อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 95 เห็นหมดแล้ว
ตอนพิเศษ 95 เห็นหมดแล้ว
ตอนพิเศษ 95 เห็นหมดแล้ว
หวางเฟยสามถอนหายใจ เอาล่ะ นางไม่จำเป็นต้องพูดตอนนี้ เกรงว่าไม่เพียงแต่อวี้ชิงลั่วเท่านั้นที่รู้ แม้แต่เหล่าบุรุษที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำก็น่าจะได้ยินเช่นกัน
อวี้ชิงลั่วนิ่งไปชั่วขณะ แล้วกะพริบตาอีกครั้ง สุ่ยชิงแอบนัดเจอกับชายอื่นงั้นหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร? เมื่อพูดถึงการแอบไปเจอกัน นางก็มักจะอยู่กับลูกชายของนางเป็นส่วนใหญ่
ทั้งสองแอบเจอกันบ่อยครั้ง หนานหนานไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงความสงสัยได้อย่างไร เขาจึงวิ่งไปที่จวนหลานตลอดทั้งวัน
แต่เมื่อเช้านี้นางได้ยินว่าหนานหนานออกจากจวนเพื่อมาตำหนักองค์ชายสาม แต่นางยังไม่เห็นเขาเลยจนกระทั่งตอนนี้ เขาหายไปไหน?
เอ๊ะ อาจเป็นไปได้ไหมว่าชายที่พวกนางบอกว่ามีความสัมพันธ์กับสุ่ยชิงจะเป็นหนานหนาน
อืม มีความเป็นไปได้สูงมาก เท่าที่นางรู้มา สุ่ยชิงรู้วิธีหลีกเลี่ยงความสงสัย หากชายที่นางไปเจอไม่ได้มีสถานะพิเศษกับนาง นางจะไม่มีวันไปเจอเป็นการส่วนตัว
อวี้ชิงลั่วหรี่ตา คนผู้นั้นน่าจะเป็นหนานหนาน
เมื่อหวางเฟยสามเห็นสีหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย “ชิงลั่ว ข้าคิดว่ามันค่อนข้างแปลก ข้าเคยเจอลูกสาวคนโตของตระกูลหลานมาก่อน เด็กคนนั้นไม่เหมือนใคร นางจะไม่ทำเช่นนั้นเด็ดขาด เจ้าว่ามีใครใส่ร้ายนางหรือไม่?”
พูดตามตรง หวางเฟยสามค่อนข้างพิจารณาหลานสุ่ยชิงอย่างละเอียด อีกทั้งหนานหนานก็ชอบนาง นางจึงไม่อยากมีปัญหากับหลานสุ่ยชิง
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก อืม เป็นไปได้ที่จะถูกใส่ร้าย
หวางเฟยและฮูหยินคนอื่น ๆ ในศาลาต่างมองอวี้ชิงลั่ว ราวกับว่าพวกนางต้องการอ่านบางอย่างจากสีหน้าของนาง
ตอนนี้อวี้ชิงลั่วสงบลงแล้ว นางหยิบถ้วยชาข้าง ๆ ขึ้นมาจิบ
แต่ข้างนอกศาลาตอนนี้กำลังโกลาหล
เสียงนั้นได้หยุดการแสดงบนเวทีไป และบุรุษที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำก็เริ่มพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
เย่หลานเวยกำลังจะขึ้นเวที แต่เมื่อเขาได้ยินข่าวลือนี้ เขาก็อารมณ์ไม่ดี
ทันใดนั้นเขาก็ดึงคนรับใช้มาสั่งว่า “เจ้าไปดูสิว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริง เจ้าจง… จับตัวแม่นางหลานกับชายคนนั้นไปขังไว้ แล้วกลับมาเรียกข้าให้ไปจัดการ”
“พ่ะย่ะค่ะ” คนรับใช้เงยหน้าขึ้นแล้ววิ่งไปทันที
แต่เขาวิ่งไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็มีการเคลื่อนไหวจากฝั่งแขกหญิงแล้ว เขาเห็นว่าเสิ่นเหวินเสียนพาฉินฮูหยินและคนอื่น ๆ ไปยังสถานที่ที่หลานสุ่ยชิงอยู่แล้ว
จิ่นซิ่วที่ตอนแรกนั่งอยู่ด้านหน้าของหญิงคนนั้น แทบจะขมวดคิ้วเป็นปม นางบอกสาวใช้ที่อยู่ข้างนางให้ไปดูด้วย แต่ก็ยังสายเกินไป เสิ่นเหวินเสียนจะให้โอกาสพวกนางไปส่งข่าวก่อนได้อย่างไร นางเดินนำฉินฮูหยินและคนอื่น ๆ ไปแล้ว
จิ่นซิ่วมองศาลาที่อยู่ไม่ไกลด้วยความกังวล เมื่อเห็นสีหน้าเฉยเมยของอวี้ชิงลั่ว นางก็ยิ่งกังวลมาก จึงรีบยกกระโปรงขึ้นแล้วเดินตามไป
เหล่าบุรุษมองหน้ากัน ก่อนจะเดินข้ามสะพานมา เมื่อถึงอีกฝั่งของแม่น้ำพวกเขาก็เดินกันเป็นกลุ่มใหญ่
หวางเฟยสามมองอวี้ชิงลั่วที่ยังคงนั่งอยู่ที่นั่น “ข้าจะสั่งให้คนรับใช้ของข้าไปหยุดพวกเขา”
แต่การไปหยุดเช่นนั้น จะกลายเป็นความรู้สึกเหมือนกับที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง(1) ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริงยิ่งกว่าเดิม
แต่น่าแปลกที่มีความโกลาหลครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่นี่ หลานเวยน่าจะส่งองครักษ์ออกไปดูแล้ว
“ไม่จำเป็นต้องหยุด” อวี้ชิงลั่วมีสีหน้าเรียบเฉย “ข้าเชื่อสุ่ยชิง”
มีความโกลาหลครั้งใหญ่ หากหนานหนานออกจากตำหนักอ๋องซิวมาแล้วจริง ๆ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่รู้ แม้ว่าเขาจะไม่รู้ แต่เนี่ยนเนี่ยนย่อมรู้
นางคิดว่าคนที่ไปพบสุ่ยชิงต้องเป็นลูกชายของนาง ที่ทนความเหงาไม่ได้และกระโดดโลดเต้นตลอดทั้งวัน
“…” หวางเฟยสามลอบถอนหายใจ
แต่อวี้ชิงลั่วยืนขึ้นแล้ว “ไปกันเถอะ ไปดูความตื่นเต้นกัน”
เหล่าสตรีในศาลา “…”
ที่กำลังดูอยู่ตอนนี้คือเรื่องตื่นเต้นของตำหนักอ๋องซิว ท่านยังจะสงบสติอารมณ์ได้อยู่อีกหรือ
หมอปีศาจคนนี้มีนิสัยแปลก ๆ ช่างไม่มีเหตุผลเสียจริง
ดังนั้นจึงไม่ใช่แค่เหล่าคุณหนูและฮูหยินที่อยู่ตรงนั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนายน้อยและคุณชายของตระกูลต่าง ๆ ที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำด้วย ทั้งยังมีเหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ในศาลา ทุกคนต่างรวมตัวรีบเร่งไปยังที่แห่งหนึ่ง
การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ดังกล่าว ทำให้หลานสุ่ยหยวนกับหลานสุ่ยเถียนตื่นตระหนก พวกนางรีบถอยออกไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว
ไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้า
เสิ่นเหวินเสียนชี้ไปที่ลานเล็ก ๆ ลับตาคนทางด้านซ้าย แล้วพูดว่า “อยู่ตรงนั้นแหละ แค่เดินไปทางซุ้มประตูเล็ก ๆ นี้”
ฉินฮูหยินกับคนอื่น ๆ ก้าวไปอย่างรวดเร็ว แล้วเบียดเสียดกันเข้าไปในซุ้มประตูเล็ก
เสิ่นเหวินเสียนใช้โอกาสนี้ถอยหลังไปสองสามก้าว และพูดคุยกับหลานสุ่ยหยวนที่แอบเข้ามา “เป็นอย่างไรบ้าง?”
หลานสุ่ยเถียนรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย “ชายคนนั้นหายไปแล้วเจ้าค่ะ”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” เสิ่นเหวินเสียนตกใจ “แล้วให้ข้าพาคนเหล่านี้มาที่นี่โดยเปล่าประโยชน์หรือ?”
