อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด - ตอนที่ 427 ค้นหาทั่วเมือง
ตอนที่ 427 ค้นหาทั่วเมือง
กล้ามากที่หนีเขาไป!
ค้นหาทั่วเมือง!
และในขณะนี้หลินจือเซี๋ยวหลบอยู่ภายในสวนซิวที่ห้องของหน่วนหน่วน ก่อนจะนอนหลับไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าด้านนอกนั้นเกิดอะไรขึ้น
เช้าวันที่สองหลินจือเซี๋ยวและหน่วนหน่วนลงไปด้านล่างด้วยกัน ก่อนจะรู้สึกถึงสายตาพิฆาตที่จับจ้องมา
บิ๊กบอสทำคนตกใจได้แต่เช้าเลยเหรอเนี่ย?
โหรวโหรวทนได้ยังไง?
แต่ว่าตอนที่เดินมาถึงห้องครัวก็พบว่าผู้ชายที่ถอนหายใจนั้นไม่ใช่จิ่งเป่ยเฉิน แต่กลับเป็นฉีเซิ่งเทียน!
เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง และดูเหมือนว่าจะมานานแล้วด้วย!
โหรวโหรวและจิ่งเป่ยเฉินนั้นกินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่มองดูทั้งสองคนที่เงียบสนิทและมองใบหน้าของหลินจือเซี๋ยว อันโหรวก็รู้ว่าระหว่างพวกเขาทั้งคู่ต้องมีปัญหา อะไรแน่นอน
“คุณน้าจือเซี๋ยวสีหน้าของน้าดูไม่ค่อยดีเลยนะคะ ไม่สบายหรือเปล่า?” หยางหยางมองไปที่ใบหน้าขาวซีดของเธอพลางถามด้วยความเป็นห่วง
ชั่วขณะหนึ่งนอกจากบิ๊กบอสที่กำลังตั้งใจปอกเปลือกไข่ให้คนในครอบครัวของตัวเองแล้ว ทุกคนต่างก็หันไปมองสีหน้าที่ซีดขาวของเธอ
“คุณน้าจือเซี๋ยว….” หน่วนหน่วนมองเธออย่างกังวล
“น้าสบายดี!” ถึงเธอจะมีเรื่องในใจ แต่ว่าไม่สามารถแสดงอาการออกมาตรงนี้ได้!
แต่ว่าเธอต้องรับประทานอาหารเช้ากับฉีเซิ่งเทียนจริง ๆ เหรอ?
ตอนที่เธอมาเมื่อคืนเพียงแค่ต้องการมาหาที่หลบหน้าเขา คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าวันนี้จะทำตัวยังไงกับเขา?
เธอตายแน่ ๆ
หลังจากที่หลินจือเซี๋ยวนั่งลงก็ขยิบตาให้อันโหรวและพูดส่งสัญญาณ “โหรวโหรว เธอต้องช่วยฉัน”
อันโหรวพยักหน้าตอบ
แม้ว่าเธอจะไม่รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น ตอนที่หลินจือเซี๋ยวมาเมื่อคืนเธอก็นอนหลับไปเลย
หลินจือเซี๋ยวกินข้าวอย่างสั่นไหว ใบหน้าของฉีเซิ่งเทียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นดูไม่ค่อยสบอารมณ์ ดวงตาที่มีเส้นเลือดแดงก่ำสวมแว่นตาอยู่ ตอนที่เขามองเธอราวกับว่าเส้นเลือดฝอย ในตานั้นแทบจะแตกต่อหน้าเธอ
เธอไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งเขา!
สถานการณ์เมื่อวานสติของเธอได้เลือนหายไปนานแล้ว!
และเธอก็ไม่ต้องการจะยุ่งกับผู้ชายที่มีคู่หมั้นแล้วจริง ๆ
เมื่อเห็นจิ่งเป่ยเฉินและอันโหรวลุกออกจากโต๊ะ เธอก็นั่งไม่ติดเก้าอี้ สายตาที่เคร่งขรึมจากคนตรงหน้านั้นจ้องมองเธอราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปเพียงไม่กี่นาที
เธอรีบเดินไปข้างอันโหรวและดึงแขนของเธอ “โหรวโหรว เธออยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อย!”
“จือเซี๋ยว ฉันอยู่กับเธอได้ แต่ว่าอยู่กับเธอได้วันเดียว อยู่ไปตลอดชีวิตไม่ได้หรอกนะ” เธอต้องเผชิญหน้ากับมัน!
“งั้นก็รอให้ฉันเตรียมใจก่อนแล้วค่อยพูด” อย่างน้อยตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าฉีเซิ่งเทียนจะอธิบายอะไรก็ดูเป็นคำพูดที่ไร้สาระ
นอกจากนี้ทำไมต้องมานั่งอธิบายให้เธอฟังด้วย?
พวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย!
