อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 75 ทุกคนล้วนช่วยหลานสุ่ยชิง
ตอนพิเศษ 75 ทุกคนล้วนช่วยหลานสุ่ยชิง
ตอนพิเศษ 75 ทุกคนล้วนช่วยหลานสุ่ยชิง
เขาส่งหลานสุ่ยชิงกลับไปที่เรือนสุ่ยสี แต่ไม่ได้จากไป
คืนนี้หลานสุ่ยชิงนอนไม่หลับ นางอารมณ์แปรปรวนเล็กน้อย เป็นเพราะอารมณ์ยังไม่คงที่
นางวิ่งไปที่โต๊ะแล้วเริ่มฝึกคัดลายมือ ตอนนี้ค่าใช้จ่ายประจำวันของนางได้รับอนุมัติตามสถานะคุณหนูของจวนหลานแล้ว จึงไม่ขาดแคลนพู่กัน หมึก กระดาษ และหินฝนหมึก
หลานสุ่ยชิงไม่รู้สึกง่วงนอนเลยทั้งคืน นางกำลังรอให้ไท่ฮูหยินตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้เช้า เพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพี่น้องจินซื่อ
แต่นางไม่ใช่คนเดียวที่นอนไม่หลับทั้งคืน
แม้ว่าอนุหลัวกับอนุฉีจะนอนอยู่บนเตียงเหมือนกัน แต่พวกนางยังคงลืมตามองดูค่ำคืนอันมืดมิด โดยไม่ขยับเขยื้อน
มุมปากของพวกนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมาก ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่จินซื่อส่งมาอยู่ในเรือนของพวกนาง พวกนางก็คงจะลุกขึ้นไปนั่งรอข่าวอยู่ในห้องแล้ว
สองพี่น้องจินซื่อวิตกกังวลมากกว่าเดิม พวกนางพยายามใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ไม่มีทางหนีรอดได้
แต่ถ้าพวกนางถูกจับโดยไม่ได้ดิ้นรนเลยเช่นนี้ พวกนางก็คงทนไม่ได้แน่นอน จะต้องหาทางให้ได้ สองพี่น้องจะพ่ายแพ้ลงเพราะเรื่องนี้ไม่ได้
ทั้งสองมองหน้ากัน ใช่แล้ว เรื่องนี้พวกนางต้องไม่พลาด ไม่เช่นนั้นด้วยสถานะปัจจุบันของอู๋ซื่อและหลานสุ่ยชิง พวกนางก็เกรงว่าจะถูกเหยียบย่ำทันที และคงไม่อาจพลิกกลับมาได้อีกแล้ว
ใช่แล้ว หลานสุ่ยชิง
เมื่อนึกถึงหลานสุ่ยชิง ดวงตาของเสี่ยวจินก็เป็นประกายขึ้นมา “พี่สาว มาทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นความผิดของหลานสุ่ยชิงกันเถอะ อย่างไรเสียก็คงเป็นเหมือนเมื่อก่อน ต้องทำให้ไท่ฮูหยิน…”
ก่อนที่นางจะพูดจบ ต้าจินก็ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้นางพูดต่อ
นางเหลือบมองจินซื่อ แล้วพูดด้วยเสียงเบาว่า “เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน ตอนนี้ทั้งไท่ฮูหยินและนายท่านต่างก็ยอมรับตัวตนของหลานสุ่ยชิงได้แล้ว อีกทั้งนางยังได้รับการสนับสนุนจากตำหนักอ๋องซิวที่คอยหนุนหลังนางด้วย ข้าจึงเกรงว่ามันจะจัดการได้ไม่ง่ายนัก”
“ตำหนักอ๋องซิวหรือ?” เสี่ยวจินพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา “สุ่ยหยวน สุ่ยเถียนไม่ได้บอกว่าหลานสุ่ยชิงมีคนอื่นที่นางรักแล้วหรือ? แล้วตำหนักอ๋องซิวจะทนกับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร หากเรื่องนี้ถูกเปิดโปง ข้าเกรงว่านางจะเป็นคนแรกที่ถูกคนของตำหนักอ๋องซิวจัดการ เอ๊ะ ใช่แล้ว ต้องใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วเปิดโปงเรื่องของหลานสุ่ยชิง เมื่อถึงเวลานั้น นายท่านก็จะไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราอีก ส่วนนังหญิงแก่นั่น ต้องฉวยโอกาสนี้ทำให้โกรธจนตายไปเสียเลย”
