อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 374 ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นปีศาจผู้ชั่วร้ายจริง ๆ
ตอนที่ 374 ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นปีศาจผู้ชั่วร้ายจริง ๆ
ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นปีศาจผู้ชั่วร้ายจริง ๆ
“อันโหรว ความจริงแล้วเธอไม่จำเป็นต้องคิดวางแผนอะไรเลย เธออาจจะเป็นนักพากย์ที่ดีก็ได้ หรือว่าจะนักแสดงก็ไม่เลวนะ การแสดงคู่ก็เหมาะกับเธอดีเหมือนกัน” เขาพูดและลุกขึ้นจากโซฟา “ไปกันเถอะ! แบบนี้หยางหยางกับหน่วนหน่วนจะจำเธอได้เหรอ?”
“เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง” อันโหรวจ้องมองไปที่เขาก่อนจะหันตัวเดินออกไป
“โอเค งั้นฉันจะไม่ยุ่ง ถ้าหากว่าเธอถูกจิ่งเป่ยเฉินจับได้ ฉันก็จะไม่ยุ่งด้วย” ฉีหย่วนหยางเดินตามเธอออกไปพลางมองการปลอมตัวเป็นสาวรับใช้คนหนึ่งของเธอ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ “ฉันคิดว่าเธอน่าจะเพิ่มสัดส่วนเข้าไปสักหน่อยนะ ไม่อย่างนั้นจิ่งเป่ยเฉินอาจจะสงสัยเอา หากมองกล้องวงจรปิดก็น่าจะมองออก”
“พวกเราไปกันเร็วหน่อยเถอะ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียน ยังไม่ถึงเวลาคนมารับ คนที่บ้านจิ่งน่าจะยังไม่มา” ยิ่งไปกว่านั้นได้ยินมาว่าบริษัทจิ่งตอนนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
จิ่งเป่ยเฉินเองก็น่าจะยุ่งกับงานที่บริษัท เขาคงไม่มารับหยางหยางและหน่วนหน่วนด้วยตัวเอง
เมื่ออันโหรวพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ฉีหย่วนหยางจึงเพิ่มความเร็วมากขึ้น
เธอมองไปที่วิวด้านนอกกระจกรถและหันไปมองเขาที่ด้านข้าง “ให้นายขับเร็ว แต่ไม่ได้ให้ขับเร็วจนเหมือนจะไปตายสักหน่อย!”
“น่าสนใจดี”
บนถนนไม่มีรถมากมาย ไม่ต้องกังวล
วันนั้นที่อันโหรวมาไม่ได้สังเกตถนนหนทาง ตอนนี้เมื่อสังเกตดูถึงได้รู้ว่าถนนหนทางนั้นห่างไกลจริง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉีหย่วนหยางสร้างบ้านพักวิลล่าไว้ไกลเมืองขนาดนี้?
และยังดูสบายตาอีกต่างหาก
เมื่อถึงโรงเรียนอนุบาลสายรุ้งก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสามโมง เวลานี้ประตูโรงเรียนมีเพียงแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนเดียว ไม่ได้มีผู้ปกครองหรือพ่อแม่เด็กคนอื่น ๆ
รถสีแดงจอดอยู่สถานที่ที่ไกลออกมา และเธอก็เดินไป
เมื่อเดินไปถึงประตูรักษาความปลอดภัย เธอก็แกล้งทำเป็นคนรับใช้ของบ้านคนรวยให้สิ่งของบางสิ่งและเดินเข้าไป พ่อแม่ของเด็ก ๆ ที่อยู่ด้านในนั้นล้วนเป็นคนที่มีฐานะและอำนาจ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวเล็ก ๆ อย่างเขาจะมีสิทธิ์มีเสียงอะไรได้ จึงรีบวางของและปล่อยให้เดินเข้าไป
เธอเดินเข้าไปที่ห้องเรียนของหยางหยางและหน่วนหน่วน แต่กลับไม่พบใครสักคน เธอเดินไปรอบห้องเรียนอีกครั้งถึงพบว่าพวกเขาออกไปเล่นเกมกันที่ด้านนอก
เพื่อน ๆ ของเขาล้อมเป็นวงกลมขนาดใหญ่ เธอเห็นหน่วนหน่วนและหยางหยางจับมือกันอยู่ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ลูก ๆ ของเธอนั้นอยู่ในสายตาของเธอตลอด
ตอนนี้เธอแทบอยากจะวิ่งเข้าไปหาและอุ้มพวกเขาออกไป
ฝีเท้าของเธอยังคงไม่ขยับ ทันใดนั้นสายตาของหยางหยางก็สบตากับเธอ
เธอส่งจูบเล็ก ๆ ให้เขาและตะโกน “หยางหยาง”
“พี่ชายคะ พี่มองอะไร?” หน่วนหน่วนมองไปที่เขา ก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงที่กำลังส่งจูบให้
แม่จ๋า!
ในที่สุดแม่จ๋าก็มาหาพวกเขาแล้ว!
หน่วนหน่วนกำลังจะตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น แต่ก็ถูกหยางหยางเอามือปิดปากไว้เสียก่อน
เธอเข้าใจความหมายของพี่ชายทันที
หยางหยางยกมือขึ้นขออนุญาตคุณครู “คุณครูครับ น้องสาวผมหิวน้ำ ผมพาน้องไปดื่มน้ำก่อนนะครับ”
เมื่ออันโหรวได้ยินหยางหยางพูดก็รีบเดินออกมาทันที
ไม่ถึงหนึ่งนาทีเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของหยางหยางและหน่วนหน่วนเดินออกมาหาเธอ
ที่มุมห้องของอาคารเรียน เด็กทั้งสองอยู่ในอ้อมแขนของเธอ เธอกอดพวกเขาไว้อย่างตื่นเต้น “หยางหยาง หน่วนหน่วน แม่จ๋าคิดถึงลูก ๆ มาก ๆ เลย”
“แม่จ๋า หน่วนหน่วนก็คิดถึงแม่” หน่วนหน่วนกอดเธอเอาไว้ ร่างเล็ก ๆ กอดเธอไว้โดยไม่คิดอยากจะปล่อย
“แม่จ๋าไปไหนมา?” ภายในใจของหยางหยางก็ตื่นเต้นเช่นกัน แต่ว่าเขาเป็นห่วงแม่มากกว่า
อยากจะรู้เหลือเกินว่าแม่เป็นยังไงบ้าง เกิดอะไรขึ้นกับแม่กันแน่?
“เรื่องนี้เอาไว้ค่อยเล่าทีหลังนะ! หยางหยาง หน่วนหน่วน ถ้าหากว่าแม่ไม่ได้อยู่กับพ่อจ๋าแล้ว ลูก ๆ ทั้งสองจะยอมไปกับแม่จ๋าไหม หรือว่าอยากจะอยู่กับพ่อจ๋า?”
“แม่จ๋า!” หยางหยางตอบกลับโดยที่ไม่ต้องคิดพิจารณา
หน่วนหน่วนเอียงศีรษะมองเธอ นัยน์ตากลมโตของเธอค่อย ๆ เลือนลาง เธอชอบแม่จ๋า แต่ว่าก็ชอบพ่อจ๋า และก็ชอบพี่ชายเหมือนกัน เธอไม่อยากแยกจากใครคนใดคนหนึ่งเลย
“แม่จ๋า ทำไมพวกเราไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยกันได้? พ่อกับแม่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันเหรอ?” หลายวันที่ผ่านมาไม่ได้เจอแม่จ๋าเธอเสียใจมาก ๆ เลย
ถ้าหากไม่ได้เจอพ่อจ๋า เธอเองก็คงเสียใจเหมือนกัน
อันโหรวเม้มปาก เรื่องของอันหยาพั่นพวกเขายังไม่รู้เรื่องงั้นเหรอ?
หรือว่าจิ่งเป่ยเฉินไม่ได้พาเธอมา?
หรือพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก อาจจะไม่ได้กลับบ้านมานาน
“พ่อจ๋าไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันไม่ใช่เหรอ?” เธอถามอย่างสงสัย
“อืม หลังจากแม่จ๋าหายไปก็กลับมาแค่ครั้งเดียวค่ะ” หน่วนหน่วนจำได้ชัดเจนคืนนั้นที่กลับมา กระทั่งไม่รู้ว่าเขาออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่
เจออีกครั้งก็ตอนที่พ่อจ๋าอยู่ที่โรงพยาบาล
หลังจากนั้นพ่อจ๋าก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาเจออีก จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้เจอ
ที่แท้ก็ทนรอไม่ไหวที่จะได้ไปอยู่กับอันหยาพั่นสินะ
ภายในใจของอันโหรวเหมือนกับว่าถูกเข็มทิ่มแทง เธอคิดถูกแล้วที่หนีออกมา ปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระ
เมื่อออกไปต้องส่งเอกสารใบหย่าให้เขาอีกฉบับ!
