อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 44 ตอนนั้นข้าเป็นคนทำคลอดหลานสุ่ยชิงเอง
ตอนพิเศษ 44 ตอนนั้นข้าเป็นคนทำคลอดหลานสุ่ยชิงเอง
ตอนพิเศษ 44 ตอนนั้นข้าเป็นคนทำคลอดหลานสุ่ยชิงเอง
บัดนี้เรือนโยวหรานตกอยู่ในความเงียบสงบจนน่ากลัว
หลังจากที่รองเจ้ากรมหลานทักทายอวี้ชิงลั่วแล้ว เขาก็นั่งลงด้านข้าง หลังจากรู้เรื่องจากไท่ฮูหยิน เขาก็ถามหลายครั้งว่าเหตุใดอวี้ชิงลั่วถึงสู่ขอหลานสุ่ยชิง
ทว่าอวี้ชิงลั่วยืนกรานจะรอจนกว่าหลานสุ่ยชิงจะมา เขาจึงทำได้เพียงนั่งอยู่เฉย ๆ ด้วยท่าทางกระวนกระวาย
เมื่ออวี้ชิงลั่วเห็นท่าทางของเขา นางก็หรี่ตาลง
นางไม่ค่อยชอบรองเจ้ากรมหลาน ตอนนั้นหลานฮูหยินคลอดลูกในบ้านร้างที่ทรุดโทรม แล้วรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด และเกือบจะช่วยชีวิตลูกไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เขาเกือบจะฆ่านางทันทีที่นางกลับมา อีกทั้งยังทำให้สองแม่ลูกต้องทนทุกข์ใจมากว่าสิบปี
ในอดีตนางก็เคยคลอดลูกยากในวัดร้างเช่นกัน แต่ในที่สุดนางก็ได้พบกับเย่ซิวตู๋ สามีที่ใจดีกับนางและหนานหนานมาก จนยอมทุ่มเทให้นางกับลูกได้ทุกอย่าง
การเปรียบเทียบเช่นนั้นยิ่งทำให้นางเกลียดรองเจ้ากรมหลานมากกว่าเดิม
นางรังเกียจบุรุษไร้ประโยชน์เช่นนี้มากนัก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ อวี้ชิงลั่วก็จิบชาอีกครั้ง แล้วหันหน้ามองออกไปข้างนอก
ไท่ฮูหยินเห็นดังนั้นก็รีบพูดว่า “สุ่ยชิงนี่เหลือเกินจริง ๆ เหตุใดยังไม่มาอีก? รู้ว่าหวางเฟยกำลังรออยู่ที่นี่ก็ไม่สมควรที่จะเอ้อระเหยลอยชายเช่นนี้ แม่นมซ่ง เจ้าไปเตือนอีกครั้งสิ”
“เจ้าค่ะ” แม่นมซ่งเดินออกไปทันที
อวี้ชิงลั่วขมวดคิ้ว อย่างไรเสียหลานสุ่ยชิงก็ยังคงใช้สกุลหลาน และนางก็ยังเป็นลูกสาวของตระกูลหลานอยู่ แม้ว่าไท่ฮูหยินจะไม่ชอบนาง แต่นางก็ควรจะไว้หน้าตระกูลหลานบ้าง
นางช่างกล้านัก ยุแยงตะแคงรั่วอย่างเปิดเผย
“หวางเฟย ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ ปกติสุ่ยชิงมักมีนิสัยแปลก ๆ บางครั้งนางก็ไม่ฟังสิ่งที่พวกเราพูด หวางเฟยโปรดอย่าได้ถือสานางเลยพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อเห็นไท่ฮูหยินจ้องมองมา รองเจ้ากรมหลานก็รีบพูดทันที
หงเย่ที่อยู่ข้าง ๆ เริ่มไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น รองเจ้ากรมหลานคนนี้สมควรตายจริง ๆ เขาไม่พูดเพื่อช่วยลูกสาวตัวเองเลย และคงหวังว่าหลานสุ่ยชิงจะไม่มา
แน่นอนว่าชีวิตของลูกสาวคนโตของตระกูลหลานนั้นคงไม่เป็นที่น่าพอใจจริง ๆ เป็นการดีกว่าที่จะให้หนานหนานรีบแต่งงานกับนาง เมื่อพากลับไปที่ตำหนักอ๋องซิวแล้ว พวกเขาจะปฏิบัติต่อนางเหมือนอัญมณีอันล้ำค่าแน่นอน
อวี้ชิงลั่วสงบลงมาก นางยกยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “เมื่อพูดถึงเรื่องนั้น คนนอกก็มักจะเล่าลือกันว่าข้าเป็นคนแปลก เป็นคนชอบเก็บตัวและเข้ากับคนได้ไม่ง่ายนัก คงเป็นเรื่องบังเอิญ หากลูกสาวคนโตของสกุลหลานก็เป็นคนแปลกเช่นเดียวกัน ข้าก็ยิ่งอยากรู้ ว่าบางทีเราอาจจะเป็นพวกคนแปลกที่เข้ากันได้ดีหรือไม่?”
สีหน้าของไท่ฮูหยินและรองเจ้ากรมหลานเปลี่ยนไปพร้อมกัน ก่อนจะรีบพูดว่า “หวางเฟยตรัสอะไรเพคะ หวางเฟยอ่อนโยนและมีน้ำใจ แล้วจะเรียกว่าเจ้ากับคนยากได้อย่างไรเพคะ? ต้องเป็นเพราะพวกคนนอกอิจฉาริษยาหวางเฟยเป็นแน่ ข่าวลือเช่นนั้นถึงแพร่กระจายไปได้”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก “เช่นนั้นที่บอกว่าลูกสาวคนโตของตระกูลหลานทำตัวแปลก ๆ ก็เป็นเพราะมีคนอิจฉานางด้วยหรือเปล่า?”
“…” ไท่ฮูหยินตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง นางไม่รู้จะตอบอย่างไร
โชคดีที่ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก แม่นมซ่งที่เพิ่งออกไปกลับมาแล้ว นางทำความเคารพแล้วพูดว่า “หวางเฟย ไท่ฮูหยิน นายท่าน คุณหนูใหญ่มาแล้วเจ้าค่ะ”
“เร็วเข้า รีบพานางเข้ามา” สายตาของอวี้ชิงลั่วเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นางรอไม่ไหวที่จะพูดแทรกขึ้น ก่อนที่ไท่ฮูหยินและรองเจ้ากรมหลานจะอ้าปากเอ่ยคำใด
แม่นมซ่งตอบรับ ในไม่ช้าไฉ่ซินก็เข้ามาพร้อมกับหลานสุ่ยชิงและเยียนจือ
ทันทีที่หลานสุ่ยชิงเข้ามาในประตู นางก็รู้สึกได้ถึงสายตาร้อนผ่าวของใครบางคน นางไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก็รู้ว่าใครกำลังจ้องมองนางด้วยสายตาที่ราวกับจะแผดเผานางให้ตาย
นางไม่ได้ใส่ใจ ไม่แม้แต่จะมองไปด้านข้าง ทำเพียงแค่ถอนสายบัวให้อวี้ชิงลั่วที่นั่งอยู่บนที่นั่งหลัก “สุ่ยชิงถวายบังคมซิวหวางเฟยเพคะ”
นี่เป็นครั้งแรกที่อวี้ชิงลั่วได้เจอหลานสุ่ยชิง ใจของนางเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นมานานแล้ว เมื่อเห็นว่าท่าทางของหลานสุ่ยชิงไม่ได้ถ่อมตัวหรือเย่อหยิ่งในขณะนี้ นางก็ยิ่งพอใจกว่าเดิม
“เจ้าเงยหน้าขึ้นให้ข้าเห็นชัด ๆ สิ”
“เพคะ” หลานสุ่ยชิงเก็บมือเรียบร้อย จากนั้นค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้สัมผัสกับอวี้ชิงลั่วอย่างใกล้ชิด เพียงแวบเดียว ความประหลาดใจก็พลันฉายชัดในดวงตานาง
นางคิดว่าหวางเฟยน่าจะแต่งกายสง่างามและหรูหรา แต่สตรีตรงหน้านาง ไม่เพียงแค่แต่งกายเรียบร้อยเท่านั้น แต่ยังแต่งกายเรียบง่ายมากอีกด้วย
เมื่อมองแวบแรกก็เห็นว่าชุดนั้นดูสบาย ๆ มากกว่าชุดของนางด้วยซ้ำ แต่เห็นได้ชัดว่านางดูมีเมตตาน่าเข้าใกล้ยิ่งนัก
นางไม่มีท่าทางถือตัวห่างเหิน หรือมองผู้อื่นด้วยความดูถูกเหยียดหยาม รอยยิ้มบนใบหน้าของนางสดใส
นี่หรือคือซิวหวางเฟย? สตรีที่ท่านอ๋องซิวรักและหวงแหน สตรีที่แม้แต่ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันก็ยังให้ความเคารพ องค์หญิงเทียนฝูผู้มีข่าวลือว่าเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดในอาณาจักรเทียนอวี่ หมอปีศาจผู้มีชื่อเสียงไปทั่วหล้างั้นหรือ?
