อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 392 หุ่นเชิด
ตอนที่ 392 หุ่นเชิด
เธอถูกเขาทำเหมือนกับหุ่นเชิดที่ควบคุมเธอทุกอย่าง ตอนนี้ตัวเธอนั้นสวมชุดคนไข้ ถูกวางไว้บนเตียงผ่าตัดที่เย็นเฉียบ
“จิ่งเป่ยเฉิน แล้วนายจะเสียใจทีหลัง!” เธอหลับตาลงและเอ่ยปากพูดขึ้น
ภายในห้องผ่าตัดนั้นเงียบมาก มีเพียงแค่เสียงลมหายใจของพวกเขาสองคนที่ดังขึ้นมาเท่านั้น ส่วนคนอื่น ๆ ล้วนรออยู่ที่ด้านนอก
จิ่งเป่ยเฉินยืนอยู่ข้างตัวเธอ เขาก้มลงมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอที่ถูกแสงส่องทำให้ดูสว่างมากขึ้น ขนตาที่ยาวเมื่อปิดลงก็ยิ่งเห็นได้ชัด ก่อนจะไม่เห็นร่องรอยการขยับใด ๆ ราวกับว่าตอนนี้ตัวเธอเหมือนเป็นศพไปแล้ว
โหรวโหรวของเขายังมีชีวิตอยู่
ทันใดนั้นเขาก็เอื้อมมือออกไปจับมือที่ขาว ๆ ของเธอ มือของโหรวโหรวยังคงนุ่มและอุ่น “โหรวโหรว อย่ากลัวนะ ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เธอที่นี่เอง”
การพาเธอไปทำแท้ง ต้องขอบคุณความรู้สึกที่ล้ำลึกของเขาจริง ๆ น่าเสียดายที่เธอไม่ต้องการ ไม่ต้องการมันเลยสักนิดเดียว
“นายออกไปได้แล้ว! ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย!” มือของเธอพยายามปัดออก แต่ก็ไม่สามารถปัดออกไปได้ง่าย ๆ
ตอนนี้มือของเขาเริ่มอุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ มันดูผิดปกติเล็กน้อย
“เข้ามา!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
ที่ด้านนอกหมอและพยาบาลต่างก็เดินเข้ามาทันที อันโหรวได้ยินเสียงฝีเท้า ตัวของเธอสั่นเล็กน้อย ถ้าเด็กหายไปแล้วละก็ นั่นเป็นเพราะพ่อของตัวเองที่ลงมือฆ่า
“จิ่งเป่ยเฉิน ฉันเกลียดนาย ฉันเกลียดนายจริง ๆ” เธอพยายามสะบัดมือที่ถูกเขาจับ เมื่อรู้ว่ามันผ่อนคลายลง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่นานก็สูดลมหายใจเข้าไปลึก ๆ เพื่อรอขั้นตอนถูกวางยาสลบทำให้หลับ
จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่ใบหน้าขาว ๆ ของเธอ ก่อนจะรู้สึกปวดหัวมากขึ้น
เขามีไข้มาแล้วหลายวัน ตอนนี้จึงเริ่มรู้สึกมึนหัวเล็กน้อย บางครั้งในช่วงเวลาหนึ่งก็รู้สึกปวดหัวเป็นระยะ ๆ
ก่อนหน้านั้นที่จะจับตัวเธอได้ ช่วงเวลาที่คิดอยากจะโยนเธอลงไปที่เตียง จู่ ๆ เขาก็ปวดหัวขึ้นมาทันที เมื่อสติของเขากำลังจะหายไปก็รีบพยายามปลุกตัวเองให้มีสติอยู่ตลอดเวลา
เพราะคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาในตอนนั้นคือโหรวโหรว ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไป อาจจะทำให้เธอบาดเจ็บได้!
