อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 199 ถูกแอบถ่าย
ตอนที่ 199 ถูกแอบถ่าย
“นายจะพูดอะไรกันแน่?” เธอเพียงแค่ยอมให้เขาไปรับลูกหลังเลิกเรียนด้วย คาดไม่ถึงเลยว่าจะเจอเรื่องแบบนี้
ไม่คิดว่าการไปรับเด็ก ๆ กับเขาในตอนนั้นจะถูกผู้คนแอบถ่ายจนกลายเป็นข่าวแบบนี้
“แน่นอนฉันพูดความจริง”
ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง จิ่งเป่ยเฉินก็ยื่นมือออกไปเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูก็รู้สึกได้ถึงสายตาร้อนแรงที่อยู่ด้านนอกและแสงแฟลชสาดส่องกะพริบอยู่ตลอดเวลา ดูเหมือนว่าผู้สื่อข่าวพวกนี้จะรู้หน้าที่ของตนดีว่ามาที่นี่เพื่อทำอะไร
เธอรีบถอดแหวนที่อยู่มือซ้ายเก็บลงกระเป๋าทันที
หลังจากที่พวกเขาออกไป จิ่งเป่ยเฉินก็ปิดประตูทันที ทั้งสองคนยืนอยู่เคียงข้างกันที่ด้านหน้าประตูและปล่อยให้เหล่านักข่าวที่อยู่ด้านหน้าถ่ายรูปและเอ่ยคำถามขึ้น
“ประธานจิ่ง ขออนุญาตถาม ผู้หญิงคนนี้กับคุณมีความสัมพันธ์กันยังไงเหรอครับ?”
“ประธานจิ่ง วันนี้ในโลกออนไลน์มีรูปคุณกับเด็ก เขาใช่ลูกของคุณหรือเปล่า?” ความจริงนักข่าวที่ถามอยู่เธอไม่กล้าเอ่ยถามไปว่าเด็กที่อยู่ในรูปนั้นใช่ลูกนอกสมรสของจิ่งเป่ยเฉินหรือเปล่า
คำถามต่าง ๆ ล้วนพุ่งเข้ามา จิ่งเป่ยเฉินมักจะเคยชินกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แต่เธอเริ่มที่จะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ
จู่ ๆ มือของเธอก็เอื้อมไปที่ด้านหลังของเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะหยิกมันอย่างแรงเพื่อให้เขานั้นทำอะไรสักอย่าง จิ่งเป่ยเฉินหันหน้ามาหาเธอ
เธอมองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ เธอเอนตัวไปด้านหลังอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นมือที่อยู่บนเอวของเธอก็ออกแรงบีบและรั้งให้เธอเข้าไปหาเขาอย่างช้า ๆ
เนื่องจากภาพที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แสงแฟลชก็สาดส่องไปที่ตัวเธอมากขึ้น
เธอเอ่ยเสียงเบา ๆ ไปว่า “ประธานจิ่ง!”
แม้จะอยู่ต่อหน้านักข่าวที่บ้าคลั่งขนาดนี้ จิ่งเป่ยเฉินกลับไม่แยแสใด ๆ ทั้งสิ้น “เธอเป็นหัวหน้าเลขาของผม วันนี้ที่พวกเราไปโรงเรียนอนุบาลก็เพื่อไปรับเด็ก ๆ เท่านั้น”
“รับลูกประธานจิ่งเหรอ?” พวกเขารู้ดีแม้ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะมีข่าวซุบซิบเรื่องหญิงสาวมากแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกอาหารมื้อค่ำที่กินเล่น ๆ เท่านั้น และไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่เขาจริงจังด้วยเลยสักคน
“ลูกของฉันค่ะ!” อันโหรวรีบตอบกลับทันที “ประธานจิ่งเป็นเจ้านายที่ดี แค่ไปช่วยฉันเท่านั้น”
“ขออนุญาตถาม นอกจากเรื่องงานแล้ว คุณมีความสัมพันธ์อื่น ๆ กับเขาอีกหรือเปล่า?” เมื่อนักข่าวเอ่ยคำถามนี้ขึ้นมา สายตาของเขาก็มองไปยังมือของจิ่งเป่ยเฉินที่โอบเอวของเธออยู่
อันโหรวจิตใจเธอนั้นเย็นยะเยือกมากขึ้น แต่มือที่เอวของเธอนั้นกลับไม่สามารถสลัดมันหลุดออกไปได้เลย
บิ๊กบอสนี่คุณตั้งใจทำอย่างนั้นเหรอ?
