักพอดี และนางจำต้องไปกับญาติห่าง ๆ สองสามคน นางจึงจำต้องยอมปล่อยให้เนี่ยนเนี่ยนมาหาหลานสุ่ยชิงตามลำพัง
เนี่ยนเนี่ยนมาพร้อมกับข้อความจากจวิ้นจู่จิ่นซิ่ว คนรับใช้ของจวนหลานจึงไม่กล้าขวางนาง และรีบปล่อยนางเข้าไป
แต่สำหรับคนอื่น ๆ ในจวนหลาน พวกนางอารมณ์เสียมาก เมื่อเห็นว่าเพื่อนของหลานสุ่ยชิงเข้ามา
โดยเฉพาะหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียน หลังจากถูกกักบริเวณอยู่ในเรือนตัวเองมาทั้งวัน และสาวใช้ของพวกนางก็ถูกแทนที่ด้วยสาวใช้คนใหม่ ความคับข้องใจจึงเกิดขึ้นจนอัดอั้นมานาน ทำให้ต้องหาที่ระบายอารมณ์ เมื่อพวกนางได้ยินว่าเนี่ยนเนี่ยนก้าวเข้ามาในจวนหลาน โดยที่จวิ้นจู่จิ่นซิ่วไม่ได้มาด้วย มีเพียงเนี่ยนเนี่ยนคนเดียวที่มาที่นี่ ร่องรอยของความอาฆาตพยาบาทก็ฉายชัดในใจ แล้วพวกนางก็รีบออกจากเรือนไปทันที
ดังนั้นขณะที่เยียนจือกำลังพาเนี่ยนเนี่ยนไปเรือนของหลานสุ่ยชิง เมื่อเดินผ่านศาลาชุนเซียง พวกนางก็ได้พบกับหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนที่มาพร้อมกับกลุ่มสาวใช้
เยียนจือขมวดคิ้ว เมื่อเห็นว่าพวกนางไม่ได้มาดี นางจึงพาเนี่ยนเนี่ยนเดินเลี่ยงไปอีกทางทันที
ทว่าหลานสุ่ยหยวนมีสายตาเฉียบคมและมือที่รวดเร็ว นางโบกมือให้สาวใช้ที่อยู่ข้างหลัง แล้วตะโกนว่า “ขวางพวกนางไว้ให้ข้า”
สาวใช้ที่อยู่ข้างหลังนางมองหน้ากัน นางไม่ใช่คนที่พวกนางคุ้นเคย แววตาของพวกนางจึงมีความลังเลอยู่บ้าง แต่แม้ว่าจะลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พวกนางก็ยังรีบวิ่งไปยืนขวางหน้าเยียนจือและเนี่ยนเนี่ยน
“พวกท่านจะทำอะไร?” เยียนจือรีบยื่นมือออกมาผลักเนี่ยนเนี่ยนไปอยู่ข้างหลังนาง แล้วมองหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนที่กำลังเดินมาหาอย่างระแวดระวัง
หลานสุ่ยหยวนมองเยียนจือด้วยสายตาเย้ยหยัน จากนั้นมองเนี่ยนเนี่ยนที่ยังคงสวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ แต่งตัวเรียบ ๆ และไร้ซึ่งเครื่องประทินโฉมด้วยความเย็นชา นัยน์ตาของนางฉายแววโหดร้าย
วินาทีต่อมา นางง้างมือขึ้นทันที
……………………………………………………………………………………………………………….
(1)ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน (兵来将挡,水来土掩) เป็นสำนวน หมายถึง ไม่ว่าปัญหาจะมาอย่างไรก็สามารถรับมือได้
สารจากผู้แปล
แม่สื่อซูเน่าไปแล้วจ้า ไม่ต้องไปหาหรอก
หาเรื่องผิดคนแล้วยัยสองพี่น้องหมาป่านี่ อยากโดนพิษจนเสียโฉมก็ลองดู
ไหหม่า(海馬)