นัยน์ตาของต้าจินเป็นประกาย แต่ในไม่ช้าก็หรี่ตาลงอีกครั้ง แม้ว่านางจะคิดป้องกันไม่ให้หลานสุ่ยชิงมีชีวิตที่ดี แต่นางก็ต้องการให้ไท่ฮูหยินแห่งจวนหลานตายตกไปด้วย นางหวังว่าคนทั้งสองคนที่นางเกลียดที่สุดนี้จะได้รับการจัดการพร้อมกันในคราวเดียว และจากนี้ไป นางก็จะได้ปกครองทั้งจวนหลานแต่เพียงผู้เดียว
แต่มันยังเป็นไปไม่ได้
ยังไม่มีหลักฐาน และตอนนี้สถานการณ์ของหลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนก็ยังไม่แน่นอน
เนื่องจากกำลังจะจัดการกับหลานสุ่ยชิง จึงต้องโจมตีนางด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ไม่เช่นนั้นด้วยฝีปากที่คมคายของนาง ก็เกรงว่าตำหนักอ๋องซิวอาจเต็มใจจะไว้วางใจนาง และยืนเคียงข้างนาง ต่อให้พวกเขาจะมีความสงสัยอยู่ในใจ พวกเขาก็จะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะต้องการรักษาหน้าของจวน และสุดท้ายคนที่ต้องทนทุกข์ก็คือพวกนางเอง
การจัดการกับนางจึงจำเป็นต้องทำต่อหน้าทุกคน เพื่อไม่ให้หลานสุ่ยชิงมีโอกาสเล่นลิ้น และไม่ให้ตำหนักอ๋องซิวมีโอกาสสงบสติอารมณ์
ตอนนี้… ยังไม่ถึงเวลา
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด เสี่ยวจินก็ขมวดคิ้วแน่น พูดเช่นนั้นก็สมเหตุสมผลดี แต่ว่า…
“แล้วจะทำอย่างไรดี? พวกเราต้องนั่งรอความตายกันอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ??”
ใบหน้าของต้าจินซีดเซียว นางลังเลอยู่นาน จากนั้นจึงพูดช้า ๆ ว่า “อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือต้องส่งจดหมายถึงสุ่ยหยวนกับน้องสาวก่อน อย่างไรเสียพวกนางคือคุณหนูของจวนหลาน และไท่ฮูหยินก็รักพวกนางเสมอ คำพูดของพวกนางจึงยังมีประโยชน์อยู่”
เสี่ยวจินพยักหน้า “นั่นคงเป็นวิธีเดียว”
พูดจบนางก็เก็บเสื้อผ้า แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตูช้า ๆ
มีคนสองสามคนที่รองเจ้ากรมหลานสั่งให้คอยเฝ้าอยู่ข้างนอก บัดนี้พวกเขาทุกคนยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าจริงจัง กลอนประตูยังคงถูกใส่อย่างแน่นหนา
เสี่ยวจินยืนพิงประตูด้วยท่าทางน่าหลงใหล แสงสลัวส่องมาที่นาง เงาสะท้อนบนกรอบประตูจึงดูโดดเด่นและงดงามเป็นพิเศษ
“…ข้ามีปิ่นปักผมอยู่นี่ มีใครอยากได้หรือไม่?”
ทันทีที่เสียงของนางดังขึ้น คนรับใช้สองคนที่เฝ้าประตูก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วมองหน้ากัน
“อนุจิน มีอะไรหรือขอรับ?” คนรับใช้ทางซ้ายหัวเราะทันที ก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อย ขณะถามเงาที่สะท้อนบนกรอบประตู
“ไปส่งข่าวถึงคุณหนูรองกับคุณหนูสามให้เรา บอกว่านายท่านอาจจะหย่ากับเรา ขณะที่เรายังอยู่ที่นี่ ให้แม่ลูกได้พบกันและพูดคุยกันไม่กี่คำจะได้หรือไม่?”
