อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 93 จับชู้รัก
ตอนพิเศษ 93 จับชู้รัก
ตอนพิเศษ 93 จับชู้รัก
หลานสุ่ยชิงนึกถึงใครบางคนเมื่อวานนี้ ที่บอกให้นางอยู่ห่างจากฝูงชน ห่างไกลจากสายตาของคุณชายผู้สูงศักดิ์เหล่านั้น
นางจึงคิดว่าจะไม่ไป เพราะถ้าเขารู้ เขาจะต้องจัดการนางด้วยวิธีอะไรบางอย่างแน่นอน
อืม อย่างไรเสีย เขาก็ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อนาง จึงควรจะเชื่อฟังบ้างเป็นครั้งคราว
นางจึงส่ายหน้าให้ซูเหยา “ข้าจะไม่ไปตรงนั้น”
เนี่ยนเนี่ยนก็บอกว่านางก็ไม่ต้องการไปร่วมสนุกเช่นกัน
ซูเหยาเห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไรมาก ก่อนจะรีบไปที่ริมฝั่งน้ำพร้อมกับเหลียงอวี่จือและหยางซาน
หวางเฟยสามเดินไปที่ศาลาด้านข้างแล้วนั่งลง สายตาของนางอ่อนโยน ขณะมองชายหนุ่มและหญิงสาว ที่ยืนเรียงรายกันอยู่สองฝั่งด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดเสียงดังว่า “ทุกคนอย่าเกร็งเลย ทำตัวสบาย ๆ หายากนะที่จะอากาศดีเหมือนวันนี้ คุณชายคุณหนูทั้งหลายอย่าทำให้อากาศดีเช่นนี้เสียเปล่าล่ะ”
คำพูดของหวางเฟยสามค่อนข้างแฝงความนัยเอาไว้ จนทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างเข้าใจ ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งนี้พวกเขาทุกคนรู้ว่าตนมาที่นี่เพื่ออะไร
ดังนั้นทันทีที่หวางเฟยสามพูดจบ คุณชายและคุณหนูหลายคนก็เริ่มชะเง้อมองไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ
อวี้ชิงลั่วที่นั่งอยู่ในศาลาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ โอ้โห เหตุใดนางถึงรู้สึกเสียดาย ที่ก่อนหน้านี้นางไม่มางานเลี้ยงเหล่านี้? ดูสิว่ามันน่าสนใจเพียงใด
เสียงกึกก้องดังขึ้นอีกครั้ง ไม่นานมีคนมาแนะนำให้หนุ่มสาวมาทำการแสดง
อืม เหมือนกับที่เย่หลานผิงบอก มันขึ้นอยู่กับ… ความใจเย็นสุขุม
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคุณชายหรือคุณหนู ต่างก็เตรียมความสามารถพิเศษของตนเองก่อนที่จะมา หวางเฟยสามสั่งให้คนจัดเวทีและปลูกเพิงจัดโต๊ะไว้ที่ลานแล้ว จากนั้นจึงสั่งให้พ่อบ้านจัดลำดับให้คนที่จะขึ้นแสดงเตรียมการแสดง
มีโอกาสไม่มากนักที่จะแสดงความเก่งกาจ โดยเฉพาะในโอกาสเช่นนี้ บางทีอาจได้รับการขนานนามว่าเป็นชายหนุ่มหรือหญิงสาวผู้มีความสามารถเป็นอันดับหนึ่ง หรืออาจไปเข้าตาผู้สูงศักดิ์เข้าก็ได้ อนาคตไกลไร้ขีดจำกัด
สถานการณ์จึงคึกคักขึ้นมาทันที
หลานสุ่ยชิงกับเนี่ยนเนี่ยนที่อยู่ตรงมุมมองหน้ากัน
หลังจากนั้นไม่นาน บทเพลงจากเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายมโหรีก็ดังมาจากเวทีตรงนั้น หลังจากฟังไปสักพัก เนี่ยนเนี่ยนก็ถูกสาวใช้ที่เย่หลานเวยส่งมาลากออกไป
