อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 71 นางต้องอยู่ห่างหน่อยแล้ว
ตอนพิเศษ 71 นางต้องอยู่ห่างหน่อยแล้ว
ตอนพิเศษ 71 นางต้องอยู่ห่างหน่อยแล้ว
“ในเมื่อจินซื่อต้องการครอบครองรองเจ้ากรมหลานนัก เช่นนั้นราตรีนี้ก็ให้รองเจ้ากรมหลานคุยกับนางให้เพลิดเพลิน จะได้ชิดใกล้แนบแน่นกันมากขึ้นอีกหน่อย ดีหรือไม่?” น้ำเสียงของหนานหนานอ่อนโยน แต่รอยยิ้มมีเลศนัย
อนุหลัวตัวสั่นอย่างไม่มีเหตุผล นางไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวผู้เลื่องชื่อ นางถึงรู้สึกตึงเครียด ราวกับว่าการจะยืนอยู่ตรงหน้าเขาได้ต้องใช้ความแข็งแกร่งทางจิตใจทั้งหมดของนาง
ความรู้สึกเช่นนี้ไม่เคยปรากฏเลย แม้จะต้องเผชิญหน้ากับรองเจ้ากรมหลานที่กำลังโกรธก็ตาม
ทว่าหลังจากได้ยินคำพูดของหนานซื่อจื่อแล้ว อนุหลัวที่เคยอยู่จุดนั้นมาก่อนก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็ว
นางหันไปมองหนานหนาน จากนั้นมองไปที่หลานสุ่ยชิงที่กำลังครุ่นคิดอยู่ ก่อนจะยกมือที่จู่ ๆ ก็ไร้เรี่ยวแรงขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วพูดด้วยว่า “เรื่องนั้นไม่น่าเป็นไปได้เพคะ แม้ว่านายท่านจะรักจินซื่อ แต่ห้องพระ… เป็นสถานที่ที่ไท่ฮูหยินให้ความสำคัญเสมอมา ไท่ฮูหยินจะไม่ยอมให้ใครไปทำเช่นนั้นที่นั่นเป็นอันขาด แม้ว่าเจ้านายจะไปห้องพระ แต่มากที่สุดก็แค่คุยพูดคุยปลอบประโลมนางเท่านั้นเพคะ”
หลังจากพูดเช่นนั้น อนุหลัวก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย นางปฏิเสธคำพูดของหนานซื่อจื่อด้วยการพูดเช่นนั้น เขาจะไม่โกรธหรือ…
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ อนุหลัวก็ถอยไปสองสามก้าวเงียบ ๆ แล้วไปซ่อนตัวอยู่หลังหลานสุ่ยชิง
มุมปากของหลานสุ่ยชิงกระตุก สายตาของนางจับจ้องไปยังสิ่งที่หนานหนานถืออยู่ในมือ
หนานหนานไม่ได้สนใจคำพูดของอนุหลัว เขาโยนขวดยาในมือขึ้น แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่ากังวลไปเลย สิ่งนี้คือ… ยาปลุกกำหนัด เพียงแค่นิดเดียวก็ทำให้ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว”
อนุหลัวตาเป็นประกาย อืม หากมีสิ่งนี้ เรื่องนั้นก็… ทำได้จริงก็ดี
แต่หลานสุ่ยชิงคิดซับซ้อนกว่านั้นมาก นางขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงว่า “มันจะไม่ทิ้งร่องรอยใช่หรือไม่? จะไม่ก่อให้เกิดความสงสัยในภายหลังหรือ? จะไม่มีร่องรอยหลงเหลืออยู่เลยใช่หรือไม่? แม้ว่าพ่อของข้าจะวุ่นวายกับสวนหลังบ้านของจวนหลาน แต่อย่างไรเสีย เขาก็เป็นรองเจ้ากรมกรมราชทัณฑ์ จึงมีประสบการณ์มากในการสืบหาและตัดสินคดี หากเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติทีหลัง ข้าเกรงว่าข้าจะเป็นคนต้องสงสัยคนแรก”
นี่คือเหตุผลที่นางไม่กล้าจัดการจินซื่อกับลูกสาว รองเจ้ากรมหลานกับไท่ฮูหยินเคยมีอคติกับนาง ดังนั้นเมื่อมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นในจวนหลาน พวกเขาจะตำหนินางเสมอ ไม่ว่าจะมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ก็ตาม