บิ๊กบอสมองเธอด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนสายตาไปมองมือของทั้งสองคนที่กำลังรั้งกันไว้อยู่ เหมือนว่ากำลังจะให้แยกจากกันเร็ว ๆ นี้ อย่าโดนตัวภรรยาฉัน!
“ไม่เป็นไรจือเซี๋ยว” อันโหรวกำลังพูดถึงจิ่งเป่ยเฉิน อย่าไปสนใจเขา!
พวกเขาเป็นพี่น้องที่ใส่ชุดเหมือนกัน จิ่งเป่ยเฉินจะต้องช่วยฉีเซิ่งเทียนแน่นอน!
ในขณะที่หลินจือเซี๋ยวสั่นอยู่นั้น ในที่สุดก็พบเรื่องน่าเศร้าที่สุดคือฉีเซิ่งเทียนกินข้าวเช้าเสร็จแล้วเรียบร้อย เขามองเธออย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินออกไป
ขับรถออกไปก่อนโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว ออกไปดื้อ ๆ แบบนี้!
หลินจือเซี๋ยวรู้สึกหลุดพ้นในชั่วพริบตา ชีวิตของเธอกลับมาแล้ว!
“พวกเธอเป็นอะไรไป?” พี่น้องทั้งสองเดินออกไปด้านนอกเพื่อคุยเล่นกันไป
“โหรวโหรว พวกเราไม่ได้เป็นอะไร ฉันกับผู้จัดการฉีไม่มีอะไรจริง ๆ แล้วเมื่อคืนคู่หมั้นของเขาก็มาหาฉันด้วย นั่นมันก็ดูเหมือนว่าฉันเป็นคู่แข่งทางความรักของพวกเขา เข้าไปเป็น นมือที่สาม แย่งผู้ชายของเธอมา!” หลินจือเซี๋ยวหาหนทางยากมาก เธอถูกบังคับ
ถูกบังคับ!
“เขามีคู่หมั้นด้วยงั้นเหรอ?” อันโหรวไม่อยากจะเชื่อ เธอคิดว่าฉีเซิ่งเทียนเป็นโสดมาตลอด
เพราะงั้นเมื่อก่อนถึงได้จงใจจับคู่ให้พวกเขา
ฉีเซิ่งเทียนทำอะไร เธอก็คอยช่วยเขา
จู่ ๆ เธอก็หันกลับไปมองจิ่งเป่ยเฉินที่เย็นชาราวกับราชาอยู่ด้านหลังเธอ พลันเกิดความสงสัยขึ้นมาในดวงตามองเขา “เขามีคู่หมั้นจริงหรือเปล่า?”
หลินจือเซี๋ยวที่เพิ่งหันไปมองบิ๊กบอสกำลังพยักหน้าเล็กน้อย
ฉีเซิ่งเทียนนั้นมีคู่หมั้นตามที่คาดไว้ จึงรู้ว่าเธอไม่ได้ล้อเล่น!
“จือเซี๋ยว บนโลกใบนี้คางคกสามขานั้นหาได้ยาก ผู้ชายสองขานั้นเยอะก็จริง! วันนั้นที่เธอเจอเซว์มู่ก็ไม่เลวเลยนะ! เธอได้ติดต่อกันหรือเปล่า?” เธอถูกจิ่งเป่ยเฉินมารับไปเสียก ก่อนเลยไม่รู้ว่าพวกเขาได้พูดคุยกันหรือเปล่า!
“โหรวโหรว ฉันยังไม่อยากจะตกหลุมรักใคร” และที่สำคัญก็ไม่อยากตกหลุมรักฉีเซิ่งเทียน
งูกัดครั้งเดียว กลัวเชือกไปสิบปี[1]
อันโหรวไม่ได้พูดอะไรต่อ เรื่องคู่หมั้นนั่นถือว่าเป็นเรื่องใหญ่
เธอเองก็ไม่อยากให้เพื่อนสนิทเป็นแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นมือที่สามหรือถูกมือที่สามเข้ามาแทรกกลางก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีทั้งนั้น
บ้านตระกูลฉี
เมื่อฉีเซิ่งเทียนถึงด้านประตูทางเข้าก็มีรถสปอร์ตสีเหลืองหนึ่งคันจอดอยู่ ไม่นึกเลยว่าเฉินเหยียนจะมาเร็วกว่าเขาแบบนี้
เขาที่เพิ่งเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเฉินเหยียน เสียงนั้นดูเหมือนกำลังมีความสุขอย่างมาก ไม่เหมือนกับผู้หญิงอย่างนั้น
เธอไม่ได้มีความเป็นผู้หญิงเลยสักนิด เทียบกับหลินจือเซี๋ยวไม่ได้เลย!
