อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 63 พวกเจ้าจัดการต่อ
ตอนพิเศษ 63 พวกเจ้าจัดการต่อ
ตอนพิเศษ 63 พวกเจ้าจัดการต่อ
หนานหนานเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขา เย่หลานเวยถึงกับสะอึกไปครู่หนึ่ง ก่อนไม่ได้พูดอะไรสักคำและถอยออกไป “ขอโทษที่รบกวนนะ”
หลังจากพูดจบ เขาก็คว้ากรอบประตูอย่างว่องไวและปิดประตู
หลานสุ่ยชิงรีบหยุดเขา “อย่าเพิ่งไป เขาได้รับบาดเจ็บจนกระอักเลือด มีอาการบาดเจ็บภายในสาหัส”
เย่หลานเวยอึ้งและเงยหน้าขึ้นมองหนานหนาน แม้ว่าฝ่ามือของเขาตอนนั้นจะค่อนข้างหนัก ส่วนหนานหนานก็ไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งยังถูกกองหนังสือหล่นลงมาทับอีก จึงเป็นไปได้ที่เขาอาจได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ก็ไม่…ถึงกับสาหัสไม่ใช่หรือ?
แต่ท่าทางกระวนกระวายของหลานสุ่ยชิงดูเหมือน…เป็นจริง
มุมปากของเย่หลานเวยกระตุก หนานหนานเป็นคนร้ายกาจจริง ๆ ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเป็นคนร้ายกาจและกะล่อนเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
แต่ด้วยหน้าตาของหลานสุ่ยชิงตอนนี้ ใบหน้าของนางเละเทะไปหมด คาดไม่ถึงเลยว่าเขายังจะแนบชิด…
แน่นอนว่ารสนิยมของเขาแย่มาก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่หลานเวยก็ตัวสั่นสะท้าน แต่ก็ยังรีบวิ่งเข้าไปประคองหนานหนานขึ้นมาด้วยความยากลำบาก
หลานสุ่ยชิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง บัดนี้นางเพิ่งตระหนักได้ว่าท่าทางของนางกับเขาตอนนี้มัน…อนาจารมากจริง ๆ
ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างผิดธรรมชาติ แต่เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของหนานหนาน อาการนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบลุกขึ้นเดินไปอยู่ข้างหนานหนานทันที
เมื่อคิดว่าอาการบาดเจ็บของเขาเกิดจากเย่หลานเวย หลานสุ่ยชิงก็จ้องมองเย่หลานเวยด้วยสายตาไม่เป็นมิตร จ้องมองด้วยสายตาราวกับจะเจาะทะลวงร่างเขาให้เป็นรู
ทันทีที่เย่หลานเวยเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นใบหน้าขาวซีดที่มีรอยแดงเป็นปื้นที่แก้มสองข้างของนาง หลานสุ่ยชิงขณะนี้เหมือนผีสาวผู้มีท่าทางดุร้าย
เขารีบก้มหน้าลง พลางสวดมนต์เงียบ ๆ อยู่ในใจ แล้วพยุงหนานหนานเดินออกไปนอกห้องตำราด้วยฝีเท้าที่ค่อนข้างเร็ว
หนานหนานแอบหยิกเขา แล้วทิ้งน้ำหนักทั้งตัวไปที่เขา ส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับมือของหลานสุ่ยชิงแน่น ไม่กล้าปล่อยแม้สักครู่เดียว
เย่หลานเวยรู้สึกว่า… รสนิยมของหนานหนานไม่เพียงแย่เท่านั้น แต่ยังผิดปกติมากอีกด้วย
คิดดูแล้วบางทีเขาควรจะหาโอกาสคุยกับท่านน้าชิง
ทั้งสามคนเดินออกจากห้องตำราด้วยกัน จนกระทั่งเดินมานาน พวกเขาก็เห็นเยียนจือยืนเฉยอยู่ที่ทางเดิน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เยียนจือก็รีบหันหน้ามามอง ทันทีที่เห็นใบหน้าของคุณหนูเละเทะไปหมด นางก็ตกใจกลัวทันที แล้วรีบวิ่งไปหา “คุณหนู ท่านเป็นอะไรไปเจ้าคะ?”
