อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 406 หยางหยางกับหน่วนหน่วนเป็นลูกของเขา
ตอนที่ 406 หยางหยางกับหน่วนหน่วนเป็นลูกของเขา
“ใช่ มันเป็นความผิดของฉันเอง” เขาไม่ควรสงสัยเธอเลย หยางหยางกับหน่วนหน่วนก็เป็นลูกของเขา ไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่ต้องมายืนยัน
เขายอมรับมันแล้วอย่างนั้นเหรอ?
อันโหรวรู้สึกเหมือนหัวของตัวเองกำลังจะระเบิดออกมา เธอรู้สึกอึดอัดภายใต้อ้อมแขนของเขา “นายปล่อยฉันนะ ออกไปเลย สารเลว! นิสัยไม่ดี!”
เขาแค่กอดเธอ ทำไมถึงได้กลายเป็นคนสารเลว?
“โหรวโหรว เธออย่าขยับตัวมากสิ ตอนนี้เธอควรดูแลสุขภาพให้ดี ๆ รักษาอารมณ์ให้ดี ๆ” ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้อยู่ข้างกายเธอ แถมยังไม่อยู่บ้านตั้งหลายวันก็เพราะไปเรียนรู้เ เรื่องการตั้งครรภ์ของผู้หญิงมา
“อยากให้ฉันอารมณ์ดีใช่ไหม?” เธอเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะปิดตาลงและพูดขึ้นว่า “ฉันเหนื่อยแล้ว คิดอยากจะนอนหน่อย”
“ได้” เขาปล่อยตัวเธอและมองดูเธอนอนลง
เมื่อเธอนอนลงก็หันหน้าไปทิศทางตรงข้ามกับเขาทันที
บิ๊กบอสไร้ซึ่งคำพูด ทำเพียงนั่งลงอยู่ข้างเตียง ผมไม่กี่เส้นก็ทำให้โหรวโหรวกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว?
หรือเป็นเพราะว่าหัวใจของเธอนั้นยังสนใจเรื่องการกระทำของเขาอยู่ เพราะงั้นเส้นผมของเขาก็เลยสำคัญ?
ถ้าหากเป็นแบบนั้น หัวใจของเขาก็ถูกเธอขโมยไปอีกแล้วสิ
อันโหรวหันหลังให้กับเขา แต่พยายามเท่าไรก็นอนไม่หลับ ในหัวเต็มไปด้วยคำพูดที่เขาพูดขึ้น
“นายรู้หรือเปล่า?”
“ฉันผิดเอง”
เธอสงสัยอยู่แล้ว แต่เรื่องเล็ก ๆ นั้นมันอาจจะเป็นไปได้ที่ไม่ใช่ลูกของเขา แต่ตอนนี้มันกลับหายไปเพราะคำพูดของเขาทั้งสิ้น
นอนอยู่บนเตียงนานเท่าไรก็นอนไม่หลับ เมื่อเธอลุกขึ้นมานั่งก็เห็นจิ่งเป่ยเฉินกำลังมองเธออยู่
เมื่อครู่นี้เธอคิดอยากจะนอน เขาก็เอาแต่มองเธอไม่หยุด มันทำให้เธอนอนไม่หลับเลยสักนิดเดียว
“ฉันอยากออกไปเดินเล่น” เธอลุกขึ้นออกจากเตียงไปทันที
เธอเดินลงไปที่ข้างล่าง ส่วนบิ๊กบอสเองก็ตามเธอไปไม่ห่าง คอยคุ้มกันทุกย่างก้าว
อากาศในช่วงต้นฤดูร้อนนั้นดีมากจริง ๆ ภายในสวนมีกลิ่นหอมของดอกไม้จาง ๆ ตอนนี้เธอยืนอยู่กลางสวน ส่วนเขาก็ไม่อาจละสายตาที่ร้อนแรงจากด้านหลังของเธอได้เลย
“วันนี้นายไม่ทำงานหรือไง?” เขาว่างมากเลยเหรอ ถึงได้ตามเธอทั้งวันแบบนี้
“ไม่” งานไหนจะสำคัญเท่าเธอ
“เธอได้กลิ่นของดอกไม้ไหม?” เขากังวลจริง ๆ ว่าเธอจะอ้วกออกมาอีกครั้งหนึ่ง
การตั้งท้องแต่เดิมก็เจ็บปวดมากอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้เธอต้องมาแพ้ท้องแบบนี้อีก
“นายคิดเหรอว่าผู้หญิงที่ตั้งท้องจะอ่อนแอ?” อันโหรวเหลือบมองไปที่เขาและพูดขึ้น “อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ลูกของนาย นายจะสนใจอะไรนักหนา?”
