อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ - ตอนที่ 105
“ตอนนี้พวกเราได้รู้จักตัวตนของอัจฉริยะแห่งการฝึกฝนแล้ว พวกเราจะทำอย่างไรดี?” จู่ๆผู้อาวุโสของนิกายคนหนึ่งก็ถามเขา
“ผู้อาวุโสซวนคิดว่าไง?” หลงอี้จุนหันไปมองเขาเพื่อขอคำแนะนำ
“เนื่องจากเขาเป็นของท่าน ในทางเทคนิคท่านต้องการทำอะไรกับเขา?”
ผู้อาวุโสซวนยักไหล่และพูดว่า
“ข้าควรจะรู้ได้อย่างไร ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาตั้งใจจะมาที่นี่ เราจะตัดสินใจได้ว่าเราจะทำอย่างไรต่อเมื่อข้าได้คุยกับชายหนุ่มคนนี้เล็กน้อย”
จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“ในระหว่างนี้เจ้าควรเตรียมเปิดวิหารมังกรรอไว้นะผู้นำนิกาย ข้ารู้สึกดีที่เด็กหนุ่มคนนี้จะได้รับใบหยกพิเศษใบสุดท้ายจากการทดสอบครั้งสุดท้ายและสามารถรวมรวบพวกมันทั้งหมดได้เป็นคนแรกใน 10,000 ปีที่ผ่านมา”
“วิหารมังกรเหรอเป็นเวลานานมากแล้ว ที่ไม่ได้มีคนมีคุณสมบัติที่จะเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น” หลงอี้จุนยิ้มและพูดต่อ
“แม้ว่าชายหนุ่มคนนี้จะไม่ได้รับใบหยกพิเศษชิ้นสุดท้ายข้าก็ยังคงปล่อยให้เขาเข้าไปในวิหารมังกร เพราะนั่นเป็นไปได้มากว่าสิ่งที่ผู้ก่อตั้งของเราต้องการให้เกิดขึ้น คือการปรากฏตัวของเขาวันนี้ที่นี่”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลงอี้จุนก็พูดขึ้นว่า
“แม้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะทำได้ แต่ข้าต้องการให้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มที่ชื่อหยวนถูกซ่อนจากสาธารณะ และข้าไม่ต้องการให้นิกายอื่นๆรู้เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของเขาในตอนนี้ แต่เมื่อพวกเขารู้มันจะกลายเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับพวกเขา “
“น่าประหลาดใจ…? ท่านคิดจะให้เขาเข้าร่วมในดินแดนลึกลับในเดือนหน้าหรือไม่?” ผู้อาวุโสซวนมองไปที่หลงอี้จุนด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“เขาจะเป็นศิษย์เพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น ในขณะที่ศิษย์คนอื่นๆที่จะเข้าร่วมไปที่ดินแดดลึกลับในครั้งนี้ทั้งหมดเป็นศิษย์หลัก ข้าคิดว่าศิษย์หลักจะไม่พอใจที่จะมีคนไปแย่งของๆพวกเขา โดยที่คนๆนั้นยังเป็นแค่ศิษย์ใหม่”
“แล้วจะเป็นอย่างไร หากศิษย์พวกนั้นไม่พอใจ หากพวกเขาไม่มีความสุข พวกเขาสามารถก้าวไปข้างหน้าและพยายามบรรลุ 100 ก้าวในสระน้ำแห่งการประเมินผล! แม้ว่าพวกเขาจะบ่น แต่โลกแห่งการฝึกฝนก็สนับสนุนผู้ที่มีความสามารถ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะบ่น เว้นแต่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถมากกว่าเขา! ” หลงอี้จุนพูดด้วยน้ำเสียงที่เข้มงวด
ผู้อาวุโสของนิกายในห้องแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ปฏิเสธการมีใครสักคนที่มีความสามารถอย่างหยวนเข้ามามีส่วนร่วมในดินแดนลึกลับ แต่พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรหรือไม่ควรให้ลูกศิษย์ของพวกเขารู้เรื่องนี้ เนื่องจากศิษย์ของพวกเขาก็เป็นศิษย์หลักที่พยายามหาทางไปที่ดินแดนลึกลับเช่นกัน
หลงอี้จุนสังเกตเห็นการแสดงออกที่งงงวยบนใบหน้าของผู้อาวุโสในนิกายและเขาพูดว่า
“แม้ว่าพวกเขาจะเป็นศิษย์ของท่าน แต่ควรปล่อยให้พวกเขาอยู่ไม่รู้เรื่องไปเสียก่อนเพราะมันอาจส่งผลกระทบต่อการฝึกฝนของพวกเขาในทางลบ นิกายแก่นมังกร มีที่ให้เพียงแค่ 3 คนสำหรับดินแดนลึกลับ และเมื่อหยวนได้เป็นหนึ่งในนั้น ศิษย์หลักอีกสองคนเท่านั้นที่จะได้เข้าร่วมในดินแดนลึกลับ ท่านสามารถบอกพวกเขาได้ว่าเราได้ให้ศิษย์หนึ่งคนไปแล้ว”
“ครับอาจารย์” ผู้อาวุโสของนิกายยอมรับคำสั่งของเขา
“ตอนนี้เรามาดูกันว่าอัจฉริยะการฝึกฝนคนนี้จะทำอย่างไรในการทดสอบขั้นสุดท้าย เขาจะทำให้เราประหลาดใจต่อไปหรือจะทำในทางตรงกันข้าม?”
