อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 310 บิ๊กบอสเป็นแบบนั้นสิถึงจะเท่
ตอนที่ 310 บิ๊กบอสเป็นแบบนั้นสิถึงจะเท่
“ชินแล้ว” อันโหรวกินข้าวต่อ
“ก็ใช่ บิ๊กบอสเป็นแบบนั้นสิถึงจะเท่” อันหยาพั่นไม่สามารถแสดงความคิดเห็นอะไรได้มากมายจึงกินข้าวและคุยเล่นกับอันโหรวต่อ
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ สองพี่น้องก็คุยกันอยู่สักพัก อันโหรวถึงกลับขึ้นไปบนห้อง
จิ่งเป่ยเฉินพิงตัวอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอก้าวเข้ามา เขาก็รีบปิดหนังสือในมือลงทันที
“นายนี่ทิ้งหนังสือไวอะไรขนาดนั้น ถ้าเป็นหนังสือคงโกรธน่าดู” การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วเกินไป
“หนังสือเป็นช่วงเวลายามว่างที่เธอไม่อยู่ แต่ถ้าเธออยู่ หนังสือยังจำเป็นอยู่อีกเหรอ?” เขาอดใจรอไม่ไหวรีบดึงเธอเข้ามาใกล้เตียง อุ้มร่างเล็ก ๆ ของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
“เธอจำตอนที่เล่นหิมะได้ไหม ช่วงเวลานั้นอากาศหนาว แต่มันช่างอบอุ่นและสบายมากเลย”
เธอขยับตัวเล็กน้อย “อย่า….ฉันจะไปอาบน้ำ”
เธอขยับออก จิ่งเป่ยเฉินก็ขยับตาม “รอแป๊บหนึ่งค่อยอาบด้วยกันนะ”
อาบน้ำด้วยกันมันเสียเวลาจริง ๆ
เธอหันหน้าไปหาเขา “เป่ยเฉิน……”
“หือ”
ตอนที่เขาอยู่ท่ามกลางหิมะ อีกนิดเดียวแทบจะทนไม่ไหว
“ไม่มีอะไร” เธอปฏิเสธไปก็เปล่าประโยชน์
มืออุ่น ๆ นั้นลูบไปที่ใบหน้าของเธอเบา ๆ แสงไฟสลัว ๆ ตรงหัวเตียงสาดส่องลงมา พวกเขาสบตากัน “แบบนี้เหรอ?”
“อืม อืม” เธอพยักหน้าตอบพลางเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ขึ้นมาบนใบหน้า
ผลที่ตามมาก็คืออันโหรวไม่อยากลุกออกจากเตียงเลย
บิ๊กบอสที่รักภรรยามาก ๆ ลงไปเอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟให้ภรรยา
อันหยาพั่นที่ตื่นนานแล้ว เมื่อเห็นจิ่งเป่ยเฉินลงมาข้างล่างคนเดียว เธอก็รีบลุกขึ้นและเดินไปหา
ยังไม่ทันได้เอ่ยปากเรียกพี่เขย เขากลับพูดขึ้นมาก่อน
จิ่งเป่ยเฉินเดินผ่านเธอไปอย่างเฉยเมย ไม่แม้แต่มองมาที่เธอ “ชงชา”
“……”
อันหยาพั่นอึ้งเล็กน้อย นี่เขากำลังสั่งเธออยู่หรือเปล่า?
ให้เธอชงชาหมายความว่ายังไง?
แต่ว่าเธอเองก็ไปถามคนรับใช้ว่าที่ชงชาอยู่ตรงไหน
จิ่งเป่ยเฉินเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถาด เธอที่เพิ่งชงชาร้อนเสร็จก็มองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม
“วางลงมา”
“ค่ะ!”
อันหยาพั่นรอที่จะให้จิ่งเป่ยเฉินพูดอะไรออกมา แต่เขากลับทำเพียงถืออาหารเช้าและชาร้อนตรงหน้าเดินออกไป
“พี่เขย พี่สาวไม่สบายเหรอคะ?” ไม่อย่างนั้นทำไมถึงไม่ลงมากินข้าว?
‘พี่เขย’ สองคำนี้ทำให้จิ่งเป่ยเฉินหยุดชะงัก เหมือนว่าเมื่อคืนจะมีลูกพี่ลูกน้องของโหรวโหรวมาที่บ้าน
ในความทรงจำของเขานั้นภายในบ้านมีเพียงแค่โหรวโหรวเท่านั้น ส่วนผู้หญิงคนอื่น ๆ ถือเป็นคนรับใช้หมด เขาเคยชินนึกว่าอันหยาพั่นเป็นคนรับใช้ไปเสียแล้ว
เพราะงั้นถึงได้สั่งเธอไปแบบนั้น
“เธอสบายดี”
“งั้นก็ดีเลย อากาศหนาวแบบนี้เป็นหวัดคงไม่ดีแน่” อันหยาพั่นยิ้มและมองเขาที่เดินจากไป
ยังคงเย็นชาเหมือนกับเมื่อคืน แต่ว่าเมื่อฟังน้ำเสียงของเขาแล้วก็เหมือนไวน์ข้าวที่เข้มข้นและกลมกล่อมทำให้คนรู้สึกมึนเมาได้ไม่ยาก
อันโหรวนั่งอยู่บนเตียงพร้อมกับดื่มด่ำกับอาหารเช้าที่จิ่งเป่ยเฉินยกขึ้นมาเสิร์ฟ นานแล้วที่เธอไม่ได้พักผ่อนแบบนี้
“โหรวโหรว อยากปรึกษาอะไรหน่อย”
ปรึกษา?
อันโหรวหันหน้าไปมองเขา โดยปกติแล้วเขาเป็นคนตามใจตัวเอง ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาขอความคิดเห็นจากเธอกัน?
ทันใดนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกกดดันขึ้นมา หรือว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น?
เธอหยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ด ก่อนจะเอ่ยออกไป “ว่ามาสิ”
“ให้ลูกพี่ลูกน้องเธอย้ายออกไป…” เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดเหมือนเมื่อครู่อีก ที่เขาคิดว่าเธอเป็นคนรับใช้
หรือว่าเขาจะตาบอดจริง ๆ
“คืนนี้เป็นวันส่งท้ายปี ให้เธอย้ายออกไปคงไม่ดีมั้ง น่าจะให้เธออยู่ที่นี่อีกสักวันสองวันนะ! หลังตรุษจีนค่อยกลับไปก็ได้” ให้เธอกลับไปวันเริ่มปีใหม่คนเดียว เธอจะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ใจร้ายเกินไปหรือเปล่า?
จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่ถ้วยชาที่ยกขึ้นมาแต่ยังไม่ได้ดื่มสักที “มากสุดถึงแค่มะรืนนี้”
“ได้สิ ได้เลย! เอาตามนายเลย!” อันโหรวดื่มนมต่อ แต่ว่ากลับมองเขาอย่างสงสัย “นายมีความคิดเห็นอะไรกับเธอหรือเปล่า?”
“คือ…..ทำไม?”
“ไม่ชอบให้มีคนแปลกหน้าอยู่ในบ้าน โดยเฉพาะผู้หญิง” เหตุผลของเขาเพียงพอหรือเปล่า?
“มิน่าคนรับใช้ถึงได้มีแต่คนแก่ ๆ” ใช้คนคุ้นเคยด้วยความรู้สึกนี่เอง
จิ่งเป่ยเฉินหรี่ตามอง รู้สึกว่าเรื่องนี้กับอันหยาพั่นนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน
ค่ำคืนส่งท้ายปีที่คึกคัก ถ้าหากหยางหยางและหน่วนหน่วนสามารถลุกขึ้นมาจากเตียงได้ เธอคงจะรู้สึกมีความสุขมากกว่านี้
ในตอนกลางคืน จิ่งเป่ยเฉินยืนอยู่ตรงระเบียงพร้อมกับเอามือโอบแนบชิดที่เอวของเธอ พลางดูดอกไม้ที่อยู่บนท้องฟ้า
ตูม ตูม ตูม!
ดอกไม้ไฟหลากสีสันกระจายไปทั่วท้องฟ้า มันเป็นรูปต่าง ๆ ที่ดูงดงาม ถ้าหากได้ดูในยามค่ำคืนก็ต้องพบว่ามันนั้นสวยงามมากจริง ๆ
จิ่งเป่ยเฉินก้มหน้าลงมองเธอ “ดอกไม้ไฟสวยไหม?”
เธอเผยรอยยิ้มออกมา “สวย!”
“แต่มีอีกอย่างที่สวยกว่านั้นนะ”
“คืออะไร?”
ทันใดนั้นสายตาของเธอก็พลันใหญ่ขึ้น มือใหญ่ค่อย ๆ แนบชิดเข้ามาใกล้ “จิ่งเป่ยเฉิน!”
“ฉันอยู่นี่!”
“มือ!!”
เมื่อได้ยินเสียงที่ดังตูม ๆ อยู่ในหู มือที่อยู่ด้านหน้าก็ค่อย ๆ ขยับออก มองดูเธอที่สวยงดงามท่ามกลางดอกไม้ไฟ
“โหรวโหรว!”
“ฉันรักเธอ!”
“Forever!”
อันโหรวมองดูพลุดอกไม้ไฟ ภายในใจนั้นเอ่อล้นไปด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม เธอถามเขาว่าชอบหรือไม่ แต่เขากลับตอบมาว่าไม่ชอบ
ผู้ชายคนนี้ปากไม่ตรงกับใจจริง ๆ
จิ่งเป่ยเฉินก้มมองหน้าเธอ “ชอบ..”
ยังไม่ทันที่จะพูดจบ โหรวโหรวก็เขย่งเท้าขึ้นมา
บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาหรอกว่าชอบ แค่ใช้ความรู้สึกเอาเหมือนในตอนนี้ก็พอ
บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยพลุดอกไม้ไฟ ทั้งสองคนกอดกันมองดูพลุหลากสีสันอยู่เป็นเวลานาน