ดวงตาของบิ๊กบอสดูดำดิ่งลง ก่อนจะเดินเข้ามาหาเธอสองสามก้าวและยืนอยู่นิ่ง ๆ ตรงหน้าเธอ จากนั้นจึงก้มหน้าลงไปมองเธอ “โหรวโหรว เธอหลอกฉันใช่หรือเปล่า? เด็กคนนี้เป็นล ลูกของฉันใช่ไหม!”
เขาไม่รู้ว่าตัวเองเอาความกล้าที่ไหนมาพูดแบบนั้น แต่เขาก็หวังจริง ๆ ว่านี่จะเป็นความจริง
อันโหรวเงยหน้ามองไปที่เขา เขารู้ได้ยังไงกัน?
ไม่ใช่ว่านายไม่แน่ใจเหรอว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง?
ใบหน้าที่เย็นชาของเธอค่อย ๆ เผยรอยยิ้มและพูดขึ้น “ถ้าหากเป็นลูกของนาย ทำไมฉันถึงไม่ยอมบอกว่าเป็นของนายตั้งแต่แรก ทำไมต้องปล่อยให้นายเอาเด็กออกไปด้วย?”
“เขายังอยู่”
“แต่นายหวังว่าเขาจะไม่อยู่” น้ำเสียงของเธอนิ่งสงบ ปฏิกิริยาของเขาในวันนั้นก็พอจะแสดงให้เห็นอยู่แล้ว
“ไม่มีผู้ชายคนไหนทนได้หรอกที่ภรรยาของตัวเองมีลูกกับผู้ชายคนอื่น!”
ตอนนี้อารมณ์ของเขานั้นดูเย็นชามากขึ้น ราวกับว่าเป็นปีศาจที่ผุดออกมาจากขุมนรกและกำลังโอบอุ้มออร่าแห่งความมืดมิดรอบตัวเธอ
“ถ้าหากเป็นแบบนั้นฉันจะคืนให้กับนายเอง แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกนะที่ทนให้สามีไปมีลูกกับคนอื่น!” เธอควรจะหย่ากับเขาไปเลย จะได้ให้เขากลายเป็นคนสารเลวในสายตาเธอซะ
จิ่งเป่ยเฉินเหมือนกับถูกฟ้าผ่ากลางหัว เมื่อครู่นี้เธอพูดอะไรกันแน่?
เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม!
“โหรวโหรว เธอ…. เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?” เขาบริสุทธิ์มาตลอดหลายปี แถมครั้งแรกของเขาก็ยังเป็นเธอที่ถูกวางยาเมื่อตอนนั้นอีก
“ฉันจะเข้าใจอะไรผิดอีก? เมื่อครู่นายก็ยอมรับมันเองนี่?“ เธอเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะหันหลังและเดินออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่ว่าข้อมือของเธอถูกเขาจับไว้เสียก่อน เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน กลิ่นที่คุ้นเคยของเขาทำให้เธอรู้สึกไม่สบายตัว ขยะแขยงจนคิดอยากจะอาเจียน
“จิ่งเป่ยเฉิน ปล่อยฉันนะ ถ้าจะกอดก็ไปกอดผู้หญิงคนอื่นซะ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน สกปรก!” เธอขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง คิดอยากหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขา
จิ่งเป่ยเฉินกอดเธอไว้แน่น ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาก็ไม่มีทางปล่อย “อันโหรว เธอพูดให้ชัดเจนที”
“นายทำอะไร นายก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี” ดวงตาที่เย็นชาของเธอจ้องมองไปที่เขา เธอยกเท้าขึ้นและเหยียบลงบนหลังเท้าของเขา ก่อนจะพูดต่อว่า “หยางหยางกับหน่วนหน่วนก็อยู่ที่น นี่ นายแน่ใจนะว่าจะไม่ปล่อย? อยากให้พวกเขาเห็นว่านายรังแกฉันงั้นเหรอ?”
“โหรวโหรว….” จิ่งเป่ยเฉินมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอที่กำลังโกรธ
ต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาเข้าใจผิดกันแน่ ๆ
เขาไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ?
เป็นใครกัน?
ตอนนี้เขายังไม่รู้ตัวเองเลยสักนิด แล้วโหรวโหรวไปรู้มาจากที่ไหน?
ตอนนี้ตัวเธอโกรธมาก เขาพูดอะไรไปเธอก็แทบจะไม่ฟังเลยสักนิด ดูท่าเรื่องนี้เขาคงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนแล้วสิ เธอถึงจะได้ใจเย็นและฟังคำพูดของเขาบ้าง
เพราะงั้น….
