อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 60 เย่หลานพบกัน
ตอนพิเศษ 60 เย่หลานพบกัน
ตอนพิเศษ 60 เย่หลานพบกัน
หลานสุ่ยชิงรู้ว่านางกำลังมองอะไรอยู่ นางจึงไม่พูดอะไร แต่ก้าวไปยืนอยู่ตรงหน้านางอย่างสงบ
เนี่ยนเนี่ยนขมวดคิ้ว เอียงคอจ้องหน้านางอยู่นาน ก่อนจะถามว่า “สุ่ยชิง วันนี้เจ้า… แต่งหน้ามาเป็นพิเศษหรือเปล่า?”
“อืม มาเยือนตำหนักอ๋องซิวทั้งที แน่นอนว่าไม่ควรให้หน้าตาดูจืดชืดเหมือนอย่างเคย” หลานสุ่ยชิงพยักหน้าตอบ
เนี่ยนเนี่ยนกับเหวินย่ามองหน้ากัน แล้วฝ่ายหลังก็ยักไหล่ บ่งบอกว่าตอนแรกนางก็… ประหลาดใจเช่นกัน
“แล้วเจ้ารู้สึกว่าทาแป้งหนาเกินไปหน่อยหรือไม่? ทาชาดแดงเช่นนี้ไม่ค่อยเข้ากับเจ้าเท่าไหร่ และชุดก็ค่อนข้างพิสดารนัก”
เยียนจือที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า ใช่ๆๆ จวิ้นจู่เนี่ยนเนี่ยน ในที่สุดท่านก็พูดความในใจของข้าออกมา
หลานสุ่ยชิงก้มมองตัวเองด้วยใบหน้าใสซื่อ “เช่นนั้นหรือ? ข้าคิดว่าการแต่งตัวเช่นนี้มีเอกลักษณ์ดี”
ฮ่าๆ เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ คนปกติไม่น่าจะมีรสนิยมเช่นนี้
เนี่ยนเนี่ยนมองหลานสุ่ยชิงอย่างครุ่นคิด แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก นางแค่เดินไปตามทางเดิน เพื่อไปล้างมือในอ่างที่วางอยู่ แล้วพูดว่า “วันนี้หมู่เฟยของข้าไม่อยู่ ไทเฮาในวังมีเรื่องเรียกตัวนางไป”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางก็นิ่งไปครู่หนึ่ง มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย
ความจริงแล้วไทเฮาไม่ได้เรียกหาหรอก แต่เป็นแผนการวันนี้ของแม่ของนางเอง นางกลัวว่าพี่ใหญ่จะมาคิดบัญชีนาง จึงหลีกเลี่ยงการเป็นจุดสนใจไปก่อน ช่วงนี้ท่านแม่กับพี่ใหญ่มักจะเล่นไล่จับและซ่อนหากันเสมอ
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นางก็พูดต่อ “แต่นางบอกข้าว่าให้พาเจ้าไปชมรอบ ๆ ตำหนัก เจ้าจะได้ไม่อึดอัด”
แม้ว่าจะรู้จักกันดี แต่พวกเขาก็ต้องทำความรู้จักกัน
แต่ว่า… พี่ใหญ่ยังคงไม่รู้ตัว
เมื่อครู่นี้นางรีบไปเรียกพี่ใหญ่ โดยบอกว่านางมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องคุยกับเขา ตอนนี้พี่ใหญ่กลับมาแล้ว และท่านแม่ก็เข้าไปในวังทันทีด้วยท่าทางจริงจัง
คาดว่าตอนนี้พี่ใหญ่คงรู้ตัวแล้ว
เนี่ยนเนี่ยนเดาถูก หลังจากที่หนานหนานกลับมาจากจวนหลาน เขาก็พบว่าอวี้ชิงลั่วไม่อยู่ตำหนักแล้ว
เขาขมวดคิ้วและไปหาเย่ฉิงเป่ย
เย่ฉิงเป่ยอยากเข้าวังไปพร้อมกับอวี้ชิงลั่วมาก แต่เมื่อเห็นสายตาเกรี้ยวกราดของมารดาก่อนจากไป เขาก็จำต้องอยู่อย่างเชื่อฟัง
เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่มาถึงประตู เขาก็ยกมือขึ้นยอมแพ้ทันที และทรยศแม่ตัวเองอย่างมีความสุข “พี่ใหญ่ ท่านอย่าโกรธเลย เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการแก้แค้นของท่านแม่ เพราะเรื่องต้นไม้แก้วเคลือบหลากสีทำให้ท่านแม่โกรธมาก”
หนานหนานเย้ยหยัน “การแก้แค้นของนางก็แค่หลอกล่อให้ข้ากลับมา ไม่มีอะไรมากกว่านี้อีกหรือ?”
ไม่ง่ายเลยจริง ๆ ที่จะหลอกพี่ใหญ่ได้
เย่ฉิงเป่ยเม้มปาก หรี่ตาลงครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ขณะที่กำลังคิดจะบอกความจริงและหักหลังแม่ของเขาอย่างละเอียด พ่อบ้านหยางก็วิ่งเข้ามาจากนอกประตู
“คุณชายใหญ่ขอรับ คุณชายรอง เวยซื่อจื่อมาที่นี่ และบอกว่าต้องการจะปรึกษาบางอย่างกับคุณชายใหญ่ขอรับ”
เจ้าหลานเวยงั้นหรือ? หนานหนานขมวดคิ้ว ถ้าเขามา… อาจจะมีเบาะแสเกี่ยวกับท่านลุงอู๋
เย่ฉิงเป่ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “พี่ใหญ่ ในเมื่อพี่เวยมีเรื่องมาหาท่าน ท่านก็ควรรีบไปพบเขานะขอรับ”
ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้มีคำอธิบายให้แม่
หนานหนานหรี่ตาจ้องมองเย่ฉิงเป่ยอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ “เจ้าอย่าปกปิดข้าจะดีกว่า”
จากนั้นเขาก็หันหน้าไปพูดกับพ่อบ้านหยางว่า “เจ้าไปบอกให้เย่หลานเวยรอข้าที่ห้องตำรา” หลังจากพูดจบ เขาก็เดินออกไป
เย่ฉิงเป่ยกำหมัดแน่นและขมวดคิ้ว มันไม่ดีเลยที่ผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามระหว่างพี่ใหญ่กับแม่
หลังจากที่หนานหนานออกจากเรือนของเย่ฉิงเป่ย เขาก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ และบอกพ่อบ้านหยางว่า “ข้าจะอยู่ในจวนเสนาบดีฝั่งขวาเป็นเวลาสองวัน ข้ามีเรื่องต้องปรึกษาขอความรู้จากเสนาบดีฝั่งขวา”
“…” หัวใจของพ่อบ้านหยางสั่นสะท้าน เขารู้สึกอยู่เสมอว่าพายุกำลังจะมา แม้แต่คนที่ฉลาดและรอบคอบอย่างนายน้อยก็ยังหลีกหนี แล้วเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บไปด้วยหรือ?
ท่านอ๋อง เมื่อใดท่านจะกลับมาขอรับ?
พ่อบ้านหยางตัวสั่นเทา และรีบวิ่งไปบอกเย่หลานเวย
เย่หลานเวยนั่งดื่มชาอย่างเกียจคร้านอยู่ในห้องโถงด้านหน้า เขาต้องการรอให้หนานหนานมาเชิญเขาด้วยตัวเอง เพราะอย่างไรเสีย เขาก็มีข่าวอยู่ในมือ
แต่หลังจากรอมานานแล้ว เขาก็ได้ยินพ่อบ้านหยางหัวเราะฝืดเฝื่อน “เวยซื่อจื่อ ซื่อจื่อของเรากำลังรอท่านอยู่ที่ห้องตำราพ่ะย่ะค่ะ”
เย่หลานเวยอารมณ์เสียจนอยากจะอาละวาด แต่สุดท้ายเขาก็รู้นิสัยของหนานหนานดี เขาจึงยืนขึ้น แสร้งทำเป็นจัดแขนเสื้อให้ตรง แล้วเดินจากไป “ตกลง ข้าจะไปเอง”
พูดจบ เขาก็ออกจากโถงด้านหน้าว่องไวปานลมพัด
เมื่อพ่อบ้านหยางต้องการตามไป มีหรือจะเห็นเงาของเขา?
เย่หลานเวยเดินไปที่ห้องตำราของหนานหนานด้วยความคุ้นเคย แต่เมื่อเขาไปถึงศาลาริมทะเลสาบ เขาก็เห็นกลุ่มคนกำลังเดินมาแต่ไกล
ดวงตาของเขาเฉียบคม หลังจากหรี่ตาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เดินตรงไปอยู่ข้างเนี่ยนเนี่ยน แตะศีรษะของนาง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “เนี่ยนเนี่ยน”
“…” เนี่ยนเนี่ยนตกใจ เขาเป็นคนหุนหันพลันแล่นจริง ๆ นางนึกอยากจะวางยาพิษทุกคนที่แตะศีรษะนางให้ตาย
หลานสุ่ยชิงรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเย่หลานเวย คนที่สามารถใกล้ชิดกับเนี่ยนเนี่ยนได้นั้นต้องมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมาก และเขาสามารถเข้าออกตำหนักอ๋องซิวได้อย่างอิสระเช่นนี้…
เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาเป็นซื่อจื่อองค์โตของตำหนักอ๋องซิว?
หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้ว รูปร่างหน้าตาของเขาหล่อเหล่ายิ่งนัก ดูราวกับมีพลังงานที่ไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ซ่านออกมาจากทั่วร่างกาย ดูเป็นชายชาตรีมาก
แต่ว่า… นางเปรียบเทียบเขากับหนานหนานในใจ และยังคงรู้สึกว่า อืม สายตาของนางดีมาก
“นี่คือ…” ขณะที่นางกำลังคิด เสียงที่อยากรู้อยากเห็นของเย่หลานเวยก็ดังขึ้น จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว
สวมชุดเช่นนี้… เขาหันหน้าไปเงียบ ๆ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง
เนี่ยนเนี่ยนถอยห่างจากเขาสองก้าว เพื่อป้องกันไม่ให้เขาแตะต้องนางอีกแม้แต่ปลายเล็บ จากนั้นจึงแนะนำว่า “นี่คือลูกสาวคนโตจากจวนของรองเจ้ากรมหลาน สุ่ยชิง นี่คือเวยซื่อจื่อแห่งตำหนักองค์ชายสาม”
หลานสุ่ยชิงและเย่หลานเวยตกตะลึงพร้อมกัน แล้วฝ่ายแรกก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางรู้สึกว่าหากนางต้องการหารือเรื่องการหย่าร้างกับซื่อจื่อองค์นี้ เห็นทีจะเป็นเรื่องยากมาก
มุมปากของฝ่ายหลังกระตุกด้วยความสงสัย ลูกสาวคนโตจากจวนของรองเจ้ากรมหลานงั้นหรือ? นี่หรือคือสตรีที่เย่ฉิงหนานอยากแต่งงานด้วย?
ไม่มีทาง รสนิยมเช่นนี้…
เย่หลานเวยสั่นไปทั้งตัว ก่อนยิ้มแห้งให้เนี่ยนเนี่ยน “ฮ่าๆ ข้าได้ยินชื่อเจ้ามานานแล้ว โอ้ ใช่ แล้วพวกเจ้ากำลังจะไปที่ใด?”
“ไปหาหนังสือสองเล่มในห้องตำราของพี่ใหญ่”
“อ๋อ” เย่หลานเวยพยักหน้า และไม่ได้เอ่ยคำใดอีก
แต่หลังจากที่เขาหันหลังเดินออกไป ฝีเท้าของเขาก็เร็วขึ้นมาก เนื่องจากเนี่ยนเนี่ยนและพวกนางกำลังจะไปที่ห้องตำรา ก็แสดงว่าต้องได้พบเย่ฉิงหนานแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องรีบไปก่อนพวกนาง… เพื่อจะได้หัวเราะเยาะเขา
เมื่อนึกถึงการแต่งกายของลูกสาวคนโตของตระกูลหลาน เขาก็รู้สึกขบขันยิ่งนัก
ดังนั้นทันทีที่ประตูห้องตำราของหนานหนานถูกเปิดออก เย่หลานเวยก็รีบนั่งบนเก้าอี้ และไม่อาจกลั้นหัวเราะได้อีกต่อไป
“ฮ่าๆๆ หนานหนาน แม้ว่าข้าจะรู้ว่ารสนิยมของเจ้าไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นนี้ ฮ่าๆ เจ้าตกหลุมรักนางได้อย่างไร?”
หนานหนานขมวดคิ้ว “เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?”
ยิ่งเย่หลานเวยคิดเรื่องนี้มากเท่าใด เขาก็ยิ่งขบขันมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ยินว่าหนานหนานสั่งการเรื่องงานแต่งเป็นการส่วนตัว เขาก็ยิ่งรู้สึก… โอ๊ย ปวดท้องไปหมดแล้ว
หนานหนานรออยู่นาน แต่ไม่เห็นการตอบสนองของเขา ขณะที่กำลังจะโยนเขาออกไปก็มีเสียงเคาะประตูห้องตำรา แล้วเสียงคมชัดของเนี่ยนเนี่ยนก็ดังขึ้น “พี่ใหญ่”
“เข้ามา”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะได้เจอกันแล้ว อีกเดี๋ยวจะตะลึงกันไหมนะ
ไหหม่า(海馬)