อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 335 ชินหูชินตาไปหมด
ตอนที่ 335 ชินหูชินตาไปหมด
ตั้งแต่เด็กอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมครอบครัวแบบนั้น เธอก็ล้วนชินหูชินตาไปหมด[1] กลายเป็นว่ามีสัญชาตญาณในการสร้างของพวกนั้น ต่อให้มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว เธอก็สามารถทำได้
อันโหรวถือว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างฉลาด อีกทั้งยังสวยมากด้วย
ตั้งแต่ตอนนั้นที่พ่ออันพาเขาเดินไปหาเธอตรงหน้า แนะนำให้รู้จักกันแบบสั้น ๆ เพื่อหลังจากนี้พวกเขาจะได้เพื่อนเล่นที่ดีต่อกันในอนาคต
เขายังคงจำช่วงเวลาเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน ผมยาว ๆ ของเธอถูกมัดเป็นผมหางม้า เธอถือปากกาไว้ในมือ เมื่อมองจากด้านข้าง ใบหน้าของเธอถูกแสงแดดสาดส่อง รอยยิ้มบนใบหน้าที่ปรากฏขึ้นมาดูสดใสยิ่งกว่าแสงอาทิตย์เสียอีก
‘พี่ลี่’
นั่นคือคำพูดแรกที่เธอพูดกับเขา
และหลังจากนั้นทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมาเรื่อย ๆ เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เธอหยุดพูดคำว่าพี่ลี่ออกมา และกลายเป็นลี่แทน
แต่หลังจากนั้น เรื่องราวความรักตั้งแต่เด็กของทั้งสองคนก็ค่อย ๆ พัฒนามาเรื่อย ๆ
ตอนนั้นพวกเขามีความสุขมาก ถ้าหากไม่เกิดเรื่องเมื่อห้าปีก่อนนั้นขึ้น พวกเขาคงได้มีความสุขไปตลอดชีวิตแล้ว
และคงไม่มีโอกาสให้จิ่งเป่ยเฉินได้ก้าวเข้ามาอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่โอวหยางลี่พูดนั้นผิดไปมาก เดิมทีทุกอย่างเขาล้วนจำได้หมด ทางด้านคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาอย่างเหอเหมียวก็มองเขาแบบนั้น ชามในมือค่อย ๆ ตกลงพื้นทันที ใบหน้าเล็ก ๆ มองไปที่เขาด้วยความรู้สึกผิด “พี่โอวหยาง ขอโทษนะ มือฉันลื่น!”
“ไม่เป็นไร! ฉันไม่อยากกิน” โอวหยางลี่ไม่แม้แต่จะมองเธอ เขายังคงหวนคิดถึงความทรงจำต่างๆ
เหอเหมียวก้มมองไปที่ชามและตะเกียบที่หล่นลงบนพื้น ในเมื่อเขาไม่คิดอยากจะกิน เช่นนั้นก็ปล่อยมันอยู่บนพื้นไปเลยละกัน!
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยมีเธออยู่ในหัวใจเลย ที่เขามองหาเธอก็เพราะว่าตัวเธอนั้นอายุยังน้อย ยังเป็นนักศึกษา แต่เธอไม่ใช่ตัวแทนของอันโหรวเลยสักนิด
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ภายในใจเธอก็รู้สึกขมขื่นขึ้นมาทันที มองดูเขาอยู่สักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“พี่โอวหยาง ฉันจะไปเรียกคนใช้มาทำความสะอาดนะ” เธอลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้อง
โอวหยางลี่ไม่รับรู้ว่าเธอออกไปแล้ว ทั้งยังไม่ได้สังเกตว่าคนใช้จะมาหรือไม่มากันแน่
ตอนนี้เขายังหวนคิดถึงความทรงจำในอดีต แต่เมื่อคิดไปถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น หัวใจของเขาก็กลับมีไฟลุกโชนขึ้นมา โดยเฉพาะที่มือของเขา
เขาจัดการวางแผนทุกอย่างดีมาตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาจบลงแบบนี้
เขาไม่ยอม เขาไม่มีทางยอมรับมัน!
……
อันโหรวพักผ่อนอยู่ที่บ้านหนึ่งวัน ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะไปที่บริษัท
ข่าวการกลับมาของเธอค่อนข้างแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอเดินเข้าไปในห้องทำงานก็เห็นหลินจือเซี๋ยวเดินเข้ามาพร้อมกับกระติกน้ำร้อนในมือ
“โหรวโหรวของฉัน ดีจริง ๆ ที่เธอยังมีชีวิตอยู่!” หลินจือเซี๋ยววางของในมือลง ก่อนจะเข้าไปกอดเธอไว้
อันโหรวมองดูสิ่งของที่เธอเพิ่งวางลงเมื่อครู่ หลินจือเซี๋ยวน่าจะรู้ว่าเธอกำลังมาที่บริษัทเลยทำอาหารและเอาของพวกนี้มาให้เธอ
“โหรวโหรว นี่เป็นของที่เธอต้องใช้เติมพลังให้ร่างกาย วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารพิเศษนี้ให้เธอเลยนะ เธออยากกินตอนร้อน ๆ หรือเปล่า? ถ้ายังไม่กินละก็ เดี๋ยวตอนเที่ยงค่อยอุ่นร้อนเอาก็ได้” หลินจือเซี๋ยวมองไปยังกระติกน้ำร้อนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าของเธอ
“อืม อืม เอาไว้ก่อนละกัน! ตอนเที่ยงค่อยว่ากันนะ” เมื่อเช้าเธอเพิ่งจะกินข้าวมา ตอนนี้เลยไม่ค่อยรู้สึกอยากกินเท่าไร
โดยเฉพาะซุปไก่ตุ๋นร้อน
“โหรวโหรว ฉันกลัวแทบตายจริง ๆ นะ ฉันคิดจริง ๆ นะ คิดว่าเธอจะ……” หลินจือเซี๋ยวมองไปที่เธอ ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวดออกมาอย่างชัดเจน
เธอเองก็รู้สึกอึดอัดที่ต้องพูดออกมา แต่โชคดีที่เธอยังมีชีวิตอยู่และยังปลอดภัยดี
“ฉันดวงดีจะตาย จะมาตายง่าย ๆ ได้ไง!” เธอแสร้งทำเป็นพูดอย่างสบาย ๆ
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่ด้านนอกมีข่าวลือหนาหูแบบนั้น
โอวหยางลี่ช่างเป็นคนที่คิดและพยายามทำทุกวิถีทางจริง ๆ
ถึงขนาดใช้ป้ายทะเบียนรถปลอมเพื่อหลอกให้เธอคิดว่าจิ่งเป่ยเฉินตายไปแล้ว อีกทั้งยังจัดฉากทำให้เกิดอุบัติเหตุรถตกลงไปในแม่น้ำ เพื่อให้จิ่งเป่ยเฉินคิดว่าเธอเองก็ตายไปแล้วเช่นกัน
น่าเสียดายตรงที่เขาไม่ใช่คนเขียนบทละคร
“ใช่ ใช่ ใช่ เธอจะไปเร็วแบบนั้นไม่ได้นะ ไม่มีทางเสียหรอก โหรวโหรวของฉันต้องอายุถึงเก้าสิบเก้าแน่ ๆ!” หลินจือเซี๋ยวมองเธออย่างมีความสุข “งั้นฉันไปทำงานก่อนนะ หลายวันมานี้ทุกคนแทบไม่ได้ทำงานเลย บิ๊กบอสเองก็ยุ่งมาก ๆ ด้วย เธอเองก็ลำบากหน่อยนะ”
“เธอลำบากกว่าฉันอีก ไปทำงานเถอะ!” อันโหรวมองเธอเดินออกจากห้องทำงานไป
อันที่จริงแล้วจิ่งเป่ยเฉินไม่ได้เตรียมงานอะไรให้กับเธอเลย ระหว่างที่เธอไม่อยู่ งานต่าง ๆ ส่วนอื่น ๆ ก็ล้วนถูกยกไปให้หลินจือเซี๋ยวทำแทน
โทรศัพท์มือถือของเธอ จิ่งเป่ยเฉินก็ซื้อเครื่องใหม่มาให้ ไม่มีเบอร์คนรู้จักที่เคยติดต่อก่อนหน้านี้เลยสักคน แต่เมื่อเธอเปิดโน้ตบุ๊กก็เจอเบอร์โทรศัพท์ของเหอเฉ่า
โทรไปเลยดีกว่า
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง พวกเธอก็นัดเจอกันที่ร้านกาแฟ
เหอเฉ่าตอนนี้เป็นแขกรับเชิญในภาพยนตร์ที่ต้นทุนในการสร้างค่อนข้างสูง แม้ว่าจะปรากฏตัวไม่กี่ฉาก แต่ผู้ชมทุกคนต่างก็จดจำภาพลักษณ์ของคนมาใหม่ที่ดูไร้เดียงสาคนนี้ได้เป็นอย่างดี
จากนั้นไม่นานก็มีภาพยนตร์วัยรุ่นที่เกี่ยวกับรั้วมหาวิทยาลัย และเธอก็ได้เล่นเป็นบทนางเอก ตอนนี้เธอกำลังถ่ายทำเรื่องนี้อยู่
อันโหรวได้จองห้องส่วนตัวเอาไว้ เธอเดินเข้ามาพร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยและแว่นกันแดด ทำท่าราวกับดาราดัง
“พี่อัน” เธอถอดแว่นกันแดดและหน้ากากออกเมื่อเข้ามาด้านใน พร้อมกับนั่งลงตรงข้ามและเอ่ยเรียกด้วยรอยยิ้ม
“อยากดื่มอะไร เธอสั่งได้เลยนะ ฉันเลี้ยงเอง!” อันโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม
เหอเฉ่ามองดูเธอด้วยท่าทีที่เขินอาย “ฉันเลี้ยงเองค่ะ! ก่อนหน้านั้นพี่อันช่วยฉันไว้ตั้งเยอะ ต้องให้ฉันเลี้ยงสิ”
“เอางั้นก็ได้” เธอไม่รั้งใด ๆ
กาแฟสองแก้วถูกนำมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว เหอเฉ่ามองกาแฟตรงหน้า ก่อนจะเงยหน้ามองอันโหรว “พี่อัน ครั้งนี้ยินดีที่ได้พบพี่อีกครั้งนะคะ”
ไม่กี่วันก่อน ทั่วทั้งเมือง A ก็แทบเกิดความโกลาหลขึ้น จิ่งเป่ยเฉินมัวแต่หาคนอยู่ที่แม่น้ำ ซึ่งการที่เขาสนใจขนาดนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเธอแน่ ๆ
โชคดีที่เธอยังรอดชีวิตมาได้
“ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะตายง่ายแบบนั้นเหมือนกัน ยิ่งเฉพาะเรื่องนี้ ฉันไม่มีทางยอมทำให้คนอื่นสมหวังหรอก” อันโหรวยิ้มและมองไปที่เธอ ก่อนจะดื่มกาแฟต่อ
ทั้งสองคนพูดคุยในห้องส่วนตัวสักพักหนึ่ง อันโหรวก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าของเธอ และกดอีกสองสามครั้ง หน้าจอปรากฏภาพสีดำขึ้นมา
เธอเก็บโทรศัพท์กลับลงกระเป๋าและพูดขึ้นว่า “โทรศัพท์ฉันดูท่าจะไม่มีแบต ขอยืมโทรศัพท์เธอโทรออกได้หรือเปล่า?”
“ได้สิ!” เหอเฉ่ารีบหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะยื่นให้เธอทันที
อันโหรวมองไปที่โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ของเธอ ก่อนหน้านั้นเธอเคยเห็นโทรศัพท์มือถือของเหอเฉ่า แต่มันไม่ใช่สภาพแบบนี้
ครั้งนี้ดูจากตัวเครื่องที่ใหม่เอี่ยมแล้ว เป็นไปได้ว่าน่าจะเพิ่งเปลี่ยนได้ไม่นาน
“รหัสผ่าน 0606”
อันโหรวกดรหัสผ่านต่อหน้าเธอ ก่อนจะกดโทรไปที่บ้าน เมื่อได้ยินเสียงหยางหยางกับหน่วนหน่วน เธอเองก็รู้สึกอบอุ่นข้างในหัวใจ
ก่อนจะวางสายโทรศัพท์และส่งมันคืนให้กับเธอ “เธอเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเหรอ?”
“ก่อนหน้านั้นฉันทำโทรศัพท์หายค่ะ ผู้จัดการก็ดุฉัน แต่ฉันกลับคิดว่ามันไม่เป็นอะไร โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นของฉันไม่ค่อยมีรูปภาพส่วนตัวเท่าไร” เหอเฉ่ามองด้วยท่าทีที่เขินอาย “อีกอย่างโทรศัพท์เครื่องนั้นก็ใช้มานานแล้วด้วย บางทีพระเจ้าอาจจะคิดว่าถึงเวลาที่ฉันควรเปลี่ยนสักที”
“เครื่องเก่าเพิ่งไปได้ไม่นาน เครื่องใหม่ก็มาเลยนะ” อันโหรวยิ้มออกมา ดูเหมือนเธอจะไม่ได้พูดโกหก
ก่อนหน้านั้นเหมือนกับว่าเธอใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งข้อความมา แต่ดูท่าน่าจะไม่ใช่ฝีมือของเธอ
เป็นไปได้ที่ทุกอย่างถูกวางแผนโดยโอวหยางลี่ บางทีเขาอาจจะแอบขโมยโทรศัพท์ของเหอเฉ่าโดยที่เธอไม่รู้ตัว จากนั้นก็ใช้มันส่งข้อความมาหาเธอ
แน่นอนว่าเขาไม่ใช่โอวหยางลี่เมื่อห้าปีก่อนหน้านั้นแล้ว ตัวเขาได้ถลำลึกเกินกว่าที่เคยเป็น
ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟสักพักหนึ่ง ก่อนจะออกจากร้านกาแฟไป
[1] ได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่ได้เห็นและได้ยินอยู่เป็นประจำ