เธอสงสัยอย่างจริงจัง บางทีอาจจะเป็นเขาที่วางแผนไว้แบบนั้น ไม่งั้นแล้วจะบังเอิญแบบนี้ได้ยังไง พวกเขาถูกถ่ายภาพทันที และนักข่าวก็พบบ้านของเธอ ทุกอย่างล้วนตรงต่อเวลา ทุกอย่างมันดูเตรียมพร้อมจนเกินไป
“ฉันตามเธอมา ถ้าหากพวกคุณไม่มีอะไรจะพูดแล้วละก็ คืนนี้ก็กลับไปเถอะ เพราะงั้นแล้วทุกคน………” เขาเหลือบมองไปที่นักข่าวด้วยดวงตาสีดำและเอ่ยขึ้น “ได้โปรดกลับไปด้วย!”
“ประธานจิ่ง ขออนุญาตถาม เธอเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเหรอคะ?”
“ประธานจิ่ง คุณจงใจจะเป็นพ่อเลี้ยงใช่ไหมครับ?”
“ประธานจิ่งคุณชอบผู้หญิงสไตล์นี้เหรอคะ?”
ทันทีที่คำพูดของจิ่งเป่ยเฉินเอ่ยจบลง นักข่าวหลายคนก็เริ่มตั้งคำถามที่เฉียบคมมากมายเต็มไปหมด เหล่าผู้สื่อข่าวที่อยู่ตรงหน้าต่างรอคอยคำตอบจากพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อกันทั้งสิ้น
ว่ากันตามตรง พวกเขาคิดจริง ๆ หรือว่าผู้ชายอย่างจิ่งเป่ยเฉินกับผู้หญิงที่ทั้งขี้เหร่และดูแก่แบบอันโหรวจะเหมาะสมกัน ดูยังไงก็มองไม่เห็นถึงความงาม ประธานจิ่งเปลี่ยนทัศนคติมุมมองแบบนี้ไปตั้งแต่ตอนไหน นั่นคือสิ่งที่พวกเขาอยากรู้?
ถ้าหากผู้หญิงคนนี้สามารถอยู่กับจิ่งเป่ยเฉินได้ เช่นนั้นแล้วทั่วทั้งเมือง A ผู้หญิงหลายคนที่มีชื่อเสียงและหน้าตางดงามที่อยากจะแต่งงานกับจิ่งเป่ยเฉินจะทำยังไงกัน?
พวกเขาไม่ได้ถูกจิ่งเป่ยเฉินชื่นชอบ นั่นเพราะว่าขี้เหร่ไม่มากพออย่างนั้นเหรอ?
“นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของพวกคุณ ถ้าหากพวกคุณคิดจะอยากรู้จริง ๆ ละก็ โปรดอดทนรอและรอวันแถลงข่าวก็พอ” อันโหรวมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาที่เมินเฉย “ขอให้ทุกคนช่วยกลับไปด้วยค่ะ อย่าได้รบกวนคนอื่น ๆ ในเขตชุมชนที่นี่เลย นี่มันเวลาพักผ่อนนะ!”
