อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 190 ถูกบังคับแต่งงาน
ตอนที่ 190 ถูกบังคับแต่งงาน
เธอได้ยินเรื่องการถูกบังคับให้แต่งงานของจิ่งเป่ยเฉินมานานแล้ว ถือว่าเธอเคยเจอแบบนี้มาก่อน
“อย่าได้กังวลไปค่ะ คืนนี้ประธานจิ่งไม่ได้ไปทำงานแน่!” เธอตอบอย่างเอาจริงเอาจังโดยไม่สนใจใบหน้าที่บึ้งตึงของจิ่งเป่ยเฉินเลยแม้แต่น้อย
“โอเค งั้นนายเธอชอบเด็กผู้หญิงกลุ่มดาวราศีไหน คืนนี้ฉันจะเตรียมให้ทั้งสิบสองราศีเลย!” เธอรู้สึกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าดูไม่เหมาะกับการเป็นเลขาของจิ่งเป่ยเฉิน แต่ความสามารถต้องเก่งแน่ ๆ ไม่แน่อาจจะมีความคิดเห็นที่ดี
สิบสองราศี? เขาล้มเลิกการนัดบอดหาคู่ไปตั้งนานแล้ว สมกับที่เป็นจิ่งเป่ยเฉิน สุดยอด!
“ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ไม่กล้าเดาความคิดของท่านประธานจิ่งหรอกค่ะ แต่คุณนายจิ่งคะ กลุ่มดาวไม่ได้มีแค่สิบสองราศี ยังมีกลุ่มดาวที่สูงกว่านั้นก็คือดวงจันทร์ คุณสามารถเลือกภรรยาในอนาคตให้กับประธานจิ่งได้ทุกทิศทาง!” เธอรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองจึงเงยหน้ามองไปที่ใบหน้าของจิ่งเป่ยเฉิน ดวงตาดำสนิทคู่นั้นจ้องมองมาแต่กลับปิดปากเงียบไม่พูดอะไร
“จริงเหรอ? ฉันยังไม่ค่อยแน่ใจ งั้นคืนนี้ลองดูก็แล้วกัน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน! ไม่ได้ พรุ่งนี้สิบสองนักษัตร!” ซูรั่วหยาส่ายหน้าเบา ๆ พลางยืนนิ่งอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง
อันโหรวเชื่อซูรั่วหยา ในขณะเดียวกันก็เห็นใจจิ่งเป่ยเฉินไม่น้อย วันนี้เรื่องกลุ่มดาวสิบสองราศี พรุ่งนี้เป็นสิบสองนักษัตร มีความกล้าหาญมาก!
เธอเชื่อว่าจิ่งเป่ยเฉินจะรับมือกับมันได้เป็นอย่างดี
ทันใดนั้นก็มีเสียงปังเบา ๆ ตรงหน้า เขาวางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ในเมื่อคืนนี้ไม่ได้ทำงาน งั้นเลขาอันถือโอกาสไปด้วยกันเลยเป็นยังไง?”
“ประธานจิ่ง นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ ไม่ได้อยู่ในขอบเขตหน้าที่ของฉัน ฉันไม่ไป!” เธอไม่ได้โง่นะ เธอมั่นใจว่าเธอไปกับเขาต้องถูกเขาใช้เป็นเกราะกำบังแน่
“ไปเถอะ ไปลองดู!” ซูรั่วหยาเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าถ้าเลขาไม่ยอมตามเขาไป จิ่งเป่ยเฉินไม่มีทางไปแน่นอน
แทนที่จะให้เขาบอกปัดไม่ไปคืนนี้ มันคงจะดีกว่าถ้าเธอลงมือก่อนโดยให้เลขาดูแลเขา
“ไป ต้องไป ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวก่อนนะคะ!” เธอออกไปโทรศัพท์หาหลินจือเซี๋ยว แต่เธอมองออกว่ามันไม่จบในคืนนี้แน่
จิ่งเป่ยเฉินมองเธอที่เดินออกไปและเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าจะวิ่งออกไปเร็วขนาดนั้น
มีความสุขที่ได้ไปดูเขานัดบอดหรือไง?
“เลขาของลูกดูดีนะ แต่ดูไม่ค่อยแต่งตัว เหมือนจะไม่ค่อยรู้วิธีดูแลตัวเอง” ทันทีที่ประตูห้องทำงานปิดลง ซูรั่วหยาก็พูดกับจิ่งเป่ยเฉินไม่กี่ประโยค
เธอไม่แต่งตัวตรงไหน เธอแต่งตัวเก่งเกินไปต่างหาก ไม่งั้นเขาคงจะจำเธอได้ตั้งแต่แรกแล้ว!
“ให้เสี่ยวหยางไปส่งแม่ไหม?”
“ไม่ต้อง แม่จะไปซื้อของต่อ” เธอยืนยันว่าจิ่งเป่ยเฉินจะไปนัดบอด เธอรู้สึกว่าความปรารถนาของเธอนั้นเป็นจริงแล้วในรอบหลายปี
เหมือนเธอจะมีลางสังหรณ์ว่าในเร็ว ๆ นี้จิ่งเป่ยเฉินจะแต่งงานและมีลูก เธอจะได้เป็นคุณยายแล้ว!
ทันทีที่อันโหรววางโทรศัพท์จากหลินจือเซี๋ยว ซูรั่วหยาก็เดินเข้ามาด้านใน เธอรีบหันไปเรียกด้วยความเคารพ “คุณนายจิ่ง”
“เลขาอันไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่งก่อนสิ!” เธอมองไปที่แหวนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ “คืนนี้เธอต้องไปกับเขาให้ได้นะ มีอะไรก็มารายงานฉันก่อน โดยเฉพาะถ้าเขาสนใจผู้หญิงคนไหนต้องมาบอกฉันเข้าใจไหม! เมื่อถึงเวลาจะตอบแทนเธอเป็นอย่างดี!”
แต่หากทำแบบนั้นละก็ จิ่งเป่ยเฉินได้ประหารชีวิตเธอแน่ ๆ
“ค่ะ คุณนายจิ่ง แต่ตามนิสัยของประธานจิ่งแล้ว เขาคงไม่ได้จริงจังกับการนัดบอดหรอกค่ะ” เธอเข้าใจแล้วว่าหลายปีมานี้ประธานจิ่งเป็นอย่างไร มีแม่ที่บังคับให้แต่งงาน มิน่าเขาถึงได้มีข่าวชู้สาวเยอะแบบนี้
“เธอเพิ่งมาไม่กี่วัน ทำไมถึงรู้จักเขาดีขนาดนี้! ความจริงแล้วฉันก็ไม่ได้กังวลหรอก ถึงให้เธอตามเขาไป!” ซูรั่วหยายิ้มและมองไปที่เธอ จู่ ๆ ก็นิ่งไปชั่วครู่ “เลขาอัน เธอเกิดราศีอะไร?”
ทำไมจู่ ๆ ถึงถามเธอ?
”ราศี…ตุลค่ะ”
“ราศีตุลเป็นคู่เหมาะสมกับราศีกุมภ์ร้อยเปอร์เซ็นต์! เสียดายเลขาอันแต่งงานแล้ว” ตอนนี้เธอขอเพียงจิ่งเป่ยเฉินยอมพาสะใภ้เข้าบ้านก็พอแล้ว
เรื่องครอบครัวก็สำคัญรองลงมา!
อันโหรวตกตะลึงไปชั่วครู่ เธอไม่เคยคิดศึกษาถึงเรื่องกลุ่มดาวราศีเลย ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งไม่เชื่อว่าจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน
ทำไมเธอถึงมองไม่ออก!
