อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 391 เธอเป็นภรรยาของฉัน คนทั้งโลกจะดูถูกรังเกียจฉันยังไงก็ได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้
- Home
- อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด
- ตอนที่ 391 เธอเป็นภรรยาของฉัน คนทั้งโลกจะดูถูกรังเกียจฉันยังไงก็ได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้
ตอนที่ 391 เธอเป็นภรรยาของฉัน คนทั้งโลกจะดูถูกรังเกียจฉันยังไงก็ได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้
“โหรวโหรว เธอเป็นภรรยาของฉัน คนทั้งโลกจะดูถูกหรือรังเกียจฉันยังไงก็ได้ แต่ว่าเธอไม่สามารถทำแบบนั้นได้” เขารอและตามหาเธอมาตั้งนานแสนนาน แต่กลับได้คำตอบแบบนี้งั้นเห หรอ?
ขาทั้งสองข้างของเธอถูกแยกออก เซลล์ในร่างกายของเธอก็ร้องต่อต้านขึ้นมาทันที
“อย่านะ!”
“อ้วก…..”
จู่ ๆ เธอก็อาเจียนออกมา ช่วงที่ผ่านมานี้เธออาเจียนออกมาตลอด และตอนนี้ก็ได้เวลาแล้ว
เธอพบว่าการอาเจียนออกมาแบบนี้มีประโยชน์
ร่างกายของเธอเอนไปด้านข้างพลางฟุบลงนอนที่ขอบเตียง “อ้วก อ้วก……….”
จิ่งเป่ยเฉินถึงกับตกตะลึงเมื่อเห็นเธออาเจียนออกมาหนักขนาดนี้ ใบหน้าที่ซีดขาวแต่กลับอาเจียนโดยที่ไม่มีอะไรออกมาเลย
“โหรวโหรว เป็นอะไรไป?” เขารีบดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มที่ตัวของเธอ ก่อนจะรูดซิปกางเกงของเขาและกอดเธอไว้ในอ้อมแขน
เขารีบพาเธอลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว ครั้งแรกที่อันโหรวอาเจียนของเสียออกมาก็อาเจียนใส่ตัวของจิ่งเป่ยเฉิน แต่เขาแทบไม่ได้สนใจก่อนจะอุ้มเธอไปที่รถทันที
“ไปโรงพยาบาล!”
“ไม่ต้อง จิ่งเป่ยเฉิน ฉันไม่ไปโรงพยาบาล!” เธอส่ายหน้า สิ่งที่น่าละอายไปกว่านั้นคือทั้งตัวเธอนั้นเปลือยเปล่า ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า มีแค่ผ้าห่มที่คลุมตัวเธอไว้
สีหน้าของจิ่งเป่ยเฉินนั้นมองเธออย่างเย็นชา “ไป!”
เธออาเจียนออกมาแบบนั้นไม่ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กอาการ เขาจะวางใจได้ยังไง
“ฉันแค่เมารถ ท้องไส้ไม่ค่อยดี” เธอที่เพิ่งขับรถมาตอนเช้ายังไม่ได้กินอะไรมาเลย เหตุผลนี้น่าจะพอฟังขึ้นอยู่
ทว่าเวลานี้จิ่งเป่ยเฉินกลับไม่ได้ฟังคำพูดของเธอ รถถูกขับออกจากบ้านสวนอันอย่างรวดเร็ว
อันโหรวหลับตาลงโดยไม่มองหน้าเขา บรรยากาศภายในรถนั้นมีแต่กลิ่นอายของจิ่งเป่ยเฉิน ทำให้เธอรู้ว่าทำไมถึงได้อาเจียนออกมาหนักขนาดนั้น
ได้กลิ่นบุหรี่ ตอนที่เธอตั้งครรภ์ได้กลิ่นบุหรี่แล้วทรมานมาก ตอนนี้ไม่เพียงแต่ปวดท้องเท่านั้น แต่ยังอึดอัดใจอีกต่างหาก
“อ้วก…..” เธอเริ่มอาเจียนออกมาอีกครั้ง รู้ทั้งรู้ว่าอาเจียนแต่เธอรู้สึกว่าหัวใจตับม้ามปอดและไตแทบจะอาเจียนออกมาด้วยอยู่แล้ว
“จิ่งเป่ยเฉิน เปลี่ยนรถหน่อยได้ไหม กลิ่นในรถคันนี้มันเหม็นมากเลย…” เธอมองหน้าเขาด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าที่ซีดเผือด ริมฝีปากที่แห้งผาก
“เปลี่ยนรถ!” จิ่งเป่ยเฉินมองหน้าเธออย่างเจ็บปวด หัวใจของเขาเจ็บยิ่งกว่าจนแทบจะหายใจไม่ออก
เขาอยากเจอเธอ แต่ไม่อยากเห็นเธอในสภาพแบบนี้
“จอดรถ!” เขาสั่งอย่างเย็นชา ใบหน้าที่หล่อเหลามองเธออย่างกังวลและร้อนใจ
ทันทีที่รถลินคอล์นจอด บิ๊กบอสก็เอาผ้าห่มคลุมตัวอันโหรว ก่อนจะพาลงจากรถมายืนอยู่ข้างถนนด้วยท่าทางที่สูงส่งพลางมองดูผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอด
รถที่ขับอยู่บนถนนก็ชะลอความเร็วลงเพื่อดูชายผู้ไม่มีใครเทียบที่ยืนอยู่ริมถนนและอุ้มผู้หญิงไว้ในอ้อมแขน แต่ข้าง ๆ พวกเขากลับมีรถลินคอล์นที่หรูหราจอดอยู่ด้านข้าง
แปลกมาก ๆ เลย!
