อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 82 เป็นใครกันแน่
ตอนพิเศษ 82 เป็นใครกันแน่
ตอนพิเศษ 82 เป็นใครกันแน่
ร่างของหนานหนานชะงักไปชั่วคราว ในวินาทีต่อมาเขาก็ทะยานไปที่ต้นไม้ทางด้านซ้ายของเรือน ทันใดนั้นมีดสั้นเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา แล้วจ่อไปใกล้ใบหน้าของชายที่อยู่บนต้นไม้
ชายคนนั้นตกตะลึงไปครู่หนึ่ง รีบเอนหลังหลบการโจมตีอย่างกะทันหันทันที ก่อนจะพลิกตัวลงจากต้นไม้ด้วยความอับอาย
“ฝีมือไม่เลว” หนานหนานเย้ยหยัน ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะมีคนเต็มใจจ่ายหนัก และไม่ใช่คนที่รู้วรยุทธ์เพียงแมวสามขา
ชายคนนั้นตกตะลึง เขาสวมใส่ชุดดำ ใบหน้าก็คลุมไว้ด้วยผ้าสีดำ แม้จะมองเห็นไม่ชัดในตอนกลางคืน แต่สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าเป็นชายหนุ่มอายุราวสิบหกหรือสิบเจ็ดปี
คนผู้นั้นไม่คาดคิดว่าหนานหนานจะเคลื่อนไหวได้เร็วถึงเพียงนี้ แม้ว่าเขาจะเตรียมพร้อมตั้งแต่เห็นเขามาทางนี้ แต่ก็ยังเสียเปรียบ
หลังจากที่เขายืนอย่างมั่นคงแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหนานหนาน คิ้วขมวดเล็กน้อย
“เจ้าเป็นใคร?”
“ข้าควรเป็นฝ่ายถามเจ้า” หนานหนานไม่รู้สึกถึงจิตสังหารจากชายคนนี้ เขาจึงเผลอเลิกคิ้วขึ้น ท่าทางดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย “คนที่ติดสินบนเจ้าสั่งให้เจ้าทำอะไร? ฆ่าคุณหนูใหญ่ตระกูลหลานหรือ? หรือว่ามีแผนการอื่น?”
“…” ชายผู้นั้นเม้มปาก และชำเลืองมองหนานหนานราวกับลังเล
หนานหนานยกมีดสั้นขึ้นทันที แล้วกระโจนเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง
ชายคนนั้นหลบได้อย่างหวุดหวิด ถอยไปสองสามก้าว แล้วรีบพูดว่า “ไม่ พวกนางแค่สั่งให้ข้าจับผิดการคบชู้สู่ชาย”
จับผิดการคบชู้สู่ชายหรือ???
ใบหน้าของหนานหนาน… ฉายแววงุนงง ทั้งร่างหยุดเคลื่อนไหว
ชายคนนั้นลดเสียงลงเล็กน้อย แล้วอธิบาย “พวกนางต้องการให้ข้าหาหลักฐานว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลหลาน กำลังมีความสัมพันธ์กับชายอื่น แล้วหาโอกาสที่เหมาะสม… เปิดโปงนางและชายชู้ของนางให้ทุกคนได้รับรู้ อืม ชายชู้คนนั้นน่าจะหมายถึงเจ้าใช่หรือไม่?”
ชายชู้หรือ???
ใบหน้าของหนานหนานมืดมนลง แล้วจู่ ๆ ก็ยกเท้าเตะเขากระเด็นไปสองก้าว
“แค่กๆ…” ใบหน้าของชายคนนั้นแดงก่ำ ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นจ้องหน้าหนานหนานอย่างดุเดือด “ข้าบอกจุดประสงค์ของข้าไปหมดแล้ว ข้ายังไม่ได้ทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ของตระกูลหลานขุ่นเคืองเลย เหตุใดเจ้ายังลงมืออีก?”
“ไม่มีเหตุผล ข้าแค่ไม่ชอบให้เจ้าเรียกข้าว่าชายชู้”
“เจ้ารู้ตัวว่าตัวเองดูเป็นชายชู้ในสายตาของคนอื่นด้วยหรือ? แต่เจ้าก็ยังมาปรากฏตัวที่เรือนลูกสาวคนโตของตระกูลหลานอย่างเปิดเผย เจ้าน่าจะรู้ว่านางหมั้นหมายกับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิว แล้วการทำเช่นนี้จะไม่เป็นการทำร้ายนางหรือ?”
ช่างโหดเหี้ยม โหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก ชายป่าเถื่อนเช่นนี้ ลูกสาวคนโตของตระกูลหลานตาบอดหรือเปล่า? ตกหลุมรักเขาจริงหรือ?
ได้ยินมาว่าซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวนั้นหล่อเหลาและไม่ธรรมดา พรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ของเขานั้นเหนือกว่าคนอื่น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงสามารถบดขยี้ชายคนนี้ที่แอบเข้าไปในห้องส่วนตัวของคู่หมั้นตอนกลางดึกให้จมดินได้
หนานหนานไม่สนใจเขา แค่หรี่ตาและเตือนว่า “เจ้าไปได้แล้ว อย่าให้ข้าเห็นเจ้าปรากฏตัวที่นี่อีก ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้า”
วรยุทธ์ของชายผู้นี้นับว่าไม่เลว และเขา… ค่อนข้างซื่อตรง ไม่เหมือนกับพวกคนจากยุทธภพก่อนหน้านี้ ที่ตะโกนอย่างหยิ่งยโสเมื่อถูกเขาถาม เขาจึงบดขยี้คนเหล่านั้นจนตายโดยไม่ได้คิดจริงจังอะไร
อีกทั้งเขายังเป็น…คนที่ชอบคนเก่ง จึงไม่ลงมือฆ่า
แต่คนผู้นั้นกลับไม่สำนึกกับเจตนาดีของเขา เมื่อเห็นเขาหันหลังเตรียมจะจากไป ก็รีบก้าวไปพูดว่า “แค่นี้เองหรือ?”
“อะไร? เจ้าอยากตายหรือ?”
มุมปากของชายคนนั้นกระตุก ชายคนนี้ช่างอำมหิตนัก
“ข้าหมายความว่าแน่นอนว่าข้าจะไป แต่คนที่จ้างข้าจะไม่ยอมเลิกรา หากวันนี้ข้าจากไป พรุ่งนี้ก็จะจ้างคนอื่นมาอีก และเรื่องนี้จะไม่มีวันจบสิ้น”
หนานหนานหยุดชะงัก เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ แล้วหันมามองเขา “แล้วเจ้าหมายความว่า…”
“สำหรับข้า ข้าจะเฝ้าดูเรือนสุ่ยสีแห่งนี้ต่อไป อย่างไรเสีย ข้าจะทำราวกับว่าไม่เห็นความเคลื่อนไหวใด ๆ ในเรือนสุ่ยสี และจะไม่รายงานให้คนที่จ้างข้ารู้”
“เหตุใดเจ้าถึงจะทำเช่นนี้?”
“พวกเขาให้เงิน”
หนานหนานหันกลับมาจ้องมองเขา “ข้าไม่เชื่อเจ้า”
“เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ? ข้าก็ไม่เชื่อเจ้าเช่นกัน เจ้าบอกว่าสิ่งที่เจ้าทำเกี่ยวข้องกับจวนท่านอ๋องซิว ลูกสาวคนโตของตระกูลหลานจะเป็นฮูหยินของซื่อจื่อในอนาคต แล้วเหตุใดเจ้าถึงต้องการทำลายความบริสุทธิ์ของนาง หากคนอื่นจับได้เล่า?”
“…ข้าคิดว่า ข้าว่า…” หนานหนานลูบข้อมือตัวเอง “เป็นการดีกว่าที่จะฆ่าเจ้าเพื่อตัดปัญหา จะได้ไม่เกิดปัญหาไปมากกว่านี้”
รูม่านตาของชายคนนั้นหดตัวทันที เขารีบถอยหนี แต่ก็ยังสายเกินไป ฝีเท้าของหนานหนานเร็วมาก จนชายคนนั้นรู้สึกว่าตาของเขาพร่ามัว แล้วคอของเขาก็ถูกฝ่ามือคว้าไว้ในชั่วพริบตา
เขามองหนานหนานด้วยความประหลาดใจ แม้จะรู้ว่าวรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่ง และตนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่เขาไม่คาดคิดว่าช่องว่างระหว่างพวกเขาจะมีมากถึงเพียงนี้
มือที่คว้าคออยู่ค่อย ๆ บีบแรงขึ้น จู่ ๆ ชายคนนั้นก็ได้สติ แล้วรีบพูดว่า “เคล็ดวิชาฝีเท้าสกุลลู่ เจ้า เจ้าคือซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวหรือ?”
“แน่นอน ข้าปล่อยให้เจ้ารอดไปไม่ได้” หนานหนานแสยะยิ้ม มันเป็นสีหน้าปกติของเขาเมื่อเขาฆ่าคน
ชายคนนั้นรู้สึกทันทีว่าตนหายใจลำบาก รู้สึกหัวบวม และเลือดในร่างกายดูเหมือนจะไม่เดิน ความตายใกล้เข้ามาแล้ว
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน ข้าคือ#@$#&*”
หนานหนานชะงักและชักมือออกทันที จ้องมองชายชุดดำที่กำลังก้มหน้า แล้วถามว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นใครนะ?”
“แค่กๆ เจ้า แค่กๆ…” ชายคนนั้นส่ายหน้า หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าอาการวิงเวียนศีรษะค่อย ๆ ทุเลาลง จึงทรุดตัวนั่งลงใต้ต้นไม้ราวกับหมดเรี่ยวแรง
“ขอบอกไว้ก่อนว่าหากข้าไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าเจ้า เจ้า แค่กๆ เจ้าคงไม่อาจบีบคอข้าได้ง่ายดายเช่นนี้ ข้าขอบอกเจ้าว่า แค่กๆ ข้าซ่อนอาวุธไว้ในมือมากมาย หากข้าต้องการต่อสู้กลับก็ทำได้อย่างง่ายดายเช่นกัน”
หนานหนานย่อมรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่แสดงความเมตตา และคงหักคอเขาตั้งแต่แรกแล้ว จะทำให้เขาลิ้มรสความตายที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาได้อย่างไร?
“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว เจ้าเป็นใคร?”
ชายคนนั้นกัดฟัน เงยหน้าขึ้นจ้องมองหนานหนานอย่างดุเดือด จากนั้นจึงยกขาลุกขึ้นจากพื้น
ต่อมาเขาก็เริ่มจัดแจงเสื้อผ้าและผมให้เรียบร้อย ก่อนถอดผ้าสีดำที่ปกปิดใบหน้าออก
แสงจันทร์สว่างไสวส่องผ่านร่มเงาไม้ กระทบใบหน้าอ่อนเยาว์ของชายหนุ่มตรงหน้า
รูม่านตาของหนานหนานหดตัว ใบหน้านี้… เหมือนเขาจะเคยเห็นมาก่อน…
ชายคนนั้นยื่นมือออกมาแล้วกอดอก แผ่กลิ่นอายแห่งจอมยุทธ์พลังฝีมือแข็งแกร่งออกมา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าคืออู๋หลินเฟิง อู๋ฉางคงพ่อของข้าเป็นพี่ชายของมารดาแห่งลูกสาวคนโตของตระกูลหลาน เดิมทีข้าคิดจะหาโอกาสไปเยี่ยมซื่อจื่อที่ตำหนักอ๋องซิวแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาพบกันที่นี่”
อู๋หลินเฟิง… อู๋ฉางคง…
ปรากฏว่าเขาเป็นลูกชายของลุงของสุ่ยชิงหรือ???
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจอคนสกุลอู๋แล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยสกุลอู๋ก็จะมีบทบาทในเรื่องนี้แน่เลย
ไหหม่า(海馬)