อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 89 พบเสื้อคลุม
ตอนพิเศษ 89 พบเสื้อคลุม
ตอนพิเศษ 89 พบเสื้อคลุม
ถ้าอาตี้อยากจะเข้าไป ก็ต้องล่อให้แม่นมปู้ออกไปก่อน
อู๋หลินเฟิงตามนางไปตลอดทาง เมื่อเห็นนางหน้าบึ้ง ราวกับไม่รู้ว่าจะล่อแม่นมปู้ออกไปอย่างไรดี เขาก็รู้สึกเป็นห่วงนาง
หลังจากคิดดูแล้ว เขาก็หัวเราะเบา ๆ และคิดจะยื่นมือเข้าไปช่วยนาง
เขาทะยานมุ่งหน้าไปยังสวนหลานอีกครั้ง
อู๋ซื่อพักผ่อนอยู่ครู่หนึ่ง และเพิ่งลุกขึ้นมากินยา เมื่อนางหันกลับมาก็เห็นว่ามีอีกคนอยู่ในห้อง
นางตกใจมากจนเกือบทำชามยาในมือหล่นแตก
เมื่อแม่นมหูเห็นใครบางคนเข้ามา นางก็กรีดร้องโดยไม่รู้ตัว
โชคดีที่อู๋ซื่อตอบสนองอย่างรวดเร็ว ด้วยการรีบดึงเสื้อของนางเพื่อให้นางเงียบ
แม่นมหูเป็นหญิงชราที่ติดตามนางมาจากจวนอู๋ นางจึงรักและภักดีต่ออู๋ซื่อสุดหัวใจ ดังนั้นหากนางจะรู้ตัวตนของอู๋หลินเฟิงก็ไม่เป็นอะไร
อู๋ซื่อก้าวเข้าไปมองเขาด้วยความแปลกใจ “เจ้ายังไม่ออกไปอีกหรือ? เจ้าไม่ได้บอกว่าหนานซื่อจื่อกับสุ่ยชิงออกไปแล้วทั้งคู่หรือ?”
“…ซื่อจื่อบอกว่าเรือนของลูกพี่ลูกน้องไม่สะอาด และบอกให้ข้าคอยแอบดู ข้าจึงอยู่ต่อขอรับ”
“ไม่สะอาดหรือ?” ใบหน้าของอู๋ซื่อซีดเผือด “มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?”
“ยังไม่มีขอรับ แต่ข้าจำเป็นต้องหาตัวหนอนบ่อนไส้ในเรือนให้เร็วที่สุด จึงอยากขอความช่วยเหลือจากท่านอาขอรับ”
“บอกมาเลย” อู๋ซื่อพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องของลูกสาวสำคัญกว่าตัวนางเอง
รอยยิ้มของอู๋หลินเฟิงดูค่อนข้างชั่วร้าย “ตอนนี้แม่นมปู้กำลังเฝ้าประตูเรือนของลูกพี่ลูกน้องอยู่ หนอนบ่อนไส้นั่นจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ข้าจึงอยากให้ท่านอาเรียกหาแม่นมปู้ เพื่อเปิดโอกาสให้นางแสดงฝีมือขอรับ”
อู๋ซื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างระมัดระวัง จำเป็นต้องกำจัดสิ่งที่ไม่สะอาดในเรือนของสุ่ยชิงโดยเร็วที่สุด นางจึงบอกให้แม่นมหูไปเรียกแม่นมปู้ทันที
อู๋หลินเฟิงยกยิ้มให้นาง ก่อนหันหลังกลับออกไปทางหน้าต่างอีกครั้ง
เมื่อกลับมาถึงเรือนสุ่ยสี เขาก็เห็นอาตี้แอบเข้าไปในเรือนของหลานสุ่ยชิง ทันทีที่แม่นมปู้จากไป
หลังจากเข้าไปในห้อง ฝ่ามือของนางก็มีเหงื่อออกชุ่ม นางรู้ว่าในกล่องที่อยู่เหนือเตียงมีไข่มุกอยู่ในนั้น นางหยิบมันมาดูอีกครั้ง และพบว่ายังคงมีเพียงไข่มุกเท่านั้น นางจึงเก็บมันกลับที่เดิมเงียบ ๆ