เมื่อคำพูดของเธอเอ่ยขึ้น คนอื่น ๆ ก็หันไปมองจิ่งเป่ยเฉินที่มีสีหน้าเย็นชา ดวงตาของเขาดูเย็นยะเยือก เผยให้เห็นถึงความนัย ผู้หญิงที่เขาโอบกอดอยู่ตอนนี้ เหมือนว่าเขากำลังปกป้องผู้หญิงคนนี้อยู่
อันโหรวรู้สึกถึงบรรยากาศที่เย็นชาและเคร่งขรึมของเขาดี ในช่วงเวลานี้เองก็รู้สึกได้ว่าเขานั้นอารมณ์ดีขึ้นมาไม่เบา เล่นเสียจนเธอลืมอารมณ์ที่เขาเคยเย็นชาและมักจะเฉยเมยกับผู้อื่นไปเลย
จิ่งเป่ยเฉินจ้องมองไปที่นักข่าวด้วยสายตานิ่ง ๆ ก่อนจะพูดว่า “ออกไป!”
“ไป ไปเร็ว!”
“เร็วเข้า!!”
นักข่าวที่ต้องการทราบข่าวจากปากของเขานั้นรีบสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว ราวกับนกที่แตกรัง
อันโหรวถึงกับยกนิ้วโป้งให้เขา และพูดว่า “เมื่อครู่นายลืมบอกนักข่าวนะว่าอย่าให้พวกเขาเผยแพร่ข่าวพวกนี้ออกไป”
“ฉันตั้งใจ” เขาพาเธอเข้าไปในบ้าน เมื่อพวกเขาเข้ามาข้างใน หยางหยางกับหน่วนหน่วนก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เธอปิดประตู พลางมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ พลันนึกถึงคำพูดที่เขาเอ่ยเมื่อครู่นี้ เธอเองก็ไม่ได้โกรธหรือว่าอะไร แต่ก็พูดไปว่า “นายเองก็ออกไปด้วย!”
“แม่จ๋า! ให้พ่อจ๋าอยู่เล่นกับพวกเราก่อนสิ! ตอนนี้ยังไม่ดึกเลย” หน่วนหน่วนลุกขึ้นจากที่นั่งและวิ่งไปกอดเธอจากด้านหลังทันทีเพื่อช่วยจิ่งเป่ยเฉินพูด
“ได้จ้ะ” เธอก้มตัวและยิ้มให้กับลูกสาว โดยไม่สนใจว่าสีหน้าของจิ่งเป่ยเฉินจะเป็นยังไง เมื่อพูดกับลูกสาวเสร็จเธอก็รีบไปทำความสะอาดโต๊ะและล้างจานต่อทันที
ขณะที่ล้างจานอยู่นั้น หยางหยางก็ได้เดินเข้าไปที่ห้องครัว เมื่อครู่ที่ด้านนอกนักข่าวพูดเสียงดังเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาต้องได้ยินอยู่แล้ว
อันหยางรู้สึกมาตลอดว่าแม่จ๋าแต่งหน้าขี้เหร่แบบนั้นไม่ใช่เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการคุกคามของเหล่าพวกผู้ชาย แต่กลับยังมีสิ่งอื่น ๆ อยู่อีก
จิ่งเป่ยเฉินที่สามารถเอ่ยได้ว่าตัวของเขาเพียงแค่ยกมือก็สามารถครอบคลุมทั่วทั้งเมือง A ได้แล้ว ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่จำเป็นที่จะต้องกลับมาใช้ใบหน้าปกติ ต้องใช้ชื่อนามแฝงและแต่งหน้าขี้เหร่แบบนี้ไปก่อน
แม่จ๋าต้องปิดบังเรื่องพวกเขาเอาไว้ไม่ให้คนอื่นรู้ เนื่องจากตัวของเขายังเล็กอยู่ แต่ใจของเขาเองก็อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่อยู่ตลอดเวลา
“แม่จ๋า แม่ชอบพ่อเขาไหม?” เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างจริงจัง