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเจ้าค่ะ” หลานสุ่ยเถียนยิ้มหวาน “เราได้สั่งให้คนปิดกั้นทางออกอื่นแล้ว เราจะไม่ปล่อยให้ชายคนนั้นหนีรอดไปได้”
พวกนางยังได้แอบนัดแนะกับอินทรีหิมะไว้เผื่อแล้ว และให้อินทรีหิมะคอยดักอยู่ที่อีกทางหนึ่ง เพื่อที่ต่อให้ชายคนนั้นต้องการจะออกไป เขาก็จะถูกนำตัวกลับมาในไม่ช้า
“อีกทั้งหลานสุ่ยชิงได้ให้กระเป๋าเงินแก่ชายคนนั้นไป เมื่อถึงเวลาที่จับชายคนนั้นได้ และพบกระเป๋าเงินอยู่กับเขา ข้าคิดว่าเขาคงจะแก้ตัวไม่ได้หรอก”
จากนั้นเสิ่นเหวินเสียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อฉินฮูหยินเข้าไปในประตูโค้งเล็ก ๆ แล้วพบว่าหลานสุ่ยชิงอยู่คนเดียว สีหน้าของนางก็บูดบึ้งทันที นางหันไปมองเสิ่นเหวินเสียนที่เดินมาจากด้านหลัง
“เกิดอะไรขึ้น? แล้วชายคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
“แน่นอนว่าคงได้ยินเสียงเราจึงแอบหนีไปซ่อน ลองค้นหาดูแถวนี้ เราจะพบเขาแน่นอน” อย่างไรเสีย หลานสุ่ยหยวนก็มั่นใจว่าชายคนนั้นไม่อาจหลบหนีได้ และอีกไม่นานจะต้องถูกจับได้
ฉินฮูหยินขมวดคิ้ว คนอื่น ๆ รอบตัวนางก็ชะเง้อมองไปรอบ ๆ ทันใดนั้นฉินฮูหยินก็เงยหน้าขึ้นมองหลานสุ่ยชิง
หลานสุ่ยชิงรู้สึกแย่เมื่อเห็นคนจำนวนมากมาที่นี่
เมื่อเห็นเสิ่นเหวินเสียน นางก็หรี่ตาลง
เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกนาง ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเสิ่นเหวินเสียนมาเจอนางตอนที่นางเจอกับเย่ฉิงหนาน และจงใจพาทุกคนมาที่นี่
แต่ว่า…
นางขมวดคิ้วทันที วรยุทธ์ของเย่ฉิงหนานอยู่ในระดับสูง โสตประสาทของเขาว่องไวยิ่งนัก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สังเกตว่าเสิ่นเหวินเสียนกำลังแอบดูเขากับนางอยู่
ชายคนนั้น… ต้องตั้งใจแน่นอน แย่มาก
แต่นางกลับชอบคนร้ายกาจเช่นนี้มาก จะทำอย่างไรดี?
เสิ่นเหวินเสียนเดินเชิดหน้าไปหาหลานสุ่ยชิง แล้วเยาะเย้ย “ชายคนนั้นไปไหนแล้วเล่า?”
“ชายคนไหน?” หลานสุ่ยชิงแสร้งทำเป็นโง่
“เจ้ายังจะปฏิเสธอีกหรือ? พวกเราเห็นกับตาหมดแล้วว่าเจ้าแอบนัดเจอกับบุรุษ ซ้ำยังประพฤติตัวสนิทสนมกันแบบไม่มีความละอาย หลานสุ่ยชิง ตอนนี้เจ้าเป็นคู่หมั้นของซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิว เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าให้เกียรติตำหนักอ๋องซิวบ้างหรือไม่?”
หลานสุ่ยชิงเลิกคิ้ว “พวกเรางั้นหรือ? นอกจากเจ้าแล้ว มีใครเห็นอีกหรือ?”
“ย่อมมีสิ” เสิ่นเหวินเสียนไม่คิดจะปล่อยสองพี่น้องสกุลหลานไป นางชี้ไปที่หลานสุ่ยหยวนกับน้องสาว “น้องสาวแสนดีสองคนของเจ้า ก็เห็นด้วยตาของพวกนางเองเหมือนกัน”
……………………………………………………………………………………………………………….
(1)ที่ตรงนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง (此地无银三百两) เป็นสำนวน หมายถึง ต้องการปกปิดซ่อนเร้น กลับกลายเป็นเปิดเผยให้โลกรู้
สารจากผู้แปล
เห็นหมดแล้วไง ความจริงปรากฏเมื่อไหร่เตรียมหาหมอไว้เย็บเศษหน้าด้วยนะ
ไหหม่า(海馬)