อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 367 ไม่นึกเลยว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
ตอนที่ 367 ไม่นึกเลยว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
ตอนที่อยู่ที่นี่ต้องคอยระมัดระวังกับสิ่งที่เข้ามาปั่นป่วน ยิ่งไปกว่านั้นของที่ส่งตรงมาให้จิ่งเป่ยเฉิน เขาต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน
ไม่คิดเลยว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้เขาน่าจะเปิดมันออกมาดูก่อน ถ้ารู้ว่าด้านในเป็นเอกสารใบหย่า เขาจะไม่หยิบมันขึ้นมาอย่างเด็ดขาด
ตอนนี้อันหยาพั่นที่กำลังคุกเข่าทำความสะอาดเก็บถ้วยที่จิ่งเป่ยเฉินทำหล่นพื้น สักพักกระดาษก็ร่วงหล่นลงมา
เธอเห็นตัวอักษรเพียงไม่กี่คำ เพราะความตกใจจึงนั่งยอง ๆ เพื่อซ่อนอารมณ์และความรู้สึกเอาไว้ เดิมทีพวกเขาได้แต่งงานกันแล้ว
แต่แล้วยังไง ในเมื่อพี่สาวตัดสินใจจะหย่ากับเขาแล้ว เพียงแค่……
จิ่งเป่ยเฉินไม่ยอมที่จะหย่า เอกสารหย่านั้นถูกเขาฉีกเป็นชิ้น ๆ
น้ำเสียงที่เคร่งขรึมเหนือหัวของเธอพูดขึ้นว่า “ออกไป!”
“พ่อจ๋า….” หน่วนหน่วนได้ยินจิ่งเป่ยเฉินตวาดก็พลันตกใจ เธอยังไม่ทันจะได้ดูอย่างชัดเจนว่าด้านในคืออะไรก็ถูกพ่อจ๋าฉีกทิ้งไปแล้ว
เมื่อได้ยินเสียงของหน่วนหน่วน ความโกรธภายในใจของเขาก็ดับลง “ถังซั่ว นายพาหน่วนหน่วนกับหยางหยางกลับไปก่อน ต่อไปนี้ไม่ต้องพามาอีก!”
“พ่อจ๋า!” หน่วนหน่วนไม่อยากกลับ แม่จ๋าไม่อยู่บ้าน พ่อจ๋าก็ไม่อยากเจอพวกเขาอีก
จิ่งเป่ยเฉินเพิกเฉยต่อเสียงตะโกนของเธอ ตอนนี้ในหัวของเขานั้นมีแต่เรื่องของอันโหรวที่หนีไปกับฉีหย่วนหยางและเรื่องที่เธอจะหย่ากับเขา
ถังซั่วอุ้มหน่วนหน่วนขึ้นมาและพาหยางหยางเดินออกไป หมิ่นลี่ก็เดินตามออกไปด้วยเช่นกัน ในเวลานี้อยู่ที่นี่ถือว่ามีแต่จะหาเรื่องโดนทารุณ
อันหยาพั่นยังคงไม่อยากออกไป น้ำเสียงของเธอพูดขึ้นเบา ๆ “พี่เขยใจเย็น ๆ ก่อนนะ พี่สาวอาจจะไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น เธอเพียงแค่…..”
“ไสหัวออกไป!”
“คุณอันออกไปก่อนเถอะ! ที่นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ วันหลังก็ไม่ต้องมาอีก!” คนอื่นเขาไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เขานั้นรู้ดี
เขามองไปที่จิ่งเป่ยเฉินที่นอนเอนอยู่บนเตียง เขาดูอ่อนแรงและอาการดูสาหัสมาก แต่ความเป็นจริงแล้วนั้น…..
อันหยาพั่นมองไปที่ฉีเซิ่งเทียน ให้เธอออกไปตอนนี้ก็ได้ แต่บอกว่าหลังจากนี้ไม่ต้องมาอีกนั้นหมายความว่ายังไง?
ฉีเซิ่งเทียนยิ้มมุมปากและพูดขึ้นว่า “ทำไม สนใจฉันงั้นเหรอ?”
อันหยาพั่นไม่ได้สนใจเขา ก่อนจะเดินออกไปจากห้องคนไข้
เธอจะสนใจเขาได้ยังไง เธอสนใจคนอื่นต่างหาก
ภายในห้องคนไข้นั้นเหลือเพียงฉีเซิ่งเทียนและจิ่งเป่ยเฉิน คนด้านหลังคอยมองดูเขาอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้ในห้องมีแต่กลิ่นของซุปกระดูกหมู นั่นทำให้เขารู้สึกหิวขึ้นมากะทันหัน
ท่าทางของจิ่งเป่ยเฉินยังคงนอนเอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ตัวอักษรของเอกสารใบหย่านั้นขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นี่เกิดอะไรขึ้นกับโหรวโหรวกันแน่?
ทำไมเธอถึงไม่พูดอะไรเลย ทำไมถึงตัดสินประหารชีวิตเขาแบบนีี้
หย่า?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด นอกเสียจากเขาจะตาย!
เสียงซดน้ำซุปดังเข้ามาในหู เขาหันไปมองฉีเซิ่งเทียนที่กำลังซดน้ำซุปกระดูกหมูที่อันหยาพั่นถือมาด้วยสายตาที่เย็นชา
ฉีเซิ่งเทียนสัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมาที่เขา ถ้วยในมือก็ยื่นไปที่เขา “พี่เฉิน พี่อยากจะกินสักหน่อยหรือเปล่า?”
“ไม่กิน” ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะกิน ไม่อยากจะกินเลยสักนิด
ตอนนี้เขาคิดถึงแต่อันโหรว อยากถามเธอว่าท้ายที่สุดแล้วเขานั้นทำอะไรผิด เธอถึงได้ทำแบบนี้
ฉีเซิ่งเทียนมองสีหน้าที่เฉยเมยของเขาและการเคลื่อนไหวของริมฝีปากที่ดูไม่ผ่อนคลาย
“พี่เฉิน ถ้าหากว่าพี่สะใภ้เขานั่งเครื่องบินส่วนตัวของ TE ออกนอกประเทศไปจริง หลังจากที่ออกนอกประเทศไปจะไปที่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่จะหาเจอ”
เมื่อเขาพูดจบผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านหน้านั้นจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาและลงจากเตียงทันที
“พี่จะทำอะไร ไม่แกล้งป่วยแล้วงั้นเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนวางถ้วยในมือลงและรีบเดินตามเขาไป
จิ่งเป่ยเฉินเดินไปพลางแกะผ้าพันแผลบนหัวออก คำพูดที่เย็นชาถูกเอ่ยขึ้น “รีบเตรียมเครื่องบินไปปารีส!”
“ครับ!” ฉีเซิ่งเทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย เขารู้ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะต้องไปเพราะงั้นจึงได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เขาที่เพิ่งจงใจนั่งอยู่เพื่อกระตุ้นเขา ไม่คิดเลยว่าจะมีประโยชน์จริง ๆ
เขารู้โดยสัญชาตญาณว่าอันโหรวไม่ได้อยู่ที่เมือง A แล้ว เพราะงั้นถึงได้ให้เขาออกจากห้องคนไข้ ไม่อย่างนั้นแกล้งป่วยต่อไปก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว ถ้าหากภายในใจของพี่สะใภ้มีเขาละก็ เห็นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ก็ต้องรู้สึกเศร้าเสียใจแน่ ๆ
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะแอบเข้าไปเยี่ยมผู้ป่วย
……
ที่คฤหาสน์บนยอดเขา
อันโหรวนอนอยู่ใต้ร่มกันแดดสีน้ำเงินขนาดใหญ่ ข้าง ๆ เธอมีโต๊ะกระจกกลมเล็ก ๆ บนโต๊ะกลมมีน้ำผลไม้และวิสกี้หนึ่งแก้ว เธอหลับตาลงเหมือนว่ากำลังนอนหลับอย่างสงบ
เธอไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ชีวิตที่เงียบสงบแบบนี้ทำให้ภายในใจของเธอนั้นอึดอัดเล็กน้อย เธอคิดถึงหน่วนหน่วนและหยางหยาง
จิ่งเป่ยเฉินเกิดอุบัติเหตุและเธอไม่ได้อยู่ข้างเขา ตอนนี้ลูก ๆ ของพวกเขาคงจะเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ว่าช่วงเวลาที่เศร้าเสียใจแบบนี้เธอกลับไม่ได้อยู่กับพวกเขา
มีบางครั้งที่เธอรู้สึกว่าทำไมเธอถึงมาหลบอยู่ที่นี่ คนที่นอกใจไม่ใช่เธอ คนที่อยู่ข้างนอกก็ไม่ใช่เธอ เธอโดนสวมเขา ทำไมเธอถึงไม่กล้าเจอหน้าจิ่งเป่ยเฉิน
แต่เธอก็ไม่ได้อยากเจอหน้าเขาแต่แรกอยู่แล้ว เขาไม่ได้ต้องการเธอแล้ว เขาเป็นคนโกหกหลอกลวง เป็นคนสารเลวตั้งแต่หัวจรดเท้า
เมื่อใกล้ถึงเวลาพระอาทิตย์ตก เธอลืมตาขึ้นมา วิวทิวทัศน์ที่สวยงามกลับไม่สามารถบรรเทาความโกรธภายในใจของเธอได้
เธอลุกขึ้นมองไปที่วิสกี้บนโต๊ะ ไม่คิดว่าผู้ชายที่ดื่มไวน์มาตลอดนั้นจะเดินมาตัวเปล่าโดยไม่มีไวน์มาด้วย
เธอเดินเข้าไปด้านในบ้านโดยไม่ได้สนใจ แต่ว่าภายในห้องนั่งกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของฉีหย่วนหยาง
ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้คนหนึ่งเดินเข้ามา “คุณนายอัน คุณชายฉีมีธุระต้องรีบออกไปก่อน ถ้าหากว่าคุณต้องการอะไรก็สั่งมาได้เลยค่ะ”
“ช่างเถอะ! ฉันหิวแล้ว” เธอไม่ได้อยากรู้ว่าเขาไปที่ไหน ถึงจะถามคนรับใช้ไปก็ไม่รู้อยู่ดี
เมื่อกินข้าวเสร็จเธอก็ไปที่ห้องคอมพิวเตอร์ ตอนแรกเธอไม่ได้ต้องการจะไป แต่กลับเดินเข้าไปในห้องอย่างไม่รู้ตัว ก่อนจะเริ่มขยับและเลื่อนเม้าส์อย่างรวดเร็ว
เธอเปิดหน้าเว็บและเรียกดูข่าวแรกที่ปรากฏขึ้นคือพาดหัวข่าวอุบัติเหตุทางรถยนต์ของจิ่งเป่ยเฉิน
เมื่อเช้าฉีหย่วนหยางเพียงแค่บอกเธอเฉย ๆ แต่เธอไม่ได้ดูอย่างละเอียด ตอนนี้เธอจับเม้าส์ในมือไว้แน่นและไฮไลต์ข้อความที่พาดหัวข่าว
ผู้ชายที่สวมเขาให้เธอกลายเป็นแบบนี้ ไม่นึกเลยว่าเธอคิดอยากจะรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาบาดเจ็บได้ยังไง?
ผ่านไปแล้วประมาณห้านาที เม้าส์ในมือของเธอก็คลิกเข้าไปดู
จู่ ๆ ภาพก็ขยายใหญ่ขึ้นมาปรากฏบนหน้าจอเกี่ยวกับสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ รถโรลส์-รอยซ์สีดำพุ่งเข้าชนรั้วกั้น หน้ารถบุบ สภาพยับเยิน และมีรอยคราบเลือดอยู่บนถนน
หัวใจของเธอเต้นแรง สถานการณ์แบบนี้ดูเหมือนว่าจะหนักและรุนแรงมาก
ดูเหมือนจะมีภาพอื่น ๆ อีกแต่ว่าเธอไม่ได้ขยับไปดูภาพนั้น ใบหน้าที่สวยงามจู่ ๆ ก็ยิ้มขึ้นมา
เพราะว่าเธอรู้จักถนนเส้นนี้ดี
นี่เป็นถนนที่ผ่านคฤหาสน์บ้านสวนอัน ถึงแม้ว่าโอวหยางลี่จะอยู่ที่นั่น แต่ว่าโอวหยางลี่ก็ไม่ได้พักอยู่ที่นั่น เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเกิดอุบัติเหตุบนเส้นทางที่จะไปหาโอวหยางลี่