อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 424 ประกันตัวชั่วคราวเพื่อรอพิจารณาคดี
ตอนที่ 424 ประกันตัวชั่วคราวเพื่อรอพิจารณาคดี
นอกจากเรื่องวันนี้ที่เกิดขึ้น เธอไม่อยากจะเห็นหน้าเฉาลี่เฟยและโอวหยางลี่เลยสักคนเดียวจริง ๆ
“แล้วโอวหยางกรุ๊ป?”
“ไม่มีแล้ว”
“นมของฉันก็หมดแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ!” จิ่งเป่ยเฉินคว้าแก้วนมในมือของเธอออกมาวางลง
เรื่องของคืนนี้เป็นการแสดงเปิดโปงฉากใหญ่ แต่ในเมื่ออันโหรวรู้สึกไม่มีอารมณ์ที่จะชื่นชม
“โหรวโหรว! โหรวโหรว!”
โอวหยางลี่ยังคงตะโกนเรียกชื่อของเธออย่างตื่นเต้น
โอวหยางกรุ๊ปเกิดเรื่องขึ้นมามากมายตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ ประกันตัวชั่วคราวเพื่อรอพิจารณาคดีไม่ได้หมายความว่าเขาพ้นโทษ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเรื่องที่เกิดกับตระกูลอันเมื่อในอดีตด้วย เขาที่เป็นประธานโอวหยางกรุ๊ปจำเป็นจะต้องถูกตรวจสอบอีกครั้ง!
แต่ว่าครั้งนี้ไม่อาจจะออกมาได้อีก ไม่มีโอกาสได้ประกันตัวอีกแล้ว!
ใบหน้าของเฉาลี่เฟยแดงก่ำ ตำรวจหลายคนเข้ามาจับกุมตัวเธอเอาไว้ แต่ว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของเธอนั้นถูกฉีกขาดจนทำให้ดูโป๊เปลือย ส่วนเหลียนมู่เองก็ถูกจับเช่นกัน
ไม่มีความลับไหนที่ปกปิดไปได้ตลอด ทำเรื่องชั่ว ไม่ช้าก็เร็ว สักวันย่อมปรากฏ
ไม่คิดว่าพวกเขาจะใช้ชื่อของแม่ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง
“โหรวโหรว ช่วยฉันด้วย!”
ช่วยเขา?
ความสัมพันธ์ที่ยาวนานของพวกเขา เขาไปขอผู้หญิงคนอื่นแต่งงาน เพราะโอวหยางกรุ๊ปที่ทำให้บริษัทอันนั้นหายไป ไหนจะเรื่องที่กักขังเธอเอาไว้จนเกือบจะถูกทารุณกรรม ทำให้เธอคิดว่าจิ่งเป่ยเฉินนั้นตายไปแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างมันฟ้องขนาดนี้จะให้ช่วยเขาได้ยังไง!
ไม่เอามีดแทงหัวใจของเขาก็ถือว่าไว้หน้าเขามากแล้ว!
อันโหรวได้ยินเสียงเขาแต่ทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะรั้งแขนของจิ่งเป่ยเฉินเอาไว้และเดินออกไปจากตรงนั้น
ระหว่างทางกลับบ้านเธอพิงไปที่ตัวของจิ่งเป่ยเฉิน “ครั้งก่อนที่นายพูดเรื่องพิธีแต่งงานที่เกาะ ฉันคิดว่ามันก็ไม่แย่นะ ฉันอยากสวมชุดแต่งงานตอนที่ท้องของฉันยังไม่โต ไม่อย่างนั้นก็คงต้องรอไปอีกหนึ่งปี นายรอถึงหนึ่งปีได้หรือเปล่า?”
“รอไม่ไหวหรอก แค่หนึ่งนาทีก็ทนรอไม่ไหวแล้ว” เขาโอบไปที่เอวของเธอและก้มลงจูบไปที่หน้าผากเธอ “แต่ว่าแม่ยาย……….”
เธอรู้ว่าจิ่งเป่ยเฉินจะต้องกังวล!
