อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 240 ภาพเหตุการณ์อย่างบ้าคลั่ง
ตอนที่ 240 ภาพเหตุการณ์อย่างบ้าคลั่ง
หลังจากที่กินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว อันโหรวก็ยังคงนอนอยู่บนเก้าอี้โยกและอาบแสงแดดภายใต้อุณภูมิเพียงน้อยนิดของฤดูใบไม้ร่วง บางครั้งภาพในหัวก็ปรากฏภาพเหตุการณ์อย่างบ้าคลั่งที่โอวหยางลี่ทำกับเธอเมื่อคืน
โอวหยางลี่ที่ตอนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ปกติแล้วเขาเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เสมอ แต่เมื่อคืนกลับกลายเป็นคนคลั่งที่โมโหและเป็นอันธพาล เปลี่ยนภาพลักษณ์ไปอย่างสมบูรณ์
นับตั้งแต่ที่เธอกลับมาจากต่างประเทศ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้จักกับอีกตัวตนหนึ่งของโอวหยางลี่ หรือว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขากันแน่
“จริง ๆ เลย น่าขยะแขยงมาก!” เธอขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะไปรับโทรศัพท์มือถือที่ดังอยู่ในบ้าน
เมื่อเธอกำลังจะรับสายโทรศัพท์ ก็เห็นปลายทางที่โทรมา เธอค่อย ๆ คลี่รอยยิ้มออกมาทันที “พี่สาว!”
“บ่ายสามโมง อย่าลืมมางานผลิตภัณฑ์หยกที่จินเซ่อนะ มีบางอย่างที่เธอเคยออกแบบไว้ด้วยนะ” เสียงอ่อนโยนดังขึ้นจากปลายทาง
“ขอโทษด้วย ขอโทษจริง ๆ ฉันลืมไปเลย เดี๋ยวจะรีบไปนะ” เธอวางสายโทรศัพท์และดูเวลาที่ใกล้เวลาบ่ายสองครึ่งแล้ว
เธอลืมเรื่องใหญ่โตพวกนี้ไปเกือบหมด เธออยากจะเตือนตัวเองว่าอย่าไปเร็วมาก ให้ไปจนเกือบจะถึงเวลาพอดีก็พอ
ตอนนี้เธอไปโดยไม่แต่งหน้าใด ๆ ทำแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าและหยิบกุญแจรถออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมุ่งหน้าขับรถตรงไปที่จินเซ่อทันที
วิเวียนเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องประดับระดับนานาชาติ ทุกคนใช่ว่าจะเข้าร่วมนิทรรศการออกแบบของเธอได้ ผู้ที่สามารถเข้าไปได้ก็คือผู้ที่ถูกเชื้อเชิญเท่านั้น เธอมองไปที่รถที่จอดอยู่ด้านนอกจำนวนมาก เธอมาสายเกินไป เมื่อหาที่จอดรถได้จึงรีบเดินเข้าไปด้านในทันที
ในช่วงเวลาที่ขับรถมานั้นเธอค่อนข้างขับรถเร็ว เนื่องจากที่บ้านพักอยู่ห่างจากจินเซ่อพอสมควร ซึ่งเมื่อเธอมาถึงก็เป็นเวลากว่าบ่ายสามครึ่งแล้ว ภายในห้องโถงขนาดใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาเข้าชมเป็นจำนวนมาก
เธอไม่แม้แต่จะเห็นวิเวียน เธอจึงเดินตรงไปที่ด้านหลังของเวที เธอไม่ค่อยชอบบรรยากาศที่ดูคึกคักจนเกินไป ปกติแล้วแค่ปรากฏตัวเพียงไม่กี่วินาทีก็ถือว่าเป็นข้อจำกัดของเธอแล้ว
“พี่สาว โหรวโหรว!” เมื่อเธอเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงอึกทึกดังขึ้นมา
“อวี๋กุยห่าว เธอช่วยเบาเสียงลงหน่อยสิ?” เธอเดินเข้าไปข้างในและพูดว่า “อาจารย์เธออยู่ไหน?”
“อยู่ข้างในนี่แหละ! แต่ว่ามีสองคนคิดอยากจะเจอกับอาจารย์ แต่ถูกปฏิเสธไปแล้ว อาจารย์เหมือนจะทำอะไรสักอย่างนะ? แต่ไม่วางแผนจะกลับประเทศเลยสักนิด!” อวี๋กุยห่าวส่ายหน้าก่อนจะมองไปที่เธออย่างมีนัยบางอย่าง “พี่หร่านหร่าน ผลิตภัณฑ์ที่พี่ออกแบบมีคนมากมายต่างก็ดูชม น่าเสียดายตรงที่พี่ไม่ใช่นักออกแบบ!”
ตระกูลอันตอนที่ยังไม่เกิดเรื่อง ช่วงที่เธอยังเด็ก ๆ เธอมักจะติดตามอันเจิ้งตงออกไปดูพวกผลิตภัณฑ์หยกที่สวยงามอยู่เสมอ การออกแบบของพวกนี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นพรสวรรค์ของเธอทั้งสิ้น แต่เธอแค่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะเป็นนักออกแบบเลยสักนิดเดียว
“งั้นได้ขายมันออกไปหรือเปล่า?” ถ้าหากเธอจำไม่ผิดละก็ เธอได้ให้ต้นฉบับกับวิเวียนไป ซึ่งเธอไม่มีเวลาได้ตรวจดูตัวผลิตภัณฑ์ก็กลับประเทศจีนเสียก่อน
“แน่นอนว่าขายไปแล้วสิ แต่ไม่ต้องห่วง เราใช้ชื่อภาษาอังกฤษของพี่ไป ไม่น่าจะมีใครรู้หรอก” เธอเริ่มขยับเข้ามาข้างหน้า ก่อนจะใช้สายตามองดูเธออยู่หลายครั้งหลายหนและพูดขึ้น “พี่โหรวโหรว พี่นี่สวยจริง ๆ นะ บอกฉันหน่อยสิเคล็ดลับความสวยของพี่คืออะไรเหรอ?”
เธอที่แต่งหน้าเกือบทุกวัน ผิวพรรณกลับดูไม่โทรม ไม่มีสิว แค่นี้เธอก็ตื้นตันใจมากแล้ว ยังจะมีเคล็ดลับอะไรอีก?
“พี่ไม่พูด?!” เธอเริ่มเสียใจ เริ่มเป็นทุกข์ จะไม่พูดได้ยังไง!
“คงเป็นเพราะว่าช่วงนี้มีความสุขมากเกินไปเท่านั้นเอง” เธอเองก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
“มีความสุข! เหมือนว่าพี่จะดูอ้วนขึ้นนะ เป็นเพราะจิ่งเป่ยเฉินหรือเปล่า? ตอนที่ฉันกลับมาได้ข่าวมาว่าอันอีหานคนนั้นคือพี่เหรอ?” ตอนที่อยู่ต่างประเทศเธอเองก็แต่งหน้าอยู่แล้ว ไม่คิดว่ากลับมาก็ยังคงเหมือนเดิม
“พี่คะ” เมื่อเห็นวิเวียนกลับมา เธอก็เบนความสนใจจากเธอได้สำเร็จ
เธอกับวิเวียนเคยรู้จักกัน ช่วงเวลานั้นเธอยังเด็กมาก เห็นเธอที่ดูวัยรุ่นจึงไม่เคยเรียกว่าน้าเลยสักครั้ง เธอเรียกว่าพี่สาวมาโดยตลอด
ตอนที่เธอไปจากเมือง A ตระกูลอันนั้นเจริญรุ่งเรืองดังพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า การออกแบบของเธอให้ความสว่างทางด้านความรู้ขั้นพื้นฐานแก่ผู้เริ่มศึกษาเรียนในตระกูลอัน เงินที่ไปเรียนต่างประเทศก็เป็นตระกูลอันที่ออกให้ แต่แค่คนอื่นนั้นไม่รู้
ตอนนี้วิเวียนอายุเกือบจะสี่สิบปี แต่กลับดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ดูแล้วเหมือนเพิ่งจะสามสิบปีเท่านั้น เธอเป็นคนอ่อนโยนและมีคุณธรรม เธอมักจะเผยอารมณ์ทางด้านศิลปะที่ดูเงียบสงบ ซึ่งตรงข้ามกับอวี๋กุยห่าวที่ดูโหวกเหวกโวยวาย
“โหรวโหรว” เธอยิ้ม “ดูแลอาหารการกินที่เลิศรสของเธอก็พอ”
“พี่คะ พี่อย่าบอกนะว่าพี่กลับมาช่วยฉัน?” จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ต้องการมันสักหน่อย!
“งั้นให้ฉันกลับมาเพื่อเกษียณอายุหรือยังไง?” เธอตอบกลับด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “เธอเห็นการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตัวเองหรือยัง?”
