อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 49 ตัวตนของหลานสุ่ยชิงได้รับการยอมรับ
ตอนพิเศษ 49 ตัวตนของหลานสุ่ยชิงได้รับการยอมรับ
ตอนพิเศษ 49 ตัวตนของหลานสุ่ยชิงได้รับการยอมรับ
ไท่ฮูหยินเป็นลมอยู่ตรงนั้นทันที ทำให้แม่นมซ่งรีบร้องเรียกรองเจ้ากรมหลาน “นายท่าน นายท่าน…”
รองเจ้ากรมหลานมองอวี้ชิงลั่วออกจากจวนหลาน ขณะหงเย่และกลุ่มคนรับใช้จากตำหนักอ๋องซิวยืนประจันหน้าเขา เมื่อเห็นว่าไท่ฮูหยินเป็นลม เขาจึงได้แต่กัดฟันแล้วหันกลับไปดูไท่ฮูหยิน
แม่นมซ่งรีบตะโกนบอกไฉ่ซินข้างนอก “ไปตามหมอมาเร็วเข้า”
ทันใดนั้นทั้งจวนก็ตกอยู่ในความโกลาหล เสียงร่ำไห้กรีดร้องดังอึงอลไปทั่ว
มีเพียงหลานสุ่ยชิงเท่านั้นที่ประคองหลานฮูหยินเดินไปที่มุมอย่างใจเย็น คอยระวังไม่ให้ใครชนนาง
อู๋ซื่อยังคงกังวลเล็กน้อย นางจับมือหลานสุ่ยชิงแล้วถามด้วยเสียงแผ่วเบา “นี่ เหตุใดหวางเฟยถึงโกรธมาก? มันสำคัญถึงเพียงนั้นเลยหรือ?”
“ท่านแม่” หลานสุ่ยชิงหัวเราะ “ไม่ต้องกังวลหรอกเจ้าค่ะ ไม่มีอะไรหรอก ซิวหวางเฟยแค่ใช้ประเด็นนี้เพื่อสอนบทเรียนหลานสุ่ยหยวนและคนอื่น ๆ เท่านั้นเจ้าค่ะ”
นางยกยิ้มเย็นขณะมองดูสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิง แต่ในใจนางกลับรู้สึกอิ่มเอิบมีความสุขยิ่งนัก
อู๋ซื่อได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจ นางเชื่อคำพูดของหลานสุ่ยชิงเสมอ และหลานสุ่ยชิงมักจะพูดให้นางรู้สึกสบายใจ
แต่เมื่อนึกถึงการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้มีพระคุณในตอนนั้นของนาง นางก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
“น่าเสียดายที่ซิวหวางเฟยจากไปเช่นนี้ แม่ยังไม่ได้คุยกับนางอย่างละเอียด และยังไม่ได้ถามนางเลยเรื่องการมาสู่ขอครั้งนี้เลย” หลานฮูหยินถอนหายใจ แล้วหันศีรษะไปมองหลานสุ่ยชิงทันที ก่อนพูดต่อ “อีกอย่าง เรื่องการแต่งงานของเจ้า… ความจริงแม่เคยเห็นซื่อจื่อองค์โตแห่งตำหนักอ๋องซิว เขาเป็นคนให้จี้ที่ติดตัวเจ้าอยู่ ขณะนั้นเขายังเด็กและเป็นเด็กดีมาก ตอนนี้เขาโตแล้ว คงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอำนาจเปี่ยมล้น ซิวหวางเฟยก็ดีมากเช่นกัน แม่เชื่อว่าหากเจ้ายอมแต่งงานจริง ๆ เจ้าย่อมเลือกไม่ผิดแน่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเจ้าอดทนดูแลแม่มาโดยตลอด ความปรารถนาเดียวของแม่คืออยากให้เจ้ามีครอบครัวที่ดี”
“ท่านแม่…” หลานสุ่ยชิงขัดนางอย่างเสียไม่ได้ “ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้กันทีหลังเถิดเจ้าค่ะ สุขภาพของท่านยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก และที่นี่ก็มีแต่เรื่องวุ่นวายมากมาย ข้าจะพาท่านกลับไปพักผ่อนก่อนเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นว่านางไม่สนใจมากนัก อู๋ซื่อก็อ้าปากค้าง แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอีกและทำได้เพียงตอบรับ
ก่อนที่พวกนางจะไปถึงประตู ไท่ฮูหยินก็ฟื้นขึ้นมา
นางฟังเสียงคนในห้องด้วยความงุนงง เมื่อเห็นว่ารองเจ้ากรมหลานอยู่ข้าง ๆ จึงรีบคว้ามือเขาแล้วถามว่า “ซิวหวางเฟย… ซิวหวางเฟยไปแล้วหรือ?”