“ครั้งก่อนฉันไม่ได้สนใจเธอ ครั้งนี้แน่นอนว่าไม่สนใจไม่ได้ เธอไม่ยอมปรากฏตัวออกมา ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอนั้นคิดอะไร!” เธออาจจะไม่ได้คิดที่จะปรากฏตัวออกมาแล้วละมั้ง
“นายว่าเรื่องในอดีตนั่นคงไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอหรอกใช่ไหม?” เธอแทบไม่อยากจะคิดจินตนาการ ถ้าหากเป็นแม่ของเธอ พ่อก็คงจะเสียใจเป็นอย่างมาก
“ถึงจะมีส่วนเกี่ยวข้อง บ้านตระกูลโอวหยางก็มีส่วนรู้เห็นมากที่สุด ทุก ๆ เรื่องเป็นพวกเขาที่ทำขึ้นมาทั้งหมด” จิ่งเป่ยเฉินหยิบจี้หยกออกมาจากกระเป๋ากางเกงอย่างกะทันหัน “ของเธอ”
ถึงแม้ว่าแสงไฟในรถจะมืดสลัวแต่ว่าเธอก็ยังมองเห็นมันอย่างชัดเจน จี้หยกอันนี้ก็คืออันที่เขาเข้าใจผิดให้อันหยาพั่นไป!
“ขอบคุณนายนะที่เอากลับมาให้” เธอยื่นมือไปรับมาแล้วกำเอาไว้ในมือแน่น ความจริงแล้วจี้หยกอันนี้ไม่ได้มีความหมายอะไรมากมายกับตัวเธอ
เพียงแต่ตอนนี้เพราะว่าเขานั้นเอากลับมา เธอจึงมองว่ามันเป็นของพิเศษ แต่ระหว่างทางกลับตกไปอยู่ในมือของผู้หญิงคนอื่น จึงยากที่จะรับได้
“อันหยาพั่นเป็นยังไงบ้าง? ฉันไม่ได้เจอเธอเลย!” เธอจำได้ว่าทำงานอยู่ที่บริษัท
เช้าวันนั้นเธอวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว!
“กลับไปที่เมือง S” จิ่งเป่ยเฉินตอบอย่างแผ่วเบา
“เธอจะต้องกลับมาแน่!”
“ฉันกับเธอไม่ได้โดนแม้แต่ปลายนิ้ว” จิ่งเป่ยเฉินกอดเอวของเธอ ก่อนจะใช้แรงกอดแน่นขึ้น “ที่รัก ถ้ายังไม่เชื่อใจฉันอีก ฉันจะจับเธอทำโทษแล้วนะ!”
“ไม่เอา!” ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อเขา แต่ไม่เชื่ออันหยาพั่นต่างหาก!
“เธอบอกว่าเธอมีแฟนแล้ว ใครกัน?”
“เธอเองก็รู้จัก”
รู้จักงั้นเหรอ?
เธอรู้จักคนเยอะแยะมากมาย แต่ว่าระหว่างความสัมพันธ์ที่อยู่ด้วยกันของอันหยาพั่นนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเป็นใคร
“อันจวินซ่วน”
“ไม่คุ้น…….” เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ง่ายเลยที่นึกถึงคนคนหนึ่งออก
หลังจากนั้นเธอก็ตกตะลึงเล็กน้อย
จู่ ๆ เธอก็ดึงเขามาเล็กน้อย ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความจริงจัง “เหมือนว่าฉันเริ่มป่วย”
ใบหน้าของจิ่งเป่ยเฉินตึงเครียดขึ้นมาทันที ก่อนจะอุ้มเธอมานั่งบนตัก “เป็นอะไร?”
“หรือว่านายไม่ได้ยินที่ฉันพูด? ผู้หญิงคลอดลูกครั้งหนึ่งก็จะโง่ไปสามปี” จู่ ๆ เธอก็เริ่มคิดว่าปัญหานี้รุนแรงมาก จะต้องเป็นเพราะอยู่บ้านพักฉีหย่วนหยางมาหนึ่งเดือนแน่ ๆ ไม่ได้ทำอะไรเลย
สมองของเธอพังไปหมดแล้ว
ใบหน้าของบิ๊กบอสกลายเป็นสีดำทันที ทำเขาตกใจหมด!
คิดว่าป่วยเป็นโรคอะไรร้ายแรง!
“เป่ยเฉิน นายรับปากกับฉันว่าจะให้ฉันกลับไปทำงานปกติได้ไหม? พรุ่งนี้ฉันไม่อยากนั่งอยู่ที่บ้านโดยที่ไม่มีอะไรทำเลย!” เธออยู่บริษัทคอยเสิร์ฟชารินชาให้เขายังจะดีกว่านั่งอาบแดดอยู่ที่บ้าน
“เธอจะเหนื่อยเอา”
“ไม่หรอก หยางหยางกับหน่วนหน่วนก็ผ่านมาแล้ว นายดูสิพวกเขาฉลาดมาก ไม่งั้นเอางี้ก็แล้วกัน ฉันไปแผนกวางแผน….” ถึงแม้ว่าเธอจะใช้เวลาเป็นเลขาของเขามากกว่า แต่ว่าตำแหน่งงานจริง ๆ ของเธอนั้นคือแผนกวางแผน!