ดวงตาของหนานหนานมืดมนลงเล็กน้อย “อย่ากังวล อยู่กับข้าที่นี่ ไม่มีใครสงสัยเจ้าหรอก”
อนุหลัวหน้าแดงทันทีกับคำพูดเด็ดขาดประโยคนั้น อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
โลกนี้ยังคงยุติธรรม แม้คุณหนูใหญ่จะทนทุกข์มามากในช่วงสิบปีที่ผ่านมา แต่จะเห็นได้ว่าหนานซื่อจื่อคนนี้แตกต่างจากนายท่านอย่างสิ้นเชิง ในอนาคตคิดว่าเขาน่าจะปฏิบัติต่อคุณหนูใหญ่เป็นอย่างดี
หลานสุ่ยชิงก็ตกตะลึงกับคำพูดของเขาเช่นกัน นางรู้สึกได้ถึงการมีที่พึ่ง อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในหัวใจ
เป็นเวลาหลายปีที่นางไร้ซึ่งคนที่พึ่งพาได้ในทุกเรื่อง แต่ตอนนี้นางรู้สึกว่าเป็นเรื่องดีที่มีเขาอยู่ข้างกาย
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง หนานหนานก็จิตใจปั่นป่วน
เขาเดินเข้าไปใกล้นาง แล้วยืนนิ่งเขย่าขวดตรงหน้านาง ก่อนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยานี้ทำขึ้นสำหรับสตรีโดยเฉพาะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไร้ร่องรอย คนที่ถูกวางยาจะรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และจำได้ทุกคำที่พูด แต่… ควบคุมตัวเองไม่ได้ สุดท้ายแล้วสิ่งนี้ก็แค่กระตุ้นความคิดของนางเอง”
จินซื่องดเว้นกามารมณ์อยู่ในห้องพระมาหลายวัน จิตใจของพวกนางกำลังวิตกกังวล เฝ้ารอแผลงฤทธิ์ดั่งเสือและหมาป่าอีกครั้ง นางต้องการออกจากห้องพระ โดยรู้ดีว่าอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของพวกนางคือเรือนร่างอันเย้ายวน
ใจนางกระตือรือร้นยิ่งกว่ารองเจ้ากรมหลาน พวกนางต้องการใช้วิธีนี้เพื่อคว้าหัวใจของรองเจ้ากรมหลานมาครอบครอง
เพียงแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางยังคงมีสติดี รู้ว่าตนอยู่ที่ไหน และควบคุมความคิดและการกระทำของตนได้
แต่ด้วยยานี้ นางจะลืมจริยวัตรในห้องพระเสียสิ้น แม้จะรู้ว่าตนอยู่ที่ไหนก็จะไม่สนใจ คิดดูแล้วยานี้เพียงแค่กระตุ้นความปรารถนาส่วนลึกในใจของนางเท่านั้น และมีฤทธิ์เร่งให้เกิดปฏิกิริยา
ดังนั้นนางจะไม่มีพฤติกรรมร้อนรน ไม่เหมือนกับยาปลุกกำหนัดทั่วไป ซึ่งทำให้คนเห็นสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
หนานหนานอธิบายถึงตรงนี้ แล้วก็หัวเราะอีกครั้ง “แน่นอนว่าแม้รองเจ้ากรมหลานจะทำตัวเงียบขรึม แต่เมื่อเผชิญกับการยั่วยวนของจินซื่อ หากเขาต้องสงบสติอารมณ์ไว้… เขาก็คงจะอับอายจริง ๆ”
ถ้ายังคงนิ่งเฉยได้อยู่ ก็คงไม่มีอนุมากมายถึงเพียงนี้
หนานหนานนึกดูหมิ่นเขาอยู่ไม่น้อย ในใจตอนนี้ยังคงชื่นชมพ่อของเขาเรื่องนี้
ดวงตาของอนุหลัวเป็นประกาย ก่อนจะหรี่ลงเล็กน้อย แต่ไม่นานนางก็ได้สติ นางไม่รู้มาก่อนหรือว่ารองเจ้ากรมหลานเป็นคนเช่นไร? ตอนนี้จะมัวคิดอะไรอยู่?
ภารกิจเร่งด่วนที่สุดคือกำจัดจินซื่อให้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกชายของอนุฉีสามารถยืนต่อหน้าทุกคนได้อย่างเปิดเผย
นางไม่ต้องการความรักเพื่อตัวเอง นางแค่ต้องการล้างแค้นให้ลูกของนาง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ไฟแค้นก็โหมกระหน่ำลุกโชนขึ้นในใจนาง และความกล้าหาญของนางก็เพิ่มขึ้นด้วย จนสามารถทนต่อแรงกดดันที่หนานหนานปล่อยออกมาได้
“แล้วจะวางยานี้อย่างไรเพคะ?”
หนานหนานชำเลืองมองนาง จากนั้นสบตากับหลานสุ่ยชิง “ให้เรื่องนี้เป็นหน้าที่ข้าเอง”
“…” มันเกินความจำเป็นที่จะฝากไว้กับหนานซื่อจื่อหรือไม้?
แต่การที่หนานซื่อจื่อร่วมวางแผนกับพวกนาง แสดงว่าแผนการครั้งนี้จะต้องสำเร็จแน่นอน เดิมทีนางคิดว่าหนานซื่อจื่อจะแค่ออกความเห็นเท่านั้น และจะไม่เข้ามาร่วมด้วย
ดูเหมือนว่าเขาจะรักหลานสุ่ยชิงจริง ๆ ความมั่นใจของอนุหลัวจึงเพิ่มขึ้นทันที
“หลังจากเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ไท่ฮูหยินแห่งจวนหลานจะต้องโกรธแน่นอน ดูแล้วความรับผิดชอบเรื่องนี้จะตกอยู่ที่จินซื่อฝ่ายเดียว เพราะพวกนางเป็นฝ่ายยั่วยวนให้รองเจ้ากรมหลานทำเรื่องบัดสี แต่รองเจ้ากรมหลานก็จะต้องทุกข์ทนไปด้วยเช่นกัน แล้วไท่ฮูหยินก็ย่อมมีความแค้นอยู่ในใจ เมื่อเห็นจินซื่อกับรองเจ้ากรมหลานก็จะรู้สึกขัดหูขัดตา รองเจ้ากรมหลานเคารพและเชื่อฟังไท่ฮูหยินมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะยังคงมีความรู้สึกต่อจินซื่ออยู่ในใจ แต่ทุกครั้งที่เขาเห็นพวกนาง ก็จะนึกถึงแต่เรื่องนี้ไปตลอด ทำให้รู้สึกละอายใจต่อไท่ฮูหยิน และจะค่อย ๆ ห่างเหินจากพวกนางไป” หนานหนานรู้สึกแน่ใจว่าแผนการของเขาค่อนข้างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นสุ่ยชิงควรรักเขาให้มากกว่านี้อีกหน่อย
แต่เมื่อเขาก้มหน้าลง เขาก็เห็นหลานสุ่ยชิงมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ ชอบกล
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น มีปัญหาอะไรหรือไม่?”
มุมปากของหลานสุ่ยชิงกระตุก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง นางก็ถามว่า “ยานี้… ใครเป็นคนคิดค้นขึ้นมา? ไม่น่าจะใช่หวางเฟยใช่หรือไม่?”
ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำยานี้ ในอนาคตนางจะต้องอยู่ให้ห่างจากคนคนนี้หน่อยแล้ว
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
แผนการล้ำลึกนัก คนที่ปรุงยานี้ได้ก็น่าจะมีไม่กี่คนแหละสุ่ยชิง
ไหหม่า(海馬)