“…ไปแล้วขอรับ” ใบหน้าของรองเจ้ากรมหลานเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ไท่ฮูหยินยกมือขึ้นตีเขา “เจ้า เหตุใดเจ้าไม่ห้ามไว้? ถ้าซิวหวางเฟยไปหาท่านอ๋องซิวและฝ่าบาทจริง ๆ ตระกูลหลานของเราจะยังมีทางออกหรือ? โอ๊ย คุณพระคุณเจ้า มันเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร?”
“ท่านแม่ ตอนนี้เราทำได้เพียงแค่ขอโทษซิวหวางเฟยเท่านั้นเจ้าค่ะ” จินซื่อที่รออยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยม พูดด้วยท่าทางอ่อนน้อม “ท่านอย่าได้กังวลเลย สุขภาพของท่านสำคัญ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายท่านได้อุทิศตนเพื่ออาณาจักรเฟิงชางมาโดยตลอด ทั้งฝ่าบาทและท่านอ๋องซิวต่างเป็นคนมีเหตุผล พวกเขาจะไม่ลงโทษนายท่านด้วยเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้หรอกเจ้าค่ะ ท่านโปรดวางใจได้ ไม่ต้องกังวล”
“หุบปาก” จู่ ๆ ไท่ฮูหยินก็หันไปชี้หน้าจินซื่อ แล้วตวาดว่า “เจ้าจะไปรู้อะไร? ฝ่าบาทและท่านอ๋องซิวเป็นคนมีเหตุผล แต่ซิวหวางเฟยคือใคร? ทุกคนในอาณาจักรเฟิงชางต่างทราบถึงความรู้สึกของท่านอ๋องซิวที่มีต่อซิวหวางเฟย แล้วเหตุใดเขาจะไม่ทำเพื่อซิวหวางเฟย? ยิ่งไปกว่านั้น คนตำหนักอ๋องซิวที่ถูกดูถูกในครั้งนี้คือลูกสาวของพวกเขา พระประยูรญาติคนโปรดของฮ่องเต้ ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า ลูกสาวที่ดีที่เจ้าอบรมสั่งสอนมาไปล่วงเกินคนที่ไม่ควรแตะต้อง จนสร้างปัญหาใหญ่ให้จวน พวกเจ้าทุกคนทำให้จวนหลานเป็นอย่างนี้”
หลานสุ่ยหยวนรู้สึกอึดอัดมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น นางก้าวเข้าไปคุกเข่าลงต่อหน้าไท่ฮูหยิน ก่อนจะร่ำไห้ขณะแก้ตัวว่า “ท่านย่า ไม่ใช่ความผิดของเราเจ้าค่ะ เห็นได้ชัดว่าเนี่ยนเนี่ยนจงใจไม่เปิดเผยตัวตนเอง ถ้านางบอกก่อนหน้านี้ เราจะดูถูกนางได้อย่างไร? นางวางกับดักหลอกล่อให้เรากระโดดลงไป ใช่แล้ว เป็นเพราะนางเอง นางติดต่อกับหลานสุ่ยชิง และพวกนางก็หาทางจัดการกับเรา ท่านย่า เรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากหลานสุ่ยชิง นางวางแผนไว้หมดแล้วเจ้าค่ะ”
เมื่อพูดจบ หลานสุ่ยหยวนก็ยกนิ้วชี้ไปที่หลานสุ่ยชิงผู้กำลังจะก้าวออกไปทันที
ฝีเท้าของหลานสุ่ยชิงและอู๋ซื่อพลันหยุดลง พวกนางหันกลับมาอย่างเย็นชา แล้วมองหลานสุ่ยหยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน “ข้าหรือ? ข้าวางแผนอะไร? ข้าวางแผนให้เจ้าไปขวางเนี่ยนเนี่ยนไว้ ข้าวางแผนให้เจ้าพูดจาหยาบคายดูหมิ่นนางหรือ? ข้าบังคับให้เจ้าอ้าปากพ่นถ้อยคำเหล่านั้นออกมาหรือ? เจ้าจะโยนขี้ให้คนอื่นเช่นนี้ เหตุใดไม่นึกถึงนิสัยชอบประจบประแจงคนสูงกว่า และเหยียบย่ำคนต่ำกว่าของตัวเองบ้างเล่า?”
