อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 9 นางเป็นตัวเอก
ตอนพิเศษ 9 นางเป็นตัวเอก
ตอนพิเศษ 9 นางเป็นตัวเอก
รถม้าของจวนหลานหยุดลง คนรับใช้ของจวนหลานนำเก้าอี้เตี้ยๆ มาวางไว้ตรงข้างรถม้า ให้คุณหนูรองหลานสุ่ยหยวนและคุณหนูสามหลานสุ่ยเถียนลงมา
พ่อบ้านหยางผู้รับแขกอยู่ที่ตำหนักอ๋องซิวเห็นรถม้าของจวนหลาน ดวงตาก็หรี่ลงเล็กน้อย
อวี้ชิงลั่วกำชับเขาเอาไว้แล้ว ให้เขาคอยดูคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลานให้ดี
ดังนั้น เขาเพิ่งจะต้อนรับองค์หญิงจิ่นซิ่วจากตำหนักองค์หญิงเข้าไป ทันใดนั้นก็หมุนตัว เดินมาถึงหน้ารถม้าของจวนหลาน
แต่ไม่รอให้เขาเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นว่าจู่ๆ ด้านข้างมีร่างสองร่างเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน ทั้งสองคนมาหยุดยืนอยู่ข้างกายหลานสุ่ยหยวน จากนั้นก็ได้ยินเสียงของหญิงสาวที่แต่งกายดูธรรมดาอย่างมากแต่กลับไม่สามารถปกปิดความงามของตนเอาไว้ได้ กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง “น้องรอง ต้องขอโทษด้วยที่ข้ามาช้า”
คนรับใช้จวนหลานที่อยู่ข้างๆ ย่อมจำคุณหนูใหญ่แห่งจวนหลานได้ ดังนั้นจึงนิ่งงันไป แต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งเอาไว้
หลานสุ่ยหยวนและหลานสุ่ยเถียนทั้งสองคนก็ตกตะลึงไปเช่นกัน เบิกตากว้างโดยไม่รู้ตัว เอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อ “หลานสุ่ยชิง เจ้ามาได้อย่างไร?”
หลานสุ่ยชิงกะพริบตาให้นาง กล่าวอย่างไร้เดียงสายิ่งนัก “ข้าเพียงแค่มาช้าไปก้าวเดียว เหตุใดน้องรองจึงต้องโมโหเพียงนี้ด้วย?”
“เจ้า เจ้า เจ้าบอกว่าไม่สบายมาไม่ได้ไม่ใช่หรือ?” ให้ตายเถิดๆๆ หลานสุ่ยชิงงดงามเพียงนี้ หากนางมา จะยังมีช่องว่างให้นางได้พูดอีกหรือ
ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไร ก็จะให้นางมาปรากฏตัวที่นี่ไม่ได้ “ในเมื่อสุขภาพเจ้าไม่ดี ก็รีบกลับไปเถิด อย่ามาทำขายหน้าอยู่ที่นี่เลย”
“น้องรองพูดอะไรของเจ้ากัน? ในเทียบเชิญงานเลี้ยงของซิวหวางเฟยก็มีชื่อของข้า หากข้าไม่มา จะเสียมารยาทขนาดไหนกัน?”
“เจ้า เจ้าจงใจนี่ เห็นๆ อยู่ว่าเจ้า…”
พ่อบ้านหยางหรี่ตา ในใจหัวเราะอย่างเรียบๆ ถึงแม้ว่าในตำหนักอ๋องซิวจะไม่มีการต่อสู้ระหว่างพี่น้องเช่นนี้ แต่เขาก็พอจะมีประสบการณ์อยู่มาก ฟังเพียงไม่กี่ประโยคก็พอจะเข้าใจเรื่องราวได้แล้ว
ดูท่าทาง ชีวิตของคุณหนูใหญ่ตระกูลหลานในจวนหลานนี้คงจะไม่ได้ดีนัก
“แม่นางหลาน…” พ่อบ้านหยางเดินหน้า ขัดจังหวะหลานสุ่ยหยวนที่กำลังจะพูดต่อ เอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “เหตุใดจึงยืนอยู่ตรงนี้ไม่เข้าไปอีกเล่าขอรับ?”
ถึงแม้หลานสุ่ยหยวนจะแยกเขี้ยวยิงฟันต่อหน้าหลานสุ่ยชิง แต่เมื่อเห็นคนอย่างพ่อบ้านหยาง ก็ยังพอจะรู้จักเก็บอาการ ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา คารวะเล็กน้อย กล่าวออกมาเสียงเบา “ขออภัยพ่อบ้านหยางด้วย เป็นเพราะพี่สาวใหญ่ของข้านั้นไม่ค่อยสบายนักจริงๆ ดังนั้นข้ากับน้องสามจึงกำลังคุยกันว่าจะส่งพี่ใหญ่กลับไป จะได้ไม่เป็นการเสียมารยาทต่อหน้าหวางเฟยเจ้าค่ะ ไม่อยากให้รถม้าอยู่ตรงนี้ จะขวางทางคนอื่นได้”
กล่าวจบนางก็ส่งสายตาให้สาวใช้ด้านหลัง สาวใช้ผู้นั้นเดินหน้าทันที จะเข้ามาพยุงหลานสุ่ยชิง “คุณหนูใหญ่ บ่าวจะพาท่านกลับไปส่งนะเจ้าคะ”
“อ้าว เดี๋ยวก่อน” พ่อบ้านหยางไม่รอให้หลานสุ่ยชิงขัดขืน กลับเอ่ยปากออกมาก่อน
ล้อกันเล่นหรือ คุณหนูใหญ่ตระกูลหลานผู้นี้เป็นตัวเอกของงานเลี้ยงในครั้งนี้ หากนางไปเสีย เช่นนั้นงานเลี้ยงนี้จะยังมีอะไรอีก?
พ่อบ้านหยางกวักมือเรียกแม่นมที่ยืนอยู่ตรงประตูใหญ่ของตำหนักทันที จนกระทั่งแม่นมผู้นั้นมาอยู่ตรงหน้า ก็กล่าวกับหลานสุ่ยหยวน “ในเมื่อมาถึงจวนแล้ว จะยังมีเหตุผลอันใดให้กลับไปอีก แม่นางหลานวางใจเถิด ในตำหนักมีหมออยู่ ทั้งยังมีห้องรับแขกให้แม่นางหลานพักผ่อน ยิ่งไปกว่านั้น หวางเฟยของพวกข้าก็มีฝีมือการแพทย์สูงส่ง หากแม่นางหลานป่วยจริงๆ มีหวางเฟยอยู่ ก็สามารถวางใจได้แล้ว”
หลานสุ่ยชิงดวงตาเป็นประกาย หากได้พบซิวหวางเฟยเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องอ้อมค้อมมากนัก
หลานสุ่ยหยวนกลับมีเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย นางยังคิดจะกล่าวอันใดต่อ แขนเสื้อก็ถูกหลานสุ่ยเถียนที่อยู่ด้านหลังดึงเอาไว้
หลานสุ่ยเถียนยิ้มออกมา “พ่อบ้านหยางกล่าวได้ถูกต้อง แต่พี่ใหญ่นั้นป่วยเป็นโรคเรื้อรัง จะไปกล้ารบกวนหวางเฟยได้อย่างไรเล่า ในเมื่อพ่อบ้านหยางบอกเช่นนั้นแล้ว พวกข้าพี่น้องก็ทำได้เพียงรบกวนพ่อบ้านหยางแล้วเจ้าค่ะ”
“ไม่ต้องเกรงใจ” พ่อบ้านหยางหมุนตัว กล่าวกับแม่นมที่อยู่ด้านหลัง “เจ้าพาคุณหนูใหญ่ตระกูลหลานไปพักผ่อนที่เรือนหย่าเฟิงเสีย ดูแลให้ดีๆ ล่ะ”
“เจ้าค่ะ” แม่นมผู้นั้นทำท่าทางเชิญหลานสุ่ยชิงอย่างเคารพนบนอบ
หลานสุ่ยชิงเก็บการแสดงออกทางสายตาอย่างสงบเยือกเย็น การพานางไปพักผ่อนที่เรือนด้านหลังนั้นเข้าแผนของนางพอดิบพอดี หลานสุ่ยหยวนทั้งสองคนไม่อยากให้นางปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้วแย่งความสนใจไปจากพวกนาง ดังนั้นจึงปล่อยให้คนรับใช้ขังนางเอาไว้ในห้อง แต่พวกนางกลับไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนี้กลับทำให้นางมีโอกาสได้บรรลุจุดประสงค์ของตน