ไม่ช้ารถโรลส์-ลอยซ์สีดำก็ขับมาจอดตรงหน้าพวกเขา จิ่งเป่ยเฉินอุ้มอันโหรวเข้าไปในรถ ภายในรถไม่มีกลิ่นฉุนของบุหรี่ อันโหรวจึงรู้สึกโล่งขึ้นมาทันที
แต่ว่าการที่เธอไปโรงพยาบาล เขาก็ต้องรู้เรื่องที่เธอท้อง แบบนี้ก็ปิดบังเขาไม่ได้แล้วสิ?
ถ้าถึงตอนนั้นจะทำยังไงดี?
“นายปล่อยฉันไปไม่ได้เหรอ? ความโลภของนายนี่มันมากเกินไปจริง ๆ” ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอสงบลง แต่ว่าความจริงนั้นใบหน้าของเธอกำลังแสดงถึงความเจ็บปวดใจ
จิ่งเป่ยเฉินไม่ได้ตอบอะไรเธอ เขาก้มศีรษะพลางลูบริมฝีปากเล็ก ๆ อันเรียวบางของเธอที่ห่างหายไปนาน
แม้ว่าแต่ละคำที่ริมฝีปากบางพูดออกมานั้น เขาจะไม่อยากฟังเลยก็ตาม
เขาไม่อยากปล่อยเธอไป และเขาก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปอย่างเด็ดขาด กลัวว่าถ้าเขาปล่อยมือเธอไปแล้วจะไม่ได้เห็นเธออีก
“อันโหรว เรื่องที่หนีหายไปหลังจากนี้เธออย่าได้คิดเป็นอันขาด! ฉันจะไม่ให้โอกาสเธอได้หนีหายไปจากฉันอีก!” ในเมื่อเธอเริ่มเปิดประตูด้วยตัวเอง มันไม่ใช่สไตล์เขาที่จะปล่อยให ห้เธอไป
เขายังคงกอดเธอเอาไว้อย่างแน่น สายตามองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่มีทางปล่อยเธอไปจริง ๆ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
เขามีผู้หญิงคนอื่นแล้วยังต้องการให้เธออยู่เคียงข้างอีกงั้นเหรอ?
หรือว่าเขานั้นชอบเธอจริง ๆ แต่ถึงชอบ เธอก็ไม่ยอมให้สามีของตัวเองมีผู้หญิงและมีลูกด้วยกันหรอกนะ
เด็กน้อยน่ารักที่ชื่อเสี่ยวอวี๋คนนั้น เขาอดทนไม่ไปเจอได้ยังไง ไม่แม้แต่เอ่ยถึงพ่อของตัวเองด้วยซ้ำ
เมื่อมองดูว่าใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว เธอก็เม้มริมฝีปากและพูดขึ้นว่า “ฉันท้อง แต่ไม่ใช่ลูกของนาย”
บูม……..!
จิ่งเป่ยเฉินรู้สึกว่าสิ่งที่เขาได้ยินเมื่อครู่นี้เหมือนประสาทหลอน เธอตั้งครรภ์แต่ไม่ใช่ลูกของเขา!
ไม่ใช่เขาแล้วเป็นใคร?
เขาจับมือเธอแน่นอีกครั้ง บีบแน่นราวกับว่าจะบดขยี้เข้าไปในร่างกายของเขา
“นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก! พวกเราหย่ากันเถอะ! เอกสารใบหย่าฉันก็เซ็นแล้ว หยางหยางกับหน่วนหน่วนก็ยอมอยู่กับฉัน นายคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม? ถึงจะไม่เห็นด้วยก็ไม่ให้นายหรอกเพรา าะนายไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลย!” น้ำเสียงของเธอนั้นนิ่งสงบ แต่ว่าประโยคหลังกลับพูดหนักแน่นขึ้น
แม้ว่าเขาจะดีกับหยางหยางและหน่วนหน่วน แต่เสี่ยวอวี๋ล่ะ!
