อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 84 ผู้ติดตาม
ตอนพิเศษ 84 ผู้ติดตาม
ตอนพิเศษ 84 ผู้ติดตาม
สวนหลานสวยงามและเงียบสงบกว่าเรือนโยวหราน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตอนแรกไท่ฮูหยินต้องการเก็บที่แห่งนี้ไว้อยู่เอง
แม่นมซ่งพาหนานหนานมาที่นี่ และเมื่อรู้ว่าคนที่มาคือซื่อจื่อ คนในสวนหลานก็รู้สึกตื้นตันทันที
ในสวนหลังบ้านนี้มีเพียงไท่ฮูหยินเท่านั้นที่เคยเจอแขกบุรุษ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาเยี่ยมหลานฮูหยินที่ป่วยมาหลายปีที่สวนหลาน อีกทั้งคนผู้นี้ยังเป็นซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวผู้สูงศักดิ์อีกด้วย
เยียนจือก็ได้ยินข่าวเช่นกัน จึงรีบเดินไปที่เรือนสุ่ยสีทันที นางหยุดยืนหอบอยู่หน้าหลานสุ่ยชิง และพูดขณะเหงื่อโซมกายว่า “คุณหนู หนานซื่อจื่อ หนานซื่อจื่อไปหาฮูหยินที่สวนหลานเจ้าค่ะ”
หลานสุ่ยชิงผงะไปครู่หนึ่ง นางไม่คาดคิดว่าคนที่ไม่ปรากฏตัวเมื่อคืนนี้ จะมาอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้
ยิ่งไปกว่านั้นคือเขามาหาแม่ของนาง
หลานสุ่ยชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นเหตุใดเมื่อคืนนี้เขาจึงไม่ปรากฏตัว? วันนี้มาหาแม่ของนางงั้นหรือ?”
เมื่อคิดว่าอาจจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น หลานสุ่ยชิงก็กระวนกระวาย นางรีบคว้าเสื้อคลุมมาสวม แล้วรีบไปที่สวนหลาน
เยียนจือและแม่นมปู้มองหน้ากัน แล้วรีบตามไป
ทันทีที่วิ่งไปถึงประตูสวนหลาน ก็บังเอิญพบกับหนานหนานที่กำลังเดินเข้าไปในสวนอย่างเชื่องช้า
หลานสุ่ยชิงกวาดสายตามองเขาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพบว่าไม่มีบาดแผลบนร่างกายของเขา นางจึงถอนหายใจช้า ๆ
เมื่อเห็นดังนั้น หนานหนานก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นสายตาของเขาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลานสุ่ยชิงจ้องมองกลับไปทันที และเข้าไปในสวนหลานก่อน
นี่เป็นครั้งแรกที่อู๋ซื่อได้เจอหนานหนานที่โตแล้ว เมื่อเห็นเขาทั้งสูงโปร่งและหล่อเหลา นางก็ชอบเขามาก ยิ่งมองเขามากเท่าใด นางก็ยิ่งขอบคุณสวรรค์มากขึ้นเท่านั้น
นางเจอเด็กคนนั้นตอนที่นางกำลังเจ็บปวดมาก แต่ตอนนี้เขากลายเป็นชายหนุ่มที่สามารถปกป้องคนอื่นจากลมฝนได้ และรักสุ่ยชิงของนาง
ทันใดนั้นอู๋ซื่อก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมา สายตาที่มองหนานหนานราวกับว่ากำลังมองลูกของนางเอง
หนานหนานรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อเจอนาง หลานสุ่ยชิงดึงเสื้อของอู๋ซื่อเบา ๆ ก่อนจะมองไปทางอื่นด้วยความลำบากใจ
“วันนี้หนานซื่อจื่อมาที่นี่ มีเรื่องสำคัญอะไรหรือไม่เพคะ?”
หลังจากพักฟื้นมาระยะหนึ่ง สภาพจิตใจของอู๋ซื่อก็ดูเหมือนจะดีกว่าไท่ฮูหยิน
หนานหนานเอียงคอมองหลานสุ่ยชิงที่กำลังจ้องมองเขา จากนั้นหันไปมองม่านลูกปัดที่อยู่ไม่ไกลด้วยท่าทางเคร่งขรึม
อู๋ซื่อเห็นเช่นนั้นก็เม้มปากแล้วยกยิ้ม
ดูเหมือนว่าจะเป็นดังที่สุ่ยชิงพูดทุกประการ หนานซื่อจื่อรักสุ่ยชิงจริง ๆ เพียงแค่สบตากัน เขาก็แทบจะทำท่าเหมือนจมน้ำ
“หนานซื่อจื่อมาหาสุ่ยชิงหรือไม่? ถ้าเช่นนั้นข้า…”
“อ่า ไม่ ข้ามาหาหลานฮูหยินเพราะเรื่องบางอย่าง” หนานหนานกระแอมเบา ๆ และรีบตั้งสติ
อู๋ซื่อชะงักไปครู่หนึ่ง มาหานางจริงหรือ? สีหน้าของนางจริงจังขึ้นทันที ในใจรู้สึกกังวลเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าการแต่งงานของสุ่ยชิงจะมีการเปลี่ยนแปลง?
หนานหนานไม่ปล่อยให้นางคิดมาก เขาถามว่า “ฮูหยินโปรดบอกให้สาวใช้ทุกคนออกไปก่อนได้หรือไม่?”
“…” อู๋ซื่อรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ยังพยักหน้า แล้วบอกให้แม่นมหูพาทุกคนในห้องออกไป
ครู่เดียวภายในห้องก็เหลือเพียงหลานฮูหยิน หลานสุ่ยชิง หนานหนาน และผู้ติดตามอีกสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา
จากนั้นหนานหนานก็บอกเหวินเกอผู้ติดตามคนหนึ่งของเขา “เจ้าออกไปเฝ้าอยู่ข้างนอก อย่าให้มีใครเข้ามาใกล้”
“พ่ะย่ะค่ะ” เหวินเกอกำหมัดแน่น แล้วเดินออกจากห้องทันที ก่อนจะยืนกอดอกอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เมื่อเห็นว่าเขาระมัดระวังมาก อู๋ซื่อก็ยิ่งกังวลมากขึ้น และถามอย่างกระวนกระวายใจว่า “หนานซื่อจื่อ นี่เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานหรือไม่?”
“โอ้ ไม่ใช่ขอรับ” หนานหนานส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อพาคนมาหาฮูหยิน ข้าคิดว่าฮูหยินจะต้องดีใจมากที่ได้พบเขา”
“พบข้าหรือ?”
หนานหนานพยักหน้า ก่อนหันไปหาผู้ติดตามอีกคน… ที่กำลังก้มหน้าลงเล็กน้อย ทำให้มองเห็นใบหน้าได้ไม่ค่อยชัด… แล้วถามผู้ติดตามว่า “เจ้ายังไม่ก้าวมาอีก?”
มุมปากของอู๋หลินเฟิงกระตุก จากนั้นเขาก็เข้าไปใกล้อู๋ซื่ออีกสองสามก้าว
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นช้า ๆ
เกือบจะในเวลาเดียวกัน อู๋ซื่อก็ลุกขึ้นยืนด้วยความประหลาดใจ จนชนเก้าอี้ที่อยู่ข้างหลัง
หลานสุ่ยชิงตกใจและรีบพยุงนาง “ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?”
“… พี่ พี่ใหญ่หรือ?” อู๋ซื่อจ้องมองอู๋หลินเฟิงตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ริมฝีปากของนางสั่นเทา นางยื่นมือไปทางใบหน้าของเขา “พี่ใหญ่ ท่าน ท่านยังมีชีวิตอยู่จริงหรือ?” ก่อนที่นางจะพูดจบก็เริ่มตัวสั่นเทา หลังจากที่นางพูดจบ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่อาจหยุดไหลได้
หลานสุ่ยชิงตกตะลึง แล้วหันหน้าไปมองเขาทันที พี่ใหญ่หรือ? ท่านแม่เรียกพี่ใหญ่? นั่นหมายถึงท่านลุงไม่ใช่หรือ? แต่ว่า…
อู๋หลินเฟิงนึกในใจ เขาดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ?
“ท่านอา ข้าเป็นลูกชายของอู๋ฉางคงขอรับ”
อู๋ซื่อกะพริบตา รู้สึกว่าตายังคงพร่ามัว นางจึงรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดหางตาตัวเองเบา ๆ
นางใช้เวลาตั้งสติสักพักก่อนตอบสนอง “ลูกชายหรือ? เจ้าเป็นลูกชายของพี่ใหญ่? ลูกของหลินเฟิงหรือ?”