เขาไม่มีทางปล่อยให้เธอบาดเจ็บแน่
อันโหรวคิดว่าตัวเธอนั้นควรจะพูดความจริงดีไหม บอกเขาว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเขา เป็นลูกของเขาจริง ๆ
แต่หัวใจของเธอก็ไม่คิดอยากจะพัวพันกับเขาอีกแล้ว
“ถ้าหากลูกของฉันไม่อยู่แล้ว จิ่งเป่ยเฉิน นายจะปล่อยฉันไปไหม?” เธอคิดจะจากไป พร้อมกับพาหยางหยางและหน่วนหน่วนไปด้วย กลับไปใช้ชีวิตของพวกเธอเหมือนเมื่อก่อน ส่วนตัวเขาก็อยู่เหมือนเดิม คิดจะทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องมาเสแสร้งหลอกลวงต่อหน้าเธออีก
อันโหรวหมดสติไปก่อนจะได้ยินคำตอบของเขา สติของเธอค่อย ๆ เลือนหายไป
นั่นเพราะยาสลบ แรงของเธอไม่มีที่จะฝืนอะไรได้เลย ความตั้งใจที่มีมาก็ไม่ได้ผล เธอต้องการที่จะได้ยินคำพูดของเขาว่าจะปล่อยเธอไปก่อนช่วงเวลาหมดสติ
ภายในห้องผ่าตัดที่เงียบสงบได้ยินแต่เสียงของเครื่องจักรที่กำลังทำงานด้วยเสียงที่เย็นเฉียบ
จิ่งเป่ยเฉินเห็นกางเกงของเธอที่กำลังถูกถอดออก ขาทั้งสองข้างถูกแยกออกจากกัน ส่วนคนก็ขยับไปตามคล้ายกับรูปปั้นที่ถูกจัดเอาไว้
……
อันโหรวไม่รู้ตัวเองเลยว่านอนหลับไปนานเท่าไร แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงการสูญเสียชีวิตหนึ่งไป
ยังไม่ทันลืมตาขึ้น น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาจากดวงตา ก่อนจะยื่นมือไปลูบท้องน้อย ๆ ของตัวเองโดยที่ยังรักษาท่าทีที่สงบ ดูคล้ายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทันใดนั้นมือใหญ่ที่ร้อน ๆ ก็วางลงบนหลังมือของเธอ มันร้อนผ่าว ก่อนจะจับมือของเธอแน่น
เสียงที่แหบแห้งดังขึ้นข้างหูเธอ “โหรวโหรว ดื่มอะไรไหม? นมร้อน ๆ เตรียมไว้แล้ว”
นมร้อน? เหมาะสำหรับคนทำแท้งกินงั้นเหรอ?
“นายออกไปได้แล้ว ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” เธอพูดทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา มีเพียงแต่น้ำตาอุ่น ๆ ที่ไหลออกมาไม่หยุด
จิ่งเป่ยเฉินถือทิชชูไว้ในมืออีกข้าง ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ ด้วยท่าทีของเธอที่ดูเจ็บปวดมากแบบนี้
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?”
“ไม่ใช่ว่านายพอใจแล้วเหรอ ฉันนอกใจ นายถูกฉันสวมใส่หมวกสีเขียว[1] ให้ ผู้หญิงอย่างฉันไม่คู่ควรกับประธานจิ่งหรอก ตัวของคุณยิ่งใหญ่คับฟ้า ปล่อยฉันไปเถอะ! ฉันขอร้อง!” เขายังไม่ทันได้ลืมตามามองโลกก็ถูกพ่อของเขาฆ่าทิ้งไปแล้ว
เมื่อเห็นท่าทีของเธอ เขาก็รู้สึกเหมือนกับถูกระเบิดซัดเข้าไปที่หัว เขาพยายามเช็ดน้ำตาของเธอที่ไหลออกมาอยู่ตลอด “ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันบอกไม่ให้ร้องไง!”
ยิ่งเขาพูดมากเท่าไร น้ำตาของเธอก็ยิ่งไหลไม่หยุด
เธอทำผิดอะไรงั้นเหรอ?
หกปีก่อนคู่รักในวัยเด็กถูกผู้หญิงคนอื่นเข้ามาแทนที่ตัวเธอ ตอนนี้เธอชอบผู้ชายคนหนึ่ง เด็ก ๆ ต่างก็เป็นลูกของเขา มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่ทว่าตัวพ่อของเขากลับมีบ้านเล็กบ้านน้อย เธอไม่ใช่คนคนเดียวของเขา ความรู้สึกแบบนี้เธอไม่ต้องการ!
“เธอร้องไห้เพราะลูกของผู้ชายคนอื่น เธอเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าหัวใจของฉันต้องเจ็บปวดมากแค่ไหน!” เมื่อมองดูท่าทางของเธอที่ร้องไห้ไม่หยุด มันก็เหมือนเขาถูกมีดเล่มหนึ่งแทงเข้าไปที่หัวใจ
“นายรู้แล้วเหรอว่าเป็นลูกของผู้ชายคนอื่น งั้นนายก็ไม่ต้องมาสนใจฉันแล้ว ทำเหมือนกับที่ฉันไม่สนใจนายซะสิ” เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่สนใจ เพราะลูก ๆ ของเขาต่างก็โตกันหมดแล้ว
ทิชชูในมือของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาของเธอที่ไหลออกมา เขาจับมันไว้ในมือแน่นพลางมองดูใบหน้าที่ขาวซีดของเธอ มันคล้ายกับคมมีด เหมือนมีดที่แทงเข้ามาที่อกของเขาไม่หยุด หวังแทงให้เลือดทั่วทั้งตัวของเขาไหลออกมาจนหมด
“อันโหรว เธอใจร้ายมากเลยนะ” เธอไม่รับรู้เลยงั้นเหรอว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาต้องทำอะไรบ้างกว่าจะได้ตัวเธอมา?