“เธอเป็นเลขาของฉันเหมาะสมแล้ว” ถ้าไม่ได้อยู่ชั้นเดียวกัน หากเธออยู่ที่ที่ไกลจากเขาแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขาคงไม่มีทางรู้
“งั้นพิธีแต่งงาน…….” พวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องวันที่
“เธออยากวางแผน?”
“ยังไม่คิด” การวางแผนพิธีแต่งงานต้องให้สุภาพสตรีที่เก่งเฉพาะด้าน งานแบบนั้นมันเหนื่อยและวุ่นวายเกินไป
เธออาจจะเหนื่อยมาก ๆ
“ความจริง……ได้เตรียมเอาไว้นานแล้ว” หลังจากที่เธอหนีไป เขาก็คิดว่าหลังจากที่ตามหาตัวเธอแล้วจะไปจัดพิธีแต่งงานบนเกาะให้เธอนั้นหนีเขาไปไม่ได้อีก
เพียงแต่ไม่ได้คิดว่าหลังจากที่เธอกลับมานั้นจะท้องและยังไม่ใช่ลูกของเขาอีก!
“งั้นนายก็หมายความว่าเร็ว ๆ นี้?” งั้นท้องของเธอก็ยังไม่โต ยังสามารถที่จะใส่ชุดเจ้าสาวได้
“ได้ทุกเมื่อ รอเพียงแต่เธอ”
“พรุ่งนี้ไปลองชุดแต่งงานกันดีไหม?”
คำตอบของเธอนั้นไม่ใช่คำพูด แต่เป็นจูบที่เร่าร้อนเสน่ห์หา บรรยากาศภายในรถนั้นร้อนขึ้นทันใด
“อื้ออื้อ……..”
เธอพิงอยู่ที่ไหล่ของเขาและหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา “ฉันมีของขวัญเซอร์ไพรส์ให้กับนาย!”
“รอเลย”
“คืนวันแต่งงาน ฉันจะบอก!” ถ้าหากว่าในคืนแต่งงานเธอบอกเรื่องลูกในท้องว่าเป็นลูกของเขา จะต้องเป็นของขวัญที่น่าประหลาดใจอย่างมากแน่นอน
เขาจะต้องชอบแน่ ๆ
มือทั้งสองข้างของเขาโอบเธอไว้ เธอเองก็โอบไปที่คอของเขา บรรยากาศภายในรถนั้นดีมาก
เขาที่เป็นคนใจกว้างยอมรับได้แม้ว่าลูกในท้องของเธอนั้นไม่ใช่ลูกของเขา หลังจากนี้เธอจะมีเหตุผลอะไรที่ไม่เชื่อใจเขา!
……
ฉีเซิ่งเทียนมองงานวันเกิดนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิง เขาถึงได้รู้ว่าจิ่งเป่ยเฉินกับอันโหรวนั้นออกไปแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนรู้ว่าให้เขาเป็นมือปืน แต่ไม่นึกเลยว่าจะออกไปกันเร็วแบบนี้!
คนรอบข้างเขาต่างเข้ามาถามเขาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโอวหยางกรุ๊ปและตระกูลอันเมื่อในอดีต และยังให้ความสนใจเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการและอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดีของโอวหยางกรุ๊ปว่าในอนาคตนี้จะเป็นยังไงต่อไป
เขายิ้มพลางหัวเราะ “ในเมื่อเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมแบบนั้น แน่นอนว่าเป็นพี่เฉิน! ถึงยังไงที่เป็นโอวหยางกรุ๊ปได้ในตอนนี้ก็เพราะตระกูลอัน พี่สะใภ้เป็นลูกสาวตระกูลอัน หลังจากนี้บริษัทจะยังคงเดินหน้าต่อไปในอนาคต ถ้าหากว่าตอนนี้พวกคุณอยากจะร่วมลงทุนก็ยินดีต้อนรับ!”
คนพวกนั้นยังคิดที่จะถามว่าเมื่อไหร่ ฉีเซิ่งเทียนจึงเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ “ผมยังมีธุระอื่น พวกคุณเชิญตามสบาย!”
เขาต้องไปหาเซี๋ยวเซี๋ยว!
ช่วงนี้งานเยอะและยุ่งมาก ปล่อยเซี๋ยวเซี๋ยวถูกทิ้งให้เหงาหงอย!