จากนั้นก็เดินไปดูที่โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า เมื่อพลิกดูอยู่พักหนึ่ง ก็พบกับกล่องใต้ตู้เสื้อผ้าที่วางไว้อย่างลึกลับ
ตอนที่นางมาครั้งล่าสุดยังไม่มีสิ่งนี้
ดวงตาของอาตี้เป็นประกาย สิ่งนี้ถูกห่อไว้อย่างแน่นหนา มันต้องมีอะไรดีๆ เป็นแน่
นางรีบเปิดห่อออก แกะปมด้านบน แล้วลดสายตาลงมองใกล้ ๆ รอยยิ้มพลันปรากฏที่มุมปากของนาง
เสื้อคลุม เสื้อคลุมของบุรุษ
นางหยิบเสื้อคลุมออกมา ทันทีที่นางคลี่มันออก นางก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ วัสดุทำเสื้อคลุมตัวนี้ดีมาก และฝีมือของหลานสุ่ยชิงก็ดีมากเช่นกัน ดูหรูหรามีรสนิยมยิ่งนัก
อู๋หลินเฟิงที่แอบมองจากชายคาเกือบจะกระอักเลือดออกมา น้องสาวเอ๋ย เจ้าเป็นเอามาก เจ้าทำเสื้อให้เย่ฉิงหนานแล้วจริง ๆ แล้วความสำรวมเล่า? ความสำรวมมีหรือไม่?
ให้ตายเถอะ ชายคนนั้นคงแอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้ว
อู๋หลินเฟิงกัดฟัน เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เขาก็เห็นว่าอาตี้พับเสื้อคลุมอย่างระมัดระวังตามเดิม แล้วใส่กลับเข้าไปในกล่อง
ต้องบอกว่าอาตี้คนนี้ค่อนข้างรอบคอบ นางรู้ดีว่าของที่นางหยิบจับนั้น จะต้องถูกเก็บกลับเข้าที่เดิม หากไม่ตรวจสอบให้ดี หรือไม่มีความละเอียดอ่อนมากพอ ก็ยากที่จะมีคนรู้ว่ามีคนเข้ามาค้นห้องนี้
อาตี้ค้นบริเวณอื่น ทว่าสิ่งของในห้องของหลานสุ่ยชิงเรียบง่าย นางจึงรีบถอนมือออกและถอยกลับ
เพราะไม่รู้ว่าแม่นมปู้จะกลับมาเมื่อใด ดังนั้นควรรีบออกไปให้เร็วที่สุดจะดีกว่า
อู๋หลินเฟิงลงมาจากชายคาบ้าน จ้องมองนางก้าวเท้าออกไปอย่างเร่งรีบ มุมปากของเขากระตุก
อาตี้ไปที่เรือนของหลานสุ่ยหยวนอีกครั้ง นางหอบขณะพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณหนูรอง แย่แล้วเจ้าค่ะ ข้าพบเสื้อคลุมของบุรุษที่คุณหนูใหญ่ทำอยู่ในตู้เสื้อผ้าเจ้าค่ะ”
“เสื้อคลุมของบุรุษหรือ?” ดวงตาของหลานสุ่ยหยวนเป็นประกาย “มันมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง?”
อาตี้นึกถึงสีของเสื้อคลุม ความยาวและลวดลาย
หลังจากที่หลานสุ่ยหยวนฟังแล้ว ก็โบกมือให้นางออกไป จากนั้นก็เฝ้ารออินทรีหิมะมาหาแทบไม่ไหว
เมื่ออู๋หลินเฟิงมาถึง เขาก็เห็นดวงตาเป็นประกายของหลานสุ่ยหยวน จึงกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ
“… คุณหนูรอง มีเรื่องอะไรสำคัญหรือขอรับ?”
