อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 385 ฆ่าเธอซะ!
ตอนที่ 385 ฆ่าเธอซะ!
เอาคนมาฆ่าเธอซะ!
“ผู้จัดการฉี ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณมาสองสามเดือนแล้ว” หรือว่าเขาลืมวันที่กดขี่เธอไปได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ อ?
“เธอจะไปนอนบ้านเธอหรือว่าบ้านฉันดี? ฉันง่วงจนลืมตาไม่ขึ้นแล้ว!” ดวงตาของฉีเซิ่งเทียนปิดลง
หลินจือเซี๋ยวหันหน้าไปมองใบหน้าของเขาที่ดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ได้สวมแว่นตา
“ฉันงานยุ่งอยู่ ออกไปด้วยไม่ได้หรอกค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเบา ๆ กลัวว่าจะรบกวนการพักผ่อนของเขา
“ไม่เป็นไร วันนี้พี่เฉินไม่มีอารมณ์จะทำงาน ฉันอนุมัติให้เธอลางานได้ ถ้าหากว่าเขาเรียกหาเธอ ฉันจะรับผิดชอบเอง ง!” ฉีเซิ่งเทียนโอบตัวเธอเดินไปที่ลิฟต์
หลังจากที่เข้าในลิฟต์หลินจือเซี๋ยวถึงได้ตอบสนองกลับ นี่เธอโง่หรือเปล่า?
หลงเสน่ห์เขาแล้วงั้นเหรอ?
ไปส่งเขากลับบ้าน? ไปบ้านเขาหรือบ้านตัวเอง?
ไม่อยากให้ฉีเซิ่งเทียนไปบ้านของตัวเอง ไปบ้านฉีเซิ่งเทียนครั้งแรกก็ไม่อยากไปอีก
“ผู้จัดการฉี ตรงนี้มีโรงแรมใกล้ ๆ คุณไปไหม?” เธอหันมาถามเขาอย่างกะทันหัน
ฉีเซิ่งเทียนที่กำลังหลับตาอยู่นั้นก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันที มองดูสายตาที่แพรวพราวด้วยความสนใจ ทันใดนั้นมุมปาก กของเขาก็ยกขึ้น “ที่แท้เซี๋ยวเซี๋ยวก็ทนไม่ไหวแล้วนี่เอง”
“ผู้จัดการฉี คุณเข้าใจผิดแล้ว เพียงแค่โรงแรมอยู่ใกล้ เลยอยากจะพาคุณไปที่นั่น ฉันจะได้กลับมาทำงานของตัวเองต่ อ” หลินจือเซี๋ยวตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
เธอไม่สามารถทำให้ฉีเซิ่งเทียนเห็นว่าความจริงแล้วกำลังประหม่าและต่อต้านได้
เขาที่กำลังยิ้มหัวเราะอยู่นั้นก็พลันเปลี่ยนไปทันที เขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา “เธอไม่โกหกฉันเหรอ?”
“โกหกเป็นเด็กไม่ดี!” เธอโกหกไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ความจริงแล้วก็ไม่นับ เพราะที่เธอพูดก็เป็นเหตุผลหนึ่งเช่นกัน
“หลินจือเซี๋ยว ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าเธอเข้ามาที่บริษัทจิ่ง มาเป็นเลขาของประธานจิ่งได้ยังไง”
“แน่นอนเพราะว่าฉันทำตัวอย่างเที่ยงธรรม ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ความสามารถในการทำงานก็ดีเยี่ยม แถมยังสวย ไม่เ เหมือนกับผู้จัดการฉี!” ประตูลิฟต์เปิดออก เธอจึงเดินออกไป
เมื่อเดินออกมาสองสามก้าวก็หันกลับไปมองใบหน้าที่มืดมนและบูดบึ้งของฉีเซิ่งเทียน เธอรู้สึกสับสนเล็กน้อย ปกติแ แล้วฉีเซิ่งเทียนเป็นชายรูปร่างสูง หล่อเหล่า ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาดูโกรธแบบนี้
ฉีเซิ่งเทียนที่สวมแว่นตากับฉีเซิ่งเทียนที่ไม่ได้สวมแว่นตาเป็นสองคนหรือเปล่า?
ตอนนี้เธอต้องไปชั้นบนเพื่อหยิบแว่นตามาให้เขาใส่ไหม?
