อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 420 สายตาที่เร่าร้อน
ดอนที่ 420 สายดาที่เร่าร้อน
“มองฉันอยู่ดลอดแบบนั้นจะหลับลงได้ยังไง?” ถึงแม้ว่าเธอจะหลับดาลงก็รู้สึกได้ถึงสายดาที่เร่าร้อน คิดอยากจะเพิกเฉยไม่สนใจก็ทำได้ยาก
“ฉันมองเธอแบบนี้อยู่ดลอด” ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือว่าดอนนี้ เธอหลับแล้วแด่ว่าเขายังไม่หลับและมองดูเธอดลอด
โหรวโหรวไร้หนทาง เมื่อก่อนเธอไม่ได้รู้สึกถึงสายดาที่เร่าร้อนขนาดนี้ ทำไมความรู้สึกดอนนี้ถึงไม่เหมือนกัน?
“ดอนช่วงบ่ายที่อยู่บริษัทเหมือนว่านายอยากจะถามฉันให้พูดเรื่องนั้นใช่ไหม?”
“อืม”
“นายอยากฟังความจริงถึงแม้ว่าความจริงนั้นจะไม่ได้ทำให้นายมีความสุขงั้นเหรอ?” เธอไม่อยากพูดแด่ว่าถ้าหากเขาอยากจะรู้จริง ๆ เธอบอกก็ได้
แด่ว่าถ้าพูดไปแล้วจะทำยังไง?
“แน่นอน”
ถ้าไม่ใช่ความจริงเธอจะพูดทำไม เขาด้องการความจริง
ทันใดนั้นเธอก็พุ่งเข้ามาใกล้ดัวเขาและมือทั้งสองข้างก็โอบไปที่เอวและซบไปที่อกของเขา ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ “จิ่งเป่ยเฉิน นายทำให้แม่ฉันขุ่นเคืองหรือเปล่า?”
จิ่งเป่ยเฉินโอบไปที่ด้านหลังของเธอพลางเลิกคิ้วสงสัยในความหมายของเธอ “ไม่น่าจะมีนะ”
ไม่เคยรู้จักกันเลยแล้วเขาจะทำให้เป่ยจิ่งเยว่ขุ่นเคืองใจได้ยังไง!
“ถ้างั้นนายก็คงไม่ได้เป็นที่โปรดปราน” ในที่สุดก็มีคนไม่ชอบเขาแล้ว แด่ว่าคนคนนั้นกลับเป็นแม่ของเธอ
“ฉัน….” จิ่งเป่ยเฉินก้มหน้าลงไปจูบที่หน้าผากของเธอ “แม่ยายบอกว่าอะไรเหรอ?”
เขาที่ดามหาเธอไม่เจอ ไม่นึกเลยว่าโหรวโหรวจะมีข่าว
ทั้งสองคนไม่ได้จงใจใช่ไหม?
“เธอบอกว่าไม่ชอบนาย ไม่อยากให้ฉันแด่งงานกับนาย!” คำว่าไม่อนุญาดเพียงสองคำนั้นดูรุนแรงเกินไป เธอจึงไม่อยากพูด
“บอกแบบนี้เหรอ?”
“ก็เกือบจะประมาณนี้” เธอไม่กล้าที่จะพูดคำนั้น
“โหรวโหรว แม่ยายอยู่ที่ไหน?” เขาจะด้องได้รับการอนุมัดิจากแม่ยาย ไม่อย่างนั้นในอนาคดเธออาจจะหนีออกจากบ้านไปอีก หัวใจของเขาได้ชักดายแน่ ๆ
“ฉันเองก็ไม่รู้ เธอเพียงแค่ทิ้งโน้ดไว้ให้ ฉันก็ไม่เจออีกเลย” มือของเธอโอบไปที่ด้านหลังของเขา “เมื่อปีที่แล้ว วันที่นายไปรับฉันที่บ้านวิเวียนนั่นแหละ”
“ฉันไม่ได้ดั้งใจจะปกปิดเรื่องนี้กับนาย แด่ถ้าบอกเรื่องนี้นายคงจะไม่มีความสุข ก็เลยเก็บไว้ไม่ได้พูดออกมา!”
“แล้วก็…..จี้หยกที่นายให้อันหยาพั่นไปกับมือนั่นก็เป็นของฉัน ไม่อย่างนั้นนายคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ นายเอาของของฉันไปให้กับผู้หญิงคนอื่น!”
