อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 78 ทำให้นางเสียโฉม
ตอนพิเศษ 78 ทำให้นางเสียโฉม
ตอนพิเศษ 78 ทำให้นางเสียโฉม
พี่ชายภรรยาของเขาหรือ? รองเจ้ากรมหลานทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ
แต่ในไม่ช้าเขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง ใบหน้าของเขาซีดเผือด พี่ชายของจินซื่อช่างมาที่นี่ในเวลาประจวบเหมาะพอดี แสดงว่าต้องมีคนไปรายงานเขา
ไท่ฮูหยินกำมือแน่น แล้วตะคอกอย่างเย็นชา “หลานหมิงเหลียง เจ้าควรจำสิ่งที่เจ้าสัญญากับแม่เมื่อครู่นี้ไว้ให้ดี ถ้าเจ้าเปลี่ยนใจเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของพี่ชายฮูหยินรอง ทันทีที่เจ้ากลับมา แม่จะฆ่าตัวตายต่อหน้าเจ้า บังอาจมาสร้างมลทินในห้องพระของข้า แล้วยังจะมีหน้ามาเรียกร้องอีกหรือ?
รองเจ้ากรมหลานใจหายวาบ รีบเอ่ยปลอบโยนนาง “ท่านแม่ไม่ต้องกังวลขอรับ ข้าจะทำตามที่สัญญาไว้แน่นอน ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไร ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงขอรับ”
“อืม”
ไท่ฮูหยินโบกมือให้เขาออกไป ก่อนเอนตัวพิงหมอนด้วยสีหน้าอ่อนล้า
รองเจ้ากรมหลานยืนขึ้น เมื่อเห็นอู๋ซื่อกับหลานสุ่ยชิงอยู่ข้าง ๆ เขาก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “พวกเจ้าคอยดูแลไท่ฮูหยินให้ดี ประเดี๋ยวข้าจะกลับมา”
“เจ้าค่ะ” หลานสุ่ยชิงตอบรับด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วห่มผ้าให้ไท่ฮูหยิน
จากนั้นนางก็หันไปพูดกับแม่นมซ่งว่า “บอกให้คนครัวทำโจ๊กข้าวกล้อง ท่านย่าหน้าซีดนัก กินแล้วจะได้รู้สึกดีขึ้น”
แม่นมซ่งชำเลืองมองไท่ฮูหยิน ที่กำลังเงยหน้ามองหลานสุ่ยชิง
“ท่านย่าไม่ชอบหรือเจ้าคะ? เช่นนั้นให้คนครัว…”
“เปล่า โจ๊กข้าวกล้องนั่นแหละ” ไท่ฮูหยินสั่งให้แม่นมซ่งไปเตรียม สายตาของนางจับจ้องไปที่หลานสุ่ยชิงอีกครั้ง “วันนี้เกิดอะไรขึ้น…”
“ท่านย่า ข้าจะไม่โกหกท่าน แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว จินซื่อต้องทำอะไรบางอย่างที่รบกวนท่านย่า เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกนาง หากจะบอกว่าท่านมีความสุขก็คงจะเป็นเท็จ แต่ไม่คิดว่าพวกนางจะทำให้ท่านย่าโกรธจนล้มป่วย ถึงเมื่อก่อนข้าจะไม่ได้สนิทกับท่านย่า แต่สุดท้ายเลือดก็ข้นกว่าน้ำ อย่างไรเสียเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน เห็นท่านย่าล้มป่วยแล้วข้ารู้สึกเศร้าใจ ไม่สบายใจยิ่งนัก ทั้งยังรู้สึกใจหายด้วยเจ้าค่ะ”
ในอดีตความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางทั้งสองไม่ค่อยดีนัก หากตอนนี้หลานสุ่ยชิงต้องการแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางกับไท่ฮูหยินนั้นลึกซึ้งเพียงใดและนางกังวลแค่ไหนเมื่อเห็นนางล้มป่วย นั่นก็จะดูเสแสร้งเกินไป และไท่ฮูหยินก็คงจะไม่เชื่อ ดังนั้นพูดทั้งจริงและเท็จผสมกันไปเลยจะน่าเชื่อถือกว่า
