อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 270 นอนหลับอย่างมีเกียรติ
ตอนที่ 270 นอนหลับอย่างมีเกียรติ
“งั้นฉันเข้าห้องเธอ”
“งั้นเข้าห้องของนายเถอะ…..” อันโหรวตอบอย่างไม่มีอำนาจ
บิ๊กบอสตอบสนองคำร้องขอ หากบอกว่าพอใจเธอก็พอใจ ดังนั้นเธอจึงหลับอย่างมีเกียรติ
เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็มีแค่เธอคนเดียวที่อยู่ในห้องรับรอง เธอก้มหน้าลงมองร่างกายที่มีรอยจูบทั้งบางและหนักหน่วงทั่วตัว ก่อนจะเลื่อนสายตามองไปที่ประตูห้องที่ปิดอยู่และลุกขึ้นจากเตียงอย่างยากลำบาก
ทันทีที่เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ด้านในนั้นกลับมีแต่เสื้อผ้าของจิ่งเป่ยเฉิน
เธอที่เห็นเสื้อผ้าเหล่านั้นก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับเสื้อผ้าของเขาไปมา
กริ๊ก!
อันโหรวก้มลงมองของที่หล่นลงมา สายตาของเธอนั้นนิ่งขึ้นมาทันที ก่อนจะก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา
นี่มันจี้หยกสีเขียว จี้หยกอันนี้เป็นของเธอ!
เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ จำได้เพียงว่าตอนที่ตระกูลอันนั้นยังไม่ล่มสลายมันก็หายไปเสียแล้ว
หรือว่าจิ่งเป่ยเฉินเป็นคนเก็บมันได้?
แล้วทำไมเขาไม่คืนให้กับเธอ?
หรือว่าเขาไม่รู้ว่าจี้หยกนี้เป็นของเธอ?
ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะก่อนหน้านี้เธอแทบจะไม่ได้ใส่มันติดตัวสักเท่าไร หยิบออกมาใส่แค่หนึ่งครั้งก็หายไปเลย
แต่ว่าในตอนนี้เธอคงไม่สามารถที่จะเอาจี้หยกนี้ไปถามเขาว่าทำไมถึงไม่คืนเธอหรอกมั้ง
เธอคิดวนไปวนมาอยู่ว่าจะเอาจี้หยกนี้กลับไปวางที่เดิม แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามันหล่นมาจากเสื้อตัวไหน
เธอมองเสื้อสูทสีดำที่อยู่ด้านข้างเสื้อเชิ้ตสีขาว สุ่มเลือกเสื้อที่มีกระเป๋าและใส่มันเข้าไปด้านใน
หลังจากนั้นเธอก็เปิดตู้เสื้อผ้าอีกตู้หนึ่งที่ด้านในนั้นมีเสื้อผ้าของเธอ!
แต่มันไม่มีชุดยูนิฟอร์มใส่ทำงานของเธอ มีแต่กระโปรงหลากหลายสไตล์ที่เป็นของแบรนด์เนมทั้งนั้น!
จิ่งเป่ยเฉินวางแผนมานานแล้ว! เขาเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับเธอเยอะมาก
เธอสูดลมหายใจเข้า โชคดีที่ภายในห้องนี้ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหนก็มีเครื่องปรับอากาศทำความร้อนอยู่ ไม่อย่างนั้นเธอต้องหนาวตายแน่ ๆ
ทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องรับรองก็เจอจิ่งเป่ยเฉินที่กำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ถ้าหากไม่รู้จักอารมณ์ของเขาคงจะถูกเขาหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและการแต่งตัวของเขาแน่ ๆ เพราะความจริงแล้วเขาเป็นสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์!
“ประธานจิ่ง ฉันขอตัวก่อนนะคะ มีเรื่องอะไรก็ไม่ต้องเรียกฉัน” เธอเสียเวลามาครึ่งวันแล้ว แน่นอนว่างานของเธอนั้นล้นโต๊ะแล้วแน่ ๆ
จิ่งเป่ยเฉินเงยหน้าขึ้นมามองเธอที่เดินออกจากห้องไป สีหน้าที่เย็นชากลับเผยรอยยิ้มขึ้นมา ไม่เรียกเธอแล้วจะเรียกใคร?