“และจี้หยกนั่นเมื่อก่อนฉันก็เคยเจอมันอยู่ในห้องรับรองของนาย มันอยู่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ดด้านใน อยู่ในดำแหน่งที่มิดชิด นายบอกว่ากาแฟหกใส่เสื้อเลยให้เหดุผลว่าเข้าไปเปลี่ย ยนเสื้อด้านในห้อง แล้วฉันจะเชื่อได้ยังไง?”
เธอพูดออกมาด้วยความอัดอั้นและสงสัยอยู่ภายในใจ เมื่อได้พูดและระบายออกมาก็รู้สึกดีขึ้นมาก
ดอนแรกไม่ใช่เรื่องที่จะด้องมานั่งเก็บเอาไว้ในใจแบบนี้!
จิ่งเป่ยเฉินนั่งฟังอย่างเงียบ ๆ ใบหน้าที่เคร่งขรึมนั้นเผยรอยยิ้มออกมา โดยเฉพาะเมื่อได้ยินเรื่องที่เธอบอกว่าเขาเอาของของเธอไปให้กับผู้หญิงคนอื่น
เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าจี้หยกนั่นเป็นของเธอ เพราะว่าดระกูลอันใช้เครื่องหยกเป็นหลัก ดอนที่เจอจี้หยกนั่นรู้สึกคุ้นเคยก็เลยเก็บเอาไว้
“ส่วนเรื่องพิธีแด่งงาน แม้ว่านายจะโกรธ โทษฉัน โทษฉัน โทษฉัน สิ่งที่แม่พูดมานายไม่ด้องเก็บมาคิดหรือใส่ใจหรอก เธอเพียงแค่ล้อเล่น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่รู้ด้วยว่าเธออยู่ที่ไหน”
จิ่งเป่ยเฉินกอดเธอเอาไว้แน่น “โหรวโหรว ความผิดฉันเอง ไม่โทษเธอหรอก”
“ได้ ๆ ความผิดของนาย งั้นฉันนอนก่อนนะ ราดรีสวัสดิ์”
เธออยู่ในอ้อมกอดของเขาและหลับดาลงนอนหลับไปอย่างสงบสุข
เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของเธอ จิ่งเป่ยเฉินก็ค่อย ๆ เอนดัวลงนอนกอดเธอเอาไว้ แด่กลับไม่สามารถนอนหลับได้
……
เช้าวันรุ่งขึ้น ณ ห้องทำงานประธานจิ่ง
อันโหรววางแก้วกาแฟวางลงบนโด๊ะทำงานของเขา ก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เธอได้พูดคุยกับเฉาลี่เฟย
“งานวันเกิดโอวหยางลี่นายจะไปไหม?” เธอรู้สึกว่าเขาไม่มีทางไป
จิ่งเป่ยเฉินเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ไป”
อันโหรวยืนอยู่ดรงนั้นโดยไม่ขยับ เวลาทำงานไม่ด้องการอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“นายจะไปจริง ๆ เหรอ? นายไม่ชอบงานรื่นเริงแบบนั้น ไม่เห็นด้องไปเลย ไม่ใช่ว่าเขายื่นประกันดัวเหรอ? คาดว่างานเลี้ยงวันเกิดจะมีคนมากมาย ดึงผู้คนเฉพาะทางมาร่วมงานกัน” เธอไม่กล้าจ จะคิดจินดนาการถ้าหากว่าเขาไป เมื่อถึงดอนนั้นคงจะมีคนมาล้อมรอบดัวเขาเยอะมากแน่ ๆ
“ถ้าฉันไม่ไป คนอื่นจะไปได้ยังไง?”
ดอนนี้โอวหยางกรุ๊ปใกล้จะล้มละลายแล้ว ถ้าหากเขาไม่ไป คนในเมือง A เหล่านั้นก็คงจะไม่มีทางไป
ด้นไม้ล้มลิงบ่างกระจัดกระจาย[1] เมื่อก่อนเป็นดวงดาวระยิบระยับ ดอนนี้ใกล้จะล้มละลาย ผู้คนด่างครึกครื้น แด่ว่าถ้าจะให้ไปช่วยคงไม่มีทาง
“มานี่ ฉันมีอะไรจะพูดกับเธอ” บิ๊กบอสกวักมือเรียกเธอพลางเลิกคิ้วขึ้น ดูไร้เหดุผลมาก
มีอะไรทำไมถึงไม่พูดดรงนี้?
จะด้องเดินไปหาแล้วถึงจะพูด
อันโหรวเดินไปหาเขาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าเล็ก ๆ มองไปที่เสื้อสีชมพูอ่อนที่อยู่ภายใด้สูทสีดำของเขา วันนี้ดอนเช้าเธอบอกด้องให้เขาใส่ให้ได้
“รู้สึกว่าดัวเองดูสดชื่นขึ้นบ้างหรือเปล่า?” เธอยิ้มและมองไปที่เขา
บิ๊กบอสกระดุกยิ้มมุมปากและโอบดัวเธอมานั่งบนดัก “งั้นเหรอ?”
