อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 405 ครอบครัวสี่คน
ตอนที่ 405 ครอบครัวสี่คน
อันโหรวมองดูห้องที่เงียบสงบและดูว่างเปล่าอย่างอดไม่ได้ เมื่อครู่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาถึงสี่คนอยู่ในห้องด้วยกัน แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับอยู่คนเดียว
ไม่ เธอยังมีลูกในท้องที่อยู่กับตัวเธอด้วย
ถึงแม้จะมีอาการคลื่นไส้แต่ก็ถือเป็นความสุขเล็ก ๆ ลูกของเธอ…..
หลายวันที่ผ่านมานี้ไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อนเลย ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมตอนเช้าหน่วนหน่วนถึงพูดถึงน้องสาว จิ่งเป่ยเฉินจะต้องบอกพวกเขาแน่ ๆ มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้
ไม่กี่นาทีต่อมา ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง จิ่งเป่ยเฉินที่อยู่ด้านนอกเดินเข้ามา ในมือของเขาถือถาดเข้ามาด้วย พร้อมกับพูดขึ้นว่า “อาหารพวกนี้ไม่ได้วางตรงหน้าเธอ เธอดมกลิ่นแล้วคิดอยากจะอ้วกหรือเปล่า?”
เธอส่ายหน้า แม้ต่อให้อยากจะอ้วกแต่ก็ต้องกิน ไม่อย่างนั้นภายในท้องของเธอจะไม่มีอะไรอยู่เลยสักนิด อ้วกแต่ละครั้งล้วนแล้วเจ็บปวดจริง ๆ
จิ่งเป่ยเฉินวางมันลงบนโต๊ะเล็ก ๆ ตรงข้างเตียง ก่อนจะมองพวกชามเล็ก ๆ และตะเกียบ จากนั้นก็ยื่นมันไปไว้ตรงหน้าเธอ คิดอยากจะมองดูเธอกิน
“นายไม่กินหรือไง?” เธอโง่หรือเปล่า ทำไมถึงยังห่วงเขาอยู่ได้!
“เธอก็ป้อนฉันสิ” มือของเขาเปรอะเปื้อนรอยเลือดที่ไหลซึมออกมา วันนี้เขาแทบจะใช้มือมากไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
“เรื่องพวกนี้นายให้คนใช้ทำก็ได้นี่ นายจงใจทำร้ายมือตัวเองใช่หรือเปล่า? แค่คิดอยากจะให้ฉันช่วยพันแผลให้ ให้ฉันคอยป้อน จิ่งเป่ยเฉิน ทำไมนายถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้กันนะ?” ใบหน้าของเธอเย็นชา ตอนนี้อาหารที่อยู่ตรงหน้าแทบไม่มีความอยากจะกินเลยสักนิด
ไร้เดียงสาอย่างนั้นเหรอ?
เขาเพียงแค่อยากให้เธอสนใจเขาให้มากขึ้นเท่านั้นเอง ถ้าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ในสายตาของเธอตอนนี้แทบไม่มีเขาอยู่อีกแล้ว
“เจ็บ” บิ๊กบอสพูดคำหนึ่งออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“เจ็บจนตายก็สมควรแล้ว” เธอก้มหน้าลง ก่อนจะเริ่มกินข้าว แต่ความรู้สึกแทบไม่รู้รสชาติ
มือที่ถือตะเกียบอยู่นั้นค่อย ๆ หยุดลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาและพูดขึ้นว่า “ทำไมจงใจเก็บเด็กเอาไว้?”
“เพราะฉันใจกว้าง” แม้ความเป็นจริงเขาจะหึงจนแทบตาย อยากจะให้เด็กคนนี้หายไปจากโลกด้วยซ้ำไป
เพราะความใจกว้างของเขาอย่างนั้นเหรอ?
หรือว่าเพราะเขาเองก็มีลูกสาวที่เกิดจากการนอกใจ จึงปล่อยให้เธอคลอดลูกแบบนี้?
เป็นลูกของชายคนอื่นด้วยซ้ำ พอถึงตอนนั้นพวกเขาจะกลับไปหรือเปล่า? ใครควรเป็นหนี้ใครกัน มันยุติธรรมดีพอแล้วอย่างนั้นเหรอ?
“ไปเอาชุดทำแผลมาสิ” เธอคิดจะเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขา ถ้าหากไม่เปลี่ยนใหม่เลือดที่ไหลซึมอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้ ดูแล้วตัวเขาคงสั่นไม่หยุดแน่ ๆ
“ไม่ต้องห่วง เธอกินข้าวก่อนเถอะ” เขาทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเธอหิว
“แล้วแต่นาย ร่างกายนาย สุขภาพต้องแข็งแรง แข็งแรงเข้าไว้ ไม่ต้องกลัวละกัน!” เธอยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อ แม้จะไม่ได้รสชาติ แต่อาหารตรงหน้าของเธอก็ค่อย ๆ หมดไปอย่างรวดเร็ว
จิ่งเป่ยเฉินนั่งลงข้าง ๆ เตียงพลางมองดูเธอกินข้าว ตอนนี้เธอต้องกินข้าวเพื่อลูกในท้อง แถมยังประหยัดพลังกายเอาไว้เพื่อเด็กในท้องทั้งนั้น ตอนนี้เหมือนเธอทำทุกอย่างเพื่อลูกอย่างเดียวเลย
คิดจะหย่ากับเขาเพื่อลูกของคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?
หลังจากหย่ากันไปแล้วก็สามารถไปอยู่กับฉีหย่วนหยางได้ และจะยกเด็กไปให้พวกเขา ทิ้งเขา หยางหยาง และหน่วนหน่วนเอาไว้ หรือว่าเธอคิดจะพรากกล่องดวงใจอย่างหยางหยางกับหน่วนหน่วนไปจากเขาด้วยเช่นกัน
ทำไมเธอถึงได้คิดจะพาพวกเขาไปหมดแบบนี้?
วันนี้อันโหรวกินข้าวเร็วกว่าเดิมมาก เธอกินข้าวเสร็จก็หยิบกล่องยาที่อยู่ข้าง ๆ เตียงขึ้นมา ก่อนจะจับไปที่มือของเขาและฉีกผ้าพันแผลเก่าทิ้งทันที
เธอขยับอย่างอ่อนโยน ราวกับเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า
เธอสนใจมือของเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วตัวเขาล่ะ?
เธอไม่คิดจะสนใจมันหน่อยเลยหรือไง?
“โหรวโหรว ในห้องทำงานของฉันมีของบางอย่างหายไป เธอเห็นมันบ้างหรือเปล่า?” นานแล้วที่เขาไม่ได้เปิดลิ้นชักกลางเลย ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนที่มันหายไป
“ไม่รู้หรอก” เธอไม่เคยหยิบของที่อยู่ในห้องทำงานของเขาออกมาเลยสักชิ้น จะรู้ได้ไงว่าเขาทำอะไรหายหรือเปล่า
“มันหายไปเดือนกว่า ๆ แล้ว ช่วยฉันหาหน่อยสิ?” เขาไม่รู้เลยว่าของแบบนั้นจะรบกวนเธอมากเกินไปหรือเปล่า
ไม่ว่าเธอจะหยิบไปหรือไม่ แต่มองดูเธอแล้วท่าทางเหมือนไม่ได้พูดโกหกเลยสักนิดเดียว
เธอไม่ได้เอาไปจริง ๆ เหรอ?
“โหรวโหรว ของนั้นสำคัญมากเลยนะ” เขามองดูเธอที่กำลังพันแผลให้อย่างจริงจัง ใบหน้าของเขาเผยอารมณ์ที่เย็นชาออกมาเล็กน้อย ตั้งแต่ตอนไหนกันที่เธอเอาคนของเขาไปไว้ในหัวใจ แถมยังสำคัญกว่าความรู้สึกอีก?
เป็นไปได้ไหมถ้าหากเขาได้รับบาดเจ็บอยู่ตลอด เธอจะอยู่เคียงข้างเขาแบบนี้
“ฉันจะเอาของนั้นไปจากนายได้ยังไง?” เธอมัดมือของเขาแน่นขึ้น ก่อนจะปล่อยมันออกและเงยหน้าขึ้นไปมองที่เขา
บิ๊กบอสโอบเธอเข้ามาในอ้อมแขน กอดเธอไว้แน่น ไม่มีท่าทีที่จะปล่อย เสียงนุ่มลึกดังขึ้นข้างหูของเธอ “หัวใจของฉัน”
“โหรวโหรว เธอขโมยหัวใจของฉันไปได้ยังไง?” เธอขโมยหัวใจของเขาไป แต่ไม่คิดจะพาเขาไปด้วยเลย
ตัวของเธอแข็งทื่อ ถูกเขากอดแบบนี้ หนำซ้ำเขายังมาพูดเรื่องความรักแบบนี้อีก?
ขโมยหัวใจเขาไป แล้วเธอต้องรับผิดชอบด้วยเหรอ?
ก่อนหน้านั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเขาไม่คิดจะรับผิดชอบหรือยังไง?
หรือว่าเรื่องก่อนหน้านี้จะให้อภัยกับความผิดพลาดในอดีตกัน?
“ทำไมนายไม่ไปหาอัน…….”
“หาทำไม?” จิ่งเป่ยเฉินเงยหน้าขึ้นมองไปที่ตัวเธอ ก่อนจะเอาแขนโอบไว้ที่เอวของเธอและดึงทิชชูจากข้างเตียงมาเช็ดปากเล็ก ๆ ของอันโหรว จากนั้นจึงพูดว่า “โหรวโหรว หัวใจของเธอยังอยู่หรือเปล่า?”
“หัวใจของฉัน…..” ความหมายของเขาเมื่อครู่นี้คืออะไร?
ไม่ยอมให้เธอพูดชื่อนั้น คิดจะขัดจังหวะคำพูดของเธองั้นเหรอ?
“โหรวโหรว เรื่องตระกูลอันนั้นซับซ้อนมาก การที่ฉันไม่ได้บอกเธอเพราะกลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ ถ้าเธอคิดอยากจะรู้ ฉันจะบอกทั้งหมดเลยก็ได้ แต่ขอแค่เธอมีเรื่องอะไรอย่าปิดบังฉันก็พอ แค่บอกว่าต้องการอะไรแค่นั้นเอง” เขารู้ว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องบอกเธออยู่ดี แต่เขาไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไง
“จิ่งเป่ยเฉิน ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าที่นายจะบอกนั้นเป็นความจริง แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าที่นายบอกฉันคือสิ่งที่นายรู้มาหมดแล้ว?” เรื่องแบบนั้นเขายังซุกซ่อนเอาไว้ได้ตั้งนาน ทำไมเธอถึงไม่รู้อะไรเลย
“ถ้าเธอไม่ถาม เธอจะรู้ได้ยังไงว่าฉันพูดความจริงหรือเปล่า?” ใบหน้าที่หล่อเหลาและดูเย็นชาเผยอารมณ์บางอย่างอยู่ตรงหน้าของเธออย่างอดไม่ได้
แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยเป็นผู้ชายที่ชอบพูดชอบอธิบายเท่าไรนัก แต่เมื่ออยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้ เขาพยายามจะยอมทิ้งตัวตนแบบนั้น ครั้งนั้นกลายเป็น ‘แทบจะตาย’ ด้วยเหตุนี้เขาเลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชัดเจน ไม่คิดอยากจะปิดบังอะไรอีกแล้ว
เขาสามารถยอมรับเรื่องลูกของชายคนอื่นที่อยู่ในท้องของเธอได้…..
เขานั้นเป็นคนที่ใจกว้างมากจริง ๆ
“อันหยาพั่น นายเป็นอะไรกับเธอ?” เธอมองเขาด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง น้ำเสียงที่เอ่ยก็สงบไม่สั่นเครือใด ๆ
“เธอรู้งั้นเหรอ?” เขาเองก็สงสัยว่าอันหยาพั่นเอาของในห้องของเขาไป เอาเส้นผมของเขากับหน่วนหน่วนไปแบบนี้ คิดจะทำอะไรกันแน่?
“จิ่งเป่ยเฉิน นายมันขี้ขลาด ไสหัวออกไปเลย!” เขาตอบคำถามของเธอแบบนี้ อีกทั้งยังทำท่าทางมั่นใจอีกด้วย!
“โหรวโหรว เธอขโมยของฉันไป ทำไมฉันต้องออกไปด้วย?” หรือว่าจะไม่ใช่อันหยาพั่นที่ควรออกไป?
แต่เธอไม่ได้อยู่ที่นี่สักหน่อย!
หรือว่าไม่ใช่ว่าเธอรักเขาเลยขโมยของแบบนั้นไป?
ขโมยกระทั่งผลพิสูจน์ของเขาไป
ประหลาดอะไรขนาดนั้น?
ตอนนี้เธอก้มลงมองไปที่จุดใดจุดหนึ่งไปทั่ว มองดูเขาท่าทางแบบนั้น ขโมยอย่างนั้นเหรอ?
ทำไมเธอถึงไม่เชื่อ!
“โหรวโหรว เธอคิดอยากได้งั้นสินะ?” ตอนนี้เธอตั้งท้องอยู่ในช่วงแรก ยังไม่สะดวกที่จะเดินไปไหนมาไหน เขาจะปล่อยเธอไว้แบบนี้ได้ยังไง?
คืนนี้เขาทำได้แค่กอดความรู้สึกที่แทบสัมผัสมันไม่ได้ ดูท่าอีกไม่นานคงได้อึดอัดจนตายแน่
“นายออกไปเดี๋ยวนี้!” เธอไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น เธอคิดอยากจะถีบไสไล่ส่งเขาไป
“โหรวโหรว เธอขโมยของฉันไป เธอจะไล่ฉันไปไม่ได้ แต่เธอไล่เธอคนนั้นไปได้ ฉันจะไม่ปฏิเสธอะไรทั้งนั้นเลยด้วย” เดิมทีตัวของเขาก็ไม่ได้มีความคิดอยากให้อันหยาพั่นมาทำงานที่บริษัทด้วยซ้ำ ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าโหรวโหรวคงไม่มีโอกาสให้เธอสอบสัมภาษณ์แน่ ๆ
“เรื่องแบบนั้นมีแต่ฝ่ายผู้หญิงเหรอที่ผิด นายไม่ผิดเลยอย่างนั้นเหรอ? ใครจะอะไรก็ล้วนต้องตามใจนายอย่างนั้นสิ ไม่อย่างนั้นใครเขาจะมาติดกับนายกัน!” ย้อนกลับไปเมื่อปีนั้น ถ้าหากเธอไม่ถูกวางยาก็คงไม่มีโอกาสได้มาพัวพันกับเขาแบบนี้แน่ ๆ