นั่นก็ลูกของเขาเหมือนกัน ทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น!
รถค่อย ๆ ขับเข้าไปในโรงพยาบาล และตอนนี้ก็เข้ามาในโรงพยาบาลแล้ว
“จิ่งเป่ยเฉิน นายได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดหรือเปล่า ฉันตั้งท้องหนึ่งเดือนแล้ว เป็นช่วงเวลาที่หนีไปจากนายพอดี เด็กคนนี้………ไม่ใช่ลูกของนาย” นี่เป็นวิธีเดียวที่จิ่งเป่ยเฉิน นจะยอมปล่อยเธอไป
จิ่งเป่ยเฉินเงียบไม่ได้พูดอะไร หลังจากที่รถจอดก็อุ้มเธอลงจากรถและรีบเดินไปด้วยความรีบเร่ง
“นายจะทำอะไร?” เธอจ้องมองเขาด้วยสายตาที่เคร่งขรึม
“ทำแท้ง!” โหรวโหรวของเขาห้ามมีลูกกับคนอื่นเด็ดขาด ไม่มีวัน!
“ไม่ได้นะ นี่เป็นลูกของฉัน ไม่เกี่ยวกับนาย นายมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินชีวิตคนแบบนี้?” เธอยื่นมือทั้งสองข้างออกมาจากผ้าห่ม เผยให้เห็นแขนขาวสะอาด
มือทั้งสองข้างดึงไปที่คอเสื้อของเขา “จิ่งเป่ยเฉิน ฉันไม่ทำ! ฉันไม่ทำ!”
“โหรวโหรว ไม่ใช่ว่าเธอบอกว่าไม่อยากจะมีลูกแฝดเหรอ? งั้นพวกเราก็จะไม่ให้กำเนิดดีไหม?” ถ้าหากเป็นลูกของเขา เขาจะไม่ลังเลให้เธอคลอดออกมา แต่ว่าถ้าหากไม่ใช่ลูกของเขา
เด็กคนนี้ก็ไม่ควรลืมตาออกมาดูโลกในตอนนี้
“จิ่งเป่ยเฉิน ถ้านายกล้าให้ฉันทำแท้ง ฉันจะเกลียดนายไปชั่วชีวิต!” เพราะเธออาเจียนออกมาอย่างหนักจึงไร้เรี่ยวแรง มือที่ซีดขาวนั้นแกว่งไปมา
“อันโหรวเด็กดี ไม่ให้กำเนิดออกมาก็เพื่อประโยชน์ของเธอ” พวกเขาไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือน ไม่นึกเลยว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
เขาไม่มีวันในอภัยตัวเอง และยิ่งไม่สามารถให้อภัยเธอได้
ไม่คิดว่าเธอจะไปมีผู้ชายอื่น……….
“จิ่งเป่ยเฉิน นายรู้ไหมว่าการที่ผู้หญิงทำแท้งมันเจ็บปวดทรมานแค่ไหน? ฉันอาจจะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกเลยนะ!” จู่ ๆ เธอก็เอ่ยปากขึ้นอย่างอ่อนแรง พลางมองเขาด้วยดวงตาพร่า ามัว “ฉันไม่อยากทำแท้ง พวกเราหย่ากันเถอะนะ นายไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก!”
“เธอคิดเพ้อเจ้อ” เขาได้ข่าวว่าจิ่งเป่ยเยว่กลับมาเที่ยวเล่นที่เมือง A กลัวว่าเธอจะไม่รู้จึงปล่อยให้เธอกลับมาด้วยตัวเอง
เธอก็กลับมาแล้ว แต่กลับพาเด็กกลับมาด้วย!
อันโหรวกำลังฟังน้ำเสียงที่เย็นชาของเขาที่ดังก้องอยู่ในหู หัวใจของเธอจมดิ่งลงก้นบึ้งในทันที
เขาพูด “เตรียมตัวเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องกลัว ไม่เจ็บหรอก!”
“โหรวโหรว แป๊บเดียว” เขาไม่ได้วางเธอลงบนเตียงแต่กลับอุ้มเธอเข้าไปในห้องผ่าตัด เมื่อประตูห้องผ่าตัดปิดลง ผ้าห่มที่คลุมตัวเธออยู่ก็ถูกเขาดึงออกและหยิบเสื้อคนไข้ ที่สะอาดของโรงพยาบาลมาใส่ให้เธอแทน