“ท่านย่า ตอนนี้ข้ากลัวคนที่ข้ารักจะป่วยมาก แม่ของข้าป่วยมาหลายปีแล้ว ข้ามักจะกังวลว่าวันหนึ่งนางจะจากข้าไปอย่างกะทันหัน ทุกครั้งที่ข้าเห็นสีหน้านางไม่ค่อยดี ก็จะนอนไม่หลับ ตอนนี้เมื่อข้าเห็นท่านย่ามีสีหน้าไม่ดีเลย ข้าจึงรู้สึกกลัวมาก กลัวว่าท่านย่าจะป่วยจนร่างกายผ่ายผอมไปอีกคนเจ้าค่ะ”
ไท่ฮูหยินอึ้งกับสิ่งที่นางพูด ไม่คิดเลยว่าในใจนางจะรู้สึกเช่นนี้
เมื่อเห็นความหวาดกลัวในดวงตาของนาง ไท่ฮูหยินก็พูดอะไรไม่ออก และไม่สามารถปล่อยมือของหลานสุ่ยชิงได้
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็เอ่ยปากพูดเสียงเบา “เจ้าเป็นเด็กดี เมื่อก่อนย่า… ตามืดบอด…”
“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะ เมื่อก่อนข้าก็เคยแค้นท่านย่าเหมือนกัน แต่ตอนนี้… ข้าแค่อยากให้ท่านย่าหายเร็ว ๆ เมื่อเทียบกับความเป็นความตาย ความแค้นเคืองเล็กน้อยเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปนึกถึงอีกแล้วเจ้าค่ะ”
ไท่ฮูหยินถอนหายใจยาว บางทีการเจ็บป่วยครั้งนี้อาจไม่ได้ไร้ประโยชน์ เป็นเรื่องดีที่สามารถปรับความเข้าใจกับหลานสุ่ยชิงใหม่ได้
นางมองไปที่อู๋ซื่ออีกครั้ง แต่อู๋ซื่อเพียงแค่มองหลานสุ่ยชิงด้วยสายตาอ่อนโยนโดยไม่ได้เอ่ยคำใด
ไท่ฮูหยินรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย นางจึงโบกมือบอกให้ทุกคนกลับไปพักผ่อน
หลังจากที่อู๋ซื่อและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว ไท่ฮูหยินก็เม้มปากเรียกแม่นมซ่งมาหา แล้วพูดว่า “แม้ว่าหมิงเหลียงจะบอกว่าจะจัดให้สองพี่น้องจินซื่อไปอยู่ในเรือนที่ห่างไกล แต่สองคนนั้นมักอยู่ไม่สุขเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีสุ่ยหยวนกับสุ่ยเถียน ลูกสาวสองคนของพวกนางอยู่ด้วย ข้าจึงกลัวว่าพวกนางจะไม่ยอมแพ้ ไม่ช้าก็เร็วคงจะกลับมาคบกับหมิงเหลียงอีก ยังดีที่ตอนนี้ข้ายังมีชีวิตอยู่ เผื่อวันใดวันหนึ่งหมิงเหลียงจำคำสั่งของข้าไม่ได้ ข้าก็เกรงว่าเขาจะถูกพวกนางล่อลวงอีก”
แม่นมซ่งพยักหน้า “แล้วไท่ฮูหยินจะทำอย่างไรหรือเจ้าคะ?”
“เจ้ากลับไปหาโอกาสฟันใบหน้าพวกนางสักสองแผล ข้าอยากรู้นักว่าหากพวกนางเสียโฉมไปแล้ว หมิงเหลียงจะยังหลงใหลพวกนางอยู่อีกหรือไม่”
แม่นมซ่งกล่าวว่า “ไท่ฮูหยินคิดได้ดีเจ้าค่ะ บาดแผลดังกล่าว ถ้านายท่านเห็น ก็จะยังทำให้นายท่านจะจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ และสิ่งที่ไท่ฮูหยินพูดในวันนี้ได้ในอนาคตด้วยเจ้าค่ะ จะได้รู้สึกผิดต่อไท่ฮูหยิน”
ไท่ฮูหยินส่งเสียง ‘อืม’ ก่อนจะเอนกายลงนอน “ฝากเรื่องนี้ไว้กับเจ้าด้วย”
“เจ้าค่ะ”
ทันทีที่คำพูดของแม่นมซ่งจบลง ม่านประตูก็ถูกแหวกออกทันที และรองเจ้ากรมหลานก็เข้ามาด้วยความโกรธ
ไท่ฮูหยินขมวดคิ้ว “เป็นอะไร? ทะเลาะกับพี่ชายฮูหยินหรือ?”
“พี่ชายฮูหยินงั้นหรือ? ตอนนี้จินซื่อเป็นอนุไปแล้ว เขาจะเป็นพี่ชายฮูหยินได้อย่างไรขอรับ?” รองเจ้ากรมหลานเยาะเย้ย “เขาคิดว่าตัวเองเป็นใคร เริ่มมาเหยียบจมูกขึ้นหน้ากันเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะข้า เขาคงเป็นแค่อันธพาลชั้นต่ำ จะมีสถานะแบบปัจจุบันได้อย่างไร?”