“คุณนายจิ่งไม่ต้องกังวลไปค่ะ ฉันจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบแน่นอน” เธอจะไปดูว่าเขานัดบอดกับใคร
“ดีมาก!” ซูรั่วหยาตอบ พลางแสดงความพอใจก่อนจะเดินออกไป
ทันทีที่ซูรั่วหยาเดินจากไป เธอก็ถูกจิ่งเป่ยเฉินเรียกกลับไปที่ห้องทำงานอีกครั้ง
แม้เธอจะเป็นเลขาของเขามาระยะหนึ่งแล้ว แต่เมื่อเดินเข้าออกบ่อยครั้งในหนึ่งวัน เป็นลางสังหรณ์ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี
เธอยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานเป็นเวลาสิบนาทีแล้ว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเอนตัวพิงเก้าอี้หนังพร้อมจ้องหน้าคอมพิวเตอร์โดยไม่กะพริบตา จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าเครื่องปรับอากาศในห้องทำงานที่เปิดอยู่อุณหภูมิต่ำลง ร่างกายหนาวสั่นโดยเฉพาะด้านหลัง
เธอมองไปที่รีโมทเครื่องปรับอากาศที่อยู่บนโต๊ะและยื่นมือไปหยิบมันมาอย่างเงียบ ๆ ขณะที่มือเธอกำลังจะสัมผัสนั้นก็ได้ยินเสียงกระแอมในลำคอของเขา
เขาหัวเราะเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม “ความรักช่างน่าอัศจรรย์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งคู่มีอุปสรรคในการอยู่ด้วยกัน แต่เทพแห่งความรักกลับให้เขาได้อยู่ด้วยกัน รักกันไปจนชั่วนิรันดร์”
“หมายความว่ายังไง?” เธอเงยหน้าขึ้นมองด้วยความประหลาดใจ พบว่าสายตาของเขาจ้องอยู่ที่คอมพิวเตอร์ เธอมองไปด้วยความงุนงง ราศีตุลVSราศีกุมภ์?
“ในนั้นมีคลื่นโหมกระหน่ำซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้พวกเขาไม่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกแต่กลับรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งวัน แต่ความสัมพันธ์นี้เมื่อได้อยู่ด้วยกันแล้วก็ดีไม่ใช่น้อย” เธออ่านประโยคถัดไปด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นก็กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงเดิม “คุณเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ไม่น่าเบื่อไปหน่อยเหรอ?”
ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือไปจับที่ข้อมือของเธอ ก่อนจะเผยรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า “เป็นคู่แท้กันร้อยเปอร์เซ็นต์”
เธอขยับข้อมือของเธอ กะพริบตามองไปที่เขา “ไม่ดีเหรอแบบนี้ สิบสองราศีต้องมีราศีตุลอยู่ด้วย!”
นิ้วหัวแม่มือของเขาลูบไปที่ข้อมือของเธอเบา ๆ แต่สีหน้าของเธอกลับไม่สู้ดีนัก “เธอยังไม่เข้าใจในสิ่งที่พูดอีก เธอต้องรับผิดชอบครึ่งหนึ่งของเรื่องคืนนี้”
เดิมทีเขาไม่ได้อยากจะไปอยู่แล้ว เมื่อก่อนก็ไม่เคยไป นับประสาอะไรกับสิบสองคน
“ค่ะ ฉันจะรับผิดชอบอีกครึ่งหนึ่งเอง ช่วยหาอีกครึ่งชีวิตของคุณเป็นหน้าที่ของฉัน! เมื่อครู่คุณนายจิ่งบอกให้ฉันรายงานสถานการณ์ คอยดูว่าคุณชอบใคร” เธอเหลือบมองไปที่ข้อมือ ไม่รู้หรือยังไงว่าแบบนี้มันคันนะ?
“เธอไม่ได้รู้ชัดเจนอยู่แล้วเหรอ? จะให้ฉันโทรบอกตอนนี้เลยดีไหมว่าคนที่ฉันชอบคือใคร” เขาพูดและยื่นมืออีกข้างไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่กลับถูกเธอจับไว้
จิ่งเป่ยเฉินเลิกคิ้วมองเธอ “เธอใจแข็งพอที่จะให้ฉันไปเจอผู้หญิงที่ไม่รู้จักสิบสองคน?”
“ใจแข็ง!” เธอผลักมือเขาออก แต่กลับถูกมืออีกข้างของเขาจับไว้ “ปล่อยนะ ฉันต้องกลับไปทำงานต่อ”
“ไม่มีอารมณ์ทำงานแล้ว” เขาไม่น่ารับปากเรื่องการแต่งงานที่ปกปิดเป็นความลับเลย หาเหาใส่หัวชัด ๆ!
เธอกลับมาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและมองเขาด้วยความเคารพ “มีบางเรื่องต้องเตือนสติคุณ มีเวลาอีกแค่ห้านาทีก่อนจะต้องประชุมวิดีโอคอลกับคุณลี่อาง”