อันโหรวที่กำลังขยับมือทำโน่นทำนี่จู่ ๆ ก็หยุดลงชั่วขณะ ก่อนจะล้างจานต่อ จิ่งเป่ยเฉินตอนนี้น่าจะขึ้นไปชั้นบนกับหน่วนหน่วน และไม่น่าจะได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันแน่ ๆ
เธอเลยตอบกลับไปว่า “ก็ชอบอยู่นิดหน่อยนะ” ก่อนหน้านั้นไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่ตอนนี้ตัวเธอเริ่มรู้สึกชอบเขามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
“แต่ผู้หญิงของพ่อเขา……..” เขายังสลัดภาพความคิดที่เคยเห็นในโลกออนไลน์ที่มีข่าวซุบซิบอยู่เต็มไปหมดไม่ได้
โดยเฉพาะเรื่องของจิ่งเป่ยเฉินกับลูซี่ในค่ำคืนนั้น ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันมาก เขาไม่อยากให้แม่จ๋าของเขาอยู่กับผู้ชายแบบนี้
“นั่นมันแค่ข่าวลือ” ถ้าหากผู้หญิงพวกนั้นมีจริง ๆ ละก็ เธอไม่มีทางที่จะอยู่กับเขาแน่ และจะรีบหนีออกไปให้ไกลที่สุดด้วย คอยดู
“ข่าวลือพวกนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นของปลอม” แม่จ๋าเชื่อว่าเป็นข่าวปลอม เขาเองก็จะเชื่อตามแม่จ๋า
“พรุ่งนี้ผมกับน้องจะไปโรงเรียนได้ใช่ไหม?” คืนนี้ผู้สื่อข่าวอยู่เต็มไปหมด และไม่ได้ข่าวอะไรกลับไปเลย เพราะงั้นอาจจะเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไปดักรอที่โรงเรียน
“จิ่งเป่ยเฉิน…….” เธอแทบจะกัดฟันเรียกชื่อของเขาออกมา ตอนนี้เธอรู้สึกหงุดหงิดเรื่องเขาทันที
ข่าวที่โจ่งแจ้งแบบนี้ พรุ่งนี้คงต้องถูกรบกวนแน่ ๆ ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงเรื่องที่แม่ของจิ่งเป่ยเฉินบังคับให้เขาแต่งงาน ดูท่าครั้งนี้เธอได้จบสิ้นแล้วแน่ ๆ
พอหยางหยางคิดจะพูดอะไรสักอย่าง อันโหรวที่ล้างจานอยู่นั้นก็ได้เดินผ่านหน้าเขาออกไปทันที
เขาได้ยินเสียงเท้าที่เดินออกไปไกลมากขึ้น เขาจึงพับแขนเสื้อขึ้นและล้างจานแทนแม่
ที่ชั้นบน จิ่งเป่ยเฉินกำลังนั่งอ่านหนังสือนิทานให้หน่วนหน่วนฟังอยู่ข้าง ๆ เตียงด้วยภาษาจีนกลาง เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา ก็ลุกขึ้นและพูดทันที “โหรวโหรว”
“แม่จ๋า พ่อจ๋าเขาอ่านไม่สนุกเลย แม่จ๋าอ่านสนุกกว่า!” หน่วนหน่วนกอดตุ๊กตา Hello Kitty ไว้ในอ้อมกอดขณะนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะมองไปที่แม่ของเธอด้วยความรวดเร็ว
“หน่วนหน่วนเล่นกับตุ๊กตาไปก่อนนะคะ แม่จ๋าขอคุยกับพ่อหน่อย” เธอยิ้มพลางบอกลูกสาว ก่อนจะมองไปที่จิ่งเป่ยเฉินด้วยสายตาที่เย็นชาทันที “ออกมานี่”
จิ่งเป่ยเฉินวางหนังสือนิทานลง ก่อนจะเดินตามหลังเธอไปด้วยท่าทีสบาย ๆ