“ขอรับ ท่านอา”
อู๋ซื่อรีบคว้าไหล่ของเขา แล้วมองเขาอย่างกระตือรือร้น “ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว เจ้าคล้ายกับพี่ใหญ่มาก และเจ้ามีรอยแผลเป็นบนร่างกายเหมือนกับหลินเฟิงตอนเด็ก เป็นหลินเฟิงจริง ๆ ด้วย เจ้าโตถึงเพียงนี้แล้วหรือ?”
ใบหน้าของหลานสุ่ยชิงเต็มไปด้วยความตกใจ นางได้ข่าวเกี่ยวกับลุงของนางแล้วหรือ?
ทันใดนั้นนางก็หันหน้าไปมองหนานหนาน รอยยิ้มบนใบหน้าของหนานหนานหายไป เขาหันหน้าหนีทันที และเริ่มจ้องมองม่านลูกปัดอย่างจริงจัง
หลานสุ่ยชิงหัวเราะดัง ‘พรืด’ ช่างเหมือนเด็กเสียจริง
เสียงนี้ทำให้อู๋ซื่อกลับมารู้สึกตัวทันที นางรีบดึงอู๋หลินเฟิงให้นั่งลง “หลินเฟิง พ่อของเจ้าอยู่ที่ไหน? พ่อของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? สบายดีหรือเปล่า? ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเจ้าไปอยู่ที่ไหนกัน?”
“… ท่านอา ท่านใจเย็นก่อนขอรับ ค่อย ๆ พูดเถิด”
“โอ้ ได้ ได้”
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของนางคงที่แล้ว อู๋หลินเฟิงจึงค่อย ๆ อธิบายว่า “ในตอนนั้นองค์ชายเจ็ดตั้งข้อหากบฏท่านปู่โดยพลการ จากนั้นจึงแอบส่งทหารไป โดยบอกว่าเขาจะจับท่านปู่ไปขังไว้ ซึ่งความจริงแล้วระหว่างการจับกุม เขาแอบฆ่าท่านปู่ไปแล้ว เขาโกหกว่าท่านปู่ขัดขืนการจับกุม และสังหารขุนนางและทหารในที่เกิดเหตุจนเป็นอันตราย ส่วนท่านย่าก็ถูกคนขององค์ชายเจ็ดลอบสังหารระหว่างการต่อสู้นั้น ขณะนั้นท่านแม่กำลังอุ้มข้าอยู่ ส่วนองครักษ์ที่ท่านพ่อทิ้งไว้ก็วิ่งออกไปรายงานท่านพ่อ”
“ท่านพ่อกำลังจะบุกเข้าไปในตำหนักขององค์ชายเจ็ด เพื่อล้างแค้นให้ท่านปู่กับท่านย่า แต่ก็ถูกทหารองครักษ์ห้ามไว้ได้ทัน และเกลี้ยกล่อมให้ท่านพ่อรักษาชีวิตไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นเขาจะเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้ท่านปู่เสียสละไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นกัน ต่อมาเราติดตามกองคาราวานของอาณาจักรจิ้งเหลยออกจากเมืองไป เมื่อไปถึงอาณาจักรจิงเหลย ก็บังเอิญมีการก่อกบฏกันในอาณาจักรจิงเหลย และท่านพ่อได้ช่วยชีวิตซ่างกวนจิ่นไว้โดยบังเอิญ”
“ซ่างกวนจิ่นรู้ว่าท่านพ่อมีความสามารถ จึงแต่งตั้งเขาให้เป็นขุนนาง แต่หลังจากนั้นไม่นาน พ่อของข้าก็ลาออกและจากไป แล้วพาข้ากับท่านแม่ไปที่ดินแดนเหมิง ครั้งนี้ที่ข้ากลับมายังเมืองหลวง ก็เพราะทำตามคำสั่งของท่านพ่อ ที่บอกให้มาตามหาท่านอา… แล้วข้าก็ได้พบกับซื่อจื่อขอรับ”
ทันใดนั้นอู๋ซื่อก็ตระหนักได้ นางดูเหมือนจะลืมเรื่องที่สำคัญมากไป
เมื่อครู่นี้อู๋หลินเฟิงเข้ามาในฐานะผู้ติดตามของซื่อจื่อ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ภูมิหลังของอู๋ซื่อก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะเนี่ย หลังจากนี้สุ่ยชิงน่าจะเป็นต่อในจวนหลานแล้ว
ไหหม่า(海馬)