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น อันโหรวก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของจิ่งเป่ยเฉินด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์พร้อมกับสิ่งของที่อยู่ในมือ
“ประธานจิ่ง นี่คือสินค้าตัวอย่าง” เธอหยิบเครื่องประดับหยกออกมาวางเรียงบนโต๊ะ
โอวหยางกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะครอบคลุมตลาดระดับสูง แต่ยังครอบคลุมไปถึงตลาดชั้นล่าง อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้คนในเมือง A ต่างคิดค้นกำหนดแนวคิดการบริโภคแบบมั่นคง
แต่บริษัทจิ่งของเรานั้นเริ่มจากตลาดชั้นสูงมาโดยตลอด และวิเวียนก็เป็นถึงระดับไฮเอ็นด์ชั้นสูงสุด
นั่นคือสิ่งที่ทำให้โอวหยางลี่คิดที่จะตีสนิทและดึงเข้าไปเป็นพวก เพื่อที่จะเอาชนะด้วยหัวสมองของเขา
บริษัทจิ่งเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมหยกอย่างกะทันหัน คนส่วนใหญ่ต่างดูตื่นเต้นเพราะคิดว่าจิ่งเป่ยเฉินทำเพื่อความสนุก ไม่ได้จริงจังอะไร
ซึ่งตอนแรกอันโหรวเองก็คิดแบบนั้น
ผู้ชายที่อยู่ตรงข้ามเอียงหน้ามองมา “เธอชอบอันไหน?”
“ประธานจิ่ง คุณก็รู้ว่าฉันไม่ได้ชอบของแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องให้ฉันหรอกค่ะ” คงเพราะเห็นและเจอมาเยอะตั้งแต่เด็ก ๆ เธอเลยไม่ได้มีความชอบเป็นพิเศษสำหรับเครื่องประดับเหล่านี้
“ทำไมเธอถึงรู้ว่าฉันจะให้เธอ?” จิ่งเป่ยเฉินเงยหน้ามองเธอ ดวงตาที่ดำสนิทนั้นให้ความรู้สึกเหมือนรอลุ้น
“งั้นฉันคิดว่า……” เธอก้มหน้าลงไปมองเครื่องประดับหยกบนโต๊ะ ดวงตาของเธอเป็นประกาย “พวกมันดูสวยไปหมด!”
จิ่งเป่ยเฉินจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ ก่อนจะยิ้มมุมปาก “ให้เธอหมดเลย”
อันโหรวหรี่ตาลงและยืดตัวขึ้นมองไปที่เขา “นาย…….เล่นเป็นหนิ!”
“ชมเกินไปแล้ว”
“ฉันไม่ได้ชมนายสักหน่อย!” อันโหรวหมดคำจะพูดจริง ๆ เมื่อคิดว่าอวี๋กุยห่าวยังอยู่ที่บริษัท เธอจึงเก็บสินค้าตัวอย่างทั้งหมดและรีบเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปอย่างโกรธเคือง
ในห้องทำงาน อวี๋กุยห่าวนั่งอยู่ที่โซฟาและมองมาที่เธอ เมื่อเห็นเธอวิ่งเข้ามาหาอย่างตื่นตระหนก
“พี่โหรวโหรวเป็นอย่างไรบ้าง ผ่านการตรวจสอบไหม?” เธอคิดว่าควรจะผ่านเพราะรูปแบบที่ออกแบบมาล้วนผ่านตาบิ๊กบอสหมดแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีความเห็นอะไร
แต่ในเมื่ออาจารย์บอกให้เธอมาส่งด้วยมือตัวเองเธอจึงต้องมา
“น่าจะผ่านหมดนะ!” จิ่งเป่ยเฉินปกติก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่แล้ว ในเมื่อไม่ได้พูดก็คือไม่มีความคิดเห็น
“ทำไมถึงบอกว่าน่าจะ? บิ๊กบอสไม่ชอบงั้นเหรอ? ปัญหานี้ใหญ่มากนะ พี่ก็รู้ว่าโรคย้ำคิดย้ำทำของอาจารย์ร้ายแรงมาก”
อวี๋กุยห่าวมองอันโหรว ใบหน้าดูเป็นกังวล “อีกอย่างนะ ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นคือประธานโอวหยางกรุ๊ปดูไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ที่จะเจออาจารย์เลย แบบนี้จะส่งผลเสียกับอาจารย์หรือเปล่า?”
อันโหรวยังคงยืนอยู่ที่เดิม หากเป็นเมื่อก่อนเธอเองก็คิดว่าโอวหยางลี่คงไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้เลย
แต่สำหรับการลงมือของวิเวียนนั้นไม่มีความหมายอื่นแฝงอยู่แล้ว เว้นแต่……..
