อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 407 หรือว่ามีแผนการร้าย?
ตอนที่ 407 หรือว่ามีแผนการร้าย?
ขณะที่เธอกำลังคิดว่าจะออกไปเดินเล่น เธอก็ได้ยินเขาพูดจากอีกฝั่งหนึ่งว่า “เธออยากออกไปตอนกลางคืนไหม?”
“นาย…….” จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมา หรือว่ามีแผนการร้าย?
“วันเกิดของฉีเซิ่งเทียน ไปกินข้าวด้วยกัน” เขาจิบกาแฟ ทั้ง ๆ ที่กาแฟนั้นขมมาก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกหวาน
“อืม”
ถ้าเป็นวันเกิดของฉีเซิ่งเทียนก็คงจะได้เจอหลินจือเซี๋ยว ไม่ได้เจอเธอตั้งนาน รู้สึกคิดถึงเธออย่างมาก
ได้ออกไปดีใจขนาดนั้นเลย?
จิ่งเป่ยเฉินมองหน้าเล็ก ๆ ของเธอที่ยิ้มออกมา มือที่ถือถ้วยกาแฟจับแน่นขึ้น
เธอคิดอยากจะออกไปเดินเล่นหรือว่าคิดอยากจะหาวิธีหนีออกไปจากที่นี่?
ในตอนกลางคืนอันโหรวมองเสื้อตัวนอกที่สวมทับชุดเดรสของเธอโดยไม่พูดอะไร “หรือว่านายไม่รู้ว่าคนท้องมีอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้น?”
“ไม่เป็นหวัดก็พอ” คืนนี้อากาศหนาว เขากลัวว่าร่างกายของเธอจะเย็นเกินไป
“จิ่งเป่ยเฉิน ฉันนอกใจนาย แต่ยังเป็นห่วงฉันแบบนี้ อยากจะกลับมากินหญ้าเก่าหรือไง?” ผู้ชายคนนี้ดูเป็นเจ้าของเกินไปหรือเปล่า?
รับได้กับผู้หญิงที่นอกใจ แม้ว่าเธอไม่ได้นอกใจจริง ๆ แต่ว่าในสายตาของเขาก็ควรมองเธอเป็นคนเลวถึงจะถูก
“โหรวโหรว เธอเมารถหรือเปล่า?” เขาจำได้ว่าวันนั้นเธอบอกว่าเมารถ
อันโหรวเม้มปาก เขาทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดไปเมื่อครู่
บิ๊กบอสเห็นว่าเธอไม่พูดจึงยื่นมือมาโอบตัวเธอไว้ เขาไม่เชื่อว่าโหรวโหรวของเขาจะนอกใจ ถ้าหากว่าเธอนอกใจและไปอยู่กับฉีหย่วนหยางจริง ๆ หกปีก่อนที่หนีหายไปก็คงจะเกิดขึ้นนานแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก
โรงแรมนั่วเทียน เธอและจิ่งเป่ยเฉินเข้าไปในห้องโถงและกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาทันที
เรื่องในพิธีแต่งงานระหว่างพวกเขาทั้งสองที่เกิดขึ้นนั้นยังคงเป็นที่จับตามอง ตอนนี้พวกเขากลับปรากฏตัวด้วยกันอีกครั้ง
หลินจือเซี๋ยวเห็นเธอก็รีบลุกจากโซฟาทันที เธอเดินยิ้มพลางหรี่ตาเข้าไปหาเธอตรงหน้าและจับแขนของเธออย่างตื่นเต้น “โหรวโหรว ในที่สุดเธอก็กลับมา ไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”
ต่อไปนี้เธอไม่ต้องเห็นใบหน้าที่เย็นชาของบิ๊กบอสอีกต่อไปแล้ว มีคนคอยหนุนหลังเธอแล้ว
“ฉันไม่เป็นอะไร สบายดี” คนในห้องโถงนั้นมีไม่มาก ล้วนเป็นคนที่รู้จัก
ทุกคนต่างมองมาที่เธอในตอนนี้ เธอยิ้มและเดินเข้าไปด้านใน
เดิมทีหลินจือเซี๋ยวคิดอยากจะลากอันโหรวไปคุยกัน แต่ว่าท่าทางที่เย็นชาของบิ๊กบอสนั้นทำให้เธอไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก จึงรีบคืนภรรยาของเขากลับไปทันที
ยังไงโหรวโหรวก็กลับมาแล้ว หลังจากนี้พวกเขายังมีเวลาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีกเยอะแน่ ๆ
จิ่งเป่ยเฉินโอบเอวอันโหรวให้นั่งลง ฉีเซิ่งเทียนถือแก้วไวน์มาตรงหน้าพวกเขาด้วยท่าทางที่ยิ้มแย้ม “พี่เฉิน พี่สะใภ้ พวกพี่จะแต่งงานกันเมื่อไหร่! อย่าลืมให้ฉันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยนะ! ถ้าไม่ยอมให้ฉันเป็นครั้งหน้ามีเพียงแค่พวกพี่เท่านั้นที่จะให้ฉันเป็นส่วนหนึ่งของเพื่อนเจ้าบ่าวสาว! ใช่ไหม…….เซี๋ยวเซี๋ยว?”
ฉีเซิ่งเทียนหันไปมองหลินจือเซี๋ยวที่หยิบแก้วน้ำผลไม้มาไว้ข้าง ๆ เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก่อนจะวางน้ำผลไม้และหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหาร
พวกเขาเพียงแค่หลับนอนด้วยกันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่มีเรื่องอะไรนอกเหนือจากนี้
“ไม่ดื่มไวน์” จิ่งเป่ยเฉินพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“ใช่ ๆ ไม่ดื่มไวน์!” ฉีเซิ่งเทียนรีบหยิบแก้วไวน์ออกมาจากตรงหน้าพวกเขา
“นมร้อน” บิ๊กบอสพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์
คนบนโต๊ะต่างประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจิ่งเป่ยเฉินจะดื่มนมร้อน?
อันโหรวหัวเราะขึ้นมา “สองแก้ว”
จิ่งเป่ยเฉินหันไปมองเธอ ใบหน้าที่เย็นชาเผยรอยยิ้มออกมา สองแก้วในความหมายของเธอนั้นคือเธอและเขาคนละแก้วงั้นเหรอ?
“ฉันดื่มสองแก้ว นายตามสบาย” สายตาของเขานั้นคงไม่คิดว่าเธอจะสั่งให้เขาหรอกใช่ไหม?
หลงตัวเอง!
“โหรวโหรว ฉันไม่ดื่ม” ถ้าเธอไม่สั่งให้เขาก็ไม่ดื่ม
เธอไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ก่อนจะหยิบตะเกียบไพ่สีดำขึ้นมาและเสียงดังของหมิ่นลี่ที่อยู่ตรงข้ามก็ดังขึ้นมาทันที
“ฉีเซิ่งเทียน นายไม่ได้บอกว่ายังมีแขกอีกคนเหรอ? ใครกัน! ทำไมฉันไม่เห็นเลย!” หมิ่นลี่มองไปที่ฉีเซิ่งเทียน ที่เขาพูดคงไม่ได้หมายถึงพี่เฉินกับพี่สะใภ้แน่ ๆ
ทันใดนั้นเสียงที่ดังลั่นของหมิ่นลี่ก็ทำให้อันโหรวอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ เสียงของเขาทำให้เธอตกใจ เธอนั้นไม่เป็นอะไร เธอแค่กลัวว่าเขาจะทำให้ลูกในท้องของเธอนั้นตกใจไปด้วย
ตอนแรกสีหน้าของจิ่งเป่ยเฉินก็เย็นชาอยู่แล้ว เมื่อหมิ่นลี่ตะโกนแบบนั้น ทั่วร่างกายของเขาก็เผยไอเย็นออกมาพลางเหลือบมองไปที่เขาด้วยดวงตาสีดำสนิท “เสียงดังอีกก็ออกไป!”
หมิ่นลี่ลดเสียงลงและยิ้มอย่างเขินอาย “พี่เฉิน นี่ก็เป็นเสียงปกติของฉันนะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องโกรธ” อันโหรวดึงเขา หมิ่นลี่พูดเสียงแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เขาควรจะชินไม่ใช่เหรอ?
“ไม่สบายหรือเปล่า?” บิ๊กบอสที่ถูกดึงเบา ๆ ความโกรธบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที ก่อนจะก้มลงมองเธอ “ถ้าหากว่าเธอไม่สบาย พวกเรากลับก่อนได้”
“พี่เฉินไว้หน้ากันหน่อยสิ! วันเกิดฉันจะไปแบบนี้งั้นเหรอ?” ฉีเซิ่งเทียนหันหน้าไปมองจิ่งเป่ยเฉินและอันโหรว “ใช่ไหม! พี่สะใภ้!”
“ไม่กลับ” เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น
หมิ่นลี่มองดูปฏิสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็รู้ว่าตัวเองนั้นทำผิด เขาจึงตัดสินใจเงียบ
ทุกคนสามารถสังเกตได้ว่าพี่เฉินอารมณ์ไม่ดีมาระยะหนึ่งแล้ว และในที่สุดพี่สะใภ้ของพวกเขาก็กลับมา ดังนั้นจึงควรดูแลอย่างระมัดระวัง
จู่ ๆ บรรยากาศบนโต๊ะกินข้าวก็เงียบลง บิ๊กบอสไม่ได้กินข้าวแต่คอยดูแลเธอ จากการสังเกตมาหลายวันทำให้เขาพอจะรู้ว่าโหรวโหรวชอบกินอะไร ไม่ชอบกินอะไร เขารู้ดีว่าเธอชอบรสชาติแบบไหน
อันโหรวถูกเขาดูแลจนเคยชินไปเสียแล้ว แม้คนมากมายอยู่ที่นี่ เขาก็ยังคงเหมือนเดิม
โดยเฉพาะสายตาทางด้านซ้ายที่มองมาอย่างแรง ตอนที่เธอเข้ามายังไม่ทันสังเกต ตอนนี้เพิ่งรู้ว่าด้านข้างของถังซั่วนั้นคือถังซือเถียน
เหมือนว่านานแล้วที่ไม่ได้เจอเธอ เธอปรากฏตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
แต่ว่าสายตาของเธอนั้นดูจะกลับตัวช้าไป เธอดูน่าเกลียดชังขนาดนั้นเลยหรือไง?
จิ่งเป่ยเฉินคนสารเลว ถ้าเธอคิดอยากจะได้ เธอก็มาเอาไปเลย!
ทันใดนั้นประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออก เสียงที่อ่อนโยนตะโกนเข้ามา “พี่เขย…….”
อันหยาพั่นที่สวมชุดกระโปรงสีม่วงเปิดไหล่เดินเข้ามาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจเพราะภายในห้องโถงนั้นมีคนอยู่มากมาย โดยเฉพาะข้างจิ่งเป่ยเฉินที่มีอันโหรวอยู่
เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทำไมถึงไม่มีสัญญาณอะไรเลย?
จิ่งเป่ยเฉินให้เธอออกมากินข้าว เธอคิดว่าจะมีแค่พวกเขาสองคน!
ไม่คิดเลยว่าจะมีคนเยอะมากมายขนาดนี้
และลูกพี่ลูกน้องก็อยู่ที่นี่ด้วย
“คุณอันมาแล้ว เชิญนั่ง!” ฉีเซิ่งเทียนตะโกนพลางหัวเราะก่อนคนแรก
อันหยาพั่นเดินเข้ามา เธอไม่อาจประมาทได้ ค่อย ๆ มองดูสถานการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงค่อยพูด
หลินจือเซี๋ยวเหลือบมองฉีเซิ่งเทียนที่ดูใส่ใจแบบนั้น ภายในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ ไอ้พ่อพันธุ์ม้า!
“ผู้จัดการฉี เห็นน้องสาวคนสวยแล้วดูกระตือรือร้นขนาดนั้นเลยเหรอ?” เธอถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“เซี๋ยวเซี๋ยว นี่เธอกำลัง….หึงเหรอ?” ถ้าหากว่าเธอหึงขึ้นมาละก็ เขาจะดีใจอย่างมาก
“ผู้จัดการฉีคิดมากเกินไปแล้ว มาเป่าเทียนขอพรอธิษฐานเถอะ!” หวังว่าสักวันเธอจะหึง แต่เธอกลับไม่มีทางหึง