จินสยงพี่ชายของจินซื่อเป็นนักเลงข้างถนนจริง ๆ ต่อมาเขาได้ก่ออาชญากรรม แล้วรองเจ้ากรมหลานก็ตัดสินลงโทษเขาสถานเบา แล้วทำให้เขาออกจากคุกได้ จากนั้นจินสยงก็ค่อย ๆ เริ่มทำงานจริงจัง ควบคู่ไปกับการสนับสนุนของจินซื่อแห่งจวนหลาน เขาจึงเริ่มทำเงินได้ และกิจการของเขาก็ค่อย ๆ เริ่มเติบโต
แม้จะไม่ถือว่าเขาเป็นเศรษฐีผู้มีอำนาจ แต่ตอนนี้เขาก็ยังพอมีทรัพย์สินอยู่บ้าง และผู้คนที่เขาติดต่อด้วยล้วนแต่เป็นขุนนางและพ่อค้าที่แต่งตัวดี ซึ่งทำให้เขาลำบากใจมาก
เพราะตอนนี้จินซื่อกำลังจะถูกลดสถานะเป็นเพียงอนุ แล้วจินสยงคนนี้จะทนได้อย่างไร? เมื่อเขารีบมาที่นี่ เขาก็ทะเลาะกับรองเจ้ากรมหลานครั้งใหญ่
รองเจ้ากรมหลานโกรธมาก ตอนแรกยังทนไม่เรียกคนมาโยนเขาออกไป แต่เมื่อปะทะฝีปากกันมากขึ้น เขาก็โยนจินสยงไปที่ห้องโถงด้านหน้าทันทีโดยไม่พูดอะไรสักคำ และไม่สนใจเขาด้วย
ไท่ฮูหยินหรี่ตาลง จินสยงเป็นเพียงพ่อค้า รองเจ้ากรมหลานยังสามารถจัดการเขาได้ จึงไม่มีอะไรต้องกังวล
นางยังไม่ทันได้พูดอะไร ไฉ่ซินก็วิ่งเข้ามาบอกว่า “ไท่ฮูหยิน นายท่าน พ่อบ้านหลิวบอกว่าตอนนี้ท่านพี่ของฮูหยินรอง ไปที่เรือนของคุณหนูรองกับคุณหนูสามด้วยความโกรธเจ้าค่ะ”
“อันธพาลก็เป็นอันธพาลอยู่วันยังค่ำ ไม่รู้จักมารยาทและความละอายด้วยซ้ำ” รองเจ้ากรมหลานโกรธจัด เขาแหวกม่านออกไปอีกครั้ง
ขณะนี้จินสยงกำลังอารมณ์เสียอยู่ในเรือนของหลานสุ่ยหยวน หลานสุ่ยหยวนรีบห้ามเขา “ท่านลุง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียอารมณ์นะเจ้าคะ ข้าเพิ่งปรึกษาเรื่องนี้กับน้องสาม ตอนนี้วิธีเดียวที่จะช่วยท่านแม่ได้ก็คือเปิดเผยเรื่องการแอบพบปะกันระหว่างหลานสุ่ยชิงกับชายคนนั้น เมื่อเรื่องของนางกลายเป็นเรื่องร้ายแรง ตำหนักอ๋องซิวก็จะจัดการสองแม่ลูกนั่น แล้วพวกเราก็จะมีโอกาสยืนขึ้นโดยไม่มีเสี้ยนหนาม แต่ท่านลุง คนจากยุทธภพเหล่านั้นที่ท่านลุงหามาให้เรา ล้วนถูกบุรุษของหลานสุ่ยชิงจัดการไปหมดแล้ว พวกเขาช่างอ่อนแอยิ่งนักเจ้าค่ะ”
จินสยงค่อย ๆ สงบลงแล้ว แต่ในช่วงเวลาต่อมา คิ้วของเขาก็ขมวดอีกครั้ง “เจ้าว่าอย่างไรนะ? คนจากยุทธภพเหล่านั้นถูกจัดการหมดแล้วหรือ?”
“อืม ท่านลุง ท่านมีคนอื่นที่มีความสามารถกว่านี้อีกหรือไม่?”
“มีความสามารถกว่านี้…” จินสยงขมวดคิ้ว วินาทีต่อมาดวงตาของเขาก็เป็นประกาย นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เกรงว่าจะอัฐยายซื้อขนมยายหรือเปล่า จ้างหนานหนานมาจัดการหนานหนานงี้? รู้ไหมเนี่ยว่าผู้ชายของสุ่ยชิงคือใคร
ไหหม่า(海馬)