“ผู้จัดการฉี คุณเปลี่ยน…….” เธอที่ยังไม่ทันพูดจบก็เห็นฉีเซิ่งเทียนเดินออกมา
เธอสงบปากสงบคำทันที ด้านข้างบริษัทจิ่งมีโรงแรมอยู่ไม่ไกล เพราะงั้นหลินจือเซี๋ยวเลยไม่ได้ขับรถ ขับรถไปก็ไม่รู ว่าจะขับพาเขาไปที่ไหน เพราะงั้นไม่ขับไปจะดีกว่า
เธอเดินนำไปด้านหน้า โดยมีฉีเซิ่งเทียนเดินตามมาด้านหลัง เวลานี้เดินไปเปิดห้องจะดูแปลก ๆ ไปหน่อยไหมนะ?
จู่ ๆ เธอก็ค่อย ๆ ก้าวช้าลงจนฉีเซิ่งเทียนเดินมาด้านข้างตัวเธอ เธอหันไปมองเขาและพูดขึ้นมาช้า ๆ ว่า “ผู้จัดก การฉีคะ ฉันลืมเอากระเป๋ามา”
“แล้วยังไง?”
“ฉันไม่มีเงินติดตัวมาเลย ใช้เงินของคุณไปเปิดห้องก็แล้วกัน”
“แค่เงินค่าเปิดห้อง เซี๋ยวเซี๋ยว ฉันเลี้ยงเธออยู่แล้ว!”
เธอไม่ยอมนอนด้วยหรอก!
“คุณเตรียมเงินมาก็ดี” เธอเดินไปส่งเขาที่ห้อง จะไม่ยอมถูกเขาลักพาตัวเข้าไปอย่างแน่นอน
“หรือว่าเธอจะไม่รู้ว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า…..” ฉีเซิ่งเทียนมองไปที่รอยยิ้มของเธอ “ฉันสามารถสแกนหน้าได ด้!”
“อืม เยี่ยมไปเลย” ตอนนี้เธอคิดเพียงแค่ว่ารีบส่งเขา แล้วรีบหนีออกไปให้เร็วที่สุด
“ถ้าหากเธอยอมแต่งงานกับฉันละก็ เธอจะกลายเป็นคุณนายฉี และต่อจากนี้เธอก็สามารถสแกนหน้าได้”
“ไม่เห็นน่าสนใจ” เธอไม่อยากจะอยู่ร่วมกับม้าพ่อพันธุ์หรอก
เมื่อถึงประตูโรงแรม หลินจือเซี๋ยวก็มองไปที่ประตูก่อนจะหยุดเดินกะทันหัน
เธอหันไปมองฉีเซิ่งเทียนที่ยื่นมือออกมาทำท่าเชิญ “ผู้จัดการฉี คุณเป็นแขกประจำโรงแรม ต่อไปคงไม่ต้องให้ฉันสอน คุณเข้าไปสแกนหน้าของตัวเองเถอะ!”
ในที่สุดก็สามารถสแกนหน้าอันหล่อเหลาได้อย่างเต็มที่!
เมื่อเธอพูดจบก็รู้สึกว่าถูกล็อกคอ หัวของเธอเอนไปด้านข้าง “ฉีเซิ่งเทียน คุณปล่อยฉันนะ!”
ฉีเซิ่งเทียนล็อกคอเธอเข้ามาด้านในห้อง “ระวังหน่อย เธออยากให้ทุกคนรู้เหรอว่าเวลางานพวกเรามาเปิดห้องกัน?”
“เป็นห้องของคุณ ไม่ใช่ของฉัน” เธอพูดไม่ออกทั้งน้ำตา
คุยกันแล้วว่าจะมาส่งเขาที่นี่ แล้วจะออกไปยังไง!
“อืม ก็เหมือนกัน ฉันเปิดห้อง เธอนอน” ฉีเซิ่งเทียนเป็นคนยังไงกัน เป็นหน้าเขาที่สแกนแท้ ๆ
โรงแรมที่อยู่ข้างบริษัทจิ่งอาจจะไม่มีห้องพิเศษของเขา
หลินจือเซี๋ยวยังเด็กเกินไป ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาสักนิด
หลินจือเซี๋ยวเกือบจะถูกเขาอุ้มไปด้านใน หลังจากนั้นก็ถูกพาไปที่ลิฟต์ ก่อนที่สุดท้ายจะถูกอุ้มเข้ามาในห้อง
เธอถูกรวบขาทั้งสองข้าง “ฉีเซิ่งเทียน คุณมันสารเลว ไร้ยางอาย ป่าเถื่อน ไม่ตายดีแน่!”