“ยังเลย ฉันก็ต้องมาหาพี่ก่อนสิ” ความจริงแล้วพวกเขาอยู่ต่างประเทศโดยไม่ได้ติดต่อกันเลย
หากไม่ใช่การร่วมมือของ TE ที่ร่วมมือกับวิเวียนในครั้งนั้น พวกเธอก็เกือบจะจำกันไม่ได้ หลังจากนั้นมาพวกเธอก็ติดต่อกันเป็นครั้งคราว
อวี๋กุยห่าวที่อยู่ด้านข้างกำลังรับโทรศัพท์ ก่อนจะป้องหูพูดกระซิบวิเวียนด้วยท่าทางลึกลับ
เธอยิ้มอย่างอบอุ่น “ให้กุยห่าวพาเธอออกไปดู อยากได้อะไรก็หยิบเอาเลยตามสบาย”
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้วนะ” ตอนนี้เธอไม่ได้อยากได้ของพวกนี้ แค่ตอบรับน้ำใจของเธอก็เพียงพอแล้ว
อวี๋กุยห่าวออกไปพร้อมกับเธอ คนด้านนอกก็ไม่ได้มีคนมากมาย แต่ก็เห็นได้ว่าทุกคนดูร่ำรวยกันทั้งนั้น
ทันทีที่ทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้น หลากหลายผู้คนต่างหันมามองที่พวกเขาสองคน ไม่ว่าคนสวยจะไปที่ไหนก็มักจะเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คนอยู่เสมอ โดยเฉพาะความงามของอันโหรวที่ดูน่าทึ่งเสียขนาดนี้
“ขอโทษนะคะ ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ” อวี๋กุยห่าวเห็นคนกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปอันโหรว เธอก็รีบเข้าไปขวางเอาไว้ทันที
บุคคลนั้นเหลือบมองไปที่ป้ายแบรนด์ที่อยู่ตรงหน้าอกของเธอ ก่อนจะรีบเก็บโทรศัพท์ลงด้วยความรวดเร็ว
“ขอบคุณนะ!” อันโหรวพูดออกไปก่อนจะหันไปมองห้องโถงอีกด้าน
“นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ!” เธอชี้ไปห้องโถงด้านหน้า “พี่โหรวโหรว ที่พี่ออกแบบผลิตภัณฑ์อยู่ในห้องโถงโน้น พี่ยังไม่ได้ไปดูเลยนะ!”
“ฉันมาที่นี่เพื่อมารีดไถอาจารย์ของเธอต่างหาก” ความจริงแล้วเธอรู้สึกว่าคนในห้องโถงนั้นเยอะเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอคนที่ไม่อยากเจอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ ในฐานะผู้ที่เป็นหัวเรือผู้นำของการค้าหยกในมือง A โอวหยางลี่อาจจะปรากฏตัวขึ้นก็ได้
“ใช่ รีดไถ รีดไถอย่างโหดเหี้ยม อาจารย์ของฉันมีเงินมากมาย แต่…..” เธอที่ยังพูดไม่จบมองไปที่อันโหรวที่ยืนหยุดนิ่งอยู่กับที่ “พี่โหรวโหรว?”
อันโหรวเหลือบมองไปที่เหลียวเว่ยที่อยู่ไม่ไกลจากเธอมากนัก ส่วนคนด้านหลังก็กำลังจับจ้องมองมาที่เธอ ทั้งสองคนประสานดวงตากัน ตัวของเหลียวเว่ยก็เหมือนกับหยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง
เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวพร้อมด้วยเสื้อยีน ผมที่ยาวประบ่าถูกปล่อยลงมาอย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าที่ดูขาวเนียนของเธอนั้นดูไร้ซึ่งการแต่งเติมใด ๆ เธอยังคงสวยสดงดงามเหมือนกับดอกไม้ในโรงเรียนที่ยังคงดูบริสุทธิ์เฉกเช่นความทรงจำเมื่อวันวาน แต่เธอก็ได้สัมผัสถึงอารมณ์และความรู้สึกที่ดูเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากนัก
เธอ…….
กลับมาแล้วเหรอ!
เมื่อครู่เธอเพิ่งดีใจที่อันอีหานนั้นไม่ใช่อันโหรว ส่วนอันโหรวก็คงไม่มีทางที่จะกลับมายังประเทศแน่ ๆ!
แต่แล้วทำไมกัน ทำไมเธอถึงได้มาปรากฏตัวขึ้นในที่แห่งนี้กัน?
ทั้งยังปรากฏตัวต่อหน้าเธออีก!
“คุณหนูอัน ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะ” เหลียวเว่ยเดินเข้ามาหาเธอก่อน แต่แล้วยังไง ในเมื่อเธอกลับมาแล้ว เธอก็ไม่ได้หวาดกลัวเลยสักนิดเดียว
โอวหยางลี่ตอนนี้ยังคงเป็นสามีของเธออยู่ ส่วนจิ่งเป่ยเฉินที่เธอน่าจะพึ่งพาได้ก็มีผู้หญิงคนอื่นแล้ว เธอจะมีสิทธิ์อะไรที่จะมาหยิ่งผยองต่อหน้าเธอได้กัน
“อืม นานมากเลย ห้าปีกว่าได้แล้วสินะ!” อันโหรวยิ้ม ก่อนที่จะไม่สนใจตัวเธออีก พลางหันหลังเดินออกไปที่ตู้จัดแสดงผลิตภัณฑ์สร้อยคอ
เหลียวเว่ยเดินตามเธอมาข้างหน้า ก่อนจะก้มลงมองป้ายราคาที่ทำเครื่องหมายไว้ข้างบน ที่ด้านหลังเลขแปดมีศูนย์ห้าตัว ก่อนหน้านั้นอันโหรวสามารถซื้อของพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้…?
//น้องเขาเรียกพี่หร่านหร่าน แซว โหรวโหรวนะครับ