อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 62 ท่าทาง
ตอนพิเศษ 62 ท่าทาง
ตอนพิเศษ 62 ท่าทาง
เมื่อหนานหนานเห็นว่านางกำลังร้องไห้ เขาก็รู้สึกใจหายทันที รีบปล่อยมือก่อนจะลุกขึ้นนั่ง แล้วกอดนางไว้ขณะลูบเบา ๆ “เจ้า เจ้าใจเย็นก่อน อย่าร้องไห้ ข้ารู้ว่าข้าผิดที่ปิดบังเจ้า เดิมทีข้าตั้งใจจะบอกเจ้าแล้ว แค่ยังหาโอกาสไม่ได้”
ตั้งแต่วินาทีที่เขาได้รู้จักหลานสุ่ยชิง เขาก็รู้ดีว่าหลานสุ่ยชิงค่อนข้างมีอคติกับเหล่าหญิงสาวชนชั้นสูง ในเวลานั้น ถ้านางรู้ว่าเขาเป็นซื่อจื่อองค์โตแห่งตำหนักอ๋องซิว ก็เกรงว่าต่อไปจะไม่มีทางสานความสัมพันธ์ได้
ต่อมาทั้งสองค่อย ๆ มีความรู้สึกต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงเริ่มกังวลอีกครั้ง กังวลว่านางจะตำหนิเขาที่ปิดบังตัวตน
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาจึงให้ความสนใจกับเรื่องลุงอู๋ โดยคิดว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนกับนาง หลังจากได้ข่าวของลุงอู๋แล้ว
ด้วยวิธีนี้น่าจะทำให้นางประหลาดใจ และช่วยให้นางโกรธเขาเรื่องปกปิดตัวตนน้อยลง นับว่าเป็นการชดเชย
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาจึงบอกให้เย่หลานเวยค้นหาเบาะแสของลุงอู๋อย่างไม่หยุดหย่อน และเริ่มเสนอให้ฮ่องเต้รื้อฟื้นคดีผู้อาวุโสอู๋ในตอนนั้น แต่ตั้งแต่เขารู้ว่าหลานสุ่ยชิงกำลังลำบากในจวนหลาน เขาก็กลัวว่าหากเขาไม่คอยดูนางไว้ นางจะถูกคนใจร้ายในจวนหลานรังแก เขาจึงขอให้แม่ของเขาไปสู่ขอนางและคอยสนับสนุนนาง เพื่อให้คนจวนหลานกลัวเกรงสถานะของนาง และไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ผลลัพธ์ในสองสามวันที่ผ่านมานั้นดีจริง ๆ ไท่ฮูหยินแห่งจวนหลานไม่กล้าเหยียดหยามสุ่ยชิงอีกต่อไป
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เขาจะได้ปรากฏตัวต่อหน้านางในฐานะซื่อจื่อของท่านอ๋องซิว และบอกข่าวดีอีกสองเรื่องแก่นาง
แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าหลานสุ่ยชิงจะมาปรากฏตัวที่ตำหนักอ๋องซิวในวันนี้ โดยเนี่ยนเนี่ยนพานางเข้ามาในห้องตำราของเขาแบบโต้ง ๆ เลย
เนี่ยนเนี่ยนงั้นหรือ??
หนานหนานขมวดคิ้วมุ่น นึกขุ่นเคืองอยู่ในใจ นางต้องถูกท่านแม่ยุยงเป็นแน่
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยโทสะ แต่เมื่อเห็นดวงตาสีแดงก่ำของหลานสุ่ยชิง เขาก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป “ข้าผิดไปแล้ว เชิญเจ้าจัดการข้าได้เลย ดีหรือไม่ อย่าร้องไห้เลยนะคนดี ไม่ร้องนะ”
หลานสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขาอย่างดุดัน แต่รู้สึกเหมือนมีบางอย่างจุกอยู่ที่คอ ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
หนานหนานกระวนกระวายมาก “ไม่อย่างนั้นเจ้าก็ตีข้าได้เลย ตีกี่ครั้งก็ได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”
หลานสุ่ยชิงเพียงหลับตา หันหน้าหนี และไม่พูดอะไรสักคำ
“สุ่ยชิง…” เขาจับมือเล็ก ๆ ของนางมากุมไว้ “ที่พื้นมันเย็น ลุกขึ้นก่อน”
หลานสุ่ยชิงเม้มปาก และยังคงนิ่งอยู่
“ถ้าเจ้าร้องไห้อีก หน้าของเจ้าจะเละหมดนะ” หนานหนานแอบถอนหายใจ พลั้งพลาดเพียงครั้งเดียว ฝังเจ็บกลางใจชั่วชีวิต
แต่เมื่อเห็นหน้าของนาง… จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเอะใจเล็กน้อย ปรากฏว่าวันนี้นางแต่งตัวมาเป็นพิเศษ ด้วยชุดที่ไม่เรียบร้อยอย่างยิ่ง เพื่อมาพบซื่อจื่อองค์โตแห่งตำหนักอ๋องซิว
ดูเหมือนว่านางจะไม่ค่อยพอใจนัก ที่จะได้แต่งงานกับซื่อจื่อองค์โตแห่งตำหนักอ๋องซิว
ทันทีที่เขานึกถึงเรื่องนี้ นัยน์ตาของเขาก็อ่อนโยนลง ทันทีที่หลานสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นสายตาที่ราวกับจะบอกว่าเขาสมควรถูกโบย
นางเช็ดหน้าอย่างแรง ก่อนผลักเขาออกไป แล้วลุกขึ้นยืนทันที
หนานหนานรีบลุกขึ้นเดินไปคว้าตัวนางอีกครั้ง
หลานสุ่ยชิงโกรธ และผลักเขาอย่างแรง
นางไม่รู้ว่านางไปสัมผัสตรงไหน จู่ ๆ หนานหนานก็ขมวดคิ้ว แล้วเลือดก็พลันไหลออกมาจากมุมปาก
หลานสุ่ยชิงตกตะลึง สีหน้านางเปลี่ยนไปทันที นางไม่สนใจสิ่งใด แล้วรีบเข้าไปประคองร่างอันสั่นเทาของเขา แล้วถามอย่างกระวนกระวายว่า “เจ้า เจ้าเป็นอะไรไป?”
“อึก… ได้รับบาดเจ็บภายใน” ตอนแรกหนานหนานอยากจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เมื่อเห็นท่าทางกังวลของนาง ขาของเขาก็อ่อนแรงลงทันที แล้วเอนตัวไปพิงไหล่นาง
หลานสุ่ยชิงไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบาดเจ็บภายใน แต่ก็พอรู้ว่าการบาดเจ็บภายในนั้น มองไม่เห็นและไม่ง่ายที่จะรักษา
ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอและทำอะไรไม่ถูกของหนานหนาน และนึกถึงการซัดฝ่ามือที่ไร้ความปรานีของเย่หลานเวย กับกองหนังสือจากตู้ที่หล่นลงมาทับ หัวใจของนางก็ร้อนรุ่มราวกับมีเพลิงลุกโหม รีบพยุงเขาไปนั่งบนเก้าอี้ด้านข้าง
“ข้า ข้าจะรีบไปตามเนี่ยนเนี่ยนเดี๋ยวนี้” หลานสุ่ยชิงหันกลับ กำลังจะเดินจากไป
แต่นางไม่คิดว่าหนานหนานจะรั้งนางไว้ เมื่อนางหันกลับมา เขาก็ผุดขึ้นจากเก้าอี้อีกครั้ง ก่อนจะกอดนางไว้แนบอก แล้วดันตัวนางลงไปที่พื้นอีกครั้ง
จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาเปรอะเปื้อนพื้นด้านข้าง
ดวงตาของหลานสุ่ยชิงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้นางไม่สนใจอะไรแล้ว นางรีบเงยหน้าขึ้นตะโกนไปที่ประตู “เนี่ยนเนี่ยน เนี่ยนเนี่ยนเร็วเข้า เนี่ยนเนี่ยน…”
ไม่มีการเคลื่อนไหวนอกประตู หลานสุ่ยชิงหันหน้ามามองหนานหนานอีกครั้ง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้ามียารักษาอาการบาดเจ็บภายในติดตัวไว้บ้างหรือไม่?”
“…มี แค่ก แค่ก” หนานหนานพยายามเอื้อมมือไปหยิบ แต่หลานสุ่ยชิงยิ่งร้อนใจ เมื่อเห็นท่าทางเชื่องช้าและไร้เรี่ยวแรง
นางรอไม่ไหวแล้ว และรีบใช้มือสัมผัสร่างเขาเพื่อหายา
หนานหนาน “…”
ถ้าสัมผัสแบบนี้ไฟจะติดหรือไม่?