ดูเหมือนว่าเขากำลังจะแสดง และขอให้เนี่ยนเนี่ยนช่วย
หลานสุ่ยชิงหัวเราะ เวยซื่อจื่อก็ดูเป็นคนที่น่าสนใจมากเช่นกัน
นางจิบชาอีกครั้ง และมองไปยังเวทีจากระยะไกล
ทันใดนั้นสายลมก็พัดผ่านหูของนาง เมื่อนางขมวดคิ้วและเสยผมที่ปลิวสยายลงมา นางเห็นจดหมายวางอยู่บนโต๊ะ
หลานสุ่ยชิงตกตะลึง แล้วรีบคลี่จดหมายออก
ลายมือบนนั้นดูหนักแน่นและทรงพลัง ลายเส้นตวัดได้น่าทึ่ง ที่สำคัญที่สุดคือนางคุ้นเคยกับลายมือนี้เป็นอย่างดี
หลานสุ่ยชิงหันไปมองข้างหลัง แต่ก็ไม่เห็นคนที่นางต้องการเห็น นางจึงขมวดคิ้ว แล้วมองจดหมายอีกครั้ง
หลังจากอ่านจบ รอยยิ้มก็ล้นออกมาจากมุมปากของนางอย่างเสียไม่ได้ นางวางจดหมายทิ้งไว้ ก่อนหันหลังเดินจากไป
ทันทีที่นางเคลื่อนไหว สายตาของหลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนที่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนางอยู่ในฝูงชนก็พลันสว่างขึ้น
ทั้งสองสะกิดเสิ่นเหวินเสียนที่กำลังถูกการแสดงบนเวทีดึงดูดอยู่ แล้วพูดอย่างกังวลว่า “พี่เสิ่น หลานสุ่ยชิงไปหาคนรักของนางแล้ว”
แม้ว่าพวกนางอยากจะดูการแสดงบนเวที เพื่อดูว่ามีชายหนุ่มคนไหนที่มีพรสวรรค์เข้าตาพวกนางบ้างหรือไม่
แต่ในขณะเดียวกันพวกนางก็เข้าใจว่า หากหลานสุ่ยชิงยังไม่ถูกกำจัด และสถานะของจินซื่อยังคงเป็นเพียงอนุ พวกนางก็จะไม่มีทางมีอนาคตที่สดใส ต่อให้พวกนางจะมีบุรุษที่ชอบ พวกนางก็คงไม่มีวันได้ครอบครอง
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือต้องกำจัดหลานสุ่ยชิงก่อน
ทันใดนั้นเสิ่นเหวินเสียนก็กลับมารู้สึกตัว เพราะคำพูดของพวกนาง นางละสายตาจากเวที แล้วมองไปยังตำแหน่งที่หลานสุ่ยชิงอยู่เมื่อครู่นี้ทันที
แน่นอนว่าตอนนี้เห็นแค่ชายเสื้อของนางเท่านั้น
“ไปกันเถอะ รีบตามไปดูกันเถอะ” เสิ่นเหวินเสียนไม่สนใจการแสดงบนเวทีอีกต่อไป ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ดวงตาของนางฉายแววดุร้าย นางรอแทบไม่ไหวที่จะทะยานไปอยู่ข้างหลานสุ่ยชิง
ทั้งสามถอยห่างจากฝูงชนเงียบ ๆ แล้วรีบเดินไปยังสถานที่ที่หลานสุ่ยชิงเพิ่งหายตัวไป
สภาพแวดล้อมในตำหนักองค์ชายสามไม่ซับซ้อน มีทางเดียวที่หลานสุ่ยชิงจะออกไปได้ และหาง่ายมาก
เพียงแค่เลี้ยวตรงหัวมุม พวกหลานสุ่ยหยวนก็เห็นหลานสุ่ยชิง ยืนหันหลังให้พวกนางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่
ทั้งสามหยุดรีบ แล้วโผล่หัวมองร่างนั้นเงียบ ๆ
ขณะนี้หลานสุ่ยชิงก้มลงเล็กน้อย คิ้วขมวดมุ่นขณะระวังตัว
ไม่ได้ให้นางมาที่นี่ และบอกว่ามีบางอย่างจะให้นางหรอกหรือ? เหตุใดนางมาแล้ว แต่เขากลับหายไป?