“จริง ๆ นะคะคุณลุง! หนูไม่หลอกคุณลุงหรอก เสี่ยวเทียนเทียนควรที่จะไปหาหมอจริง ๆ หนูมีเพื่อนที่เขาชำนาญทางด้านนี้เฉพาะเลย ควรจะพาเขาไปพรุ่งนี้เลยดีไหม?” เฉินเหยียนนั่งลง งอยู่ด้านข้างพ่อของฉีเซิ่งเทียน ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินเธอพูด ใบหน้าของฉีเซิ่งเทียนก็มืดมนลง
เมื่อคืนเธอยังพูดไม่พออีกหรือไง? ไม่คิดเลยว่าจะมาพูดต่อหน้าพ่อของเขาแบบนี้!
ผู้หญิงคนนี้!
“เซิ่งเทียน ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอทั้งสองไม่เลวเลยนะ เหยียนเอ๋อร์เข้าใจนายมากจริง ๆ” พ่อของฉีเซิ่งเทียนมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม
ลูกชายคนนี้ไม่ได้สนิทมาตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นก็ไม่ไปบริษัทของบ้านตัวเอง กลับไปบริษัทของคนอื่น
ทุกอย่างเหลือไว้ให้เขาแล้ว ตอนนี้ก็มีคู่หมั้นคู่หมายแล้ว คิดว่าจะดูแลเขาได้แต่ก็ยังเหมือนเดิม คาดว่าต้องให้เขากลับมาและให้เขาแต่งงานโดยเร็ว!
“ผมไม่ชอบเธอ! ผมต้องการยกเลิกงานหมั้นกับเธอ” ฉีเซิ่งเทียนพูดอย่างตรงไปตรงมา
ใบหน้าของพ่อโกรธขึ้นมาทันที “หลับนอนด้วยกันแล้วจะมาบอกไม่ชอบก็คือไม่ชอบงั้นเหรอ? ไม่ไว้หน้าเหยียนเอ๋อร์เลยหรือไง?”
ฉีเซิ่งเทียนจ้องไปที่เฉินเหยียน เธอเพิ่งพูดอะไรกับพ่อกันแน่!
“นายจะมาจ้องฉันทำไม? ฉันก็แค่บอกว่านายนอนกรนก็เท่านั้นเอง หรือว่านายไม่ต้องการบอกคนอื่นงั้นเหรอ?” เฉินเหยียนเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เกรงกลัว
เขาคิดว่าเธอจะเอาคำพูดเมื่อคืนมาพูดกับผู้ใหญ่อย่างงั้นเหรอ?
เธอยังเข้าใจมาตรการบางอย่างอยู่นะ
“พวกเธอไม่ได้นอนด้วยกันแล้วเธอจะรู้ว่านายกรนได้ยังไง ทำเอาเธอนอนไม่หลับทั้งคืน!” พ่อฉีจ้องมองเขาอย่างเคร่งขรึม “รีบไปรักษาซะ!”
“ไม่ไป!” ฉีเซิ่งเทียนพูดออกมาโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ก่อนจะรู้ว่าตัวเองนั้นพูดผิดไป “ไม่ได้บอกว่าไม่ไป แต่ว่าผมไม่ได้กรน! เธอไม่เคยรู้อะไรเลย เพราะผมไม่เคยนอนหลับกับเธอ!”
“นายหลับนอนกับผู้หญิงมามากมาย ฉันถามได้หรือเปล่า? ฉันไม่ใช่คนที่ไม่มีปากนะ!” เฉินเหยียนจ้องมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว
“ไม่มีอะไรจะต้องพูดแล้ว ยกเลิกงานหมั้นซะ” เขาไม่ชอบเฉินเหยียนสักนิดเดียว!
ทันใดนั้นเฉินเหยียนก็ลุกขึ้นและเดินไปตรงหน้าฉีเซิ่งเทียน ก่อนจะเข้าไปคว้าแขนของเขาอย่างกะทันหันและพิงไหล่ของเขาอย่างเสน่ห์หา “คุณลุงคะ เรื่องงานแต่งงานทำให้พวกคุณต้องลำบาก กใจแล้ว เสี่ยวเทียนเทียนดีมาก หนูชอบ หนูเชื่อว่าเสน่ห์ของหนูนั้นมีมากพอ ในอนาคตเขาจะต้องชอบหนูแน่ ๆ”
เขาชอบเธอกับผีสิ!
“อืม ๆ พวกเธอค่อย ๆ สานสัมพันธ์กันไปเถอะ!” พ่อฉีมองดูทั้งสองคนอย่างพอใจที่ได้อยู่ด้วยกัน แม้ว่าลูกชายจะไม่ชอบ แต่ว่าลูกสะใภ้ก็เป็นฝ่ายรุก กระตือรือร้นมากพอ!
[1] คืออาการที่โดนอะไรสักอย่างทำร้ายให้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียหาย ทำให้เข็ดหลาบ หวาดกลัว ไม่กล้าพบเจอสิ่งเหล่านั้นอีกนาน ทั้งที่บางทีมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิด