อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 273 ตายใจ
ตอนที่ 273 ตายใจ
ถ้าหากเป็นก่อนหน้านั้นละก็ เธอคงรู้สึกสงสัยแน่ ๆ แต่ตอนนี้เธอกลับตายใจ เชื่อสนิทไปซะแล้ว
เหลียวเว่ยรับเช็คเงินสดมาจากมือของเฉาลี่เฟย ส่วนทางด้านเฉาลี่เฟยก็โยนเอกสารสัญญาข้อตกลงในการหย่าร้างของโอวหยางลี่มาให้เธอเซ็น
เธอยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะพูดว่า “เมื่อครู่นี้ฉันเพิ่งจะพูดไป สงสัยแม่จะหูไม่ค่อยดี คงได้ยินไม่ชัดสินะ คนฉลาด ๆ แบบแม่ หากเป็นฉันคงไม่รับเงินด้วยเช็คแบบนี้หรอก ฉันจะรู้ได้ไงว่าเช็คนี่เป็นของจริงหรือของปลอม? ฉันขอพูดให้ชัดเจนเลยนะ! ถ้าหากเช็คไม่สามารถถอนเงินได้ ตลอดทั้งชีวิตนี้เรื่องการหย่าร้างอะไรนั่นก็อย่าได้คิดเลย ต่อให้ฉันต้องกลายเป็นคนพิการ กลายเป็นคนวิกลจริตอะไรก็ช่าง แต่ฉันก็จะครองตำแหน่งภรรยาของประธานโอวหยาง พวกเรามาลองดูกันหน่อยไหมว่าใครจะครองได้นานกว่ากัน”
เมื่อเหลียวเว่ยพูดจบก็ลุกขึ้นยืนพลางมองไปที่เฉาลี่เฟย ในมือก็ถือเช็คด้วยท่าทางหยิ่งยโส “เพราะงั้นอย่าได้คิดมาหลอกฉันเชียว ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะทำอะไรที่น่าเหลือเชื่อกว่านี้ก็ได้”
เฉาลี่เฟยจับตามองเธอมาหลายครั้งแล้ว หลายปีมานี้เธอมักจะดูถูกเด็กผู้หญิงคนนี้เสมอ
“เชิญเถอะ! ตอนนี้พวกเราไปดูด้วยกันเลยก็ได้ จะได้รู้ว่าเช็คนี่เป็นของจริงหรือของปลอม” เหลียวเว่ยหยิบกระเป๋าและเดินออกไปข้างนอก
……
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เฉาลี่เฟยรีบนำเอกสารสัญญาการหย่าที่ถูกลงชื่อโดยเหลียวเว่ยติดมือมาด้วย และกำลังจะไปหาโอวหยางลี่ แต่เลขากลับบอกว่าประธานโอวหยางลี่ไม่ได้อยู่ที่บริษัทในตอนนี้
ซึ่งตัวเธอก็มีลางสังหรณ์ในใจไม่ค่อยดีอยู่แล้ว จึงรีบตรงไปที่โรงพยาบาล ภายในห้องผู้ป่วยกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้กระทั่งเงาของเหอเหมียว
หลังจากที่ถามหมอและพยาบาลก็ได้รู้ว่าเหอเหมียวถูกโอวหยางลี่พาตัวไป และตอนนี้กำลังจะพาไปผ่าตัด
เธอรีบร้อนวิ่งออกไปที่ห้องผ่าตัดทันที ก่อนจะเห็นโอวหยางลี่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สีน้ำเงิน ภายในใจของเธอลุกโชนไปด้วยความโกรธ
เพียะ! เสียงมือที่ตบเข้าไปที่หน้าของเขาดังขึ้น
โอวหยางลี่เงียบขรึมไปทันที รอยแดงที่ใบหน้าค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขามองไปที่เฉาลี่เฟย ก่อนจะสัมผัสไปที่ใบหน้าของตนเอง “แม่ นี่ทำอะไร?”
“ฉันทำอะไร? แกสิทำอะไรหลานชายของฉัน?” เฉาลี่เฟยมองเขาแวบหนึ่ง แววตาที่คมกริบคิดอยากจะตบไปที่ใบหน้าของเขาอีกครั้ง ก่อนจะไม่สนใจและรีบตรงไปที่หน้าประตูห้องผ่าตัด
“เปิดประตู! คนข้างในฟังให้ดี ๆ ห้ามผ่าตัดนะ! ถ้าหากหลานชายของฉันเป็นอะไรขึ้นมาละก็ โรงพยาบาลของพวกแกได้ล่มสลายแน่!” เฉาลี่เฟยเคาะที่ไปประตูห้องผ่าตัดอย่างดุเดือด “ไม่ได้ยินหรือไง บอกว่าห้ามผ่าตัดไง!”
