อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ - ตอนที่ 8 ข้อได้เปรียบที่เหนือกว่า
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย หยวนผู้เล่นคนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาได้ไปถึงตอนจบของเกมแล้ว ในขณะที่พวกเราที่เหลือยังคงเก็บสมุนไพรเพื่อหารายได้แทบไม่พอสำหรับอาวุธทั่วไปเลยด้วยซ้ำ!”
“เกมเพิ่งจะออกมาได้แค่สัปดาห์เดียวเอง แต่เขากลับได้รับของที่อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน หรือหลายปีในการหามันมาเลยนะ”
“เขายังถือว่าเป็นผู้เล่น ที่เล่นพร้อมกับเราอยู่อีกหรอ เขานำหน้าผู้เล่นทั้งหมดไปไกลแล้วนะ”
“ในตอนนี้เขาน่าจะสามารถปกครองทุกคนได้แล้วหรือเปล่า?”
“ไอ้คนนี้มันต้องโกงแน่ๆ! ไม่มีทางที่จะได้รับของพวกนี้ได้เร็วขนาดนี้ แม้แต่ผู้เล่นที่เก่งที่สุดในปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับของพวกนี้เลย และฉันไม่เชื่อว่าคนที่ไม่เคยปรากฏตัวในเกมอื่นๆมาก่อน จะสามารถเล่นนำหน้าคนอื่นไปได้ไกลขนาดนี้ได้แน่ๆ มันต้องโกงแน่ๆ!!”
“ถูกต้อง! เขาโกงชัดๆเลย! ผู้ดูแลระบบอยู่ไหนแล้ว ผู้สร้างเกมละ เขาต้องโดนลงโทษนะที่โกงแบบนี้!”
“เขากล้าโกงอย่างเปิดเผยอย่างนี้ หรือว่าเขาจะมีวิธีการบางอย่างที่ทำให้ผู้ดูแลระบบจับไม่ได้ เขาไม่คิดว่ามันจะทำให้เกิดความน่าสงสัยขึ้นมาบ้างเลยหรอไง?”
ข่าวลือเรื่องการโกงของหยวนเริ่มแพร่กระจายออกไปทั่วในโลกอินเตอร์เน็ต
คนที่โกงเกมในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมยอดนิยมจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงซึ่งมันรุนแรงกว่าสมัยก่อนมาก
นอกจากนี้หากจับได้ว่าโกง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเสียค่าปรับแพงกว่าค่าเช่าบ้านถึงสิบปี และยังมีอีกหลายกรณีที่คนที่โกงถูกจำคุกนานถึงสี่ปี
ด้วยความเสี่ยงมากมายที่จะเกิดขึ้น มีเพียงคนที่ร่ำรวยและไม่สนใจจริงๆเท่านั้นที่เต็มใจจะโกงเกมแบบนี้
ยังไงก็ตาม คนพวกนี้ก็จะไม่โกงอย่างเปิดเผย ดังนั้นในกรณีของหยวนคนอื่นๆจึงสันนิษฐานได้เลยว่าเขาต้องเป็นคนที่มีความสามารถที่จะทำให้คนไปจับเขาไม่ได้อย่างชัดเจน เพราะเขาสามารถโกงในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกปัจจุบัน!
และนั่นคือสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับหยวน
“ต้องโกงแน่ๆ นายคิดว่ายังไง ดอกบัวขาว นายคิดว่าหยวนคนนี้โกงจริงๆหรือเปล่า?”
ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดคลุมสีม่วงเตะหัวหมาป่าที่ขาดแล้วไปข้างหน้าด้วยเท้าของเขา ในมือของเขาถือดาบสีดำ ที่ด้ามดาบมีงูสีน้ำเงินขดอยู่รอบๆ เลือดสดๆของหมาป่ากำลังหยดอยู่ที่ปลายดาบ
ข้างๆตัวเขามีสาวงามสองคนยืนอยู่ เธอมีความสง่างามเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่ประกาศบนท้องฟ้าอย่างเงียบๆแล้วพูดว่า
“ไม่ว่าเขาจะโกงหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันสักหน่อย”
หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็หันไปมองแมวสีดำขนาดใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ
“แต่ฉันสนใจแค่ผู้รับใช้ระดับเทพมากกว่า ว่าจะมีหน้าตาเป็นยังไง”
แมวดำสองหางของเธอเป็นสัตว์ประหลาดธรรมดาที่ไม่มีเกรด แต่มีความว่องไวและการโจมตีที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก หากเทียบกับผู้ฝึกพลังแล้วละก็พลังของมันก็เทียบเท่ากับผู้ฝึกวิญญาณระดับสี่
“ผู้รับใช้ระดับเทพ…ด้วยเรื่องนี้เขาจะกลายเป็นคนที่มีอิทธิพลทั้งในและนอกเกมเป็นอย่างมาก พวกเราไม่สามารถไม่สนใจเรื่องนี้ได้อีกต่อไป เพราะการกระทำของเขาอาจจะส่งผลกระทบกับทั้งโลกนี้และในโลกจริงเป็นอย่างมาก”
“อะไรกัน? จักรพรรดิสายฟ้าที่อยู่ในอันดับที่สามของการจัดอันดับมรดก รู้สึกกดดันจากคนที่ไม่เคยมีชื่อมาก่อนงั้นเหรอเนี่ย?”
สาวสวยอีกคนหัวเราะอย่างมีเสน่ห์
“เธอไม่รู้สึกอะไรเกี่ยวกับสถานการณ์ของเราในตอนนี้หรอ ราชินีเพลิง?” จักรพรรดิสายฟ้ามองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
“นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น การจัดอันดับมรดรอาจจะเกิดความผิดปกติได้ เพราะผู้เล่นที่ชื่อหยวนคนนี้”
“ถ้าฉันจะบอกว่าฉันไม่สนใจผู้เล่นคนนี้ มันก็คงจะเป็นแค่คำโกหกนั่นแหละ แต่ถ้าจะบอกว่าอันดับมรดกจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเพราะผู้เล่นคนนี้ มันก็คงจะเกินจริงไปหน่อย เขาอาจจะเป็นแค่คนขี้โกงก็ได้”
“แล้วถ้าเกิดเขาเป็นตัวจริงที่โชคดีและมีทักษะสูงที่สูงมาก เธอจะทำยังไงล่ะ?”
การแสดงออกที่ร่าเริงบนใบหน้าของราชินีเพลิงเปลี่ยนไปเป็นจริงจังทันทีหลังจากที่จักรพรรดิสายฟ้าถามคำถามนี้ออกมา
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะทำทุกๆอย่างเพื่อให้ได้เขามาเป็นพวกทันที”
“ฮะ! เธอคิดว่าเธอเป็นคนเดียวที่คิดแบบนั้นหรอ ลืมไปได้เลย ตระกูลเฟิ่งที่อยู่ในอันดับต้นๆ และทุกๆตระกูลในการจัดอันดับมรดกต่างก็กำลังตามหาตัวเขาอย่างบ้าคลั่ง และในตอนนี้ตอนที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่ พวกเขาก็ยังตามหาผู้เล่นคนนี้อยู่เหมือนกัน”
“หึ…ฉันรู้ แต่มันก็ไม่ได้สำคัญนี่ ว่าจะมีกี่คนที่กำลังตามหาเขา ตราบใดที่ฉันพบเขาก่อน เขาก็จะเป็นของฉัน”
จักรพรรดิสายฟ้าเพียงแค่ส่งเสียงรำคาญกับคำพูดของเธอ
“การคุยกับเธอเป็นเรื่องที่เสียเวลามากจริงๆ”
“พวกเรามาถึงแล้ว…สุสานโครงกระดูก”
จักรพรรดิสายฟ้ายกดาบของเขาขึ้นมาเตรียมพร้อม และปรับการรับรู้ในร่างกายของเขา