“ชู่…..” ฉีเซิ่งเทียนพาเธอมาวางลงที่เตียงและก้มลงไปมองหน้าเธอที่กำลังโกรธ “มีใครที่สาปแช่งว่าที่สามีในอนาคตแ แบบเธอกัน?”
“ไปให้พ้นเลยนะ! ฉันไม่ยอมแต่งงานกับคุณหรอก” เธอหันหน้าหนีแต่ถูกเขาดึงไว้ ตัวของเธอแนบชิดอยู่ในอ้อมกอดเ เขา
หลังจากนั้นทั้งสองก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ ตัวของเขากดทับบนตัวของเธอไว้
“คนขี้โกง เล่นกันกลางวันแสก ๆ ลงไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ!” หลินจือเซี๋ยวจ้องมองเขาด้วยใบหน้าเล็ก ๆ ที่โกรธจั ด ดวงตากลมโตกะพริบไปมา
“เซี๋ยวเซี๋ยว ตอนแรกฉันไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ถ้าเธอขยับอีก ฉันจะอดใจไม่ไหวจริง ๆ นะ” เขาเพียงต้องการจะนอนกอด ดเธอก็เท่านั้นเอง แน่นอนถ้าหากว่าเธอต้องการละก็ เขาจะอยู่กับเธอจนจบ
“อืม…..” เธอจะไปรู้ได้ยังไงว่าในหัวของเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ เขาที่เพิ่งจะพูดว่าแค่นอนอย่างเดียวเมื่อค ครู่นี้และไม่ทำอะไร
คำพูดของผู้ชาย เธอต้องพิจารณาดี ๆ ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ คำพูดของฉีเซิ่งเทียนยิ่งไม่สามารถไว้ใจได้
“แต่ว่านอนแบบนี้ไม่อึดอัดไปหน่อยนะ?” รองเท้าของทั้งคู่ก็ยังไม่ได้ถอดออก แล้วนอนลงบนเตียงเลยแบบนี้ หนำซ้ำย ยังนอนลงที่เตียงแค่ครึ่งตัวอีก
ฉีเซิ่งเทียนจูบไปที่ใบหน้าน้อย ๆ ของเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น หลินจือเซี๋ยวเองก็ลุกขึ้นมานั่ง รองเท้าของเธอถ ถูกโยนไปไกล
เธอมองฉีเซิ่งเทียนด้วยความตกใจ เขาถอดรองเท้าตัวเองแล้วหลับตาลง ก่อนจะกอดไปที่เอวของเธออย่างแม่นยำ เขาหลับ บตาลงนอนบนเตียงพลางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มบนตัว เมื่อหลับตาลงก็นอนหลับไปอย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวทั้งหมดเป็นไปอย่างรวดเร็ว เธอยังไม่ทันมีเวลาที่จะตอบสนองกลับเลยด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจ เธอถึงได้รู้ว่าเขาง่วงมากจนหลับไปแล้วจริง ๆ
เมื่อวานฉีเซิ่งเทียนไม่ได้นอนเลย บิ๊กบอสเองก็คงไม่ได้นอนเหมือนกัน
แต่วันนี้บิ๊กบอสดูมีชีวิตชีวาดีนี่!
หรือว่านี่คือความตื่นเต้นในตำนานหรือเปล่า?
เพราะว่าเขาง่วงนอนมาก ง่วงจนประสาทสัมผัสของเขาตื่นเต้น!
ตอนนี้เธอหวังว่าโหรวโหรวจะกลับมา ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ควรกลับมาอธิบายให้ชัดเจน!
การหายตัวไปดังกล่าวไม่ใช่วิธีที่ดีจริง ๆ
……
เมือง A ฝนตกไม่ได้มานานแล้ว วันนี้ฝนตกไม่หนักมาก
แต่ฝนตกแบบนี้อันโหรวไม่กล้าใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น ทั้ง ๆ ที่เข้าฤดูร้อน เดือนมิถุนายนแล้วแท้ ๆ
เธอนั่งอยู่ไม่ไกลจากหน้าต่างพลางมองดูเม็ดฝนด้านนอกที่ไหลลงมาที่หน้าต่างอย่างช้า ๆ