เธอก้มลงไปมองเครื่องประดับที่อยู่ในมือ สินค้าตัวอย่างนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร หากไม่เกิดปัญหาอะไรก็ดี เธอจะเป็นคนไปตรวจสอบด้วยตัวเอง
“ประธานจิ่งพอใจมาก ไม่มีทางที่จะไม่พอใจ เธอไม่ต้องเป็นกังวลไป” อันโหรวยื่นสินค้าตัวอย่างส่งกลับไปให้เธอ “เอาไป! ฉันยังมีงานที่ต้องทำอีก คงไม่ส่งเธอนะ”
“ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรู้จักทางค่ะ!” อวี๋กุยห่าวหยิบของนั้นและเดินออกไป
ในห้องทำงานของหลินจือเซี๋ยว เธอกำลังยุ่งหน้าดำคร่ำเครียดจนแยกทิศเหนือใต้ออกตกไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ถึงเวลากินข้าวแล้ว ฉีเซิ่งเทียนจึงเดินเข้ามาในห้องทำงานของเธอ ก่อนจะพบว่าเธอยังไม่ได้ออกไปจริง ๆ
ท่าทางที่ดูจริงจังแบบนั้น เธอเหลือบมองดูหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นครั้งคราวสลับกันไปมากับการจดโน้ตอย่างจริงจัง
แม้ช่วงนี้บริษัทจะดูยุ่ง ๆ เพราะจะหยุดปิดทำการเนื่องจากปีใหม่ แต่ก็ไม่ควรให้เธอยุ่งจนเป็นแบบนี้นะ
เห็นเธอเป็นแบบนี้มาตั้งหลายวันแล้ว
ฉีเซิงเทียนอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ จึงโน้มตัวลงมา ฝีเท้าของเขาไม่ได้ย่องมาเบา เขาเดินเข้ามาตรงหน้าหลินจือเซี๋ยวโดยที่เธอเองก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบ
ผู้หญิงคนนี้คงไม่ได้หลุดลอยไปในอวกาศแล้วหรอกใช่ไหม
เขาก้มหน้าลงมองไปที่ใบหน้าของเธอใกล้ ๆ สายตาจ้องมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์พร้อมเธอ “เธอกำลังยุ่งอยู่เหรอ?”
หลินจือเซี๋ยวตัวแข็งขึ้นมาในทันที ลมหายใจของฉีเซิงเทียนรดต้นคอของเธอ ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาใกล้เธอขนาดนี้
เธอค่อย ๆ ขยับตัวออกห่าง ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยเสียงเบา ๆ “ผู้จัดการฉี คุณช่วยขยับออกหน่อยได้ไหม? คุณกำลังกวนการทำงานของฉันอยู่นะ”
“หลินจือเซี๋ยว!” ฉีเซิงเทียนยืดตัวขึ้นก่อนจะก้มลงมองเธอ
“ผู้จัดการฉี หากคุณมีงานอะไรจะให้ฉันทำก็สั่งมาเลยค่ะ แต่ครั้งหน้าช่วยอย่ามาใกล้ฉันแบบนี้อีก ฉันตกใจนะ” เธอยุ่งจนแทบจะไม่มีเวลากินข้าว แล้วเขายังจะมาที่นี่เพื่อแกล้งเธออีก!
“เธอยุ่งอะไร ลองบอกมาเผื่อฉันจะช่วยเธอได้ ช่วงนี้ฉันว่างมากเลย” ฉีเซิงเทียนเลิกคิ้วขึ้นและมองไปที่ใบหน้าของเธอ
หลินจือเซี๋ยวขยับมุมปากขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นโดยเว้นระยะห่างจากเขา “ผู้จัดการฉีคะ ช่วงนี้ทุกคนเขายุ่งกันหมด ฉันไม่รบกวนคุณหรอกค่ะ มันเป็นหน้าที่ของฉันที่ต้องทำ”
“งานของเธอฉันไม่สามารถรู้ได้เลยงั้นเหรอ?” ฉีเซิงเทียนขมวดคิ้วขึ้นมาทันที “หลินจือเซี๋ยว เธอแอบทำอะไรอยู่หรือเปล่า?”
“ผู้จัดการฉี ฉันภักดีต่อบริษัทจิ่งอย่างแน่นอน ฉันไม่มีทางทรยศบิ๊กบอสกับโหรวโหรวหรอกค่ะ คุณวางใจได้เลย!” ช่วงนี้เธอยุ่งวุ่นวายกับงานเลี้ยงวันเกิดของบิ๊กบอสต่างหาก!