ด้านหน้าของผู้เล่นระดับสูงทั้งสามคนในตอนนี้คือสุสานขนาดใหญ่ที่มีโครงกระดูกจำนวนมากเดินไปมาอย่างเชื่องช้า เหมือนหุ่นไม้ที่มีการเคลื่อนไหวทื่อๆ
“รีบทำให้มันเสร็จกันเร็วๆเถอะ ฉันรู้สึกแย่ที่เห็นหน้านายจริงๆ”
ราชินีเพลิงกล่าว
“เธอเต็มใจที่จะตามฉันมา…”
“เพียงเพราะเรารับภารกิจเดียวกันมันก็เท่านั้น”
“ไปกันเถอะ พวกมันสังเกตเห็นพวกเราแล้ว”
ราชินีเพลิง ดึงอาวุธของเธอซึ่งเป็นแส้ยาวออกมา และดอกบัวขาวก็ซักดาบที่มีหน้าตาธรรมดาๆเล่มหนึ่งออกมาแล้วเดินออกไปด้านหน้า
แม้จะเป็นผู้เล่นระดับสูง แต่ทั้งคู่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รับอาวุธที่มีระดับดีๆเลย ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถใช้ได้แค่เฉพาะอาวุธระดับธรรมดาๆ ที่ไม่มีเกรดอะไรเลย
“ธาตุสายฟ้า”
จักรพรรดิสายฟ้าจับดาบของเขา ทำให้งูสายฟ้าที่ดาบของเขาออกมาขดรอบๆตัวดาบราวกับว่ากำลังเต้นรำอยู่
“เพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกาย ความเร็ว”
ร่างกายที่อ่อนนุ่มของราชินีเพลิงเปล่งประกายเป็นสีฟ้า และร่ายกายของเธอก็รู้สึกเบาราวกับขนนก
“ซูเฮย”
ดอกบัวขาวพูดเบาๆออกมา และแมวสีดำก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ
“ไปกันเถอะ!”
จักรพรรดิสายฟ้าเตะเท้าของเขาแล้วบินเข้าหาโครงกระดูกด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก
“อย่าสั่งฉัน!!”
ราชินีเพลิงก็พุ่งไปข้างหน้าตามด้วยดอกบัวขาวและผู้รับใช้ของเธอ
“เสี่ยวฮัว…เธอ…”
หยวนตกใจเมื่อเห็นสถานะตัวละครของเธอ แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรบ้าง แต่ก็เห็นได้ชัดว่าค่าสถานะพวกนั้นมันไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“การมีเพื่อนร่วมทางที่ทรงพลังขนาดนี้ในช่วงต้นเกม…นี่มันไม่ต่างจากการโกงเลยนะ”
หยวนตระหนักได้ถึงความได้เปรียบที่เขามีอยู่ในตอนนี้ เพราะตอนนี้เขาได้อยู่เหนือผู้เล่นทั้งหมด และทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเสี่ยวฮัวที่อยู่ข้างๆเขา แต่เพราะเขาไม่ได้เล่นเกมนี้ด้วยเหตุผลที่ต้องการแข่งขันกับคนอื่น เขาเลยไม่ได้วางแผนที่จะใช้ข้อได้เปรียบนี้ไปทำอย่างอื่น
“เสี่ยวฮัวเธอลองบอกฉันหน่อยสิ เมื่อเทียบกับผู้ฝึกวิญญาณแล้ว เธอแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากแค่ไหนในฐานะราชาแห่งวิญญาน”
หยวนถามเธอเพื่อให้เขาเข้าใจความแตกต่างระหว่างพลังของพวกเขามากขึ้น
“…”
เสี่ยวฮัวมองหยวนแปลกๆ สักครู่นึงก่อนจะพูดว่า
“หนึ่งพัน…หนึ่งหมื่น…? พี่หยวนเสี่ยวฮัวเทียบกับพวกเขาไม่ได้เพราะความแตกต่างนั้นมันใหญ่เกินไป”
“ความแตกต่างมันใหญ่เกินไปงั้นหรอ ยังไงล่ะ?”
“อืมม…ภูเขาตรงนั้น…เสี่ยวฮัวทำให้มันหายไปได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว” เธอชี้ไปที่ภูเขาลูกใหญ่ที่ขอบฟ้า และพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องที่ธรรมดามากๆ
“หะ…หะ…หายไปด้วยการโจมตีครั้งเดียวเลยหรอ?”
ดวงตาของหยวนโตขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่มั่นใจของเธอ ถ้าสิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง นั่นมันไม่เหมือนกับว่าเธอเป็นระเบิดนิวเคลียร์เดินได้เลยหรอ? แล้วเธอจะมาเป็นผู้รับใช้ของเราได้ยังไงกัน? การดำรงอยู่ของเธอมันไม่ทำลายสมดุลของเกมนี้เกินไปหรอ? หรือผู้ฝึกพลังทั้งหมดจะมีพลังมากแบบนี้เมื่อพวกเขาฝึกจนถึงระดับหนึ่ง?
หยวนอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าผู้สร้างเกมกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อพวกเขาคิดว่าการให้เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอมีพลังมากขนาดนี้จะเป็นเรื่องที่ดี
“เสี่ยวฮัวเธออย่าใช้พลังของเธอโดยที่ไม่ได้คิดให้ดีก่อนนะ เพราะพี่ไม่อยากเห็นเธอทำลายเมือง หรือดินแดนใดดินแดนหนึ่งโดยที่เธอไม่ได้ตั้งใจ”
ทันใดนั้นหยวนก็หันไปมองที่รอยแยกของโลก ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“สะ…สะ..เสี่ยวฮัว..นี่ก็ฝีมือเธองั้นหรอ?!”
เขาถามเธอหลังจากที่รู้สึกว่ารอยแยกรอยนี้ไม่ใช่ของสองคนนั้นที่สู้กัน
“อืมมม”
เธอพยักหน้าอย่างสบายๆเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาๆและไม่ได้คิดอะไรมากมาย
“เห้ออออ”
หยวนถอนหายใจเสียงดัง
“จะเป็นยังไงถ้าพลังของเธอบังเอิญไปโดนใครบางคน เสี่ยวฮัวต่อไปอย่าใช้พลังของเธอ เว้นแต่ว่าพี่จะอนุญาตให้ใช้ได้ โอเคมั้ย?”
“อื้มม”
เสี่ยวฮัวยอมรับคำขอของหยวนอย่างง่ายดาย
“ดีมาก”
หยวนมองไปที่รอยแยกของโลกอีกครั้ง ก่อนจะหันไปพร้อมกับรอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าของเขา
“ไปกันเถอะเสี่ยวฮัว คงจะแย่แน่ๆถ้ามีใครมาเห็นพวกเราตอนนี้…”
จากนั้นหยวนกับเสี่ยวฮัวก็เริ่มเดินออกจากที่เกิดเหตุ
“เสี่ยวฮัว เธอจะทำอะไรต่อหลังจากที่เธอกลายเป็นผู้รับใช้ของพี่ละ”
หยวนถามเธอเพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเกมนี้ที่ให้มีผู้รับใช้คืออะไรกันแน่
“เสี่ยวฮัวจะตามพี่หยวนไปทุกที่”
เธอตอบอย่างรวดเร็ว
“และจะนำทางพี่ไปสู่ดินแดนต่อไป”
“หือ? นำทางพี่ไปยังดินแดนต่อไปงั้นหรอ?”
“ใช่แล้ว”
เสี่ยวฮัวตอบ
“โอเค…แล้วครอบครัวของเธอละ พวกเขาจะว่ายังไงถ้าเธอตัดสินใจออกจากบ้าน มาเพื่อติดตามพี่”
“พี่หยวนเป็นครอบครัวของเสี่ยวฮัว เพราะงั้นตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว”
เธอมองเขาด้วยสายตาที่น่าเอ็นดู
“พี่ไม่คิดว่าความคิดนี้จะใช้ได้นะ…”
หยวนส่ายหัวด้วยความไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงกับเธอต่อไป
การพาเด็กที่เขาพบเจอเมื่อไม่กี่วันก่อน ออกไปจากครอบครัวของเธอ จะทำให้เกิดปัญหามากมายหาก นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง แต่หยวนเพิ่งจำได้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในเกม และเธอเป็นเพียง NPC ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
“เอาล่ะ ทำตามใจของเธอละกันเสี่ยวฮัว”
ในที่สุดหยวนก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม