อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 107 เอาใจใส่เป็นพิเศษ + ตอนที่ 108 ซุบซิบนินทา
ตอนที่ 107 เอาใจใส่เป็นพิเศษ
เฮ้อ ใช้โอวหยางลี่คอยปกป้องคุ้มครองแบบนี้ก็ดูไม่เลวอยู่หรอก เพราะยังไงเขาเองก็เป็นผู้ชายนิสัยแบบนั้นอยู่แล้ว
“อย่าให้ฉันต้องพูดอีกเป็นครั้งที่สอง!” เหลียวเว่ยพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง ข้าง ๆ ตัวเธอมีบอดี้การ์ดที่ดูแข็งแรงมากอีกสามคน แต่แค่คนเดียวก็สามารถจับเหอเหมียวได้แล้ว จึงไม่ต้องพูดถึงสามคนหรอก
“เธอ! ดูเธอสิ!” เหอเหมียวอดไม่ได้ที่จะชี้นิ้วไปยังอันโหรว “ผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่ทำให้พี่โอวหยางไม่ต้องการฉัน เพราะผู้หญิงคนนี้คนเดียวที่ทำให้พี่โอวหยางถึงขนาดต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ!”
นี่นับว่าเป็นการโบ้ยความผิดกันชัด ๆ
เหลียวเว่ยเหลือบสายตามองไปยังอันโหรว ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พูดอะไรเหลวไหล ผู้หญิงที่ขี้เหร่ทั้งยังดูแก่แบบนี้ โอวหยางลี่มีหรือจะชอบ? ที่เขาชอบจริง ๆ ก็คือพวกนักเรียนสาว เขาไม่มีทางสนใจผู้หญิงแบบนี้หรอก”
“ดูท่าคุณนายโอวหยางจะรู้ดีจริง ๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็ช่วยพาเธอออกไปด้วยค่ะ!” อันโหรวพูดขณะเดินถอยออกไปสองสามก้าว เธอไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
“จริง ๆ นะ เธอเชื่อฉันสิ อย่าไปมองที่รูปลักษณ์ จริง ๆ แล้วยัยนี่ชอบหลอกลวงคน ถ้าไม่ใช่เพราะยัยนี่ ฉันก็ไม่มีทางเป็นแบบนี้หรอก!” เหอเหมียวได้เผยความลับทุกอย่างของอันโหรวออกไป
“เหอเหมียว เธอพูดอะไรอยู่!” เหอเฉ่าไม่อาจทนไหวได้อีกต่อไป ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงได้ตัดสินคนไปแบบนั้น
แต่เหอเหมียวตอนนี้อารมณ์กำลังพลุ่งพล่าน ทำให้เหลียวเว่ยจับจ้องมาที่ตัวเธอ ก่อนจะขยับตัวเดินไปทางอันโหรว เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องขึ้นภายในสตูดิโอที่เงียบสงบตามจังหวะการก้าวเดินของเธอ
“คุณนายโอวหยางคิดว่าฉันจะเกี่ยวข้องกับนักเรียนพวกนั้นด้วย? หรือว่ารสนิยมของประธานโอวหยางจะเปลี่ยนไป?” เสียงหัวเราะและใบหน้าที่เย้ยหยันของอันโหรวเผยขึ้นให้เห็น
“เธอชื่อว่าอะไร?” เหลียวเว่ยจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ เผยให้เห็นถึงสีหน้าที่ระแวดระวัง
“ขอโทษด้วย ดูท่าฉันไม่คิดอยากจะตอบคำถามคุณนายโอวหยางหรอกค่ะ” เพราะว่าไม่ช้าก็เร็ว เธอจะต้องเหยียบย่ำพวกนี้ไว้ใต้เท้าของเธอให้ได้ แต่แน่นอนว่ายังไม่ใช่ตอนนี้หรอก
“อันอีหาน!” ทันใดนั้นเสียงของฉิวซีก็ดังขึ้น
“อัน อี หาน?” เหลียวเว่ยสะกดชื่อของเธอ ในหัวกลับคิดถึงชื่อผู้หญิงอีกคนหนึ่ง คนที่ทำให้เธอเสียหน้าในงานแต่ง
“ใช่ อันอีหาน พี่ชายโอวหยางชอบจับจ้องไปที่ตัวเธออย่างหลงใหล และเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นไม่ชอบฉันแล้ว” เหอเหมียวถือโอกาสพูดเสริม
อันโหรวเหลือบมองเธอและยิ้มเล็กน้อย “เหอเหมียว การหยิบยืมมือที่สามไม่สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้หรอกนะ อย่างน้อยเธอก็ควรหาใครสักกคนที่จะโน้มน้าวให้คุณนายโอวหยางเชื่อได้มากกว่านี้ ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าสายตาของประธานโอวหยางจะผิดพลาดมาชอบผู้หญิงที่มีใบหน้าซีดเหลืองที่ให้กำเนิดลูกถึงสองคนแล้วแบบฉัน”
“ให้กำเนิดลูกนับว่าเป็นเรื่องที่ดี ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า” จิ่งเป่ยเฉินเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เย็นชา ก่อนจะเหลือบมองคนอื่น ๆ ในสตูดิโอ มือของเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋าและเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเย็นชาว่า “ใครไม่ใช่พนักงานของเรา ออกไปซะ!”
“ประธานจิ่ง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน!” เหลียวเว่ยหันไปมองพลางยิ้มทักทาย
“สกุลจิ่งกับกลุ่มโอวหยางนับว่าเป็นคู่แข่งทางการค้า คุณนายโอวหยางทางที่ดีไม่ควรมาปรากฏตัวที่สกุลจิ่งเลยด้วยซ้ำ ไม่เช่นนั้นผมคงคิดว่าคุณ……” จิ่งเป่ยเฉินหยุดพูดชั่วคราว ก่อนที่นัยน์ตาสีดำจะมองไปยังอันโหรวและพูดขึ้นว่า “มาขโมยความลับทางการค้า”
“ไม่แน่นอน ไม่แน่นอน แน่นอนว่าต้องไม่ใช่แบบนั้น” เหลียวเว่ยคิดไม่ถึงเลยว่าจิ่งเป่ยเฉินจะกล้าพูดขนาดนี้ เธอรีบหันไปมองเหอเหมียว ก่อนจะเอ่ยว่า “เหอเหมียว ยังไม่ออกมากับฉันอีก!”
“พี่สาว ช่วยฉันด้วย!” เหอเหมียวมองและพูดกับเหอเฉ่า
เหอเฉ่าที่กำลังจะพูดถูกชายที่อยู่ด้านหลังของเหลียวเว่ยมาบดบังไว้ข้างหน้า พลางขวางทางเธอไว้ “พวกแกปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน!”
“ประธานจิ่งคะ คุณช่วย…..” เหอเฉ่ามองจิ่งเป่ยเฉิน ใบหน้าที่บอบบางของเธอไม่อาจปิดบังถึงความกังวลได้
……………………………
ตอนที่ 108 ซุบซิบนินทา
“ไม่!” จิ่งเป่ยเฉินเอ่ย ก่อนจะเดินไปหาอันโหรว เขาไม่แม้แต่จะสนใจคำพูดที่ยังพูดไม่เสร็จของเหอเฉ่า “ทำเรื่องที่ควรทำเถอะ”
เหอเฉ่าจ้องไปที่ประตูที่เปิดอยู่ ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงไกล ๆ หรือไม่พวกเขาก็น่าจะไปไกลกว่านั้นแล้ว
ทำยังไงดี?
หวังว่าคงจะไม่เกิดเรื่องที่ไม่ดีนะ
เธอเหลือบมองไปยังจิ่งเป่ยเฉินและอันโหรว เธอรู้แก่ใจดีว่าคงไม่อาจขอให้พวกเขาช่วยอะไรได้มาก ก่อนจะกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
อันโหรวไม่คิดอยากจะพูดคุยกับจิ่งเป่ยเฉินให้มากความ เธอจึงหันหลังกลับไป แต่ก็ถูกเขาเดินมาขวางทางเอาไว้ซะก่อน
“เมื่อครู่ผมเพิ่งช่วยคุณออกจากปัญหา ขอบคุณสักคำคุณก็ไม่เอ่ย นี่เหรอการตอบแทนจากการช่วยคุณ?” จิ่งเป่ยเฉินยืนอยู่ข้าง ๆ เธอมาโดยตลอด เหมือนกับการเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา
นั่นคือการช่วยเหลือ? ประสบการณ์มากมายอะไรกัน? ลูกที่เกิดออกมาล้วนฉลาดเฉลียวอะไรนั่น?
ไม่เคยมีคำพูดดี ๆ ออกจากปากเขาเลยสักนิด!
“ขอบคุณประธานจิ่งที่ช่วยเหลือ แต่ตอนนี้งานของฉันยุ่งมาก คงไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับประธานจิ่งเท่าไร” เธอหันหลังกลับ ก่อนจะเดินออกไป
ฉิวซีที่เห็นท่าทีแบบนั้นก็คิดจะเดินไปหาจิ่งเป่ยเฉิน คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอเขาที่นี่ หนำซ้ำที่นี่ไม่มีคนอื่นมาจ้องมอง ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้ตีสนิทเขามากขึ้น
แต่เธอยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้ จิ่งเป่ยเฉินก็เอ่ยปากอย่างแผ่วไม่กี่คำว่า “ไปให้พ้น!”
จิ่งเป่ยเฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง แม้จะไม่ได้ดังมากนัก แต่ผู้คนที่ได้ยินก็รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง
ถ้าหากเป็นคนทั่ว ๆ ไปก็คงหนีเผ่นแนบไปนานแล้ว
อันโหรวมองไปยังเหอเฉ่าที่ตอนนี้อยู่ในสภาพจิตใจไม่ค่อยดี ก่อนจะโบกไม้โบกมืออย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “พักสักครึ่งชั่วโมงก่อนก็แล้วกัน”
เหอเฉ่าตอนนี้สภาพจิตใจเหมือนกับลูกบอลที่ไม่มีลม เธอนั่งอยู่ในท่าทางที่เคร่งเครียด อันโหรวจึงพยุงตัวเธอและพาไปนั่งพัก
ระหว่างทางมาที่นี่จิ่งเป่ยเฉินเห็นทุกอย่างจนเกือบหมด ตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้มีประชุมอะไรที่สำคัญ เลยอยากแวะจะมาดูสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบเหตุการณ์อะไรแบบนั้น อีกทั้งเวลาที่เธอทำงานก็ดูมีเสน่ห์ไม่เบา ถือว่าคุ้มค่าสำหรับการแวะมาดูในครั้งนี้
อันโหรวที่รับรู้ถึงการจ้องมองของจิ่งเป่ยเฉินแทบอดทนไว้ไม่ได้ คิดอยากจะเดินไปต่อยเขาสักหมัดจริง ๆ เธอก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามี ‘สามีอยู่’ แล้วนี่ยังมาจับจ้องตัวเธออีก ไม่กลัวคนอื่นซุบซิบนินทาหรือยังไงกัน?
อา… เธอเกือบลืมไป จิ่งเป่ยเฉินเป็นคนไม่ปกติ เขามักจะทำอะไรที่อยากทำ อยากได้อะไรก็ต้องได้ คนนอกหรือใครหน้าไหนเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น
“เมื่อครู่เรื่องที่เกิดขึ้นฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่เรื่องพวกเขา ฉันคงไม่อาจก้าวก่ายได้” เหอเฉ่าพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น
กิจการของโอวหยางลี่ใช่ว่าเธอจะไม่สนใจ แต่นี่เพราะว่ามีเหอเหมียวอยู่ เธอก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้ตำหนิเธอหรอกนะ เธอไม่ต้องห่วง” เหอเฉ่าก้มหน้าลง ก่อนจะรับแก้วน้ำที่อันโหรวยื่นให้มาถือไว้พลางกำมันแน่น ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบา ๆ
จิ่งเป่ยเฉินที่มาอย่างกะทันหัน และก็จากไปอย่างกะทันหัน คล้ายกับพายุที่พัดผ่านมาอย่างรวดเร็ว กวาดทุกอย่างเสร็จก็จากไป
เนื่องจากอารมณ์ของเหอเฉ่าต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะปรับอารมณ์ได้ แต่ท้ายที่สุดการถ่ายภาพชุดสุดท้ายก็เสร็จสิ้นลง เหลือเพียงการเลือกรูปภาพโฆษณาอย่างเดียว
อันโหรวกับพนักงานคนอื่น ๆ กำลังนั่งรถกลับไปที่บริษัท ฉิวซีนั่งข้าง ๆ เธอ และเหลือบมองอันโหรวอยู่เป็นครั้งคราว “ฉันรู้สึกว่าคนที่ชื่อเหอเหมียวอะไรนั่นเลือกคนไม่ได้เรื่องเลย! เหอเฉ่านั่นก็เหมือนกัน ไม่แตกต่างกันมาก แวบแรกนึกว่าเป็นนักเรียนที่บริสุทธิ์”
“ดูคุณกำลังคิดหาบางอย่างให้พวกโอวหยางนะ จริง ๆ แล้วเรื่องพวกนี้คุณไม่สมควรทำเลยด้วยซ้ำ” อันโหรวมองไปที่กระจกหน้าต่างที่โปร่งใส ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “เหอเฉ่าเป็นตัวแทนของภาพลักษณ์บริสุทธิ์ของเรา หวังว่าคงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ เรื่องพวกนี้หัวหน้าทีมฉิวควรทำอะไรให้ชัดเจนกว่านี้”