หลานสุ่ยชิงส่ายหน้า นางไม่มีเวลาตอบคำถาม และได้แต่ถามว่า “เนี่ยนเนี่ยนอยู่ที่ใด?”
“เสี่ยวจวิ้นจู่บอกว่ามีเรื่องต้องทำ จึงต้องเข้าไปในวังหลวง แล้วบอกให้บ่าวรอคุณหนูอยู่ตรงนี้เจ้าค่ะ” อันที่จริงนางไม่สบายใจมากเมื่อเนี่ยนเนี่ยนไม่อยู่
หนานหนานหรี่ตาลง นางตัวแสบ นางหนีไปได้ไวจริงๆ
เหวินเกอเข้ามาอย่างรวดเร็ว หนานหนานหันขวับไปมองค้อนเขา ทำให้เหวินเกอหดคอแล้วถอยออกไปเงียบ ๆ
เขานึกเสียใจที่ไม่ได้ไปที่จวนเสนาบดีฝั่งขวากับนายน้อยเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ทุกคนที่ควรจะหนีได้หนีไปหมดแล้ว ซื่อจื่อจะไม่จัดการเขาคนเดียวใช่หรือไม่?
เหวินเกอเริ่มกังวลเรื่องชะตากรรมของตัวเอง แต่ก็ยังคงติดตามทั้งสามไปเงียบ ๆ และช่วยประคองหนานหนานไปพักผ่อนในเรือน
หลานสุ่ยชิงนั่งอยู่บนขอบเตียง คิ้วขมวดเป็นปม “เนี่ยนเนี่ยนไม่อยู่ หวางเฟยก็ไม่อยู่ แล้วมีใครในตำหนักที่มีทักษะทางการแพทย์หรือไม่?”
“อืม มีหมอประจำตำหนัก” แม้ว่าอวี้ชิงลั่วและเนี่ยนเนี่ยนจะเป็นหมอที่เก่งกาจ แต่มีคนมากมายในตำหนักแห่งนี้ จะมีบางคนที่เป็นหวัดหรือมีไข้เสมอ พวกนางเป็นทั้งสตรีและเจ้านาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้พวกนางลงมือรักษาเอง
ดังนั้น ตำหนักอ๋องซิวจึงมีหมอประจำอยู่ด้วย
เย่หลานเวยอาสาไปเรียกหมอตอนนี้ ไม่เพียงเพราะหนานหนานแอบขยิบตาให้เขาเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะ… เขาไม่อยากเห็นใบหน้าที่น่ากลัวของหลานสุ่ยชิง
ความจริงแล้วสาวใช้ที่ชื่อเยียนจือคนนั้น ยังมีรสนิยมและงดงามกว่านางอีก
เย่หลานเวยตัวสั่น ก่อนวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เยียนจือไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นเลือดที่มุมปากของหนานหนาน นางก็รู้สึกวิตกเล็กน้อย
ซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวกระอักเลือดหรือ? เพราะเหตุใดกัน? เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณหนูต้องการถอนหมั้น แต่เขาไม่เห็นด้วยและถูกคุณหนูทำร้าย?
ไม่ๆๆ คุณหนูไม่ได้มีพละกำลังมากถึงเพียงนั้น
เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณหนูวางยาพิษซื่อจื่อองค์โตแห่งตำหนักอ๋องซิว?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ เยียนจือก็มีสีหน้า… กังวลมาก นางมองคุณหนูของนางด้วยแววตาไม่สบายใจ
เพียงแต่หลานสุ่ยชิงไม่ได้สนใจความคิดของเยียนจือเลย เมื่อมองใบหน้าซีดขาวของหนานหนาน ดวงตาของก็นางเต็มไปด้วยความวิตกกังวล หันหน้าไปมองนอกประตูเป็นครั้งคราว
“เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง? กินยาสองเม็ดนั่นแล้วดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?”
“อืม ดีขึ้นมากแล้ว” หนานหนานยกยิ้มให้นาง ขณะจับมือนางไว้แน่น
“ไม่ต้องห่วง อีกประเดี๋ยวหมอก็มาแล้ว”
“เช่นนั้นก็อยู่กับข้าที่นี่สิ”
“อืม”
เยียนจือกะพริบตา ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูกับโอรสของท่านอ๋องซิว… จู่ ๆ จะสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?