หลานสุ่ยหยวนตกตะลึง จากนั้นรีบลุกขึ้นและกระโจนเข้าไปหาหลานสุ่ยชิงทันที “นางแพศยา เจ้ากล้าดีอย่างไรมาพูดกับข้าเช่นนั้น?”
เมื่อเห็นว่านางกำลังจะกระโจนใส่หลานสุ่ยชิง เยียนจือที่อยู่ข้าง ๆ ก็ผลักหลานสุ่ยหยวนออกไปด้วยสายตาเฉียบคมและมืออันว่องไว
เมื่อเห็นนางล้มลงกับพื้น เยียนจือก็ตื่นเต้นมาก
นางอยากทำเช่นนี้มานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสเสียที ในที่สุดวันนี้ก็สมใจอยากแล้ว แม้ว่าจะต้องขอบคุณบารมีของเนี่ยนเนี่ยนและซิวหวางเฟย แต่นางก็ยังตื่นเต้นมาก
“พอแล้ว!!” รองเจ้ากรมหลานตะโกนเสียงดัง ขณะจ้องมองหลานสุ่ยหยวน “นางเป็นพี่สาวของเจ้า ใครอนุญาตให้เจ้าเรียกนางเช่นนั้น? ไร้การศึกษายิ่งนัก”
หน้าของจินซื่อซีดลง พี่สาว? พี่สาวหรือ?
สามคำนั้นดังก้องอยู่ในใจนางราวกับเสียงสะท้อน สามีของนางยอมรับตัวตนของหลานสุ่ยชิงแล้ว
ความพยายามอย่างหนักของนางตลอดหลายปีถูกทำลายในชั่วข้ามคืน
จู่ ๆ จินซื่อก็รู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว จนทรุดฮวบลงกับพื้น
ไท่ฮูหยินที่อยู่ด้านข้างรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะนางเป็นคนเรียกหลานสุ่ยชิงว่าคนนอกตลอดเวลา แต่วินาทีต่อมา ความรู้สึกผิดก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ นางชี้หน้าหลานสุ่ยหยวนแล้วพูดว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ เจ้ายังกล้าจะตบนางอีกหรือ? ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดของเจ้าที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”
ทันใดนั้น นางก็ชี้หน้าจินซื่อ “ดูลูกสาวสุดที่รักที่เจ้าสั่งสอนสิ ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ ต่อให้ยังไม่รู้จักกลับใจ ก็ยังดีกว่ากล้าโยนความผิดให้คนอื่น มันทำให้ข้าโกรธจริง ๆ”
จินซื่อก้มหน้าลง ไม่กล้าเอ่ยคำใดแม้สักคำ
รองเจ้ากรมหลานรีบก้าวเข้าไปลูบหลังไท่ฮูหยิน แล้วเกลี้ยกล่อมเบา ๆ “ท่านแม่ อย่าโกรธเลยขอรับ ลูกจะสอนบทเรียนให้พวกนางเองขอรับ”
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องเหล่านี้ รีบเตรียมของกำนัลสำหรับตำหนักอ๋องซิวให้มาก ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องทำให้ซิวหวางเฟยสงบสติอารมณ์ก่อน เรื่องนี้ต้องไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ ไม่เช่นนั้นจวนหลานของเราได้จบสิ้นลงจริง ๆ แน่”
“ขอรับ” รองเจ้ากรมหลานพยักหน้า เมื่อทราบความเร่งด่วนของสถานการณ์ เขาก็รีบบอกแม่นมซ่งให้ดูแลไท่ฮูหยินให้ดี จากนั้นหันหลังเดินจากไป
ทว่าเมื่อเขาเดินผ่านหน้าหลานฮูหยิน ฝีเท้าของเขาก็หยุดลงทันที เขามองนางอย่างลึกซึ้งแล้วอ้าปาก แต่สุดท้ายก็วิ่งออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หลานสุ่ยชิงยกยิ้มประชดประชัน แล้วประคองอู๋ซื่อเดินออกไปข้างนอก
คาดไม่ถึงว่าขณะที่นางเริ่มก้าวเดินไป ไท่ฮูหยินที่อยู่ตรงนั้นก็กวักมือเรียกนาง “สุ่ยชิง มานี่ก่อน”
………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สถานการณ์พลิกเลยจ้า ชิงลั่วคือ MVP มาครั้งเดียวตบหน้ารองเจ้ากรมหลานกับไท่ฮูหยินจนตื่นเลย
ไหหม่า(海馬)