อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 232 สามีที่ดีต้องฟังภรรยาไม่ใช่เหรอ?
ตอนที่ 232 สามีที่ดีต้องฟังภรรยาไม่ใช่เหรอ?
สามีที่ดีต้องฟังภรรยาไม่ใช่เหรอ? ทำไมใช้กับบ้านนี้ไม่ได้กัน?
ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอลง ก่อนที่เสียงหอบหายใจจะดังขึ้นที่ข้าง ๆ หูของเขา “คุณภรรยา ผมไม่อนุญาตให้คุณเป็นหวัดหรอกนะ ออกกำลังกายเคลื่อนไหวให้มีเหงื่อออกหน่อยจะได้ดีขึ้น”
“น้องสาวนายสิ! ฉันยังไม่ทันเป็นหวัดเลย ไม่ต้องการเรียกเหงื่อหรอกนะ!” เธอยกขาของเธอขึ้นทันที ก่อนจะตั้งท่าอย่างมั่นคง แต่ก็ถูกเขาจับขาเธอขึ้นมาไว้ระหว่างเอวซะก่อน
“อาาา…….”
ขาของเธออีกข้างถูกบังคับให้ยกขึ้นมา ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของเธอจึงแนบชิดอยู่กับเอวของเขา แผ่นหลังบางแนบไปกับกระเบื้อง “จิ่งเป่ยเฉินนาย……”
“อาาา”
ดวงตาที่สวยงามจ้องมองไปที่เขา แต่ด้วยท่าทางที่น่าสงสารแบบนี้ ทำได้เพียงให้เขาใช้แรงเพิ่มขึ้นเท่านั้น
นี่เธอเป็นคนป่วยหรือไง ถูกกดไว้กับกำแพงแบบนี้จะทำอะไรได้?
ในคืนนั้นเธอรู้สึกปวดหัวและเวียนหัว!
เธอเป็นหวัดจริง ๆ!
เธอคัดจมูก พลิกตัวกลับมาตีตรงหน้าอก พลางพยายามข่มตานอนหลับ “จิ่งเป่ยเฉิน คืนนี้นายนอนห้องหนังสือ ห้องรับแขก ห้องอะไรก็ได้ อย่ามานอนบนเตียงของฉัน!”
“อืม” เขาตอบกลับทันที
เธอลืมตาขึ้นมาทันที จากประสบการณ์ที่ได้เห็นที่ผ่านมา เขาตอบตกลงรับปากง่าย ๆ แบบนี้น่าจะมีแผนการอะไรบางอย่างแน่ ๆ
“ฉันบอกไว้ก่อน ฉันจะไม่ไปกับนาย!”
“งั้นฉันเองก็ไม่ไป” เขาจะไปนอนที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ก็ต้องพาเธอไปด้วย
“ไม่ได้ ไม่งั้นเดี๋ยวนายจะติดหวัดเอาได้” เธอค่อย ๆ หลับตาลงและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “จิ่งเป่ยเฉิน วิธีของนายไม่ได้ผลหรอก ฉันมีลางสังหรณ์ และลางสังหรณ์ของฉันก็แม่นยำด้วย!”
ทันใดนั้นเธอก็เอามือไปแนบที่หน้าผากของตัวเอง เธอคิดอยากจะสัมผัสมันด้วยตัวเอง เมื่อกี้แค่รู้สึกว่าเวียนหัว แต่ดูแล้วเหมือนเธอจะไม่มีไข้เท่าไร
เธอค่อย ๆ ปิดตาลง ก่อนจะรู้สึกถึงอาการเวียนหัวอีกครั้ง
จิ่งเป่ยเฉินเอามือไปแตะหน้าผากของเธอ และก็เอาอีกมือแตะที่หน้าผากของตัวเอง ก่อนจะโน้มหน้าไปข้าง ๆ หูของเธอ “โหรวโหรว เธอกลัวการฉีดยาหรือเปล่า?”
“จิ่งเป่ยเฉิน หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว โทรหาหมอให้ฉันที!” ตอนนี้เธอไม่เพียงแต่จะรู้สึกเวียนหัวเท่านั้น แต่ยังรู้สึกอ่อนแรงอีกด้วย
เรื่องไข้หวัดฤดูใบไม้ร่วงอะไรพวกนั้น จะเป็นการดีที่สุดถ้าหากรักษามันเสียแต่เนิ่น ๆ
เขาลอบขโมยจูบที่แก้มของเธอ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง
เธอหลับตาลงและหลับไปด้วยความเวียนหัว
ด้วยความงุนงง ก่อนจะรู้สึกตัวว่าที่ข้างกายมีคนอยู่ข้าง ๆ และดูเหมือนจะมุดเข้ามาในอ้อมแขนของเธอ “จิ่งเป่ยเฉิน นายไม่จบไม่สิ้นบ้างเลยหรือไง!”