พวกนางเองก็ถือว่าช่วยเหลือนางโดยไม่รู้ตัว หลานสุ่ยชิงคิดแล้วก็ยิ้ม พยักหน้าให้พ่อบ้านหยางเล็กน้อย เดินเข้าตำหนักอ๋องซิวไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ทันทีที่จากไป หลานสุ่ยเถียนก็กล่าวกับพ่อบ้านหยางเบาๆ “พ่อบ้านหยาง ถึงแม้จะบอกว่าเรื่องฉาวในบ้านไม่ควรเล่าสู่ภายนอก แต่บางเรื่องก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องพูด พี่ใหญ่ของพวกข้าไม่สบาย หากป่วยขึ้นมา บางครั้งก็จะทำเรื่องที่อุกอาจ นิสัยเองก็จะเปลี่ยนไปเป็นเอาแต่ใจตนเองอย่างแปลกประหลาด แม้จะบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด แต่วันนี้ที่จวนมีแขกชั้นสูงมากมาย เกรงว่าจะไปยั่วยุผู้คนชั้นสูง ถึงตอนนั้นพวกข้ากลับบ้านไปก็คงไม่สามารถรายงานท่านพ่อท่านแม่ได้ ดังนั้นพ่อบ้านหยางช่วยให้คนคอยเฝ้าอยู่ด้านนอกห้องที่ท่านพี่ใหญ่พักผ่อนได้หรือไม่ นางจะได้ไม่ก่อเรื่องวุ่นวายอันใด รอจนงานเลี้ยงจบลง พวกข้าก็จะพานางกลับเองเจ้าค่ะ”
จริงๆ แล้วนางอยากจะให้สาวใช้ข้างกายตนตามไปด้วย แต่เมื่อครู่ท่าทางของแม่นมผู้นั้นดูสีหน้าไร้อารมณ์และปฏิเสธไม่ให้ใครเข้าใกล้ เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้ใครนอกจากเยียนจือติดตามไปด้วย ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงยอมแพ้ ต้อง ‘สารภาพความจริง’ กับพ่อบ้านหยางเสียก่อน
พ่อบ้านหยางฟังจบก็แปลกใจอย่างมาก จากนั้นก็พยักหน้าอย่างจริงจัง “คุณหนูหลานโปรดวางใจ ตอนนี้ข้าจะไปสั่งให้คนคอยดูไว้ เชิญคุณหนูทั้งสองเถิด”
กล่าวจบก็ให้คนนำคุณหนูตระกูลหลานทั้งสองเข้าตำหนักไป ส่วนตนก็เร่งรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ร่างของหลานสุ่ยชิงลับตาไป
แต่เมื่อเดินมาถึงตรงมุม เขาก็หมุนฝีเท้าทันที สีหน้าเคร่งเครียดจริงจังเองก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยย ท่าทางเปลี่ยนเป็นเอื่อยเฉื่อยมากขึ้น
นิสัยเปลี่ยนเป็นเอาแต่ใจอย่างประหลาดหรือ? ฮ่า ในตำหนักของพวกเขานั้น เนี่ยนเนี่ยนที่เอาแต่ใจและแปลกประหลาดเสียยิ่งกว่ายังไม่ปรากฏตัวด้วยซ้ำ
เมื่อดูเวลา อีกเดี๋ยวไทเฮาก็น่าจะมาถึงแล้ว ถึงตอนนั้นเขาค่อยไปรายงานหวางเฟย
คุณหนูใหญ่หลานพักผ่อนอยู่ที่เรือนหย่าเฟิงก็ดี อีกเดี๋ยวหวางเฟยไปด้วยตนเองก็จะได้พบนางแล้ว จะได้ไม่ต้องออกแรงมากนัก
คิดถึงตรงนี้ พ่อบ้านหยางก็เลี้ยวตรงมุมหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่ประตูใหญ่ของตำหนักอีกครั้ง เริ่มต้นรับแขก เพียงแต่สั่งผู้อารักขาด้านข้างคนหนึ่งเอาไว้ ถ้าหากเขาเห็นไทเฮามาเมื่อใด ก็ให้มาบอกเขาอีกครั้ง
ส่วนหลานสุ่ยชิงที่ถูกพาตัวเข้าสู่เรือนหย่าเฟิงในตอนนี้ กลับนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างเงียบสงบ
แม่นมที่อยู่ด้านนอกนั้นเป็นคนของตำหนักอ๋องซิว นางต้องหลบสายตาของอีกฝ่ายจึงจะออกไปได้
ที่นี่เป็นเรือนด้านหลัง ยิ่งทำให้นางกระทำการได้อย่างสะดวก อย่างไรหญิงสาวที่มาร่วมงานเลี้ยงก็มีขอบเขตในการเดินไปไหนมาไหนที่จำกัด ไม่ดีเหมือนนางที่เป็นเช่นนี้ อีกเดี๋ยวเมื่อออกไป ก็จะได้ตามหาเรือนของหวางเฟย
นางเองก็ไม่เคยคิดจะเข้าพบซิวหวางเฟยต่อหน้าคนอื่นๆ อย่างไรเรื่องที่นางจะขอร้อง ก็เกี่ยวข้องกับอาการป่วย… ของท่านแม่ตน ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ประหลาดใจล่ะสิว่ามาได้ไง อย่าดูถูกคนอ่อนแอแล้วกันน่า
ไหหม่า(海馬)