อลวนรักหมอหญิงชิงลั่ว - ตอนพิเศษ 96 เขาจูบหลานสุ่ยชิง
ตอนพิเศษ 96 เขาจูบหลานสุ่ยชิง
ตอนพิเศษ 96 เขาจูบหลานสุ่ยชิง
สีหน้าของหลานสุ่ยหยวนเปลี่ยนไป เห็นได้ชัดว่าแบบนี้ไม่ใช่แล้ว
เสิ่นเหวินเสียนคนนี้ดูฉลาดขึ้นเล็กน้อย หลังจากตกน้ำครั้งล่าสุด
สีหน้าของทั้งสองแข็งทื่อ แต่สายตาของทุกคนจับจ้องมาที่พวกนาง พวกนางจึงไม่อาจอยู่ห่างจากเรื่องนี้ได้อีกต่อไป จึงทำได้เพียงกัดฟันเดินตัวสั่นเข้าไป
บางคนเริ่มขมวดคิ้ว คุณหนูบางคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับตระกูลหลานเริ่มกระซิบกระซาบกัน
คนที่คิดอย่างลึกซึ้งต่างสงสัยว่าเรื่องนี้อาจเป็นแผนการของหลานสุ่ยหยวนกับน้องสาว
คำพูดเหล่านี้ย่อมลอยไปถึงหูของหลานสุ่ยหยวน แต่ตอนนี้พวกนางไม่มีทางออก
อีกทั้งหลานสุ่ยชิงก็เป็นคนมีความสัมพันธ์กับชายอื่นเอง มันจึงเป็นความผิดของนางเอง พวกนางแค่เป็นคนเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้
“พี่เสิ่นพูดถูก เมื่อครู่นี้เราบังเอิญเห็น… พี่ใหญ่อยู่กับบุรุษจริง พวกเราคาดหวังหรือว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบนี้? มันเป็นความผิดของเราทั้งหมด เราไม่ได้อยู่กับพี่ใหญ่ตลอดเวลา ถ้าเราอยู่ด้วยกัน เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น เรา… เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถ้าท่านพ่อกับท่านย่ารู้เรื่องร้ายแรงเช่นนี้ เราจะทำอย่างไรกันดี?”
ขณะที่พูด ทั้งสองก็เริ่มร้องไห้
คนที่มามุงดูเริ่มเห็นใจ แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ไม่น่าแปลกใจเลย พี่ใหญ่ของพวกเจ้าทำเช่นนี้ก็จะทำร้ายพวกเจ้าไปด้วย ทำให้พวกเจ้ามีความผิดไปด้วย”
สายตาของฉินฮูหยินจับจ้องที่หลานสุ่ยชิงอีกครั้ง จ้องมองนางด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน “แม่นางหลาน แม้แต่น้องสาวสองคนของเจ้าก็ยังพูดเช่นนี้ ดังนั้นเจ้าคงไม่ได้ถูกเข้าใจผิดแล้วล่ะ เจ้าควรจะพูดมาตามตรงเลย แล้วเรียกชายคนนั้นออกมา ไม่เช่นนั้นหากเขาถูกจับมา เจ้าจะไม่ยิ่งอับอายไปมากกว่านี้หรือ?”