“แม่จ๋า หนูเอง…..” หน่วนหน่วนไม่กล้าขยับตัวไปมา ก่อนจะจับแขนของเธอขึ้นและพยายามเงยหน้ามองเธอ “หน่วนหน่วนอยากให้ความอบอุ่นกับแม่จ๋า แม่จ๋าจะได้ไม่รู้สึกป่วย”
เมื่อได้ยินเสียงของหน่วนหน่วน เธอก็พยายามลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากและพูดว่า “หน่วนหน่วนเด็กดีของแม่ อยู่ให้ห่างจากแม่จ๋าหน่อยนะคะ”
เธอไม่อยากจะให้เด็ก ๆ มาติดหวัด โดยเฉพาะหน่วนหน่วนแล้ว เมื่อใดที่เธอถูกเข็มฉีดยา เธอก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“อือ…..” เธอไม่กล้าแม้แต่จะเปิดผ้าห่มขึ้น ก่อนจะเอาร่างเล็ก ๆ นั้นออกมาจากผ้าห่มทันที
เมื่อเธอนั่งอยู่ตรงด้านข้างเธอ เธอก็เอามือเล็ก ๆ ของเธอดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้อย่างจริงจังและพูดขึ้นมาว่า “พ่อจ๋ายังไม่เห็นติดหวัดเลย”
“ภูมิคุ้มกันของพ่อจ๋าแข็งแรง ร่างกายก็แข็งแรง ไม่ติดหวัดง่าย ๆ หรอก” เธอมองสีหน้าที่ดูเป็นห่วงของหน่วนหน่วน ก่อนจะยื่นมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อจับมือน้อย ๆ ของเธอ “อีกอย่าง พ่อจ๋าก็ไม่ได้กลัวการกินยาหรือฉีดยา หน่วนหน่วนไม่ชอบกินยา เพราะฉะนั้นห้ามเป็นหวัดเด็ดขาด เข้าใจไหมคะ?”
“เข้าใจแล้วค่ะ ยาขม ๆ สินะ” เธอส่ายหน้า ในหัวคิดภาพก่อนหน้านั้นที่กินยา เธอต้องอยู่ให้ห่างจากแม่จ๋าเอาไว้
เรื่องพวกนี้เธอทนไม่ไหวจริง ๆ!
อันโหรวปล่อยมือของเธอออก ก่อนจะเห็นประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง สิ่งแรกที่เธอทำก็คือให้จิ่งเป่ยเฉินพาหน่วนหน่วนออกไป แต่หยางหยางกลับเข้ามากับเขาเสียได้
“แม่จ๋า หมอจะมาแล้วครับ รีบหาอะไรกินก่อนนะ” ร่างเล็ก ๆ ของเขาเดินไปที่เตียงอย่างรวดเร็ว เขามองเธออย่างเป็นกังวล ใบหน้าที่สวยและดูงดงามตอนนี้กลับซีดลงเล็กน้อย เขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจจิ่งเป่ยเฉินขึ้นมาแล้ว
ทำไมออกไปกับแม่จ๋า ไม่คิดว่าจะทำให้แม่จ๋าเป็นหวัด!
