อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 422 ระหว่างทางที่ออกไป
ตอนที่ 422 ระหว่างทางที่ออกไป
“โอเค!”
เธอรู้สึกว่าพวกเขาควรจะพูดน้อยกว่านั้น น่าจะไม่ถึงห้านาที เว้นแต่ไม่รวมเวลาระหว่างทางที่เดินออกไป
เฉาลี่เฟยยืนอยู่ข้าง ๆ พลางมองดูแผ่นหลังของทั้งสองคนที่เดินออกไป ใบหน้าของเธอพลันรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที
เธอแอบเผลอกระทืบเท้าอย่างโมโห ก่อนจะรีบเดินห่างจากตัวจิ่งเป่ยเฉินไปทันที
จิ่งเป่ยเฉินยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนด้วยอารมณ์ที่เย็นชา มีหลายคนพยายามจะทักทายเขา แต่ก็ถูกตอบกลับไปด้วยสายตาที่เยือกเย็นจนต้องก้าวถอยหลังเดินกลับไป
ประธานจิ่งตอนนี้ค่อนข้างโกรธมาก ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนี้ผลที่ตามมาจะต้องร้ายแรงแน่ ๆ
กลุ่มโอวหยางกรุ๊ปเห็นทีคงจะร่วมมือด้วยกันไม่ได้แล้ว
ที่นอกห้องจัดเลี้ยง โอวหยางลี่เดินเข้าไปในห้องรับแขก อันโหรวเองก็เดินตามมาเช่นกัน เธอไม่คิดว่าเขาจะพาเธอมาที่ห้องรับแขกแบบนี้
“ที่นี่แหละ! นายคิดจะพูดอะไรกันแน่” เธอมองเขาด้วยสีหน้าและแววตาที่ไร้อารมณ์โดยไม่แยแสใด ๆ ดวงตาของเธอตอนนี้แทบไม่มีความรักใคร่ในตัวเขาเลยสักนิดเดียว
โอวหยางลี่หันหลังก่อนจะเดินเข้าไปใกล้เธอและดันเธอไปติดกับกำแพง เขาก้มหน้าลงไปมองใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอทันที
“อื้อออออออ….” เธอพยายามตะเกียกตะกายและผลักเขาออกอย่างเต็มแรง
เมื่อครู่นี้เธอไม่ทันได้ระวังตัวจึงถูกเขาขโมยจูบไป
นี่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
“โอว……หยางลี่!”
เธอยกเท้าขึ้นก่อนจะเตะไปที่เขาอย่างรุนแรง ในที่สุดโอวหยางลี่ก็ปล่อยเธอ
โอวหยางลี่รู้สึกที่มุมปากของตัวเองมีเลือดไหล ก่อนจะมองไปที่ใบหน้าของอันโหรวด้วยความโกรธ ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา
“สารเลว!”
โอวหยางลี่ถือโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะเปิดบางอย่างให้เธอดู “วิดีโอเมื่อครู่นี้ถูกถ่ายเอาไว้แล้ว โหรวโหรว ตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่ช่วยฉันได้ ไม่อย่างนั้นละก็ เธอรอดูวิดีโอนี้ เผยแพร่ออกไปได้เลย”
“วิดีโอเดียวจะบอกอะไรได้กัน!” อีกอย่างก็ไม่ใช่ว่าเธอเต็มใจสักหน่อย
เพียงแค่ต้องการใช้วิดีโอเล็ก ๆ น้อยนี่บันทึกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยกลุ่มโอวหยางกรุ๊ปงั้นเหรอ? ดูท่าเขาจะให้ความสำคัญกับแค่วิดีโอมากเกินไปแล้ว!
“ในสายตาของเธออาจจะบอกอะไรไม่ได้ชัดเจน แต่ในสายตาของจิ่งเป่ยเฉินมันคงจะอธิบายอะไรได้บ้างแหละ” โอวหยางลี่กำโทรศัพท์แน่น “งานแต่งของพวกเธอก็เพิ่งเกิดเรื่องไป ตอนนี้ยังอ ออกมาด้วยกันอีก ถ้าหากรวมวิดีโอนี้เข้าไปอีกละก็ ผู้คนที่อยู่ในงานเลี้ยงมากมายเหล่านั้นจะต้องเอาวิดีโอนี้ไปเปิดเผยให้คนทั่วทั้งเมือง A ได้ดูแน่ ส่วนจะคิดอะไรกับพวกเธอนั้ น! ก็คิดว่าเธอนอกใจมีผู้ชายคนอื่น ในใจเธอไม่มีเขาอยู่เลยไง!”