ไม่ว่าจะพูดอะไร ไม่ว่าจะทำอะไร เธอกลับคิดจะทิ้งเขาและหายออกไปจากโลกของเขา ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวตามลำพัง
“เทียบกับนายแล้ว ยังไม่เท่ากันหรอก” เขาไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาหลอกลวงเธอให้มาอยู่ที่แบบนี้ ทำให้เธอคิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก
ความจริงแล้วมันเป็นยังไงกันแน่?
เธอมีชีวิตอยู่กับเขาด้วยคำโกหกหลอกลวง คำโกหกของเขานี่มันช่างสวยงามและสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเสียจริง ๆ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเสี่ยวอวี๋เดินเข้ามาในห้องของเธอ ถ้าหากไม่ใช่ว่าเธอรู้ว่าเขามีอันหยาพั่นอยู่ด้วย ตอนนี้เธอก็คงถูกหลอกลวงอยู่ใช่ไหม
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ลุกขึ้นไปหาอะไรกินเถอะ” เขาไม่อยากจะเถียงกับเธอด้วยคำพูดที่ไร้สาระ ตอนนี้ตัวของเธอนั้นสำคัญที่สุด
“ไม่กิน!!”
“ถ้าไม่กินด้วยตัวเอง ฉันจะป้อนให้เธอ ฉันยินดีที่จะป้อนเธอด้วยการใช้…..ปาก” ใบหน้าของเขาค่อย ๆ ยื่นเข้ามาใกล้ใบหน้าเธอ ถึงแม้เธอจะไม่ลืมตามามองก็ตาม
ดวงตาของเธอนั้นยังคงปิดสนิทไม่มองอะไรทั้งสิ้น
เธอค่อย ๆ ดึงมือที่เขาจับออกไป เดิมทีมือของเธอนั้นเย็นเฉียบ แต่เมื่อถูกเขาจับอยู่แบบนั้น ตอนนี้เธอจึงเริ่มรู้สึกว่ามือของตัวเองค่อย ๆ ร้อนมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ?
ตัวเองเพิ่งถูกผ่าตัดไปแบบนั้น ยังมีอารมณ์ลุกขึ้นมาให้คนอื่นดูแลอยู่อีกเหรอ?
เธอคิดอยากจะหัวเราะตัวเองอยู่ข้างใน ก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาดู พลันเห็นดวงตาสีดำนั้นกำลังจ้องมองเธออยู่ ราวกับว่าคิดจะกลืนกินตัวเธอเข้าไปจนหมด
ตาขาวของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดปรากฏขึ้น ใบหน้าดูซูบผอมลงเหมือนเดิม แก้มของเขายังคงดูเหมือนปกติ คล้ายกับว่าตัวเธอนั้นหลับไปเพียงไม่นาน
แต่เมื่อเธอมองไปที่ห้องขนาดใหญ่ ห้องนี้มันเหมือนกับไม่ได้อยู่ในห้องผู้ป่วยแต่อย่างใด
มันคือสวนซิว บ้านของพวกเขา
ทันใดนั้นหัวใจของเธอก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง มันเจ็บเสียยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่มีลูกอยู่แล้ว
มันคล้ายราวกับเห็นผี มือของเธอที่เย็นเฉียบพยายามดันหน้าผากของเขาออกไป สักพักหนึ่งเธอก็ดึงมือของเธอกลับมาทันที
ทำไมมันร้อนขนาดนี้!
ไข้ของเขาขึ้นสูง หรือว่าตัวเขาเองจะไม่รู้?
“จิ่งเป่ยเฉิน นายอยากจะตายตามที่พูดก็ได้นะ!” เธอกัดฟันพูด
“ดูสิ เธอยังห่วงฉัน หัวใจเธอยังมีฉันอยู่นี่ไง” ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขึ้นมา ยิ้มราวกับเด็กน้อย
เหมือนกับคนโง่ เธอสงสัยว่าในหัวสมองของเขานั้นเลอะเลือนอะไรหรือเปล่า?
“หัวใจของฉันมีนายเพราะว่าฉันเกลียดนาย เกลียดที่นายพรากลูกของฉันไป! เด็กคนนั้นเป็นลูกของฉัน นายเองก็รู้ดีว่าฉันรักและเอ็นดูเด็กมากแค่ไหน แต่ว่านาย….” เธอค่อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ จิตใจที่ร้อนรุ่มของเธอปะทุขึ้นมา เธอเอนตัวพิงหัวเตียงและมองเขาอย่างเย็นชา “จิ่งเป่ยเฉิน ฉันเกลียดนาย ได้ยินไหม ทั้งชีวิตนี้จะไม่มีวันให้อภัยคนอย่างนาย นายไสหัวออกไปซะ!”
[1] หมวกสีเขียว สัญลักษณ์ของการนอกใจ ฉบับจีน