เขาค่อย ๆ ปล่อยมือออกและมองดูเธอเดินหายไปต่อหน้าเขา
ถึงแม้ว่าโหรวโหรวของเขากำลังโกรธอยู่ แต่อย่างน้อยเขาก็พอจะรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงได้โกรธแบบนั้น
ไม่ได้พูดแค่เรื่องกอดผู้หญิงคนอื่น หนำซ้ำยังพูดถึงเรื่องเด็กด้วย ไม่แน่ว่าอาจจะเข้าใจผิดว่าเขามีลูกกับคนอื่น
เด็กในท้องของเธอต้องเป็นลูกของเขาแน่ ๆ ใช่ไหม?
ถ้าหากปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากตัวเองก็ต้องเป็นที่โหรวโหรว
หลังจากที่ยืนอยู่สักพักหนึ่ง เขาก็เดินเข้าไปในบ้าน ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหนังสือ
ร่างสูงนั่งลงพิงกับเก้าอี้ คิดถึงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้
ในวันแต่งงานอยู่ ๆ เจ้าสาวของเขาก็เปลี่ยนเป็นอีกคน หลังจากนั้นโหรวโหรวก็หายตัวไป หนำซ้ำของที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเขาเองก็……
เขาหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์และโทรออกอย่างรวดเร็วทันที
“พี่เฉิน ทำไมพี่ถึงโทรมาได้!” ฉีเซิ่งเทียนหัวเราะคิกคักที่ปลายสาย
จิ่งเป่ยเฉินขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะสั่งด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาออกไป “ไปตรวจสอบให้ทีว่าใครเอาเส้นผมของหน่วนหน่วนและฉันไปที่โรงพยาบาลหรือเปล่า”
“ทันที!”
หลังจากที่วางสาย บรรยากาศภายในห้องหนังสือก็เงียบสงบอีกครั้ง มีแค่เขาคนเดียวที่อยู่ที่นี่ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าท้องเริ่มหิวแล้ว ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว เขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเ เลยสักนิด
แต่เขาแทบไม่มีอารมณ์อยากจะกินข้าวเลยแม้แต่น้อย
ไม่รู้ว่าตอนนี้โหรวโหรวจะกำลังทำอะไรอยู่?
เธอโกรธเขามากจริง ๆ แต่เรื่องที่เธอโกรธกลับไม่ใช่สิ่งที่เขาทำเลยสักนิด
ถ้าเป็นอันโหรวเมื่อก่อน โกรธเมื่อไหร่ กินข้าวเย็นเสร็จก็แทบไม่สนใจเขา พอตกดึกก็หนีไปนอนกับหน่วนหน่วนแทน
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนละก็ จิ่งเป่ยเฉินคงตามไปดูแล้ว และก็คงพยายามง้อทุกอย่างเพื่อให้เธอกลับมาอยู่ข้าง ๆ เขา แต่ว่าตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
โหรวโหรวโกรธ และเขาต้องรอตรวจสอบว่าใครเป็นคนทำ จะได้ถลกหนังมันคนนั้นให้ตายไปเลย!
พริบตาเดียวเวลาก็ผ่านไปสามวัน สามวันที่ผ่านมานี้อันโหรวลืมตาขึ้นมาก็เห็นจิ่งเป่ยเฉินนั่งอยู่ข้างเตียง สรุปแล้วทั้งวันมักจะมีเวลาสิบสองชั่วโมงที่เธอต้องเจอเขาอยู่ตรงห หน้าตลอด
หยางหยางกับหน่วนหน่วนตอนนี้ถูกส่งไปที่โรงเรียนอนุบาล ส่วนเธอก็นั่งอาบแดดอยู่ตรงระเบียง ในมือถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง ก่อนจะพลิกอ่านไปมาอย่างเบื่อหน่าย ส่วนจิ่งเป่ยเฉินเอง งก็นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ ตรงหน้ามีแก้วกาแฟวางอยู่ สายตาของเขามองแต่เธอ
มองอยู่ตลอดแบบนี้จนทำให้เธอรู้สึกอึดอัด “ฉันว่านายน่าจะว่างมาก ตอนนี้พวกเราไปหย่ากันเถอะ!”
“เธอเคยเห็นใครคนไหนไปเดินเล่นบ่อย ๆ ที่สำนักงานพลเรือนบ้างไหม?” เขายกแก้วกาแฟขึ้นมาพลางมองเธออย่างใจเย็น “ถ้าหากเธอแต่งงานกับฉัน จากนั้นก็หย่าทันที ฉันคิดว่าไม่น่า ดีเท่าไรนะ”
“นายนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ” เธอก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ แม้ว่าเธอจะตั้งท้อง แต่การอยู่บ้านเฉย ๆ โดยไม่มีอะไรทำล้วนแล้วแต่น่าเบื่อจริง ๆ ส่วนตัวเขาเป็นถึงประธานบริหารแต่กลับอย ยู่บ้านกับเธอทุกวัน