หลังจากนั้นไม่นาน หลานสุ่ยชิงก็หยิบขวดกระเบื้องขนาดเล็กสองขวด ออกมาจากแขนเสื้อของเขาอย่างลนลาน เมื่อนางเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าหนานหนานหายใจถี่ขึ้นกว่าเดิม จนเกือบจะเป็นอาการหอบราวกับผู้ป่วยหนัก
นางรีบถามว่า “สองขวดนี้ ขวดไหน ขวดไหนที่ต้องใช้?”
“สีฟ้า… สีน้ำตาล…”
“…” ขวดไหนกันแน่?
หลานสุ่ยชิงเช็ดมุมปากที่เปื้อนเลือดของเขาด้วยมือ เสียงของนางเบาลงเล็กน้อย “ขวดสีน้ำตาลใช่หรือไม่?”
“ใช่ ไม่ใช่”
เหตุใดรู้สึกว่าเขาไม่มีสติเลย? ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?
“อวี้ฉิงหนาน อวี้ฉิงหนาน เจ้าตั้งสติ บอกข้าก่อนว่าขวดไหนแน่?”
หนานหนานซุกหน้ากับซอกคอของนาง ร่างกายเขาหนักจนไม่สามารถขยับได้
หางตาของหลานสุ่ยชิงเหลือบไปเห็นคราบเลือดอยู่บนพื้น นางรู้สึกราวกับว่าหัวใจกำลังจะหยุดเต้น
นางพยายามผลัก แต่แรงของนางมีจำกัด นางไม่สามารถผลักเขาได้เลย นางกลัวว่าจะทำให้อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลงโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงได้แต่ปล่อยให้เขาทับอยู่เช่นนั้น
เพียงแต่ตอนนี้เขาบอกนางไม่ได้ว่ายาขวดไหนใช้ได้ผล และเขาก็ช่วยตัวเองไม่ได้ สิ่งเดียวที่ต้องทำคือ…
“เนี่ยนเนี่ยน มีใครอยู่ข้างนอกหรือเปล่า? มีใครอยู่หรือไม่? เข้ามาเร็ว ซื่อจื่อของพวกเจ้าบาดเจ็บ”
เสียงของนางเริ่มเข้มขึ้น แต่ข้างนอกก็ยังคงเงียบกริบ
สักพักก็มีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังมาแต่ไกล
หลานสุ่ยชิงไม่ได้ยิน แต่หนานหนานได้ยินชัดเจนมาก เขาลอบสบถอยู่ในใจ แต่ยังคงต้องทำเป็นตอบสนองเชื่องช้า
“สุ่ยชิง…”
หลานสุ่ยชิงดีใจมาก รีบหันกลับมามองเขา “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้ได้สติแล้วหรือ? มียาสองขวดอยู่ที่นี่ ขวดไหนใช้รักษาอาการบาดเจ็บภายใน?”
หนานหนานมองไปที่ขวดสีฟ้า
หลานสุ่ยชิงรีบเปิดฝาขวด เทยาสองเม็ดออกมา แล้วถามว่า “พอหรือไม่?”
“พอแล้ว”
ไม่นานก็มีเสียงเคาะประตู “ก๊อก ๆ” ดังขึ้นสองครั้ง
หลานสุ่ยชิงเอียงคอและเรียก “รีบเข้ามาเร็ว”
หนานหนานมองนางอย่างทำอะไรไม่ถูก นางลืม…ท่าทางของพวกเขาในตอนนี้ไปหรือเปล่า?
ประตูถูกเปิดออกดัง ‘แอ๊ด’ เมื่อคนที่อยู่นอกประตูเข้ามา เขาก็สูดหายใจเข้าลึกทันที รูม่านตาที่แคบลงจ้องมองไปยังคนทั้งสองที่กำลังทับกันอยู่
…………………………………………………………………………………………………………….. สารจากผู้แปล
เอารางวัลตุ๊กตาทองไปเลยหนานหนาน ใช้อาการบาดเจ็บของตัวเองง้อสาว
ใครเปิดประตูเข้ามาตอนนี้เนี่ย มาได้จังหวะนรกพอดีเลย
ไหหม่า(海馬)
———————-