“นายคิดเหรอว่าจิ่งเป่ยเฉินจะเชื่อคำพูดนาย?” ตอนนี้อีกไม่กี่นาทีก็ครบห้านาทีแล้ว จิ่งเป่ยเฉินต้องออกมาตามเธอแน่ ๆ
อันโหรวสงสัยจริง ๆ เป็นเพราะเธอท้องหรือเปล่า ทำไมตอนนี้ในหัวของเธอรู้สึกกระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก
คลอดลูกหนึ่งจะโง่ไปสามปี[1] คงไม่มีทางเกิดขึ้นจริง ๆ กับตัวเธอใช่ไหม?
“ฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น มีวิดีโอก็เพียงพอแล้ว! โหรวโหรว เมื่อครู่เป็นเธอที่หยุดเดินก่อนเองนะ” เขาหันตัวกลับ
“โอวหยางลี่ นายมันน่ารังเกียจ บริษัทโอวหยางกรุ๊ปอยู่มาได้ทุกวันนี้มันไม่ง่ายเลยไม่ใช่หรือไง” วิธีการของเขาที่ใช้ในห้างตอนนี้ กลุ่มบริษัทโอวหยางกรุ๊ปได้กลายเป็นอีกแบบไปแล ล้ว
“จิ่งเป่ยเฉินน่ารังเกียจกว่าฉันเยอะ ตอนที่เธอพูดแบบนั้นคงไม่คิดถึงเขาบ้างเลยใช่ไหม? หรือว่าในสายตาของเธอมีแค่ฉันเท่านั้นที่ดูไม่ดี แล้วความดีที่ฉันมีเธอมองไม่เห็นบ้างเล ลยหรือไง?” ไม่รู้ว่าในสายตาของเธอ เขาอยู่ในสถานะแบบไหนกันแน่?
“ทำไมฉันต้องเห็นความดีของนายด้วย? แล้วนายดีกับฉันมากเลยงั้นเหรอ?” เธอมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา พลางทำท่าทางเหมือนรังเกียจคนตรงหน้า
“โหรวโหรว อย่างน้อยก็หลายปีแล้ว ฉันไม่เคยเปลี่ยนใจจากเธอเลยสักนิดเดียว แล้วเธอ! ในใจของเธอมีผู้ชายคนอื่น เธอเคยรู้สึกเสียใจกับความรักเมื่อสิบปีก่อนของพวกเราบ้างไม่ได้ เลยหรือยังไง!” โอวหยางลี่ตะโกนออกมา
อันโหรวไม่ใช่คนที่จะรังแกได้ง่าย ๆ
ดวงตาคู่นั้นมองไปที่เขาด้วยความโกรธ “นายจะพูดแบบนั้นก็ได้ แม้ฉันจะชอบคนอื่นแล้วมันยังไง? ฉันก็แค่ชอบเขา ไม่ได้ชอบนาย นายเทียบกับจิ่งเป่ยเฉินไม่ได้หรอก ฉันรักใครที่คว วรจะรักเท่านั้นแหละ!”
“อันโหรว!”
ดวงตาของโอวหยางลี่ตอนนี้เต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชน ยิ่งมองดูสายตาของเธอก็เหมือนเป็นตัวจุดชนวนความโกรธ
“อา!”
ตัวของโอวหยางลี่ถูกเตะจนล้มลงไปทันที ก่อนจะโซซัดโซเซและพยายามดันตัวขึ้นมายืน
อันโหรวตกใจ จู่ ๆ ตัวเธอก็ถูกจิ่งเป่ยเฉินเข้ามากอดไว้ เธอเม้มปากและรีบพูดทันที “ที่รัก ฉันผิดไปแล้ว!”
จิ่งเป่ยเฉินเผยอารมณ์ที่เย็นชาออกมาอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีดำมองไปที่เธอ “ยังอยากอยู่ห่างจากตัวฉันอีกไหม?”
“ไม่แล้ว! หลังจากนี้จะไม่ไปแล้ว!” เธอรีบส่ายหน้าทันที ก่อนจะคว้าเสื้อผ้าของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง
“ประธานจิ่ง มีอะไรให้นายดูด้วยนะ”
จิ่งเป่ยเฉินก้มหน้ามองไปที่เธอ ก่อนที่เธอจะยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน และเขาก็ก้มลงไปจูบที่ปาก
ไม่อนุญาตให้ดู ไม่ว่ายังไงก็ไม่ให้เห็นเด็ดขาด!
โอวหยางลี่มองภาพตรงหน้าที่พวกเขาสองคนกำลังทำ ภายในใจก็รู้สึกโมโหมากขึ้นกว่าเดิม
เขาหันหลังคิดจะเดินออกไป แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงของฉีเซิ่งเทียนดังขึ้นมาที่ด้านหลัง
“ประธานโอวหยางคิดจะไปไหน?”
เขาหยุดฝีเท้าและหันไปมอง จิ่งเป่ยเฉินตอนนี้กำลังกอดพาอันโหรวเดินออกไป
ฉีเซิ่งเทียนก้าวเดินไปหาเขาทีละก้าว ทีละก้าว ก่อนจะเอื้อมมือดันขอบแว่นตรงสันจมูกตัวเองขึ้น พลางเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
ฉีเซิ่งเทียนแม้จะดูอ่อนโยนและดูเรียบร้อยตอนใส่แว่นตา แต่เมื่อเขาออกห่างจากตัวจิ่งเป่ยเฉินแล้ว จู่ ๆ ก็มีหมัดและเท้าที่แข็งแกร่งที่สุดยื่นซัดไปที่คนตรงหน้า
ในใจเขานั้นมีความโหดเหี้ยมอยู่กับตัวอยู่แล้ว บวกกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่ตลอด มองดูแล้วเหมือนกับคนสองบุคลิก
ฉีเซิ่งเทียนคล้ายกับเสือที่ยิ้มแย้ม จะยิ้มเมื่อเห็นเหยื่อ แต่เมื่อไหร่ที่เหยื่อไม่รู้ตัว ก็จะถูกเสือตัวนี้พรากเอาชีวิตไปทันที
“ประธานโอวหยางรู้สึกในโทรศัพท์คุณจะมีความลับอะไรอยู่นะ มีอะไรจะให้พี่เฉินดูอย่างนั้นเหรอ? ช่วยให้ผมดูหน่อยสิ ผมอยากดู!” ฉีเซิ่งเทียนพูดอย่างช้า ๆ “เอ เหมือนว่าครั้งที่แล้ วที่ยิงใส่ประธานโอวหยางจะดูไม่ค่อยรุนแรงเท่าไรนะ ไหน ๆ ให้ผมดูหน่อยสิว่าแผลหายดีแล้วหรือยัง เอ หรือว่าตำแหน่งนี้ดี? เป็นไปได้ว่าหมอต้องเก่งเรื่องรักษาแผลพวกนี้มากแน่ ๆ เลย”
ฉีเซิ่งเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่ หรือว่าคิดจะยิงเขาอีกรอบ?
เขาจะถูกยิงไม่ได้!
โอวหยางลี่โยนโทรศัพท์ไปทางฉีเซิ่งเทียนทันที อันที่จริงให้ฉีเซิ่งเทียนเห็นก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องแย่เท่าไรสำหรับตัวโอวหยางลี่
ถึงแม้ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะไม่เห็น ต่อให้เห็นไม่เห็นยังไงถ้าเชื่อโหรวโหรวก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี แต่พวกพี่น้องของเขานั้นต่างกันออกไป
แต่ทว่าเขากลับคิดผิด ฉีเซิ่งเทียนไม่ได้เหลือบมองมันเลยแม้แต่น้อย เขาโยนโทรศัพท์ลงบนพื้นและหยิบปืนขึ้นมายิงใส่มันทันที
กลายเป็นว่าตอนนี้โทรศัพท์ได้แหลกเป็นชิ้น ๆ ไปซะแล้ว!
“โทษที คงทำให้ประธานโอวหยางตกใจ จริงสินะ คืนนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิด วันเกิดจะขาดเจ้าภาพได้ยังไง ประธานโอวหยางลี่จะไปไหม?” ฉีเซิ่งเทียนเอาปืนชี้ไปทางเขา ก่อนจะเผยรอยยิ้มออ อกมาบาง ๆ
ภาพท่าทางตอนนี้เหมือนกับว่ากำลังดูโชว์อะไรบางอย่างที่น่าสนุกเลย
“วันเกิดผม ผมต้องไปอยู่แล้ว แต่คุณต้องการให้คนอื่นเห็นอย่างนั้นเหรอว่าคุณเอาปืนชี้มาทางผมให้ไปห้องจัดเลี้ยงแบบนี้?”
“เห็นแล้วยังไง ช่างมันสิ ตอนนี้ผมกำลังเล่นสนุกกับประธานโอวหยางอยู่นี่!” ฉีเซิ่งเทียนขยับไกปืนไปทางเขาอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะเดินตามหลังจี้ไปทางเขาและพูดอีกประโยคขึ้นมาอย่าง ช้า ๆ ว่า “นายไม่ควรแตะต้องผู้หญิงของพี่เฉินนะ น่าสงสารจัง!”
[1] ผู้หญิงคลอดลูกครั้งหนึ่งก็จะโง่ไปสามปี เป็นประโยคที่พูดกันในชาวบ้านที่ไม่ค่อยมีความรู้เมื่อสมัยก่อน