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้านาง
หลานสุ่ยชิงตกใจทันที จากนั้นเงยหน้าขึ้นทันใด แล้วก็เห็นหนานหนานตาเป็นประกาย มองนางด้วยรอยยิ้มมุมปาก
นางกะพริบตา ในวินาทีต่อมา นางก็เบิกตากว้างอีกครั้ง รูม่านตาหดลงทันที “เจ้า เจ้า เจ้าไปเอาเสื้อมาจากที่ใด?”
หนานหนานทำหน้ามุ่ย “ในเมื่อมันถูกตัดเย็บมาเพื่อข้า ทั้งยังเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหตุใดเจ้าไม่ให้ข้าเล่า? ข้าต้องลำบากไปหามาใส่เอง แต่ก็ยังใส่ได้พอดีเลย”
ดวงตากลมโตของหลานสุ่ยชิงจ้องมองเขา เลือดเริ่มสูบฉีดจากคอทีละน้อย และในที่สุดก็ย้อมทั้งใบหน้าให้เป็นสีแดงก่ำ
จู่ ๆ นางก็รู้สึกโกรธ “ใครกัน ใครบอกว่ามันถูกสร้างมาเพื่อเจ้า? เจ้าอย่าคิดไปเองสิ” เขารู้ได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่านางซ่อนมันไว้อย่างดี และนางยังบอกเยียนจือกับแม่นมปู้ไว้แล้วว่าอย่าพูดอะไร
ยิ่งกว่านั้น เขาบุกเข้าไปในห้องของนางอย่างไร้ยางอาย แล้วค้นหาเสื้อคลุมจนเจอ ช่าง… ไร้ยางอายนัก
“เอ๊ะ ไม่ใช่เพื่อข้า แล้วทำให้ใคร? เจ้าทำให้ใครกัน เจ้าทำได้… พอดีตัวกับข้ามาก”
“…” หลานสุ่ยชิงเริ่มกัดฟัน “ข้าทำให้พ่อของข้า ทำผิดขนาดไปหน่อย”
หนานหนานเลิกคิ้ว เมื่อเห็นแก้มนุ่มนิ่มสีชมพูของนาง เขาก็รู้สึกคันมือจนเผลอยื่นมือออกไปบีบจมูกของนางทันที “อืม ข้ายอมให้เจ้าปฏิเสธก็แล้วกัน อย่างไรเสียเราก็รู้กัน ข้าไม่คิดจะถอดเสื้อตัวนี้หรอก”
การที่เขาทำตัวสนิทสนมมากทำให้หลานสุ่ยชิงตกใจ นี่มันกลางวันแสก ๆ…
นางหันไปดูว่ามีใครอยู่รอบ ๆ หรือไม่โดยไม่รู้ตัว จากนั้นนางก็ตระหนักได้ว่าสถานที่นี้อยู่ห่างไกลมาก และต่อให้จะมีคนอยู่… ก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพราะนางกับเขาหมั้นกันแล้ว การมาพบกันครั้งสองครั้งเช่นนี้ไม่เป็นอะไร
แต่นางก็ยังคงจ้องมองหนานหนานอย่างดุดัน
นางคิดเช่นนั้น แต่พวกหลานสุ่ยหยวนที่ซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงไม่คิดเช่นนั้น
เมื่อพวกนางเห็นหนานหนานปรากฏขึ้น หัวใจก็แทบจะกระโดดออกมา โดยเฉพาะเมื่อเห็นเสื้อที่เขาสวมใส่ เสื้อนี้เหมือนกับที่อาตี้อธิบายไว้ทุกประการ และส่วนสูงก็สูงกว่าอินทรีหิมะเล็กน้อย
น่าเสียดายที่พวกนางยืนอยู่ห่าง และเขายังก้มศีรษะลงด้วย มุมไม่ดีเลย จึงมองไม่เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน
แต่ แต่ แต่!!!
เมื่อครู่นี้พวกนางทั้งสามเห็นท่าทางสนิทสนมระหว่างเขากับหลานสุ่ยชิงได้อย่างชัดเจน
ทันใดนั้นทุกคนก็มองหน้ากัน แล้วหัวเราะอย่างชั่วร้าย
……………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หัวเราะกันไปเถอะ ระวังไว้ว่าหัวเราะทีหลังดังกว่านะ
ไหหม่า(海馬)