“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้ากำลังพูดถึงอะไร” หลานสุ่ยชิงเย้ยหยัน
ขณะนี้เย่หลานเวยและบุรุษคนอื่น ๆ ก็เข้ามา ส่วนหวางเฟยสามก็รีบมาด้วยเช่นกัน
เหล่าคุณหนูหลีกทางให้เหล่าผู้สูงศักดิ์ก้าวมาข้างหน้าทันที
เมื่อหลานสุ่ยชิงเห็นอวี้ชิงลั่วและคนอื่น ๆ ก็ก้าวเข้าไปทำความเคารพ
อวี้ชิงลั่วยกยิ้มแล้วประคองนางขึ้น “ได้ยินมาว่ามีเรื่องตื่นเต้นมากมายเกิดขึ้นที่นี่ ข้าจึงมาที่นี่ ใครช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
นางหันหน้ากวาดสายตามองไปรอบ ๆ
ใบหน้าของอวี้ชิงลั่วเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย
ฉินฮูหยินเห็นดังนั้น ก็ดึงเสิ่นเหวินเสียนกับสองพี่น้องสกุลหลานออกมาทันที หลังจากทำความเคารพแล้ว นางก็เปล่งเสียงตอบว่า “กราบทูลซิวหวางเฟย คุณหนูเสิ่นบอกว่าเมื่อครู่นี้ นางกับคุณหนูรองและคุณหนูสามของตระกูลหลาน บังเอิญมาที่ซุ้มประตูนี้ แต่บังเอิญเห็นแม่นางหลานกับชายคนหนึ่งประพฤติตัวสนิทสนมและไม่เหมาะสม คุณหนูรองกับคุณหนูสามตกใจเกินกว่าจะส่งเสียง แต่คุณหนูเสิ่นโกรธจัดจนพูดพึมพำออกมา ซึ่งบังเอิญพวกเราที่เหลือได้ยินเข้า นั่นคือเหตุผลที่ทุกคนมาที่นี่เพคะ สุดท้ายลูกสาวคนโตของตระกูลหลานตอนนี้ ก็เป็นคู่หมั้นของซื่อจื่อแห่งตำหนักอ๋องซิว เรื่องนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่อาจปล่อยให้ตำหนักอ๋องซิวถูกแม่นางหลานหลอกได้เพคะ”
“อ๋อ” อวี้ชิงลั่วพยักหน้า ก่อนหันหน้าไปมอง กะพริบตาแล้วพูดด้วยความแปลกใจว่า “แล้ว… แล้วชายคนนั้นล่ะ? เหตุใดเห็นแต่สุ่ยชิงอยู่ที่นี่คนเดียว?”
ขณะที่นางพูดนั้น นางก็กวาดสายตามองกลุ่มคุณชายที่ติดตามเย่หลานเวยมาในตอนนี้ แล้วพูดว่า “อาจเป็นหนึ่งในนี้หรือเปล่า?”
ทุกคนตกใจจนรีบถอยหลังหนี “พวกเราไม่เกี่ยวนะขอรับ”
อวี้ชิงลั่วมองเสิ่นเหวินเสียนด้วยสีหน้าประหลาดใจ “คุณหนูเสิ่น จำได้หรือไม่ว่าชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบบไหน และหน้าตาของเขาเป็นอย่างไร?”
“แน่นอนว่าจำได้เพคะ คนนั้นไง… อ๊ะ เขานั่นแหละ เขานั่นเอง” เสิ่นเหวินเสียนกำลังจะอธิบาย แต่ทันใดนั้นก็เห็นชายคนหนึ่งเดินมาจากอีกทางหนึ่ง
ร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลา
ทันทีที่เสิ่นเหวินเสียนตะโกนออกมา นางก็ตกตะลึง นางเคยได้ยินว่าคนรักของหลานสุ่ยชิงนั้นหน้าตาดีมาก แต่ตอนนี้เมื่อนางได้เห็นจริง ๆ นางก็รู้สึกว่าเขาหล่อเหลาเสียจนไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้
คนอื่นก็ตกตะลึงเช่นกัน เหล่าคุณชายและนายน้อยหลายคนที่มาวันนี้ ต่างมีรูปร่างหน้าแบบที่นางเคยพบเห็นมาก่อนแล้ว แต่ท่ามกลางชายหนุ่มมากมาย หายากจริง ๆ ที่จะหาชายหนุ่มที่สามารถเทียบกับคนที่อยู่ตรงหน้านางได้
เขาเดินมาอยู่ข้างหลานสุ่ยชิง ลดสายตาลงเล็กน้อย แล้วถามนางว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
หลานสุ่ยชิงชำเลืองมองเขาด้วยรอยยิ้มอ่อน แล้วตอบว่า “ข้าคิดว่าเจ้าน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าข้า”
เขาถามนางว่าเกิดอะไรขึ้นด้วยสีหน้าใสซื่อจริงหรือ? ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่แผนการของเขา มันจะดำเนินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?
หนานหนานกระแอมเบา ๆ แล้วหันไปมองฝูงชน
เหล่าคุณหนูหลายคนเขินอาย จนมุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุก นางมองเสิ่นเหวินเสียนด้วยสีหน้าแปลกใจ แล้วถามว่า “คุณหนูเสิ่น เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นเขา?”
“เพคะ ไม่เช่นนั้นก็ลองถามสองพี่น้องสกุลตระกูลหลานได้เพคะ”
หลานสุ่ยหยวนพยักหน้าพลางรู้สึกอิจฉาในใจ อันที่จริงพวกนางเคยเห็นเขาแล้ว ก่อนที่หนานหนานจะจากไปก่อนหน้านี้
บุคลิกของเขาสง่างามไม่ธรรมดาจริง ๆ ในเวลานั้นพวกนางทนไม่ได้ที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าชายคนนี้จะไม่อาจรอดพ้นจาก ‘ความตาย’ ได้ แต่ตอนนั้นเสิ่นเหวินเสียนได้เรียกคนมาดูแล้ว พวกนางจึงไม่มีจังหวะแก้ไขสถานการณ์
ยิ่งมองในระยะใกล้ ก็ยิ่งกัดฟันแน่น
เหตุใดชายผู้นี้ถึงตกหลุมรักหลานสุ่ยชิง? ถ้าเขาหน้ามืดตามัวจริง ๆ เขาก็สมควรถูกหลานสุ่ยชิงลากลงไปในน้ำด้วย
“หวางเฟย เป็นชายคนนี้จริง ๆ เพคะ เมื่อครู่นี้พวกเราเห็นว่าหลานสุ่ยชิงให้กระเป๋าเงินแก่เขาด้วยเพคะ”
สีหน้าของอวี้ชิงลั่วแปลกไป ไม่ใช่แค่นาง แต่รวมถึงหวางเฟยสาม เย่หลานเวย จิ่นซิ่วและคนอื่น ๆ ที่รู้จักหนานหนาน ต่างก็ทำหน้าเหยเก
เย่หลานเวยพ่นลมหายใจเบา ๆ เขาเพิ่งคิดอยู่ว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลก ๆ
เขาเอียงคอเล็กน้อย แล้วถามว่า “กระเป๋าเงินของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
หนานหนานชำเลืองมองเขา แล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมา
เย่หลานเวยยื่นมือออกไปหมายจะคว้ามา หนานหนานดึงมือกลับ แล้วพูดว่า “นี่คือสิ่งที่สุ่ยชิงมอบให้ข้า”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ฝูงชนก็ฮือฮาทันที ทุกคนจ้องมองไปที่ทั้งสองคน
“ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลานสุ่ยชิงจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ นางแอบรับและให้ของแก่ชายอื่น แม้กระทั่งกระเป๋าเงินก็ยังให้”
“ชายผู้นี้ไร้ยางอายถึงขนาดกล้ายอมรับต่อหน้าซิวหวางเฟย”
“ใช่แล้ว พวกเขาไม่กลัวตายกันจริงหรือ?”
“ไม่ใช่ว่าคิดจะยอมรับต่อหน้าซิวหวางเฟย เพราะต้องการให้ซิวหวางเฟยให้อภัยพวกเขาหรือ?”
“ความคิดนี้เหลวไหลเกินไป”
มุมปากของอวี้ชิงลั่วกระตุกอย่างแรงอีกครั้ง จากนั้นนางก็หันศีรษะหน้าไปถามเสิ่นเหวินเสียนว่า “เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าพวกเขาประพฤติตัวสนิทสนมกันหรือ ทำอย่างไรบ้าง?”
คราวนี้ก่อนที่เสิ่นเหวินเสียนจะทันได้พูด ฉินฮูหยินก็ชิงพูดก่อนว่า “คุณหนูเสิ่นบอกว่าชายคนนี้จูบแม่นางหลานด้วยเพคะ”
จากข่าวลือที่แพร่สะพัดก็น่าจะเป็นเช่นนั้น
……………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อ่านแล้วก็ขำ ใครที่คิดจะเหยียบย่ำคนล้มนี่ขอให้ชะงักเท้าไว้ก่อนนะคะ ถ้าไม่อยากหน้าแตกภายหลัง
ไหหม่า(海馬)