“ได้จ้ะ ขอบคุณนะลูกรักที่เป็นห่วง!” เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนจะพิงไปที่หัวเตียงพลางมองดูจิ่งเป่ยเฉินที่ตอนนี้กลายเป็นบริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟ
“หยางหยางพาน้องสาวออกไปก่อน แม่ไม่อยากให้ติดหวัด” เธอยังคงเป็นห่วงเรื่องพวกเขาอยู่
เด็ก ๆ สองคนนี้ล้วนแล้วไม่ดื้อเท่ากับจิ่งเป่ยเฉินเลยสักนิดเดียวที่ดึงดันนอนกับเธอทั้งคืน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยสักนิด
“ได้ครับ” หยางหยางดึงหน่วนหน่วนออกจากเตียง ดวงตาที่ดำสนิทจ้องมองไปที่จิ่งเป่ยเฉิน “โชคดีที่แม่จ๋าไม่เป็นอะไรมาก แต่พ่อไม่ไหวเลย ดูแลผู้หญิงของตัวเองไม่ดีเลย”
“พ่อ….” จิ่งเป่ยเฉินที่กำลังถือโจ๊กข้าวฟ่างเพื่อป้อนอาหารให้กับเธอ เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ต่อไปจะไม่ทำแล้ว พ่อสัญญากับเราเลย”
“สัญญาไปก็เท่านั้น วันหลังค่อยพูด!” เขาชี้ไปที่ตาของตัวเอง “ผมจะจับตาดู”
“เข้าใจแล้ว จะไม่เกิดเรื่องอะไรกับแม่จ๋าอีก ลูก ๆ ไปโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว” เขาพูดจบก็ไม่ได้มองพวกเขาอีก
ท้องฟ้าใหญ่ แผ่นดินใหญ่ แต่ภรรยาใหญ่ที่สุด
อันโหรวมองหยางหยางและหน่วนหน่วนที่เดินออกไป ก่อนจะมองไปที่เขา “ฉันเป็นหวัด นายอย่าปล่อยให้พวกเด็ก ๆ เข้ามา ถ้าหากครั้งหน้าเข้ามาอีกก็อย่าลืมให้ใส่หน้ากากอนามัยก่อนด้วย”
“ทำไมไม่เคยเห็นเธอพูดเป็นห่วงแบบนี้กับฉันบ้าง?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจ เจ็บป่วยก็คอยป้อนโจ๊กให้อยู่ตลอด “รสชาติจืดหน่อย กินหน่อยนะ”
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะไม่กิน” ภายในใจเธออบอุ่นขึ้นมาทันที ถึงจะเป็นหวัดแต่ก็ดีอยู่ แต่แค่เมื่อวานจมน้ำไปไม่ได้รู้สึกดีเลย
หลังจากที่เธอค่อย ๆ กินจนหมด เธอถึงตอบคำถามของเขา “งั้นนายก็ไปได้แล้ว ให้ฉันอยู่รอหมอมาฉีดยา ว่าแต่ฉีดที่ตรงไหน? ก้นเหรอ?”
จิ่งเป่ยเฉินเก็บชามวางไว้ ก่อนจะห่มผ้าให้เธอและพูดว่า “ไม่ได้!”
“ก็นายบอกว่าฉีดยา!” เธอก็แค่ถามขึ้นมาก็เท่านั้นเอง
“เปลี่ยนเป็นให้น้ำเกลือแทนแล้ว” เขาพูด
“ตามใจ!” เธอหน่ายจะพูดกับเขาจึงพลิกตัวเล็กน้อย มองดูเขาที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงจึงถามอย่างไม่แน่ใจว่า “นายไปสวมหน้ากากอนามัยดีกว่าไหม?”
“อันโหรว เธอไม่ได้เป็นไข้หวัดสักหน่อย!” คนแข็งแรงและภูมิคุ้มกันดีแบบเขา ของแบบนั้นไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก
“ก็แล้วแต่นายเลย……” เธอปิดปากและไม่พูดอะไรอีก
เพียงไม่กี่นาที คุณหมอก็มาและจัดการให้น้ำเกลือเธอ เขาเหลือบมองไปยังผู้ชายที่อยู่ด้านข้าง “จิ่งเป่ยเฉิน ความจริงฉันรู้สึกว่าฉีดยาน่าจะสะดวกกว่านะ”
“ทนเจ็บหน่อยนะ” แบบนี้ไม่เพียงนาน แต่ยังทำให้หนาวไปทั้งแขนอีกด้วย เธอรู้สึกว่าแขนเธอแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว!
เขายื่นมือมาลูบแขนของเธอทันที ซึ่งมันเย็นเฉียบจริง ๆ จึงวางแขนของเธอไว้ใต้ผ้าห่ม “แบบนี้ดีกว่าหรือเปล่า?”
“เมื่อกี้ฉันมึนไปหรือเปล่า?” วิธีง่าย ๆ แบบนี้ทำไมเพิ่งคิดได้นะ
แสดงไอคิวต่ำต่อหน้าจิ่งเป่ยเฉินไปเสียอย่างนั้น
แย่จริง ๆ!
“น่ารักดีออก” เขายิ้มพลางหัวเราะ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองขวดน้ำเกลือทั้งสองขวด “เธอพักผ่อนก่อนเถอะ”
“โอเค ช่างเป็นการคุยที่น่าเบื่อและยาวนาน นายไปกินข้าวเถอะ! ไม่สิ ไปบริษัทเถอะ! ในบ้านมีคนรับใช้อยู่เยอะแยะ ฉันไม่เป็นอะไร” เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์
“หลับตาลงและนอนเป็นเด็กดี” เธอนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่บ้าน แล้วจะให้เขาออกไปข้างนอกได้ยังไง
อย่าพึ่งพาตัวเองเกินไปเลย ปกติไม่ชอบให้สามีคอยอยู่ข้าง ๆ หรอกเหรอ?