“ข้าจะถามเจ้าว่าชายชู้ที่เจ้าเห็นสูงเท่าไหร่ และรูปร่างของเขาเป็นอย่างไร? ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เจ้าเห็นหลานสุ่ยชิงเย็บเสื้อบ้างหรือไม่?” วันแต่งงานระหว่างหลานสุ่ยชิงกับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวยังไม่ได้กำหนด จึงยังไม่ถึงเวลาเย็บเสื้อให้เขา
และหากต้องการเย็บเสื้อให้กับซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิวจริง ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนมันเลย และควรจะวางไว้ในตู้เสื้อผ้าอย่างทะนุถนอม
จากที่อาตี้เล่า วัสดุตัดเย็บไม่ได้นำมาจากเรือนเก็บของในจวน หลานสุ่ยชิงน่าจะซื้อเป็นการส่วนตัว
ด้วยท่าทางมีลับลมคมใน เสื้อตัวนั้นจึงน่าจะทำขึ้นสำหรับชายชู้คนนั้น
อู๋หลินเฟิงเลิกคิ้ว “ส่วนสูง สูงกว่าข้านิดหน่อย ส่วนรูปร่าง… ข้าจำได้ว่าคุณหนูใหญ่วัดตัวชายคนนั้นและจดเอาไว้ แต่ข้าไม่ค่อยชอบตัวเลขเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้สังเกต เขาไม่ได้อ้วนหรือผอมเลย แถมยังหน้าตาดีอีกด้วย”
“เจ้าบอกว่าหลานสุ่ยชิงวัดตัวชายชู้คนนั้นหรือ?” หลานสุ่ยเถียนเข้าประเด็นทันที
“อืม เห็นบอกว่าจะเย็บเสื้อให้ชายคนนั้น และให้เขาสวมมันไปพบนางที่งานเลี้ยง” อู๋หลินเฟิงพูดเบา ๆ
หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนชำเลืองมองหน้ากันทันที ความมั่นใจในสายตาของพวกนางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“แล้วเหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่บอกข้า?”
“ข้าคิดว่ามันไม่สำคัญ” เขาไม่รู้มาก่อนว่ามีชุดนั้นอยู่ด้วย ถ้าเขารู้ เขาคงพูดไปนานแล้ว
“จะไม่สำคัญได้อย่างไร?” ดวงตาของหลานสุ่ยหยวนฉายแววเกรี้ยวกราด ข่าวสำคัญเช่นนี้ จะช่วยให้พวกนางยืนยันตัวตนของชายคนนั้นได้อย่างถูกต้อง
ตอนนี้ยังไม่เป็นอะไร ที่งานเลี้ยงในตำหนักองค์ชายสาม ชายผู้นั้นกำลังจะแอบนัดพบกับหลานสุ่ยชิง หากรู้รูปร่างของชายผู้นั้น และรู้ด้วยว่าเขาสวมเสื้อผ้าอย่างไร ด้วยวิธีนี้ก็จะไม่มีวันระบุตัวคนผิด แล้วหลานสุ่ยชิงก็จะตายแบบไร้ที่กลบฝัง
“เอาล่ะ เจ้ากลับไปก่อน หากมีความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ในอนาคต เจ้าควรพูดให้มากกว่านี้ อย่าพลาดรายละเอียด”
เมื่อเห็นนางโบกมือไล่เขาราวกับไล่ขอทาน อู๋หลินเฟิงก็รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะตัดนิ้วของนางทิ้ง
แต่เขาก็อดทนและจากไปอย่างเชื่อฟัง
ในคืนนั้น แทนที่จะเฝ้าอยู่นอกเรือนของหลานสุ่ยชิง เขากลับตรงไปยังตำหนักอ๋องซิว
เมื่อกลับมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วยามต่อมา
อีกไม่กี่วันต่อมา ทุกอย่างยังคงสงบ จินซื่อใคร่ครวญถึงพฤติกรรมของตนอย่างเชื่อฟัง ในเรือนเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ
แม้ว่าหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาวจะอยู่ด้วยกันทั้งวัน แต่ก็ยังประพฤติตนเรียบร้อย ไม่ได้ก่อปัญหาใด ๆ
ไท่ฮูหยินอาการดีขึ้นมาสองสามวันแล้ว และในที่สุดก็รู้สึกสบายขึ้นมาก
จนกระทั่งวันที่ตำหนักองค์ชายสามจัดงานเลี้ยง
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ถ้าพี่อู่โหดกว่านี้ยัยนาตาชาก็คงโดนลอบปาดคอเงียบๆ ไปแล้ว แต่น่าจะเก็บไว้เล่นงานหนักๆ เลยยังไม่ทำอะไร
รอดูคนหน้าแตกในงานเลี้ยงนะคะ น่าจะแตกคู่ด้วย
ไหหม่า(海馬)