อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 305 ไม่มีอารมณ์
ตอนที่ 305 ไม่มีอารมณ์
เขาทนรอไม่ไหวที่จะกลับมาที่บ้าน เธอยักไหล่โดยอัตโนมัติ
น้ำเสียงแผ่วเบาที่เรียกโหรวโหรวอย่างอ่อนโยนเข้ามาในหูของเธอ “วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์”
การเคลื่อนไหวของจิ่งเป่ยเฉินหยุดลง ก่อนจะกอดเธอไว้แล้วก็เดินออกจากตรงประตู “เพราะเรื่องเหลียวเว่ยงั้นเหรอ?”
อันโหรวไม่ได้ตอบกลับอะไรเขา
เรื่องเมื่อตอนเช้าก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือเรื่องกระดาษโน้ตนั่น
ที่แม่เธอบอกว่าไม่อนุญาตให้แต่งงานกับเขา ตอนนี้เธอก็ยังคงไม่เข้าใจ ยังคงค้างคาอยู่ภายในใจ ซึ่งทำให้เธออึดอัดและไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ขอบคุณนายนะ” ถ้าหากเขามาไม่ทันเวลา คนที่ต้องเสียเลือดอาจจะเป็นเธอเอง
“ฉันเองก็ไม่ได้ปกป้องดูแลพวกเธอ” ตอนนี้ภายในใจของเขาก็ยังตำหนิตัวเองอยู่
ภายในห้องจู่ ๆ ก็เงียบสงัดลงจนได้ยินเสียงลมหายใจในความเงียบ
“นอนเถอะ!” อันโหรวพูด
“อืม……จิ่งเป่ยเฉิน!”
บิ๊กบอสตรงหน้าเธอที่ไม่โกรธแต่กลับยิ้มแทน
“จิ่งเป่ยเฉินหลบไปนะ!”
จิ่งเป่ยเฉินลุกขึ้นนั่งจริง ๆ ถึงแม้ว่าภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่ว่าเธอกลับไม่รู้สึกเย็นเลยสักนิดเดียว
เธอมองเขาอย่างโกรธเคืองในความมืดมิด “ต่อไปอย่านั่งลงแต่ไสหัวออกไป!”
ในความมืดมิดที่มองไม่เห็นนั้นสีหน้าของอันโหรวกลับแดงเพราะความเขินอาย
……
ภายในบ้านของหลินจือเซี๋ยว
เธอกำลังมาสก์หน้าและถือมันฝรั่งทอดกรอบอยู่หนึ่งห่อ พลางนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา
ชีวิตสุขสบาย มีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่จู่ ๆ เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น
เธอมองอย่างสงสัย ก่อนจะเดินไปมองที่ตาแมวเพื่อดูให้แน่ใจ ทันทีที่เห็นใบหน้าฉีเซิ่งเทียน แวบแรกเธอคิดว่าถ้าเธอไม่เปิดประตูให้เขาคืนนี้ เขาจะแกล้งมายืนรอหน้าบ้านทั้งคืนอีกหรือเปล่า หลอกลวงและรังแกสาวบริสุทธิ์
“หลินจือเซี๋ยว จือเซี๋ยว เซี๋ยว….”
หลินจือเซี๋ยวได้ยินเสียงของฉีเซิ่งเทียน หากเป็นคำสาปก็คงเปิดประตูให้เขาในทันที
ยังไงก็เป็นหนี้เขา สองร้อยห้าสิบล้าน…..
หรือเธอจะคืนเขาก่อนหนึ่งหมื่น จะลดลงเหลือสองร้อยสี่สิบเก้าล้าน?
แต่ว่าคนสมควรตายแบบฉีเซิ่งเทียนที่ให้เครดิตการ์ดกับเธอครั้งก่อน พอเธอเอาไปฝากธนาคารและเอาไปคืนกลับบอกว่าไม่เอา
ทำให้ตอนนี้เธอยังมีสองร้อยห้า….แสน
“ผู้จัดการฉี คืนนี้คุณว่างมากนักหรือไง!” หลังจากที่เธอเปิดประตูก็ยิ้มให้
“อย่าหัวเราะสิ มาสก์เธอหย่นแล้วนะ” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่ดวงตากลมโตของเธอพลางกลั้นขำเอาไว้ “หลินจือเซี๋ยวนี่มันมาสก์อะไร?”
“มาสก์โคลนสาหร่ายทะเล พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจหรอก!” หลินจือเซี๋ยวหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง
จู่ ๆ เธอก็นึกถึงหยางหยางและหน่วนหน่วนขึ้นมา! ตอนนั้นภายในห้องมีคนเยอะจนแออัดแต่ก็ครึกครื้นมาก ตอนนี้หยางหยางกับหน่วนหน่วนคงกำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นยังไงบ้าง
ฉีเซิ่งเทียนนั่งลงข้างตัวเธอ ถึงแม้จะมองไม่เห็นสีหน้าของเธอ แต่จากสายตาของเธอ ฉีเซิ่งเทียนก็เห็นความคิดที่อยู่ในแววตาคู่นั้น
จำเป็นด้วยเหรอ?
เขาไม่ได้จะเข้ามาแป๊บเดียวงั้นเหรอ จำเป็นต้องอาลัยฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิหรือไง?
ฉีเซิ่งเทียนมองดูการเคลื่อนไหวของเธอที่กำลังกินมันฝรั่งทอด เมื่อครู่ยังดูเศร้าเสียใจอยู่เลย ตอนนี้กลับกินขนมแล้ว?
“เตรียมน้ำให้ฉันอาบหน่อย”
“หือ?” หลินจือเซี๋ยวที่มีมันฝรั่งอยู่ในปาก เธอเคี้ยวไปพร้อมกับมองมาที่เขา
เมื่อได้ยินเรื่องตลกแบบนั้นก็หัวเราะออกมา
“เตรียม น้ำ ใส่ อ่าง ให้ ฉัน อาบ น้ำ….” ฉีเซิ่งเทียนพูดขึ้นมาอีกครั้ง
หลินจือเซี๋ยวยื่นแผ่นมันฝรั่งในมือให้เขา “ผู้จัดการฉี นี่มันบ้านของฉันนะ”
“ฉันรู้!” ฉีเซิ่งเทียนหยิบแผ่นมันฝรั่งและลองกินมัน ของกินเล่นพวกนี้มันอร่อยนักเหรอ?
“แล้วยังไง?” ฉีเซิ่งเทียนจ้องไปที่หลินจือเซี๋ยวที่กำลังอึ้งอยู่
“แล้วยังไง?” หลินจือเซี๋ยวดึงมือกลับ เขายังมีหน้ามาถามอีก “ที่ที่คุณจะอาบน้ำไม่ใช่ที่นี่ไง เชิญคุณลุกขึ้นแล้วเดินออกไปสิบก้าว เปิดประตูแล้วออกไปด้วยค่ะ”
“ค่าเช่าห้องของเธอเดือนละเท่าไร? ฉันจะเช่า” เธอไม่เชื่อหรอก!
“ขอโทษนะคะ ฉันไม่ปล่อยเช่าอะไรทั้งนั้น” อยู่กับฉีเซิ่งเทียนทั้งเช้าเย็นแบบนั้น หัวของเธอยังไม่มีปัญหานะ!
ผู้หญิงคนนี้อยู่กับจิ่งเป่ยเฉินมาตั้งนาน จะกล้าเกินไปหน่อยแล้ว
“เธอรู้ไหมว่ามีผู้หญิงอีกมากมายที่รอคอยโอกาสจะทำแบบนี้?” แต่เธอกลับไม่ยอมรับโอกาสดี ๆ
“เพราะฉะนั้นคุณก็ไปหาผู้หญิงที่ยอมอยู่กับคุณ!” เธอโต้ตอบอย่างไม่ยินยอม
ยอมอยู่….
เขาเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในครอบครัวฉี ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ถึงขั้นต้องการให้ผู้หญิงยอมอยู่กับเขา
ทันใดนั้นฉีเซิ่งเทียนก็เดินเข้ามาใกล้เธอ จ้องมองดวงตาที่เปิดเผยสีหน้าจริงจัง “ถ้าหากฉันเป็นคนธรรมดา ไม่มีเงินทอง เธอจะยอมอยู่กับฉันไหม?”
“จะ จะ จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นได้ยังไงกัน ผู้จัดการฉีที่ยอมแสร้งไม่มีฐานะ ยอมลดตัวมาพูดแบบนี้ ผู้จัดการฉี หากคุณเป็นคนธรรมดา ตราบใดที่ตระกูลจิ่งยังไม่ล่มสลาย ประธานจิ่งก็ไม่หักเงินคุณหรอก” ระหว่างพวกเขานั้นสนิทสนมกันมาก
เธอวางมือบนโซฟา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับถอยหลังไปอย่างเงียบ ๆ
ทันทีที่เธอเคลื่อนไหว ฉีเซิ่งทียนก็ขยับตาม แผ่นมันฝรั่งที่อยู่ในมือของเธอนั้นตกลงไปกระจัดกระจายที่พื้น
“แล้วถ้าหากฉันทะเลาะกับพี่เฉินขึ้นมา แล้วเขาก็ไม่สนใจฉันแล้ว?” เขาอยากจะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วผู้หญิงคนนี้จะมีน้ำใจหรือไม่
“ถ้าหากถึงตอนนั้นขึ้นมาจริง ๆ ค่อยพูดดีกว่าค่ะ!” หลินจือเซี๋ยวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางถอยหลังไปอีกเล็กน้อย เธอไกลจะร่วงลงไปแล้ว
ทันใดนั้นเธอก็ถูกโอบเอวและรั้งให้เข้ามา ใบหน้าแนบไปกับเขา ตอนนี้แผ่นมาสก์หน้านั้นแปะไปบนหน้าของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว