อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 343 ถึงเวลาแล้ว
ตอนที่ 343 ถึงเวลาแล้ว
แต่ด้วยนักข่าวที่มีจำนวนมาก เธอรู้ดีว่าถึงเวลาแล้ว!
“อะ!”
เธอปล่อยมือของอันโหรวออก ทันใดนั้นเธอก็ล้มลงไปกับพื้น เลือดไหลลงมาที่ขาของเธอ
“ลูกของฉัน ลูกของฉัน……..” เหอเหมียวนอนอยู่บนพื้นพลางตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ “อันโหรว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เห็นแก่พี่โอวหยาง เธอก็ไม่ควรผลักฉันแบบนี้! เธอก็รู้ว่าฉันอุ้มท้องลูกของเขาอยู่!”
“ต่อให้ใจเธอจะปล่อยพี่โอวหยางไม่ได้ แต่ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะไม่ปล่อยลูกของเขาแบบนี้ อ้าากก...เจ็บจังเลย ลูกของฉัน ลูกของฉัน!”
อันโหรวมองดูเลือดที่ไหลออกมาระหว่างขาของเธอ เมื่อเห็นเธอรู้สึกกระสับกระส่ายอยู่เล็กน้อย มือที่จับมือของเธอไว้ทันใดนั้นก็ถูกปล่อยออก ตัวเธอเองยังไม่ทันได้ผลักอะไรเธอเลยด้วยซ้ำ
นักข่าวเริ่มมารวมตัวกันมาเรื่อย ๆ ที่ระเบียงจึงเริ่มมีผู้คนหนาแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่ช้าเธอก็รีบล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปที่เบอร์ 120
“ลูกของฉันหายไปแล้ว อันโหรวเป็นเพราะเธอ เป็นเพราะเธอ!” เหอเหมียวนอนอยู่บนพื้น ไม่มีใครกล้าเดินออกไปข้างหน้าเลยสักคน
เพราะจู่ ๆ ผู้หญิงที่ตั้งท้องก็ล้มลงอย่างกะทันหัน พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงเหมือนกัน
“หลบไป!”
พวกนักข่าวที่อยู่ด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงที่ดังขึ้นของจิ่งเป่ยเฉินก็รีบหันไปมองทันที
พวกเขาต่างก็หลีกทางให้จิ่งเป่ยเฉินเดินเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าที่เย็นชาและดวงตาที่เย็นชายังคงกวาดสายตามองไปที่คนคนหนึ่งที่กำลังอยู่บนพื้น ทันใดนั้นเขาก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเดินไปตรงหน้าของอันโหรวและดึงเธอออกมา
จริงอยู่ที่นักข่าวที่นี่ค่อนข้างเยอะ แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ถึงแม้จะบอกว่าเธอไม่ได้ผลักก็ตาม แต่พวกนักข่าวคงไม่มีทางเชื่อง่าย ๆ แน่
ทางด้านตัวเธอเองก็เดินตามเขาไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ตัว จิ่งเป่ยเฉินไม่พูดอะไรเลย เขาทำเพียงดึงเธอออกไปจากที่แห่งนั้น
ทางด้านนักข่าวก็เดินตามหลังพวกเขามา ด้วยเพราะคิดอยากจะเอ่ยคำถามกับอันโหรว เหอเหมียวที่กำลังนอนอยู่บนพื้นก็ร้องตะโกน ‘ลูกของฉัน.. ลูกของฉัน…’ ไม่หยุด
“ออกไป!” จิ่งเป่ยเฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
นักข่าวทุกคนที่ได้ยินต่างก็ยืนนิ่งเงียบ ไม่พูดจา ไม่เพียงแต่จะปิดปากเท่านั้น ยังหยุดก้าวเดินตามพวกเขาอีกด้วย ในเมื่อเป็นแบบนั้น นักข่าวคนหนึ่งจึงวิ่งกลับไปหาเหอเหมียว คนอื่น ๆ จึงเดินตามไปเช่นกัน
เมื่ออันโหรวและจิ่งเป่ยเฉินออกมาจากสถานที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นก็เข้าไปนั่งในรถ พวกเขายังไม่ได้ขับรถออกไปในทันที
อันโหรวหันหน้ามองไปที่เขา ก่อนจะยักไหล่อย่างเฉยเมยและพูดขึ้นว่า “ฉันไม่ได้ผลักเธอเลยนะ”
“ฉันรู้อยู่แล้ว” ทันใดนั้นเขาก็โอบกอดเธอซะแน่น โหรวโหรวของเขาแต่ไหนแต่ไรมาชอบเด็กจะตาย เวลาเห็นเด็กเจ็บเธอก็เหมือนจะเจ็บตาม แล้วทำไมจะต้องไปผลักคนท้องด้วย
เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีทางเป็นไปได้หรอก เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
“แต่ว่าเธอจับมือของฉัน และจู่ ๆ ก็ทำเหมือนกับว่าโดนผลักแล้วก็ล้มลงไปเลย ที่นั่นมีนักข่าวอยู่เต็มไปหมด ฉันเองก็ไม่รู้จะอธิบายออกไปยังไง!” เธอไม่คิดเลยว่าเหอเหมียวจะทำแบบนั้น
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ตราบใดที่เธอยังมีลูกอยู่ เธอก็ยังสามารถมีที่ยืนอยู่ได้ในบ้านตระกูลโอวหยาง แต่ถ้าหากไม่มีลูกแล้ว เฉาลี่เฟยไม่มีทางปล่อยให้เธอเหยียบเข้าไปในประตูบ้านโอวหยางแน่ ๆ
เพราะงั้นเหอเหมียวก็เลยแกล้งจับมือเธอ ซึ่งเธอเองก็คิดไม่ถึงว่าเหอเหมียวจะเล่นไม้นี้กับเธอ
แต่ตัวเธอดูเหมือนจะล้มลงไปจริง ๆ อีกทั้งเลือดยังไหลออกมาเร็วขนาดนั้นด้วย
แท้งลูกจริงหรือเปล่า?
ไม่นานรถพยาบาลก็ได้เข้ามา พร้อมกับนำเปลหามเข้าไปในที่เกิดเหตุ ไม่ถึงห้านาที พวกเขาก็ให้เหอเหมียวนอนลง ก่อนจะรีบพาตัวไปที่รถพยาบาลทันที
ถึงแม้ว่าที่ประตูรถจะมีกระจกอยู่ แต่เธอก็ยังคงได้ยินเสียงของเหอเหมียวที่ตะโกนไม่หยุด
“ลูกของฉัน คุณหมอคุณต้องช่วยลูกของฉันนะ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา ได้โปรดช่วยด้วยนะ!”
น้ำเสียงของเธอฟังดูเศร้ามาก ราวกับกำลังอธิษฐานขอร้องอย่างจริงจัง
ไม่ช้าเสียงของเธอก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน กระทั่งรถพยาบาลได้ขับออกไปพร้อมกับเปิดสัญญาณฉุกเฉิน ส่วนรถที่พวกเขานั่งอยู่ก็ขับออกไปเช่นกัน
……
ภายในห้องที่เกิดเหตุตอนนี้บรรยากาศล้วนเงียบสงบ หลินจือเซี๋ยวตอนนี้กำลังถูกดันชิดติดกับผนังกำแพง พร้อมกับถูกจูบอย่างหนักหน่วง ลมหายใจของฉีเซิ่งเทียนแวบลอดไปมาระหว่างปาก
เธออยากจะบ้าเป็นจริง ๆ ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหน ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่นี้เขาถูกรายล้อมไปด้วยหญิงสาวที่งดงามมากมาย ซึ่งเธอก็คิดว่าตัวเธอนั้นโชคดีที่ออกจากที่นั่นไปได้ แต่ทว่าตอนนี้เขากลับปรากฏตัวขึ้นและอุ้มเธอมาที่ที่หนึ่งซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
“อืม…………”
เธอพยายามใช้แรงผลักเขาออกไป แต่แรงของผู้ชายกับผู้หญิงนั้นแตกต่างกันมาก จึงทำให้ไม่เป็นผลอะไรทั้งนั้น
เธอที่ไม่มีเรี่ยวแรงมากอยู่แล้ว ตอนนี้ที่ถูกเขาจูบก็แทบน้ำลายท่วมปากไปหมดแล้ว อีกทั้งเรี่ยวแรงของเธอก็เหมือนว่ากำลังจะค่อย ๆ หายไป ร่างกายเริ่มไหลไปตามกำแพง
ทันใดนั้นขาขวาของเธอก็ถูกเขายกขึ้น เธอลืมตากว้างขึ้นมาด้วยความกลัว ก่อนจะใช้แรงกัดเขาไป
ฉีเซิ่งเทียนปล่อยเธอไปด้วยความเจ็บ เขาเลียไปที่ริมฝีปากที่แดงก่ำของตัวเอง “หลินจือเซี๋ยว เธอทำอะไร!”
“ฉันควรเป็นคนถามคุณมากกว่าถึงจะถูก คุณปล่อยขาของฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!” อย่าคิดว่าเธอตอนนี้ไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ
การกระทำแบบนี้ความหมายของมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
เธอไม่อยากคิดให้ครั้งแรกของตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพแนบกำแพงแบบนี้หรอกนะ
หรือคิดจะให้เห็นเลือดที่ไหลซึมออกมาตรงกำแพงอย่างนั้นเหรอ?
ฉีเซิ่งเทียนทางที่ดีนายอย่าได้คิดเลยจะดีกว่า!
“เธอจริงจังเกินไปแล้ว ใจเย็นก่อน” เขาต้องการเธอมานานแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสแบบนี้ จะปล่อยให้ผ่านไปได้ยังไง
ลูกศรเข้าเป้าแล้ว ไม่คิดว่าจะให้เขาหยุด
หลังจากนี้ถ้าเกิดเรื่องเกินกว่าครึ่งไปแล้วจะทำยังไง?
เรื่องนี้มันร้ายแรงมากเลยนะ
“ทำไมด้านนอกถึงได้เงียบแบบนี้? เมื่อกี้ยังคึกคักอยู่เลย ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม? พวกเราออกไปดูดีกว่า!” หลินจือเซี๋ยวพูดอย่างไม่วางใจ
แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอต้องการเบี่ยงเบนความสนใจต่างหาก ขาขวาของเธอที่อยู่บนตัวเขา เธอนั้นไม่ชอบเลยสักนิด
เมื่อยเหลือเกิน
“ระยะทางห่างไกลมาก จากที่นี่ไม่ได้ยินก็เป็นเรื่องปกติ พวกเรามาต่อกันเถอะ” ฉีเซิ่งเทียนจ้องไปที่ริมฝีปากที่แดงก่ำและใบหน้าที่เล็ก ๆ ของเธอ ก่อนจะยิ้มออกมา
เสื้อผ้าของเธอที่เพิ่งถูกเขาฉีกออกเล็กน้อยเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน ช่างเย้ายวนคนตรงหน้าเหลือเกิน
เขารู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านแทบจะทะลุขอบเขต ราวกับมันพร้อมระเบิดเส้นเลือดออกมา ถ้าหากไม่ยับยั้งแล้วละก็ มีหวังเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแน่ ๆ
“ไม่เอา! ฉันขอปฏิเสธ!” เธอจับไปที่หน้าอกของตัวเอง แต่ว่าขาขวาของเธอนั้นไม่สามารถหนีจากเขาได้เลย
“พวกเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงด้านนอกของคุณนะที่จะยอมหลับนอนแล้วก็หายไป หลังจากนี้พวกเราจะมองหน้ากันติดได้ยังไง ฉันขอบอกคุณไว้เลยนะฉีเซิ่งเทียน ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าได้คิด!”
“ฉันบอกตอนไหนกันว่าฉันจะไม่รับผิดชอบเรื่องพวกนี้! ต่อให้เธอไม่คิดอยากจะนอนกับฉันก็ช่าง!” ไม่ว่ายังไงเร็ว ๆ นี้เขาก็ต้องจับตัวเธอไว้ให้ได้ และต้องได้นอนกับเธอด้วย!
“……”
หลินจือเซี๋ยวแทบจะหมดคำพูดเมื่อมองไปที่เขา ความหมายของเขาก็คือจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็จะไม่รับผิดชอบถ้าหากไม่ได้นอนด้วย นี่อวัยวะด้านล่างของเขาคิดเรื่องพวกนี้มาอย่างเดียวหรือไงกัน!
“ฉีเซิ่งเทียน ถ้าคุณคิดอยากจะเปิดฮาเร็มนักนะ! คุณก็วางแผนไว้เลยว่าจะต้องรับผิดชอบผู้หญิงอีกกี่คน? ฉันไม่ต้องการเป็นหนึ่งในผู้หญิงจำนวนมากพวกนั้นหรอกนะ ฉันต้องการแต่งงานผัวเดียวเมียเดียวต่างหาก!” เธอยกคางของเธอขึ้นและพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
“หลินจือเซี๋ยว ผู้หญิงแบบเธอคิดจะต่อต้านฉันอยู่อีกเหรอ เมื่อครู่ที่ฉันพูดไปยังชัดเจนไม่พองั้นเหรอ? ฉันอยากนอนกับเธอและรับผิดชอบเธอในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิง ซึ่งในเมื่อเธอเป็นผู้หญิง ฉันก็คิดอยากจะหลับนอนด้วยไปตลอดชีวิต แค่นี้ยังไม่ชัดเจนอีกหรือไง?” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่เธอ ก่อนจะเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของเธอที่แดงยาวไปจนถึงโคนหู
ตอนที่เป็นหัวหน้าเลขา ตอนที่เป็นผู้หญิงที่ดูจริงจัง ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนถึงได้กลายเป็นผู้หญิงที่ดูไร้เดียงสาแบบนี้
“ยังไม่เคยนอนด้วยกันเลยสักนิดเดียว แล้วนายจะรู้ได้ไงว่าอยากจะนอนกับฉันไปตลอดชีวิต นายพูดแบบนี้กับผู้หญิงมาแล้วกี่คน? ที่แท้ผู้จัดการฉีก็ไม่ได้ใช้เงินซื้อผู้หญิงนี่เอง แต่กลับใช้คารมปากหวาน ๆ จัดการสินะ! พูดจาปลิ้นปล้อนทำให้สาว ๆ หลงใหล!” หลินจือเซี๋ยวเผยรอยยิ้มพลางมองไปที่ใบหน้าของเขา