หลงอี้จุนและผู้อาวุโสในนิกายอื่นๆก็มองดูหยวนต่อไป
ในขณะเดียวกันหยวนเพิ่งเดินผ่านประตู และเข้าไปในพื้นที่เพื่อทำการทดสอบขั้นสุดท้าย มันเป็นห้องขนาดใหญ่ แต่ว่างเปล่าที่มีแผ่นหินสูงอยู่ตรงกลางห้องห่างออกไปไม่กี่เมตร
แผ่นหินมีลักษณะคล้ายกับแผ่นหินที่เขาเห็นในนิกายดาบบินที่ใช้ในการจัดอันดับของศิษย์ แต่อันนี้ไม่มีชื่อนี้มีเพียงสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนซึ่งดูเหมือนคำพูดเท่านั้น
“ขอแสดงความยินดีที่ผ่านการสอบสามครั้งก่อนหน้านี้ และมาถึงการสอบครั้งสุดท้าย
“หญิงสาวที่มีใบหน้าสวยงามรออยู่ในห้องกล่าวกับหยวน หลังจากสังเกตเห็นการปรากฏตัวของเขา
“นี่คือการทดสอบครั้งสุดท้าย แล้วผู้เข้าร่วมคนอื่นๆละอยู่ที่ไหน” หยวนถามเมื่อไม่เห็นใครอยู่ที่นั่น
“การสอบสุดท้ายมีความพิเศษเล็กน้อย และต้องใช้ความสงบและสมาธิอย่างแท้จริง ดังนั้นทุกคนจะมีห้องของตัวเองสำหรับการทดสอบที่เหลือ” หญิงสาวกล่าว
“ข้าชื่อ ชเวเจีย และข้าจะดูแลการทดสอบนี้”
“ก่อนที่เราจะเริ่มให้ข้าอธิบายให้ฟังว่าการสอบนี้ทำงานอย่างไร และเจ้าต้องทำอะไรเพื่อให้ผ่าน”
จากนั้นชเวเจียก็ชี้ไปที่แผ่นหินทรงสูง และกล่าวว่า
“แผ่นหินนั้นมีเทคนิคการฝึกฝนมากมายจากวิหารแก่นมังกรของเรา และเป้าหมายของเจ้าคือศึกษา และพยายามทำความเข้าใจว่าเทคนิคใดก็ตามที่มันแสดงให้เจ้าเห็น ส่วนเทคนิคนั้นจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับผลการทดสอบของเจ้าจากการสอบครั้งก่อน ดังนั้นยิ่งผลการสอบของเจ้าดีขึ้นเท่าไหร่ เทคนิคการฝึกฝนก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพและไม่เหมือนใครมากขึ้นเท่านั้น
“เงื่อนไขในการผ่านการสอบนี้ เจ้าจะต้องเข้าใจเทคนิคการฝึกฝนอย่างน้อย 10% เจ้ามีคำถามหรือไม่?” ชเวเจียจบประโยคของเธอด้วยคำถาม
“ข้าต้องเข้าใจ 10% จึงจะผ่านได้ใช่ไหม ใบหยกพิเศษล่ะข้าต้องเข้าใจเทคนิคการฝึกฝนมากแค่ไหนเพื่อที่จะได้รับใบหยกพิเศษ?” หยวนถาม
“ใบหยกพิเศษ…?” ชเวเจียเลิกคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกถามเกี่ยวกับใบหยกพิเศษ ตั้งแต่เธอเริ่มดูแลผู้เข้าร่วมเป็นครั้งแรก และเป็นเวลาสองปีนับตั้งแต่นั้นมา