ปล่อยให้เขาเป็นอิสระและปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระเช่นกัน
แต่ภายในใจของเธอกลับไม่เต็มใจเลยสักนิด!
“หยางหยาง หน่วนหน่วน พวกลูก ๆ ยอมไปอยู่กับแม่จ๋าไหม? พวกเราหนีออกไปจากที่นี่กัน” เธอยังคงไม่ลืมประเด็นหลักที่มาวันนี้
ลูกทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน พวกเขายอมหนีไปอยู่กับแม่จ๋า
เธอหอมแก้มลูกทั้งสองอย่างตื่นเต้น แต่ว่าเธอไม่กล้าอยู่ที่นี่นาน
“ลูก ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แม่จ๋าอาจจะพาลูกไปเมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องนี้อย่าบอกให้พ่อจ๋ารู้เด็ดขาด วันนี้แม่จ๋ามาหาก็พูดไม่ได้ ไม่ว่าใครก็ห้ามพูดถึง จำได้ใช่ไหม?” ทำเหมือนว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวคนหนึ่งเถอะ!
ในสถานการณ์ตอนนี้หยางหยางและหน่วนหน่วนถูกกำหนดให้ไม่สามารถเติบโตในครอบครัวที่แข็งแรงและปกติได้
“จำได้ครับแม่จ๋า” หยางหยางและหน่วนหน่วนพยักหน้า
อันโหรวเดินออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ตอนนี้เธอจำเป็นต้องรีบออกไป หลังจากนี้พวกเขาจะมีเวลาให้กันมากขึ้น
อันโหรวปล่อยพวกเขา ก่อนจะลูบผมของลูก ๆ และยิ้ม “รีบเข้าไปห้องเรียนเร็ว แม่จ๋าต้องไปก่อนนะ”
“แม่จ๋า หน่วนหน่วนไม่อยากให้แม่จ๋าไป…….” หน่วนหน่วนมองเธอ ไม่ง่ายเลยที่จะได้เจอแม่จ๋า ทำไมแม่จ๋าถึงจะไปแล้ว
“หน่วนหน่วนเด็กดี ต่อจากนี้พวกเราจะได้เจอกันและจะได้อยู่ด้วยกัน” หลังจากที่ปล่อยให้พวกเขาได้สัมผัสกับความอบอุ่นของครอบครัวที่มีพ่อคอยห่วงใย แต่ก็ต้องจากไปอีกครั้ง
สำหรับพวกเขาแล้วนั้นอาจจะโหดร้าย
แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่น
ตอนนี้จิ่งเป่ยเฉินมีผู้หญิงคนอื่นและยังมีลูกด้วยกันอีก แม้แต่บ้านก็ไม่ได้กลับมา
แล้วหยางหยางและหน่วนหน่วนจะทำยังไง?
หลังจากที่ไม่มีพ่อจ๋า หนำซ้ำยังไม่มีแม่จ๋าคอยอยู่เคียงข้าง เธอต้องการจะอยู่เคียงข้างพวกเขาตลอดไป
เมื่อเห็นหน่วนหน่วนและหยางหยางเดินออกไป เธอก็ไม่ได้อยู่ที่โรงเรียนอีก
ระหว่างทางกลับเธอนั่งอยู่เบาะหลังพลางเอนตัวพิงเบาะ เบาะข้างคนขับเธอคงไม่กล้านั่งอีก
เพราะจู่ ๆ ก็คิดขึ้นมาได้ หากกล้องวงจรตามถนนจับภาพได้ แม้เธอจะปลอมตัวแบบนี้ก็ยังคงรู้สึกกังวลอยู่ดี
“เธอคิดจะพาพวกเขาออกมาเมื่อไหร่?” ฉีหย่วนหยางเอ่ยถาม