น้ำเสียงของเสี่ยวจินอ่อนหวานและอ่อนโยนเสมออยู่แล้ว แต่ตอนนี้นางจงใจเพิ่มความยั่วยวนอีกเล็กน้อย เสียงของนางจึงไพเราะเป็นพิเศษ
คนรับใช้ที่อยู่นอกประตูอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น “อนุจินโปรดอย่าคิดมาก นายท่านใจดีกับฮูหยินรองและท่านอนุเสมอขอรับ”
เสี่ยวจินขมวดคิ้ว นางร้อนใจเล็กน้อย แต่ยังพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “เช่นนั้นเจ้าก็ไปส่งข้อความถึงคุณหนูรองกับคุณหนูสาม แล้วข้าจะให้ปิ่นปักผมนี้แก่เจ้า เมื่อข้ากับพี่สาวออกไปได้ เราจะจดจำความเมตตากรุณาของเจ้า และจะตอบแทนอย่างงาม”
คนรับใช้ทั้งสองชำเลืองมองกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นหรี่ตาพลางพยักหน้า “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
เสี่ยวจินยกยิ้มด้วยความพึงพอใจ จากนั้นยื่นปิ่นปักผมออกไปทางรอยแตกของประตู
แต่ชายหนุ่มกลับโบกมือ แล้วพูดว่า “ข้าน้อยมิบังอาจรับของจากท่านอนุหรอกขอรับ ท่านอนุสบายใจได้ ข้าน้อยจะทำสำเร็จแน่นอน แต่ต่อไปท่านอนุโปรดอย่าลืมพวกข้าน้อยนะขอรับ”
เสี่ยวจินชอบความรู้สถานการณ์ของเขามาก นางจึงชักปิ่นปักผมกลับมาอย่างง่ายดาย ปิ่นปักผมนี้มีราคาแพง และนางลังเลที่จะให้มันไป
ไม่นานนัก คนรับใช้ก็วิ่งออกไปเสียงดังกุกกัก
ทว่าเมื่อเขาวิ่งไปถึงทางแยก จู่ ๆ เท้าที่ควรจะเลี้ยวไปทางขวากลับเลี้ยวทางซ้าย และรีบวิ่งเข้าไปในเรือนหลังเล็ก
หลังจากเคาะประตู ในไม่ช้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างใน จากนั้นใบหน้าเรียบเฉยของพ่อบ้านหลิวก็ปรากฏขึ้น
“พ่อบ้านหลิว อนุจินขอให้ข้าไปเปิดเผยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูรองและคุณหนูสามในคืนนี้”
พ่อบ้านหลิวหรี่ตาพลางนึกเย้ยหยัน “คุณหนูรองกับคุณหนูสามหลับพักผ่อนแล้ว และสาวใช้ในเรือนจะไม่ยอมปล่อยให้เจ้าเข้าไปโดยไม่มีเหตุผล แต่เจ้านายได้ออกคำสั่งเด็ดขาดว่าไม่อนุญาตให้แพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนี้ออกไป เจ้าจึงไม่อาจอธิบายเหตุผลกับสาวใช้ที่มาขวางทางได้ คำพูดของอนุจินจะต้องไม่เข้าหูคุณหนูรองกับคุณหนูสามไปสักพัก เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
คนรับใช้หนุ่มหัวเราะ “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ข้าน้อยจะอ้อมไปข้างนอกเรือนของคุณหนูรองตอนนี้”
“อืม” พ่อบ้านหลิวโบกมือ แล้วชายหนุ่มก็วิ่งจากไปทันที
พ่อบ้านหลิวยืนอยู่นอกประตูเงียบ ๆ ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เม้มปาก คุณหนูใหญ่ขอรับ นั่นคือทั้งหมดที่ข้าสามารถช่วยท่านได้แล้ว
เขาส่ายหน้าแล้วกลับเข้าเรือนไป
เวลาผ่านไปอย่างแช่มช้า ท้องฟ้าข้างนอกค่อย ๆ สว่างขึ้น
รองเจ้ากรมหลานนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะต้องคอยดูแลไท่ฮูหยินที่หมดสติไปด้วยความสำนึกผิด
สองพี่น้องจินซื่อตั้งตารอทั้งคืน แต่พวกนางก็ไม่ได้เจอคนใช้รับหนุ่มและลูกสาวทั้งสอง
แม้ว่ารองเจ้ากรมหลานจะออกคำสั่งไม่ให้ใครแพร่งพรายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง จะให้ปิดบังได้อย่างไร?
หลังจากรุ่งสาง คำพูดเหล่านี้ก็ไปถึงหูของหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาว
ปิ่นปักผมในมือของหลานสุ่ยหยวนร่วงลงสู่พื้น นางจ้องมองสาวใช้ที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความประหลาดใจ
แต่นี่ไม่ใช่ข่าวร้ายเพียงข่าวเดียว สาวใช้ตัวสั่นสะท้านขณะพูดต่อ “อีกทั้งคนจากยุทธภพที่ลุงของท่านจ้างให้ไปเฝ้าดูคุณหนูใหญ่ ทุกคน… ถูกจัดการหมดแล้วเจ้าค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
๕๕๕๕ ที่อยู่กับสุ่ยชิงนั่นซื่อจื่อตำหนักอ๋องซิวเลยนะ เอาอะไรไปปิดข่าว สองพี่น้องแซ่จินนี่หาเรื่องผิดคนแล้วมั้ง
ไหหม่า(海馬)