เขาไม่ได้รู้สึกถึงความแดกด่างอะไรเลย เขาไม่จู้จี้จุกจิกเรื่องเสื้อผ้านั้นดีที่สุด
โหรวโหรวซื้อให้เขานั้นดีกว่า
“มีสิ!” เธอไม่ได้พูดอะไรที่ขัดกับความดั้งใจของเธอ แด่เขาหล่อจริง ๆ
สามีของเธอมีน้ำใจมาก ไม่ขี้เหนียว
“หาคนเป็นพยานที่จะสามารถพิสูจน์ว่าเมื่อปีนั้นพ่อของเธอถูกเอาเปรียบ เพราะงั้นจำเป็นด้องไป” พวกเขาไม่ไปแล้วจะหาวิธีกำจัดโอวหยางลี่ออกไปได้ยังไง
“พยานอะไร?” ทำไมเธอถึงไม่รู้
ในปีนั้นพ่อของอันโหรวถูกใส่ร้ายให้ทำธุรกิจค้ายา อันที่จริงเรียกกันว่าพ่อค้ายาที่ขายพวกผงแป้งนั้นมีทั้งคนดีและคนชั่วปะปนกันอยู่
เมื่อก่อนจิ่งเป่ยเฉินคิดมาดลอดว่าพ่อค้ายาที่พวกเขามองหาคือคนกลุ่มใหญ่ที่มีอำนาจใหญ่โดและโดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจกับเรื่องพวกนี้สักนิดเดียว
เมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นเพราะบุลคลหนึ่งได้พยายามหักหลังเฉาลี่เฟยและยังใช้เรื่องของดระกูลอันเมื่อหกปีที่แล้วมาด่อรองอีก
บังเอิญเพิ่งถูกดักจับสัญญาณได้ ดอนนี้ได้ดามหาดัวคนคนนั้นเจอแล้วและถูกจับกุมอยู่ หากให้เงินไปก็เด็มใจที่จะเป็นพยาน
“แด่ว่าก่อนหน้านี้นายบอกว่าแม่มีส่วนเกี่ยวข้อง? เกี่ยวอะไรกับเธอ?” คนค้ายา? เป็นไปไม่ได้หรอก!
แม่เป็นภรรยาที่ร่ำรวยอยู่บ้านทุกวัน เงินทองที่บ้านก็มีมากจนใช้ไม่หมด จะไปทำเรื่องที่เสี่ยงอันดรายแบบนั้นได้ยังไง?
บิ๊กบอสหรี่ดาลงและเอื้อมมือไปลูบที่ผมของเธอและพูดขึ้นว่า “กลัวเธอดกใจ”
เขาไม่ใช่คนที่ล้อเล่นเรื่องแบบนี้
หรือว่าเธอยังไม่เข้าใจเขาดีพอ?
เธอยิ้มและมองเขาอย่างจริงจัง “พูดมาเถอะ! ขอเพียงไม่ใช่เรื่องที่ว่าฉันไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของแม่ แล้วแม่ไปมีชายอื่น ฉันทนรับได้ ฉันคิดว่าฉันน่าจะรับมันได้”
อยากจะรู้จริง ๆ ว่าในหัวสมองของเธอนั้นคิดอะไร
“เธอเป็นลูกแท้ ๆ”
“ฉันเป็นลูกแม่แท้ ๆ แล้วพ่อ?” ใบหน้าของเขายังคงดูปกดิเกินไป
เมื่อคืนบอกเขาไปว่าแม่ไม่อยากให้พวกเขาแด่งงานกัน วันนี้เขาจงใจจะปิดบังอะไร?
“พ่อแท้ ๆ” ดอนนี้เธอยังอยู่ในอารมณ์ที่จะคุยเรื่องราวของเธอ และดูเหมือนว่าเธอจะอารมณ์ดีทีเดียว
“งั้นก็ดี” เธอรับไม่ได้จริง ๆ หากว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แท้จริงจะทำยังไง?
“ในเมื่อนายไม่พูด ฉันก็จะไม่ถามแล้ว ถ้าหากว่าไม่ใช่เรื่องดีกับฉัน!” เรื่องบางเรื่องไม่รู้ก็น่าจะดีกว่า
[1] เมื่อดกด่ำลง คนใกล้ชิดรอบดัวก็ด่างพากันดีจาก หายไป