นางแทบรอไม่ไหวที่จะคิดเรื่องนี้ จากนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าจากนอกประตู
หลังจากนั้นไม่นาน เย่หลานเวยก็เดินเข้ามาพร้อมกับหมออายุราวห้าสิบปี
หลานสุ่ยชิงลุกขึ้นหลีกทางให้ทันที ปล่อยให้หมอจับชีพจรของหนานหนาน
เมื่อสบตากับหนานหนาน มุมปากท่านหมอก็อดกระตุกไม่ได้ แต่ก่อนจะมาที่นี่ เย่หลานเวยได้เตือนเขาแล้ว เขาจึงได้แต่ทำเป็นจับชีพจรอย่างจริงจัง
หลังจากนั้นไม่นาน ภายใต้ความคาดหวังของคนในห้อง เขาก็ถอนหายใจและพูดว่า “อาการบาดเจ็บภายในนี้เกิดขึ้นจากการถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว เดิมทีพยายามข่มไว้ เมื่อพลังชี่และโลหิตพลุ่งพล่าน ย่อมทำให้กระอักเลือดออกมา แต่ซื่อจื่อได้รับยาแก้อาการบาดเจ็บภายในแล้ว จึงไม่มีปัญหาอะไรร้ายแรง แต่ตอนนี้ท่านต้องพักผ่อนโดยไม่ให้มีอะไรมารบกวน เพื่อไม่ให้อารมณ์แปรปรวนจนกระอักเลือดอีกพ่ะย่ะค่ะ”
หลานสุ่ยชิงพยักหน้าทันที แล้วหายใจออกช้า ๆ
หมอลุกขึ้นยืน “ข้าจะสั่งยาให้ซื่อจื่อ เมื่อซื่อจื่อตื่นนอนค่อยให้กินยา จากนั้นจะไม่มีปัญหาร้ายแรง”
หลังจากพูดจบ เขาก็เดินไปด้านข้างเพื่อเขียนใบสั่งยา
จนกระทั่งหมอจากไป เย่หลานเวยก็มายืนอยู่หน้าเตียงหนานหนานอีกครั้ง เขามองหน้าหลานสุ่ยชิงด้วยความรังเกียจเล็กน้อย จากนั้นมองไปที่หนานหนาน แล้วขยิบตาให้เขา
หนานหนานนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เขามาที่นี่เพื่ออะไร ก่อนหน้านี้คิดช้าไปหน่อย
เขาเม้มปาก แล้วพูดกับหลานสุ่ยชิงว่า “สุ่ยชิง เจ้าควรไปล้างหน้าก่อน”
เยียนจือไม่อยู่เฉยอีกต่อไป นางรีบก้าวเข้าไปพูดทันทีว่า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนู ใบหน้าของท่าน…” นางพูดจบก็เอนตัวไปกระซิบข้างหูหลานสุ่ยชิงว่า “แป้งกับชาดเละทั่วใบหน้าเลยเจ้าค่ะ”
หลานสุ่ยชิงตกใจ ทันใดนั้นก็นึกได้ว่าตัวเองร้องไห้อยู่พักหนึ่ง ทั้งวันนี้นางแต่งหน้าหนามาก เกรงว่าตอนนี้จะ…
ใบหน้าของนางแดงก่ำด้วยความอับอาย นางรีบพยักหน้าให้หนานหนาน และมีคนรับใช้ของตำหนักพาออกไป
หลังจากที่เย่หลานเวยรอให้นางจากไป เขาก็รู้สึกว่าตนหายใจได้สะดวกขึ้น
เขานั่งลงบนขอบเตียงของหนานหนานโดยไม่ต้องกังวลใจอีกต่อไป แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าบอกเลยว่าน่าเกลียดเกินไป สำหรับคนนี้… คนนี้…”
“หุบปาก หากเจ้ามีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา อีกสักพักพวกนางก็กลับมาแล้ว”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หนานหนานไม่ตาถั่วขนาดนั้นหรอกเวยซื่อจื่อ ลองให้คุณหนูหลานล้างหน้าออกมาสิ งามชวนตะลึงเลยล่ะ
ไหหม่า(海馬)