“แม่ แม่ก็รู้ดีว่าถ้าลงมือผ่าตัดทำแท้งก็แค่สามสิบกว่านาที แม่มาสายไปแล้ว” โอวหยางลี่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ ก่อนจะมองไปที่ประตูด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
ใบหน้าของเขานั้นยังคงมีรอยนิ้วมือที่ถูกประทับเอาไว้อย่างชัดเจน แต่ดวงตาของเขากลับไร้ความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น
“ลี่เอ๋อร์!” เฉาลี่เฟยตะโกนเสียงดังออกมา “แกทำแบบนี้ไปได้ยังไง! นั่นมันลูกของแกเลยนะ หลานของฉันเชียวนะ!”
“แม่! คำถามนี้ควรเป็นผมถามแม่กลับหรือเปล่า? ถ้าหากไม่ใช่เพราะผมตั้งใจที่จัดการกับสกุลจิ่ง ผมก็คงไม่รู้จริง ๆ ว่าห้าปีก่อนหน้านั้นแม่ทำอะไรกับตระกูลอันไปบ้าง อีกอย่างแม่ยังทำให้โหรวโหรวต้องทิ้งผมไป แม่รู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในใจผมก็มีแค่เธอมาตลอด ผมฟังคำพูดของแม่มาตลอด ทั้งยอมแต่งงานกับเหลียวเว่ย ตอนนี้ผมอยากอยู่กับผู้หญิงที่ผมรัก ตราบใดที่ผมเอาชนะจิ่งเป่ยเฉินได้ โหรวโหรวก็ต้องกลับมาเป็นของผม!” โอวหยางลี่ไม่สามารถระงับอารมณ์ในตอนนี้ได้อีกต่อไปแล้ว
เขากับโหรวโหรวเป็นคู่รักที่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกมาตั้งสิบปี จะมาเทียบกับจิ่งเป่ยเฉินในตอนนี้ได้ยังไง?
เพียะ! เฉาลี่เฟยตบไปที่หน้าของเขาอีกครั้ง “ของที่ไร้ประโยชน์แบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี?”
“อย่างน้อยก็ดีกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ผมเจอ! โหรวโหรวเหมือนกับแม่ที่โตขึ้นแล้ว เธอดียังไงต้องให้ผมบอกข้อดีให้แม่ฟังอีกไหม?” โอวหยางลี่เมินเฉยกับความรู้สึกชาที่ใบหน้าไปโดยสิ้นเชิง ก่อนจะมองเธอด้วยสายตาที่แน่วแน่
“ต่อให้เธอจะเก่งหรือจะฉลาดยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลโอวหยาง เรื่องของพวกแกมันจบลงไปตั้งนานแล้ว อีกอย่างจำไม่ได้หรือไงที่งานแต่งงานของแก เธอพูดอะไรออกมา เธอรู้ว่าตระกูลอันถูกพวกเราหลอกใช้และทำให้ตระกูลของเธอต้องล่มสลาย เธอบอกว่าจะไม่มีวันมาเกี่ยวข้องกับเราอีก แกยังคิดอีกเหรอว่าเธอจะกลับมาอยู่กับแก? ลูกชาย แกติดอยู่ในความฝันหรือยังไงกัน?” เฉาลี่เฟยไม่ได้สนใจสิ่งที่โอวหยางลี่คิดเลยแม้แต่น้อย และเธอก็ไม่มีทางยอมรับแน่ ๆ ที่จะให้ผู้หญิงที่ชื่ออันโหรวนั้นมาอยู่ด้วยกันกับเขา
เฉาลี่เฟยหันหน้าไปมองห้องผ่าตัดอีกครั้ง ก่อนจะเตะเข้าไปอีกหนึ่งที “เปิดประตูนะ! ห้ามผ่าตัด! ได้ยินไหม!”
ไม่ช้าประตูห้องผ่าตัดก็ถูกเปิดออก แพทย์ที่สวมหน้ากากอนามัยเดินออกมาพร้อมกับพยาบาลก็ลากเตียงที่มีเหอเหมียวนอนอยู่ออกมาด้วย ดวงตาของเหอเหมียวในตอนนี้กำลังหลับสนิท ราวกับว่าเธอกำลังหลับใหลไม่รู้ตัว
“คุณหมอ หลานของฉันยังอยู่ไหม?” เฉาลี่เฟยรีบเดินไปข้างหน้าพลางคว้าแขนของหมอเอาไว้และรีบเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
“คุณผู้หญิง ยังอยู่ อีกนิดเดียวพวกเราก็เกือบจะลงมือผ่าตัดแล้ว เมื่อครู่นี้พวกเราเพิ่งเตรียมพร้อมที่จะลงมือเองครับ!” หมอมองเธอด้วยความรู้สึกผิด เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงเอะอะจากข้างนอก พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรทั้งสิ้น
“ทำไมยังไม่ลงมืออีก พวกคุณเข้าไปตั้งสิบห้านาทีแล้วนะ!” ตามปกติแล้ว สิบห้านาทีน่าจะทำไปครึ่งหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ
ในความคิดของเขา เด็กอย่างน้อยก็น่าจะออกมาครึ่งหนึ่ง คงไม่มีทางที่จะทิ้งอีกครึ่งหนึ่งไว้ในท้องแน่ ๆ
“คุณชายโอวหยาง คือว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ ช่วงที่พวกเรากำลังเตรียมจะฉีดยาชาให้กับคนไข้ จู่ ๆ เธอก็ได้สติและดิ้นขัดขืนอย่างหนัก กว่าเราจะควบคุมเธอได้ก็ใช้เวลาสักพัก และเพิ่งให้ยาสลบกับคนไข้ไปเองครับ!” ที่หน้าผากของหมอมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมาเล็กน้อย ปกติแล้วเหงื่อพวกนี้มักจะไหลออกมาในช่วงที่กำลังลงมือผ่าตัดเสียมากกว่า แต่ไม่รู้ทำไมเรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปเสียได้
“ดี ดีมากเลย ขอบคุณนะคุณหมอ รบกวนช่วยส่งเธอไปยังห้องผู้ป่วยที” เฉาลี่เฟยมองไปที่เหอเหมียวที่กำลังนอนอยู่บนเตียง ตราบใดที่หลานชายของเธอยังอยู่ดีก็ถือว่าเรื่องทุกอย่างยังดีอยู่
โอวหยางลี่ยืนนิ่งอยู่กับที่และมองไปด้วยท่าทีที่เฉยเมย เขาเหลือบมองไปที่เหอเหมียวเพียงชั่วครู่ ก่อนจะไม่หันไปมองเธออีกเลยแม้แต่น้อย
เฉาลี่เฟยหยิบเอกสารที่เหลียวเว่ยเซ็นออกมาจากกระเป๋าและกระแทกไปที่ตัวเขา “หนังสือหย่าเอกสารเสร็จหมดแล้ว รีบไปทำเรื่องหย่าให้เรียบร้อย และแต่งงานกับเหอเหมียวซะ!”
“ไม่มีทาง! ผมไม่มีทางที่จะแต่งงานกับเหอเหมียวเด็ดขาด!” โอวหยางลี่กำเอกสารสัญญาหย่าร้างในมือแน่น
เขาไม่สนใจว่าเหลียวเว่ยทำไมถึงได้ยอมเซ็นเอกสารการหย่านี้ แต่เขาไม่มีทางที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นหลังหย่าทันทีแบบนี้แน่นอน
“หรือแกคิดจะให้ลูกชายของแกเกิดมาเป็นลูกนอกสมรส? ฉันขอบอกเลยนะ เรื่องนี้ไม่ว่ายังไงแกก็ต้องฟังฉัน ขอแค่รอสุขภาพร่างกายของเธอดีขึ้น หลังจากนี้ก็จัดงานแถลงข่าวซะ ถ้าไม่ยอมเปิดเผยด้วยตัวเอง ฉันจะช่วยแกเปิดให้แน่!” เฉาลี่เฟยพูดจบก็หันหลังเดินออกไปทันที
เธอรีบคิดอยากจะไปดูเหอเหมียวด้วยความตื่นเต้น
ทิ้งเอาไว้แค่โอวหยางลี่ที่ยังยืนอยู่กับที่อย่างเงียบ ๆ ไฟในห้องผ่าตัดที่กำลังส่องแสงสีแดงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียว
ตอนนี้เขาอยู่คนเดียวท่ามกลางทางเดินที่ว่างเปล่า ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยว
จู่ ๆ ภายในหัวของเขาก็มีภาพโหรวโหรวลอยเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะอย่างเหยียดหยามเมื่อห้าปีก่อนหรือตอนนี้ ในใจของเขานั้นรู้สึกเจ็บปวดลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก
ภายในห้องผู้ป่วย เหอเหมียวค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ก่อนจะร้องไห้ฟูมฟายเสียงดังออกมา
“ฮือฮือฮือฮือฮือ ลูกของฉัน! ลูกของฉันหายไปแล้ว!” เหอเหมียวนอนอยู่บนเตียงเย็น ๆ แม้แต่คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็มองเห็นไม่ชัด เธอร้องไห้ฟูมฟายใหญ่โตออกมา
เฉาลี่เฟยมองท่าทางของเธอแล้วก็รู้สึกปวดใจไม่น้อยเช่นกัน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับที่มือของเธอและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เหอเหมียว ลูกของเธอ ลี่เอ๋อร์เขาแค่ล้อเล่นกับเธอเท่านั้นเองนะ!”
ตอนนี้เฉาลี่เฟยกำลังถือรูปอัลตราซาวนด์ไว้ในมือ มันมีรูปคล้าย ๆ ถั่วเล็ก ๆ สีเทา ๆ ที่กำลังอยู่ในครรภ์ ซึ่งนั่นก็คือลูกของเธอ