หลานสุ่ยชิงหายใจถี่ขึ้นชั่วขณะ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางจึงรู้สึกตื้นตันขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ ซึ่งมันแปลกมาก
อวี้ชิงลั่วมองหลานสุ่ยชิงด้วยความพึงพอใจมาก หลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนมีรูปร่างหน้าตาดูธรรมดาเหมือนกัน แต่หลานสุ่ยชิงนั้นสดใสและมีเสน่ห์มากกว่า
ใช่แล้ว ตอนที่นางทำคลอดหลานฮูหยินในตอนนั้น หลานฮูหยินก็หน้าตางดงามเช่นกัน ดังนั้นลูกสาวของนางย่อมไม่ขี้เหร่
แต่สิ่งที่นางไม่เข้าใจก็คือหลานฮูหยินนั้นงดงามมาก สวยกว่าจินซื่อที่นั่งอยู่ด้านข้างเสียอีก รองเจ้ากรมหลานคนนี้ตาบอดหรือไม่ที่เห็นหลานฮูหยินด้อยกว่าจินซื่อ จุ๊ๆๆ
เมื่อไท่ฮูหยินเห็นทั้งสองคนมองหน้ากัน และเห็นความพึงพอใจในสายตาของอวี้ชิงลั่ว นางก็รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที และอยากจะกรีดร้องในใจ
นางรีบขยิบตาให้รองเจ้ากรมหลานที่อยู่ข้าง ๆ
รองเจ้ากรมหลานเม้มปากแน่น แล้วรีบทำลายความสงบ “หวางเฟย นี่คือสุ่ยชิงพ่ะย่ะค่ะ สุ่ยชิง เจ้ามาช้าเกินไป เจ้าปล่อยให้หวางเฟยรอนานได้อย่างไร? ว่าแต่อาการป่วยของแม่เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
ใบหน้าของหลานสุ่ยชิงมืดมนลงทันใด จู่ ๆ ก็เอ่ยปากถามถึงอาการป่วยของแม่นาง นี่พ่อแท้ ๆ ของนางกำลังข่มขู่นางอยู่หรือ?
จากนั้นหลานสุ่ยชิงก็ตอบไท่ฮูหยินและรองเจ้ากรมหลานว่า “ท่านแม่สบายดีเจ้าค่ะ”
“อืม ดีแล้ว เจ้าไปนั่งเสียเถิด แล้วหากหวางเฟยถาม ทีหลังต้องตอบตามตรง อย่าทำให้ท่านต้องขุ่นเคือง เข้าใจหรือไม่?”
หลานสุ่ยชิงกำมือแน่นขณะนึกเย้ยหยัน ในเวลานี้นางต้องการดูว่าพวกเขาจะใช้กลอุบายเช่นไร
แม่นมซ่งรีบนำเก้าอี้มาวางไว้ต่ำกว่าหลานสุ่ยหยวนเพื่อให้นางนั่งลง อวี้ชิงลั่วเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว แล้วกวักมือเรียกนางทันที ก่อนจะพูดว่า “เจ้ามานี่สิ มานั่งข้างข้า ให้ข้าดูให้ชัด ๆ หน่อย ข้าไม่ได้เจอเจ้ามานานหลายปี เจ้าโตเป็นสาวสะโอดสะองไปแล้วจริง ๆ”
ทั้งห้องเงียบลงทันใด ทุกคนมองไปที่อวี้ชิงลั่วด้วยความประหลาดใจ
ไม่ได้เจอมานานหลายปีแล้วงั้นหรือ? หมายความว่าอย่างไร?
ไท่ฮูหยินอดถามไม่ได้ “หวางเฟย… ท่านเคยเจอสุ่ยชิงตอนเด็กหรือเพคะ?”
เป็นไปได้อย่างไร? ตอนที่หลานสุ่ยชิงยังเด็ก นางไม่เคยมีโอกาสได้ออกจากจวนหลานเลย แล้วซิวหวางเฟยจะไปเจอคนที่อยู่เคียงข้างแม่ตลอดเวลาได้อย่างไร?
“แน่นอนว่าเคยเจอ ตอนนั้นข้าเป็นคนทำคลอดเด็กคนนี้เอง”
…………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ประโยคเดียวฟาดแบบจุกๆ สตั้นท์กันทั้งห้อง
เดี๋ยวก่อนค่ะ นี่ยังแค่เริ่มต้น ตัวแม่ตัวมารดาตัวบุพการีอย่างซิวหวางเฟยฟาดใครไม่เคยแผ่วอยู่แล้ว
ไหหม่า(海馬)